บทที่ 590 คลอดลูกอยู่ไฟ

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

บทที่ 590 คลอดลูกอยู่ไฟ

เดิมทีหลินชิงเหอเดาว่าต้องคลอดวันชาติจีนเป็นแน่ เธอยังรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย เพราะว่าใน 2-3 วันนั้นคนจะพลุกพล่านมากเป็นพิเศษ

แต่ท้องของเธอกลับนิ่งสนิท ช่วงเวลาวันชาติจึงไม่ต้องทำคลอด แต่เช้าวันที่สิบเดือนตุลาคมเธอกลับเริ่มรู้สึกปวดขึ้นมาแล้ว

น่าจะเพราะว่าเธอเคยคลอดลูกมาแล้ว 3 คน พอรู้สึกเจ็บท้องน้ำคร่ำก็ไหลทันที จนถึงสี่ทุ่มกว่าก็คลอดออกมาเรียบร้อยแล้ว

หลินชิงเหอได้รู้ซึ้งในตอนนี้เองว่าการเป็นผู้หญิงนั้นไม่ง่ายเลย จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอสมบูรณ์แบบแล้ว

“ลำบากภรรยาแล้วนะครับ” โจวชิงไป๋ที่ได้ลูกสาวสมดั่งปรารถนามองใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของภรรยาแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าควรพูดว่าอะไร

หลินชิงเหอพยักหน้า ตอนนี้เธอไม่มีแรงเหลือแล้วเช่นกัน หลังจากกินโจ๊กน้ำตาลทรายแดงเสร็จสักพักเธอก็หลับไป

ธุระเรื่องอื่น ๆ ก็ย่อมส่งให้โจวชิงไป๋และโจวซื่อนีแล้ว โจวชิงไป๋รู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย แต่ดีที่เขาเรียนเสริมมาแล้ว และฝึกมือด้วยหมอนมาไม่น้อย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ตอนที่เขามองลูกสาวที่ตัวเล็กราวกับของล้ำค่า เขากลับไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร

โจวซื่อนีกลับประสบการณ์โชกโชนยิ่งกว่า อีกทั้งเด็กที่เพิ่งคลอดนั้นก็สงบนิ่งมากเช่นกัน ขณะนี้หล่อนกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เลย เรื่องนี้ยิ่งไม่ต้องกังวลเข้าไปใหญ่

และช่วงนี้อากาศก็กำลังพอดี ไม่ร้อนไม่หนาว ถือว่ากำลังสบายอย่างยิ่ง

หลินชิงเหอพักอยู่ที่โรงพยาบาล 3 วัน ยายเฒ่าเจียง เซวียเหม่ยลี่ และเจียงเกิงต่างพากันมาเยี่ยมครบหมดแล้ว ทั้งยังมาทุกวันด้วย

ภายใน 3 วันนี้หลินชิงเหอฟื้นฟูร่างกายกลับคืนมาไม่น้อย หลังจากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่ออีกแล้ว

โบราณกล่าวไว้ไม่ผิดจริง ๆ อยู่สวรรค์ก็ไม่สู้อยู่บ้านของตัวเอง ยังคงเป็นบ้านของตัวเองเท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ

ทารกน้อยถูกโจวชิงไป๋ห่อเอาไว้อย่างดี แล้วเขาก็เข็นรถเข็นพาเธอออกมาขึ้นรถ เขาเรียกลูกสาวในอ้อมแขนหลินชิงเหอก่อนจะขับรถกลับบ้าน

เป็นเช่นนี้แล้วหลินชิงเหอก็ต้องเริ่มให้นมลูกและอยู่ไฟเสียที โจวชิงไป๋ก็พยายามที่จะฝึกให้นมลูกด้วยตัวเองเช่นกัน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าขอแค่มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

เขาตั้งชื่อให้ลูกสาวเขาค่อนข้างไร้รสนิยมเล็กน้อย ตัวอักษรเพียงตัวเดียวว่า มี่(น้ำผึ้ง)…โจวมี่

เดิมทีเขาอยากจะเรียกเธอว่าโจวมี่มี่ แต่หลินชิงเหอไม่ยอม มี่ตัวเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องเรียกโจวมี่มี่

แต่ชื่อเล่นให้เรียกว่ามี่มี่ เด็กน้อยมี่มี่เลี้ยงง่ายจริง ๆ หลังจากกินอิ่มก็นอนตื่นมาก็กิน ดึกดื่นค่อนคืนที่ต้องตื่นขึ้นมากินนมอะไรนั่น หลินชิงเหอทนตื่นไม่ไหว ทั้งหมดเลยตกมาอยู่ในมือของโจวชิงไป๋

เขาสับเปลี่ยนผ้าอ้อมสะอาด ๆ เสร็จแล้ว จากนั้นก็ไปเรียกภรรยาให้ตื่นมาให้นมลูกสาว

เสร็จเรียบร้อยแล้วหลินชิงเหอก็นอนหลับต่อ เหลือแค่ให้ลูกสาวของเขาเรอแล้วถึงจะนอนต่อ ซึ่งหน้าที่ทั้งหมดเป็นของโจวชิงไป๋

ระหว่างอยู่ในช่วงตั้งท้องอยู่นั้น หลินชิงเหอได้รับการบำรุงเยอะมาก แต่ถ้าบอกว่าอ้วนหรือไม่นั้นไม่มีเลย เพราะว่าของที่บำรุงเหล่านี้เรียกว่าส่งตรงไปให้มี่มี่กินหมดแล้ว

นี่เพิ่งจะไม่กี่วัน สาวน้อยที่เพิ่งคลอดคนนี้ก็ไม่เหมือนเดิมกับเมื่อตอนเกิดใหม่ ๆ แล้ว

ผิวขาวน้ำนมที่เห็นได้ชัดว่าถูกส่งต่อมาจากหลินชิงเหอ ไม่เพียงผิวพรรณที่เด็กน้อยได้รับจากหลินชิงเหอ คิ้วและตาก็ได้จากเธอเช่นกัน แม้แต่หลินชิงเหอที่มองเห็นแล้วยังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านอยู่ภายในใจ

โจวชิงไป๋ถือกล้องเดินเข้ามา วันนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องถ่ายรูปแล้ว ชายคนนี้เกินเยียวยาแล้วจริง ๆ ในหนึ่งวันจะต้องถ่ายให้ได้ไม่น้อยกว่า 5 รูป

“คุณจะถ่ายลูกสาวของคุณก็ถ่ายไป ไม่ต้องถ่ายฉัน!” หลินชิงเหอพูดเตือนเขา

ตอนนี้สภาพของเธอไม่ต้องพูดก็รู้ว่ามันดูกระเซอะกระเซิงมาก แต่เมื่อเธอบอกว่าไม่ให้ถ่ายโจวชิงไป๋กลับไม่ตอบ เพราะที่จริงแล้วเขาแอบถ่ายเธอไปบางส่วนแล้ว

“วันนี้อยากกินอะไรดีครับ?” ถ่ายเสร็จ โจวชิงไป๋จึงถามภรรยาตนอย่างพึ่งพอใจ

“ไม่ต้องเยอะมากขนาดนั้นนะคะ เอาที่พอดีก็พอ” หลินชิงเหอโบกมือพูด

แม้หล่อจะพูดไปแบบนั้น แต่โจวชิงไป๋กลับเข้าไปทำกับข้าวเยอะมากเป็นพิเศษ ไข่ห่องาดำข้างในใส่ขิง ขิงนี้คุณป้าเจียงเป็นคนทำให้ โดยนำเอาขิงสด ๆ ไปหั่นแล้วตากแดกจนแห้ง จากนั้นเมื่อถึงเวลาก็นำมาผัดกับไข่กินได้แล้ว

หลังจากคลอดลูกจะต้องกินขิงเพื่อขจัดความชื้น นี่ก็คือประเพณีของที่นี่ ที่บ้านเกิดของหลินชิงเหอไม่มี แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นประเพณีที่ไม่เลว และก็เป็นน้ำใจของคนแก่ ดังนั้นโจวชิงไป๋จึงทำให้ภรรยากิน

หลินชิงเหอก็ชอบกินเช่นกัน

อย่างอื่นก็มีตุ๋นไก่ตุ๋นหมูต่าง ๆ ซึ่งหลินชิงเหอกินไม่มาก แต่ก็พอเจริญอาหารอยู่ สำหรับปลานั้น เธอก็กินต้มแกงปลาหนึ่งถ้วย ขอเพียงมี่มี่ได้กินสารอาหารครบถ้วนก็พอ เธอเองก็ไม่อยากน้ำหนักขึ้นในการอยู่ไฟครั้งนี้ของตัวเองด้วย

หลินชิงเหอกินเสร็จแล้ว โจวซื่อนีก็เข้ามาเอาถ้วยออกไปเก็บ ครั้นหล่อนล้างถ้วยชามเสร็จแล้วก็กลับเข้ามาคุยกับหลินชิงเหอต่อ “หนูไม่รู้เลยนะคะเนี่ยว่าอาสี่จะเป็นงานได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาเขาไม่เรียกพวกเรา นี่หนูไม่มีงานอะไรให้ทำแล้ว”

ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่มีอะไรทำขนาดนั้น ซักผ้าทำกับข้าวเลี้ยงเด็ก ถูพื้นกวาดพื้น ทั้งหมดทำด้วยมือคู่เดียว แต่หล่อนจะมาเสียเที่ยวไม่ได้ ดังนั้นหล่อนจึงขอแบ่งงานไปไม่น้อย

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังว่างอยู่ดี ช่วงนี้เริ่มที่จะเย็นแล้วเล็กน้อย ผ้าอ้อมเตรียมมาไม่น้อยก็จริง แต่ปริมาณที่ใช้ในแต่ละวันก็ไม่ใช่น้อย ๆ หล่อนจึงเอาไปซักมือก่อน แล้วหลังจากนั้นจึงใส่เครื่องซักผ้าปั่นเอาน้ำออกก่อนรอบหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้ว

แต่นอกจากเรื่องซักผ้าพวกนี้แล้ว บางครั้งก็ไปเป็นลูกมือช่วยบ้าง แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้ทำ อาสี่ของหล่อนเหมาเองคนเดียวเลย!

หลินชิงเหอมองเห็นเช่นเดียวกัน ชิงไป๋ของเธอหนีความเป็นทาสลูกสาวตัวเองไม่ได้แล้วจริง ๆ แบบนี้หลินชิงเหอคงต้องเตรียมรับหน้าที่เป็นแม่ที่เข้มงวดเอาไว้เสียหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไร?

แต่ชิงไป๋ของเธอก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการเป็นคุณพ่อจริง ๆ แต่ครั้งนี้ถ้าไม่มีโจวซื่อนีมา ก็คงไม่ได้พูดเกินไปนักว่าเขาจะยุ่งจนหัวหมุน

แม้แต่ยายเฒ่าเจียงยังพูดว่าไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนดูแลภรรยาหลังคลอดได้อย่างใส่ใจเท่านี้เลย ชีวิตนี้เธอแต่งงานถูกคนแล้ว

ในช่วงอยู่ไฟหลังคลอดหลินชิงเหอไม่ได้ประพฤติตัวตรงตามกฎขนาดนั้น เธอใช้วิธีการอยู่ไฟหลังคลอดตามยุคปัจจุบัน หลังจากครึ่งเดือนไปแล้วถึงจะเริ่มสระผม ในขณะเดียวกันเรื่องการระบายอากาศภายในห้องก็เป็นเรื่องสำคัญ ขอเพียงไม่ให้ลมพัดหน้าก็พอ

หลังจากวันที่ห้าเธอก็สามารถลงมาเดินได้แล้ว จากที่ต้องนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน

เนื่องจากให้นอนเฉย ๆ แบบนั้นเธอทนไม่ไหวจริง ๆ นอนจนตัวแทบจะแข็งแล้ว

เธอต้องการสระผมแต่โจวชิงไป๋ไม่ยอม ไม่ใช่แค่เขา ยายเฒ่าเจียงก็ไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ทนความดื้อของเธอไม่ได้ จนต้องต้มน้ำกับใบอ้ายเยี่ย[1]ให้เธอ หลังจากนั้นก็เอาไปล้างหนึ่งรอบ แล้วเอาไปใส่ในหม้อต้มน้ำขนหนูให้ร้อน แล้วให้เธอมาเช็ดผม แบบนี้จะทำให้แห้งเร็วขึ้น ความชื้นไม่เข้าสู่ร่างกายแน่นอน

เธอไม่สนว่าโจวชิงไป๋จะบ่นอย่างไร หลังจากได้สระผมแล้วหลินชิงเหอก็รู้สึกเหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รู้สึกสบายตัวอย่างมาก

ส่วนเรื่องอาบน้ำเป็นหลังจากวันที่สิบสองเธอจึงจะได้อาบ บอกตามตรงว่าสบายตัวมาก

เพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปแล้ว 1 เดือน ในที่สุดหลินชิงเหอก็สามารถกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว วันนี้เป็นวันที่เธอออกมาจากการอยู่ไฟหลังคลอด หลินชิงเหออาบน้ำและสระผมอย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็ออกมาตากแสงแดดที่อบอุ่นข้างนอก

“ถ้าแม่ผมรู้ แม่จะต้องบ่นคุณแน่” โจวชิงไป๋เช็ดผมให้เธอไปด้วย แล้วก็พูดไปด้วย

………………………………………………………………………………………………………………………….

[1] ใบอ้ายเยี่ย เป็นสมุนไพรจีนช่วยขับกระจายความเย็นระงับปวด อบอุ่นเส้นลมปราณเพื่อห้ามเลือด (ภาพจาก https://m.zhiwushuo.com/baike/626442021082762644.html)

 

สารจากผู้แปล

ชื่อว่ามี่ถือว่าเชยอะไรกัน ไม่เชยหรอกค่ะ เพราะดีออก ดีแล้วที่ไม่เรียกมี่มี่ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นมี่มีมี่มีมี่มีมี ๕๕๕ ขออภัยในมุกหนึ่งบาทของผู้แปลด้วยค่ะ (แต่เพลงมันติดหูจริง ๆ นะ)

แม่ต้องเป็นแม่ที่เข้มงวดหน่อยนะคะ มีแนวโน้มว่าพ่อจะสปอยล์น้องหนักมากเลยล่ะค่ะ รักน้องหลงน้องขนาดนี้

ไหหม่า(海馬)