พลังแห่งเวลา กฎแห่งเวลา ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงแค่ของเล่นของชายหนุ่มผู้นี้เท่านั้น

รูม่านตาของมังกรดำหดลง มันเองก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์และรู้เห็นสิ่งต่าง ๆ มามาก ชายหนุ่มผู้นี้…ชายหนุ่มผู้นี้…

ในเวลานี้ ยังมีผู้ใดบ้างที่ไม่เห็นคัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ในสายตา นั่นก็คงจะมีเพียงแค่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แล้ว

คัมภีร์หมื่นคำสาปเป็นสิ่งที่เหล่าบรรดาเผ่าเทพหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะอยู่ในสายตาของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ได้

มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่ควบคุมกาลเวลา ซึ่ง…นี่ก็คือศาลานิรันดร์ ศาลาเรือนรางเก้าชั้น

กู้ไป๋อีก็รับรู้ได้ถึงพลังของอาถิงแล้ว สำหรับตัวตนของอาถิงนั้นเขามีการคาดเดาอยู่แล้วบ้าง

ทว่า เขาก็ไม่ได้ไปพิสูจน์ความจริงกับมู่เฉียนซีแต่อย่างใด บางครั้ง ไม่รู้ก็จะดีกว่า

หากนางมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ครอบครองอยู่จริง และหากผู้อื่นรู้เข้า ต่อให้เขามีพลังวิญญาณระดับสูงสุดก็ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่อาจปกป้องนางได้

กระจกแห่งกาลเวลาได้ถูกทำลายลงแล้ว มังกรกระดูกดำทั้งเก้าก็ได้พ่ายแพ้แล้วสิ้น และมันก็ไม่อาจปกป้องกุญแจเทพเผ่ามังกรได้อีกแล้ว

หากมอบให้กับท่านศาลานิรันดร์ กุญแจเทพเผ่ามังกรก็อาจจะไม่ถูกคนอื่นแย่งชิงไป

มังกรดำมองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ข้ารู้ ข้าจะบอกทุกอย่างที่ข้ารู้กับเจ้า”

“ส่วนหนึ่งของคัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ในคลังเก็บสมบัติของเผ่ามังกรข้า ส่วนข้าก็มีกุญแจเทพเผ่ามังกรอยู่ และมันก็คือกุญแจของประตูทองที่เปิดคลังเก็บสมบัติ หากไม่มีกุญแจนี้ ต่อให้เป็นเทพก็ไม่สามารถเปิดประตูคลังเก็บสมบัติของเผ่ามังกรข้าได้”

กุญแจเทพเผ่ามังกรที่กู้ไป๋อีคืนให้ไปถูกส่งมาตรงหน้ามู่เฉียนซีอีกครั้ง

มังกรดำกล่าว “ขอเพียงพวกเจ้าหาทางเข้าไปในเผ่ามังกรได้ และมีกุญแจดอกนี้เพื่อเปิดคลังเก็บสมบัติของเผ่ามังกร พวกเจ้าก็จะหาส่วนหนึ่งของคัมภีร์หมื่นคำสาปเจอ”

เมื่อครู่เพิ่งจะต่อต้าน แต่เมื่อถูกอาถิงต่อว่าไปเพียงแค่ประโยคเดียวนึกไม่ถึงเลยว่าเจ้ามังกรดำนี่จะยอมปล่อยเช่นนี้

อาถิงไปใช้กำลังสยบเจ้านี่ตั้งแต่เมื่อใดกัน

ในตอนนี้อาถิงดูเหมือนว่าจะรับรู้ได้ถึงสายตาที่ฉงนสงสัยของมู่เฉียนซีแล้ว “เจ้าก็ไม่ดูเอาซะเลยว่าข้าคือใคร”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ก็นั่นน่ะสิ! อาถิงเจ้าช่างทำให้ข้าดูเจ้าผิดหูผิดตาไปจริง ๆ เลยนะ!”

มังกรดำกล่าว “มังกรกระดูกดำทั้งเก้าถูกพวกเจ้ากำจัดสิ้นแล้ว แม้แต่ฉากกำบังสุดท้ายก็ถูกท่านทำลายลง อีกไม่ช้าเศษซากวิญญาณของข้าก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้แล้ว แทนที่จะปล่อยให้กุญแจเทพเผ่ามังกรไปตกอยู่ในกำมือของพวกเผ่าคำสาป มิสู้มอบกุญแจนี้ให้กับพวกเจ้าดีกว่า”

มู่เฉียนซีกล่าว “นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ข้าก็ไม่เกรงใจเจ้าแล้ว ไม่ทราบว่าเจ้ามีเรื่องอันใดให้พวกข้าทำหรือไม่ ?”

มังกรดำกล่าว “ข้าพยายามทำทุกอย่างอย่างสุดกำลังของข้าแล้ว ถึงข้าตายก็ไร้เสียดาย”

“เจ้าขโมยกุญแจเทพเผ่ามังกร ทรยศต่อเผ่ามังกร เจ้ามีเหตุผลใดกันแน่?” เจ้านี่ดูท่าแล้วก็ไม่เหมือนเป็นมังกรชั่วร้ายอันใดเลย

“พวกเผ่าคำสาปอยากจะได้คัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ามังกรข้า เบื้องหลังของพวกเขามีเผ่าเทพผู้สูงส่งที่สุดคอยหนุนหลังอยู่ แต่เผ่ามังกรของข้า ถึงแม้ว่าจะเป็นเผ่าสัตว์เทพโบราณ แต่การปัดแข้งปัดขากับเผ่าเทพก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถแบกรับได้”

“พวกเขาต้องการให้พวกเรามอบคัมภีร์หมื่นคำสาปให้ พวกเราเผ่ามังกรก็ไม่อาจลืมคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ด้านหนึ่งเป็นอันตรายและความปลอดภัยของชาวเผ่ามังกร อีกด้านหนึ่งก็เป็นความเชื่อมั่นและความศรัทธาของพวกเรา จนในที่สุด ข้าจึงได้ขโมยกุญแจเทพเผ่ามังกรมา ทรยศต่อเผ่ามังกร ปกป้องมันไม่ให้ถูกพวกเผ่าคำสาปเอาไปได้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้เผ่าเทพโกรธแค้นเผ่าสัตว์เทพของข้าด้วย”

มู่เฉียนซีกล่าว “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”

“ในเมื่อเจ้าวางใจมอบกุญแจเทพเผ่ามังกรดอกนี้ให้กับข้าแล้ว ข้าก็จะไม่ยอมให้มันตกไปอยู่ในมือผู้อื่นได้เด็ดขาด”

มังกรดำกล่าว “เช่นนี้ข้าก็วางใจแล้ว”

“ให้ข้าส่งพวกเจ้าออกไปจากที่นี่เถอะ อุโมงค์ฝังศพมังกรจะกลับเข้าไปในรอยแยกมิติอีกครั้ง และไม่รู้ว่าอีกกี่ปีถึงจะปรากฏออกมาได้อีก บางที เมื่อถึงตอนนั้นข้าอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้”

แสงสีดำเปล่งประกายขึ้นและได้ห่อหุ้มพวกเขาทั้งสองไว้

การเข้าอุโมงค์ฝังศพมังกรในครานี้ ราชทินนามทั้งสิบสองท่านได้เสียหายอย่างน่าสังเวช ตอนนี้เหลือเพียงแค่ราชทินนามเฮย ราชทินนามซวง และราชทินนามล่วนแล้ว

ราชทินนามล่วนกล่าว “ฝ่าบาท อุโมงค์ฝังศพมังกรกำลังจะหายไปแล้ว ราชทินนามหานกับราชทินนามโยวยังไม่ออกมาเลย เกรงว่าจะตายอยู่ด้านในแล้วกระมัง”

หลงฉือกล่าวเสียงขรึมว่า “ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก ข้ารอมานานหลายปี รอหลังจากที่เขาออกไปจากเมืองเฮยตูและหวนกลับมาอีกครั้ง รอมาเนิ่นนานมากกว่าจะปรากฏอัจฉริยะแปลกประหลาดเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้จะเอาชีวิตมาตายในอุโมงค์ฝังศพมังกรนี้”

ก่อนที่อุโมงค์ฝังศพมังกรจะปิดลงอย่างสมบูรณ์ แสงสีดำแสงหนึ่งก็สว่างวาบขึ้น

ราชทินนามเฮยกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ในแสงสีดำนั่นมีคนอยู่ ดูเหมือนว่าจะเป็น…เหมือนจะเป็น…”

นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โชคดีที่นางปลอดภัยกลับมา!

หากมู่เฉียนซีตายไปในนั้น พิษที่นางโดนก็ไม่มีผู้ใดจะแก้ให้ได้ เกรงว่าคงต้องตายฝังไปพร้อมกับนาง

แววตาของหลงฉือเปล่งประกายขึ้น “กู้ไป๋อีมีชีวิตรอดออกมาได้แล้ว นั่นก็หมายความว่า…นั่นก็หมายความว่าเขาได้กุญแจเทพเผ่ามังกรมาแล้ว”

“ข้ารออยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้ว ในที่สุดวันที่ข้ารอคอยก็มาถึง ช่างดียิ่งนัก…”

เนื่องจากเขาตื่นเต้นมาก อักขระสาปเหล่านั้นบนใบหน้าหลงฉือลื่นไหลดูเหมือนว่ามีชีวิตขึ้นมาก็มิปาน

ร่างของมู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีจรดลงมาจากกลางอากาศ หลงฉือยิ้มพลางเดินเข้าไปหาพวกเขา และกล่าวว่า “ไป๋อี ราชทินนามโยว พวกเจ้าปลอดภัยกลับมาแล้ว ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ข้าคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับพวกเจ้าเสียแล้ว”

กู้ไป๋อีกล่าว “คุณหนูใหญ่ เราไปกันเถอะ!”

ท่าทางของหลงฉือดูเกรงอกเกรงใจมาก ทว่า เขานั้นรับรู้ได้ถึงอันตรายของเขาแล้ว

ราชทินนามซวงกับราชทินนามล่วนขวางพวกเขาเอาไว้ “ราชทินนามหาน จะร้อนใจออกไปจากที่นี่ด้วยเหตุใดกันเล่า เจ้าเป็นถึงผู้ที่กลับมายังเมืองเฮยตูอีกครั้ง อีกทั้งยังมีชีวิตรอดออกมาจากอุโมงค์ฝังศพมังกรได้อีก!”

ในอดีตก็มีผู้ที่กลับเข้ามาและไปยังอุโมงค์ฝังศพมังกร แต่ก็ล้วนตายจากไปแล้วทั้งสิ้น

หลงฉือกล่าว “ไป๋อี ไปดื่มน้ำชาเป็นเพื่อนข้าที่หอคอยทมิฬสักจอกเถอะ!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ต้องแล้ว พวกเราจะออกจากเมืองเฮยตูแล้ว”

แววตาของหลงฉือฉายแววอันตรายออกมา คิดจะออกจากเมืองเฮยตูอย่างนั้นเหรอ ความคิดช่างสวยงามเกินไปแล้ว

“พวกเจ้าคงจะได้ของล้ำค่ามาจากที่นั่นไม่น้อยเลยกระมัง เอาออกมาให้ข้าดูสักหน่อยได้หรือไม่” หลงฉือกล่าว

กู้ไป๋อีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หลงฉือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว พวกข้าเอาชีวิตรอดออกมาจากอุโมงค์ฝังศพมังกรได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว พวกข้าไม่ได้ของล้ำค่าอันใดมาทั้งสิ้น”

หลงฉือโบกมือ ราชทินนามซวงและพวกก็ได้ล้อมมู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีไว้

“กู้ไป๋อี ข้าก็ไม่อยากจะเสียเวลาพูดไร้สาระกับเจ้าอีกต่อไป คนอื่นไม่รู้ แต่ข้านั้นรู้ดีว่าเจ้าต้องคำสาปของเผ่าข้า หากเอากุญแจเทพเผ่ามังกรมาไม่ได้ ก็ไม่มีทางเอาชีวิตรอดออกมาได้”

“ฉะนั้น กุญแจเทพเผ่ามังกร ต้องอยู่กับเจ้าเป็นแน่!” แววตาของหลงฉือยิ่งทวีความอันตรายมากขึ้น

กู้ไป๋อีกล่าว “ข้าได้กุญแจทองเหลืองมาได้โดยบังเอิญ และได้แก้คำสาปแล้ว แต่ทันทีที่แก้คำสาปได้ ก็ถูกมังกรดำแย่งคืนไปแล้ว และตอนนี้กุญแจเทพเผ่ามังกรไม่ได้อยู่กับข้า”

“เจ้าสามารถแย่งกุญแจเทพเผ่ามังกรมาจากมังกรดำได้ แล้วจะถูกมันแย่งคืนไปได้เช่นไร และหากถูกมันแย่งกลับไป มันจะปล่อยให้เจ้ารอดออกมาได้เช่นไร กู้ไป๋อี คำพูดของเจ้า ข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!”

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าจะเชื่อหรือไม่นั้นก็เรื่องของเจ้า แต่ดูท่าแล้วเจ้าคงจะไม่ปล่อยพวกข้าไปง่าย ๆ”

“หลงฉือ เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าข้ามีพลังวิญญาณเทียบเท่ากับภายนอก ต่อให้พลังวิญญาณจะถูกยับยั้ง แต่พลังของข้าก็ถึงระดับเก้าขั้นสูงสุด เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะต่อสู้กับข้า” เปิดศึกกับหลงฉือในเมืองเฮยตูนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากสามารถขู่ให้เขายอมถอยได้จะเป็นผลดีที่สุด