แร่ก้อนนั้นมีขนาดเท่าไข่ไก่ พื้นผิวแวววาวเหมือนดั่งโลหะ นี่คือผนึกปีศาจที่เขานำกลับมาจากแดนมาร

ตู้ม! เสียงระเบิดดังขึ้น

หานลี่ใช้มืออีกข้างกวาดผ่านแร่ชนิดนั้น จากนั้นมันหายไปโดยทันที แร่สีดำ สีขาวแบ่งออกเป็นสองส่วน ขนาดเท่ากับๆ กับเม็ดถั่ว

สองมือของเขาใช้สายฟ้าตรวจสอบทันที และจับลูกคริสตัลทั้งสองในมืออย่างแม่นยำ

หานลี่เล่นลูกคริสตัลในมืออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็สะบัดเสื้อขึ้น ธงห้าสีนับสิบได้โบกสะบัดขึ้นมา หลังจากมีแสงไฟกระทบ มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

วินาทีถัดมา ม่านแสงห้าสีก็ปรากฏขึ้นมาหนึ่งชั้น ปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ในห้องลับนี้ เมื่อหานลี่ได้จัดวางค่ายกลเสร็จ เขาก็วางลูกคริสตัลในมือแล้วโยนไปโยนมา

เสียงดังระเบิดขึ้น ประจุสายฟ้าสีทองหลายสิบสายก็ปรากฏขึ้นมา

หลังจากเสียงสีทองฟาดลงมา ก็ลูกคริสตัลลูกนั้นก็แตกกระจายเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ หลังจากเขาระเบิดคลื่นพลังออกมา ลำแสงสีเทาขาวก็ปรากฏออกมาจากมือของเขา

แต่หานลี่ได้เตรียมพร้อมมานานแล้ว นิ้วทั้งห้าของเขาสั่นสะท้านเพราะความว่างเปล่า

ทันใดนั้นเองมือสีทองขนาดใหญ่ก็ปรากฏเหนือห้องลับนั้น และตบลงมาด้านล่างอย่างไม่ลังเล

“ตู้ม” หลังจากเสียงกระแทกผ่านพ้นไป พลังขนาดใหญ่ก็กดลงด้านล่างอย่างแรง ลำแสงสีทองถูกบดขยี้หายไปทันที

ในเวลานี้หานลี่ก็กำลังร่ายคาถาพึมพำอยู่ อักษรรูนสีทองจำนวนมากลอยออกมาจากริมฝีปากของเขา มันลอยไปห่อหุ้มลูกบอลสีขาวเทาลูกนั้น

จากนั้นหานลี่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง เขากระดิกฝ่ามือเล็กน้อย ลูกบอลแสงก็หล่นมาที่ฝ่ามือของเขา

แววตาของเขาสั่นไหว เสียงดังสนั่น สายไหมสีใสพุ่งออกมาจากหน้าผากกลางระหว่างคิ้วของเขา ทันใดนั้นเส้นไหมเหล่านั้นก็เข้าไปอยู่ในลูกบอลแสงลูกนั้น

ลูกบอลแสงสั่นสะเทือนเล็กน้อย ส่งเสียงหวีดร้องแผ่วเบา แต่ครู่ต่อมามันก็ถูกอักษรรูนสีทองห่อหุ้มเอาไว้ และกลับไปเงียบสงบดังเดิม

หานลี่หลับตาทั้งสองข้างลง แล้วค่อยๆ เดินลมปราณภายใน

ครึ่งวันต่อมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เส้นไหมสีใสก็ออกมาอยู่ด้านนอกหมดแล้ว อักษรรูนสีทองที่ห่อหุ้มลูกบอลไว้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

หานลี่ใช้จิตสัมผัสสำรวจภายใน พบว่าเขามีพลังปราณเพิ่มขึ้นเท่าตัว ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา แต่หลังจากสำรวจร่างกายภายในโดยละเอียดแล้ว เขาก็ต้องขมวดคิ้วขึ้น

คาถาในมือของเขาเปลี่ยนไปทันที ด้านนอกกลายเป็นสีเทา แล้วค่อยๆ ดำขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังมีปราณที่ดูน่าอันตรายแผ่ออกมาอย่างรุนแรงด้วย

นี่เป็นไอหยินรุนแรงที่เขาได้รับจากหลอมสิ่งของที่มาจากแดนมาร

ขอเพียงแค่ทุกครั้งที่หยิบลูกคริสตัลออกมาใช้ และใช้วิชาขจัดไอหยินออกเท่านี้ ก็ไม่ต้องเป็นกังวล

แต่ว่าในครึ่งชั่วยามต่อมา หานลี่หยุดร่ายคาถา เขาพลิกฝ่ามือขึ้นจากนั้นก็มีผนึกปีศาจอีกชิ้นปรากฏขึ้น

หลังจากเส้นไหมสีเขียวส่องสว่างขึ้น ก็มีคริสตัลสีเทาขาวปรากฏออกมา

หลังจากที่เขาหยิบคริสตัลลูกนี้มาได้แล้ว เขาก็เริ่มดูดซับพลังจากคริสตัลลูกนั้นออกมา

วันต่อๆ มา หานลี่ก็อยู่ในห้องลับ ทำแบบเดิมซ้ำๆ

เขาดูดซับพลังงานอย่างต่อเนื่องทุกวัน หลอมไอหยินที่ชั่วร้าย จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงปราณที่เพิ่มมากขึ้นของตัวเอง

พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปสองปีแล้ว

หลังจากหานลี่หลอมปราณไอหยินที่อยู่ในห้องลับเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็อดถอนหายใจออกมายาวๆ ไม่ได้ สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ

ใกล้ๆ กับบริเวณที่เขานั่งสมาธิอยู่ มีเศษซากผนึกปีศาจที่หักครึ่งอยู่บนพื้น พวกมันยังคงส่องประกายแวววาวอยู่เหมือนเดิม

เขาดูดซับชิ้นส่วนเหล่านี้ไปได้เก้าในสิบส่วนแล้ว

หากเขาดูดซับต่อไปมันก็ไม่สามารถทำให้ปราณของเขาเพิ่มขึ้นได้แล้ว

เห็นได้ชัดว่าระดับของเขาตอนนี้อยู่ในระดับผสานอินทรีย์ขั้นปลายอย่างสมบูรณ์แล้ว เขามีปราณเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนถึงสามส่วน

และทั้งหมดเขาใช้เวลาเพียงสองปีเท่านั้น

หากผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์คนอื่นๆ รู้เรื่องนี้ เกรงว่าจะต้องตกใจจนอ้าปากค้าง และต้องมีคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้แน่นอน

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไป คนที่สามารถมาอยู่ในระดับเดียวกับหานลี่ได้ ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาฝึกร้อยปีถึงพันปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

แต่เขาใช้เวลาเพียงสองปี ต่อให้เป็นยาอายุวัฒนะของแดนเซียน ก็ไม่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้

แต่หานลี่กลับทำมันได้อย่างราบรื่น เขายังไม่ได้ตั้งใจจะเข้าสู่ระดับมหาเมธีเสียหน่อย

เขาฝึกต่อในห้องลับเป็นเวลาอีกหนึ่งปี ฝึกจนปราณเสถียรสมบูรณ์แล้ว และไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไร เขาจึงสะบัดข้อมือขึ้น แสงสีขาวจากกำไลมิติก็สว่างขึ้น ลมพัดตีขึ้นวูบหนึ่ง จากนั้นกล่องหยกขนาดยาวหลายชุนปรากฏขึ้น ด้านบนของมันมีแผ่นยันต์สีเงินแปะติดเอาไว้อยู่

หานลี่เปิดปากเป่า ลมสีเขียวก็ลอยมา ยันต์สีเงินที่แปะอยู่ด้านหน้าก็หลุดออกไป

เสียงระเบิดดัง “ตู้ม” ก็ดังขึ้น ฝาของกล่องก็เปิดขึ้นมาเอง ด้านในมีเมล็ดข้าวสีแดงดั่งเลือดวางอยู่

ขนาดยาวหนึ่งชุน ลักษณะคล้ายกับแขนของเด็กทารก หัวเรียวแหลมผิดปกติ นี่เป็นเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตที่คุณภาพสูงที่สุดที่หานลี่เคยได้รับ

หานลี่หยิบมันออกมาด้วยมือข้างเดียว เมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตเมล็ดนี้มีชั้นอากาศบางๆ ปกคลุมอยู่ มันส่งกลิ่นหอมจางๆ

“สมแล้วที่เป็นของคุณภาพดี แข็งแกร่งกว่าเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตระดับทั่วไปมากนัก หากใช้มันเพื่อหลอมคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติ ความเร็วในการหลอมคงเพิ่มขึ้นไม่น้อยทีเดียว” หานลี่ลูบเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตในมือเบาๆ เขาพูดพึมพำด้วยสีหน้าแปลกใจ

วิชาการคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติของเขาก็อยู่ในระดับกลางแล้ว แต่ก็ยังถือว่าห่างไกลจากพวกที่เก่งกาจในแดนเซียนนัก

ก่อนหน้านี้หากหานลี่ฝึกฝนวิชาที่ใช้ร่างกายอย่างเดียว อย่างน้อยต้องใช้เวลาร้อยกว่าปีถึงจะได้เช่นนี้

และแน่นอนเพราะว่าหานลี่เป็นผู้แข็งแกร่งหนึ่งในร้อย หากเป็นคนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันกว่าจะใช้เวลามาถึงจุดนี้ได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยพันปี ก็ไม่ทางได้ฝึกเคล็ดวิชาลับของแดนเซียน และมีโอกาสมากที่เส้นลมปราณจะขาดกระจาย และระเบิดตัวเองตายไป

ตอนนี้หานลี่ได้ล้างสระแห่งจิตวิญญาณและล้างไขกระดูกแล้ว เส้นลมปราณแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก และด้วยผลลัพธ์ของเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิต ทำให้ร่นระยะเวลาในการฝึกลงมามาก

ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงมั่นใจเรื่องหลอมคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติมาก

เขาเชื่อว่าหลังจากเขาฝึกวิชาหลอมสมบัติทุกชนิดแล้ว มันจะมีส่วนช่วยที่ทำให้ทะลุคอขวดของด่านมหาเมธีได้ง่ายขึ้น

ขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ค่อยๆ ปล่อยพลังงานหยางบริสุทธิ์เข้าไปในเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิต

วินาทีถัดมา เมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตก็มีปราณสีขาวห่อหุ้มเอาไว้ พร้อมส่งกลิ่นหอมเหมือนข้าวสวยที่หุงสุกแล้ว

จากนั้นหานลี่ก็หยิบเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตนั้นเข้าปากทันทีโดยไม่เกรงใจ

ทันใดนั้นเอง เมล็ดข้าวที่หล่นเข้าไปในกระเพาะของหานลี่นั้น ก็แผ่ไอความร้อนกระจายทั่วเส้นลมปราณทุกเส้น

สีหน้าของหานลี่เคร่งครึ้มขึ้น มือข้างหนึ่งของเขาร่ายคาถาไม่หยุด ด้านหลังมีแสงสีทองส่องประกาย แผ่นพราหมณ์สามเศียรหกกรปรากฏขึ้นมาทันที จากนั้นก็เริ่มฝึกวิชาลึกลับ

วสันต์ผ่านคิมหันต์เข้า จวบจนถึงสารทผ่านพ้นถึงเหมันต์ เวลาหมุนวนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนครบสี่สิบรอบ

วันหนึ่งอิ๋นเย่ว์ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ในห้องลับของตัวเอง อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงระเบิดจากห้องฝึกที่อยู่ไม่ไกล ตามมาด้วยเสียงฟ้าผ่า พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือนไม่หยุด ราวกับมีพายุหมุนขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ที่ห้องด้านข้าง

แววตาของอิ๋นเย่ว์มีคามประหลาดใจ เขาขยับมือและเท้าราวกับจะลุกขึ้นไปดูเหตุการณ์ แต่ทุกอย่างก็จบสิ้นเร็วมาก เธอจึงถอนหายใจออกมายาวๆ จากนั้นก็ปิดตาลงเหมือนเดิม

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ห้องลับอีกห้องหนึ่งก็ปกคลุมด้วยม่านพลังชนิดหนึ่งที่น่าตกใจอย่างมาก

คนที่อยู่ในห้องนั้นก็คือหานลี่ เขายังคงนั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้อง ร่างกายของเขาแผ่ปราณสีม่วงทองออกมาจางๆ ในขณะเดียวกัน อักษรรูนสีทองก็ปรากฏขึ้นแล้ววิ่งวนไปมา เมื่อผ่านไปไม่นานก็เกิดวงแหวนที่พื้นขนาดไม่ใหญ่ และสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

หานลี่ที่มองอยู่ไกลๆ ก็รู้สึกว่ามันผิดปกติมาก

แผ่นพราหมณ์ที่อยู่ด้านหลังของหานลี่ก็เรืองแสงสีทองจางๆ โดยมีอักษรสีเงินปรากฏขึ้นอย่างพิเศษ

แต่ที่ยิ่งไม่น่าเชื่อมากกว่านั้นคือ ขณะที่ตัวอักษรรูนจำนวนมากวิ่งวนอยู่รอบตัวหานลี่นั้น เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นมาจากภายในร่างกายของเขา จากนั้นก็มีลมกรรโชกแรงเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า ประจุสายฟ้าสีเงินก็เกิดขึ้นมาอีกด้วย

หานลี่ลืมตาของเขาขึ้นทั้งสองข้าง ดวงตาของเขามีประกายแสงสีฟ้าขึ้นมา

อยู่ๆ หานลี่ก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งส่งพลังฝ่ามือออกมาอย่างรุนแรง

ตู้ม ตู้ม!

อักษรรูนสีเงินจางๆ ปรากฏที่กลางฝ่ามือของเขา จากนั้นก็กลายเป็นค่ายกลลึกลับ

ในตอนนั้นเอง แสงสีเขียวก็สว่างวาบขึ้นมา พายุลมหมุนลูกใหญ่ก็ออกมาจากฝ่ามือของเขา พร้อมสายฟ้าแลบ จากนั้นก็กลายเป็นมังกรเขียวธาตุลมตัวหนึ่งปรากฏขึ้นอยู่กลางห้องลับแห่งนี้

ตู้ม ตู้ม!

หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยระเบิดแสงห้าสีที่แสบตา

หานลี่ตกใจอย่างมาก เร่งกระตุ้นคาถาเข้าไปที่ใจกลางของพลังเวทย์ เมื่ออักษรสีเงินกลางฝ่ามือของเขาหายไป มังกรเขียวตัวนั้นก็หายไปด้วย

ประตูหินต้องห้ามขนาดใหญ่ ก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิมก่อนที่ถูกทำลาย

สีหน้าของหานลี่เต็มไปด้วยความตกใจ

เมื่อครู่เขาเพียงกระตุ้นวิชาคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติเพียงเล็กน้อย แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจขนาดนี้

ดูทว่าวิชาคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติ จะมีพลังมากกว่าที่เขาคาดเอาไว้ สำหรับเขาแล้ว นี่ถือว่าเป็นข่าวดีแน่นอน

ช่วงเวลาสี่สิบปีที่เขาฝึกฝนอย่างหนัก เขาไม่เพียงแต่จะกลืนเมล็ดข้าวเขี้ยวโลหิตลงไป แต่เขาสามารถเพิ่มพลังให้วิชาคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติได้อีกด้วย

ตอนนี้เขาสามารถพูดได้ว่าร่างกายของเขาถือเป็นสมบัติที่แข็งแกร่งชิ้นหนึ่ง พลังของเขานั้นลึกลับอย่างคาดไม่ถึง เขาไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธชนิดใดเลย ก็สามารถฆ่าคนที่อยู่ระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย