ตอนที่ 986 ทำให้ยิ่งใหญ่หน่อย !

นายน้อยเจ้าสำราญ

ตอนที่ 986 ทำให้ยิ่งใหญ่หน่อย !

“ท่านแม่…พวกเรามีกิจการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้นามบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซีซานต้าเซี่ยอยู่ที่เมืองหลวงรองจินหลิงเพคะ”

หยูเวิ่นหวินเอ่ยด้วยสีหน้าเบิกบานว่า “เมื่อคราที่พวกเรายังอยู่ในเมืองจินหลิง ท่านพี่ได้ให้ชูหลานกว้านซื้อที่ดินเขตสลัมไว้ทั้งหมด คราก่อนที่พวกเรากลับไปยังจินหลิงมิมีอันใดให้ทำ พวกเราจึงส่งช่างไปก่อสร้างบ้านเรือนและบ้านชุดแรกจะสร้างเสร็จเร็ว ๆ นี้ มีข่าวมาจากที่นั่นว่าผู้คนมากมายเดินทางมาดูเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะทำกำไรได้ดีเลยทีเดียวเพคะ”

เมื่อสวี่หยุนชิงได้ยินดังนั้นก็มีความสุขมากยิ่งนัก บุตรชายปกครองประเทศ ส่วนลูกสะใภ้ก็เค้นสมองคิดหาหนทางสร้างรายได้… เงินที่ได้รับนี้อยู่ในกองทุนภายในครอบครัวและนี่ถือว่าเป็นเงินเก็บส่วนตัวของบุตรชาย

นางคิดอยู่ชั่วครู่แล้วเอ่ยออกมาว่า “ชื่อนี้มัน… ต้าเซี่ยควรวางอยู่ข้างหน้าเพราะมองดูแล้วจะได้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร”

ต่งชูหลานดูมีความสุขมากยิ่งนัก “เช่นนั้นก็ขอให้ท่านแม่ตั้งชื่อบริษัทให้แก่พวกเราเถิดเพคะ”

คนที่เหลือต่างก็ตั้งตารอคำตอบจากสวี่หยุนชิงที่กำลังครุ่นคิดอยู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิเกรงใจว่า “ชื่อซีซานมิค่อยเหมาะเท่าใดนัก เพราะหมายถึงอาทิตย์ตก ณ แดนประจิม ถือเป็นลางมิดี หรือ…จะเรียกว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์จินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ดีหรือไม่ ? เรื่องนี้เสี่ยวกวนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ มันเป็นบริษัทที่พวกเจ้าเปิดกันเองจึงชื่อว่าจินเฟิ่ง”

“บริษัทอสังหาริมทรัพย์จินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน)…” หยูเวิ่นหวินเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาอีกคราด้วยแววตาที่เปล่งประกาย “ชื่อนี้ฟังดูแล้วช่างยิ่งใหญ่เสียจริงเพคะ ! ”

ต่งชูหลานและคนอื่น ๆ รู้สึกว่าชื่อนี้ช่างมีอำนาจยิ่ง จินเฟิ่ง…บัดนี้ฐานะของพวกนางเป็นหงส์สีทองแสนสูงส่งเชียวหรือ ?

ที่แม่สามีหมายถึงประการแรกก็คือจะให้พวกนางทำธุรกิจแยกออกมาจากสามี ในอดีตท่านพี่เคยเอ่ยว่ามิควรทำธุรกิจในนามของราชวงศ์เพราะจะนำไปสู่การแข่งขันในท้องตลาดที่มิเป็นธรรม

ประการที่สองคือให้ระบุชื่อของพวกนางลงไปเพื่อให้พวกนางได้ออกความคิดเห็นในเรื่องกลุ่มการค้านี้มากยิ่งขึ้น

ทว่าชื่อกลุ่มการค้านี้ยิ่งใหญ่เกินไปหรือไม่ ?

อุตสาหกรรมที่ดูแลอยู่ทั้งหมดยังมิมากพอให้ตั้งชื่อนี้มิใช่หรือ ?

ต่งชูหลานเอ่ยขึ้นมาว่า “หรือว่า…เปลี่ยนชื่อโรงงานกระป๋องเป็นบริษัทผลิตอาหารจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ดีหรือไม่เพคะ ? ”

สวี่หยุนชิงตบไปที่ขาอ่อนของตนฉาดใหญ่ “ดี…เอาชื่อที่ดูยิ่งใหญ่และเกรียงไกรเยี่ยงนี้แหละ ! ”

สตรีทั้งสิบนางหันไปมองสวี่หยุนชิงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ยามนี้อารมณ์ของสวี่หยุนชิงเหมือนได้ย้อนกลับไปตอนนางยังเยาว์วัย… ในตอนนั้นนางคือสตรีที่มีความสามารถในจินหลิงและเป็นผู้มหัศจรรย์ในใต้หล้า !

“บัดนี้เรื่องออกทะเลกำลังเป็นที่นิยม แม้ว่าจะยังมิมีเรือของภาคเอกชน ทว่าข้าก็ได้ข่าวว่ามีบริษัทขนส่งทางเรืออยู่แล้วมิใช่หรือ ? พวกเขากำลังเร่งสร้างเรืออยู่… ว่าแต่พวกเรามีเงินในท้องพระคลังเท่าใดกัน ? ”

นี่ต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่อีกเป็นแน่ !

เรือที่ใช้สำหรับออกทะเลจะต้องมิใช่เรือธรรมดาทั่วไป !

แม้จะยังมิได้เอ่ยถามเรื่องงบประมาณที่ใช้ในการสร้างเรือ แต่เพียงแค่เดาก็รู้แล้วว่ามันจะต้องมีมูลค่ามหาศาล

มิว่าต้องใช้เงินมหาศาลเพียงใดก็คงมิสามารถเทียบได้กับความสุขของแม่สามี ต่งชูหลานจึงยกยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ยังมีอีกราว 80 ล้านตำลึงเพคะ”

“พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปสืบว่าต้องใช้เงินจำนวนเท่าใดในการสร้างเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ พวกเรามาค้าขายในเส้นทางการเดินเรือกันเถิด…ให้ใช้ชื่อว่าบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ! ”

ในช่วงเวลาที่สวี่หยุนชิงสนทนากับเหล่าลูกสะใภ้ที่ตำหนักฉืออันด้วยอารมณ์สดใสก็ได้ตั้งชื่อบริษัทต่าง ๆ ออกมามากมาย…

บริษัทผลิตและจำหน่ายสิ่งทอจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของซือหม่าเช่อ

บริษัทเภสัชกรรมจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของหนานกงตงเซวี๋ย

บริษัทเครื่องหอมจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของเยี่ยนเสี่ยวโหลว

บริษัทติดตั้งสรรพาวุธจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของซูซู

บริษัทผลิตอาหารจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของจางเพ่ยเอ๋อร์

บริษัทองครักษ์จินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของอู๋หลิงเอ๋อร์

บริษัทอสังหาริมทรัพย์จินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของหยูเวิ่นหวิน

บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ของสวี่ซินเหยียน

ชุนซิ่วรับผิดชอบเขตพระราชฐานชั้นใน ส่วนต่งซูหลานรับผิดชอบด้านการเงินของทุกบริษัท

เอ่ยได้ง่าย…แต่จะทำได้ง่ายดายเหมือนที่เอ่ยจริง ๆ หรือ

ต่งชูหลานรู้สึกว่าแผนการนี้ช่างใหญ่โตจนทำให้นางอยู่ในฐานะกลืนมิเข้าคายมิออกเลยทีเดียว !

เงินจำนวน 80 ล้านตำลึง หากนำไปแบ่งแล้วย่อมมิเพียงพออย่างแน่นอน !

แน่นอนว่าเรื่องนี้สวี่หยุนชิงทราบดี ดังนั้นนางจึงยกยิ้มน้อย ๆ อย่างมีเลศนัย “เรื่องเงินให้ข้าจัดการเอง พวกเจ้าจงไปเตรียมการไว้เถิด ! ”

“หาเวลาว่างไปจดทะเบียนบริษัทกับกรมการค้าด้วยล่ะ เมื่อถึงต้นปีหน้าข้าให้สัญญาว่าเงินทุนที่พวกเราต้องใช้ จะถูกนำมากองไว้เบื้องหน้าของพวกเจ้า พอถึงตอนนั้นพวกเจ้าสามารถเชิญคนมาดำเนินการได้อย่างเปิดเผยทันที ! ”

“แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ต้องรับผิดชอบ จงจำเอาไว้ว่าเรื่องสำคัญสำหรับพวกเจ้าคือการให้กำเนิดบุตร ! ”

สิ่งที่ต่งชูหลานและคนอื่น ๆ มิคาดคิดก็คือ เรื่องเล็กน้อยของสวี่หยุนชิงที่กำลังจะดำเนินการกันเป็นกลุ่มแรก จะทำให้ใต้หล้าเกิดความสั่นไหวขึ้นมา !

นี่คืออนาคต !

……

……

ฟู่เสี่ยวกวนมิทราบว่ามารดาของตนกำลังพาเหล่าภรรยาทำเรื่องสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทั้งผืนปฐพี

บัดนี้เขาอยู่ในห้องทรงพระอักษร มีเหว่ยชังเสนาบดีกรมโยธาธิการนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ทูลฝ่าบาท ท่าเรือราชนาวีเซินกังและท่าเรือราชนาวีซื่อไห่ดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นและตามแผนงานที่วางไว้คือโครงสร้างหลักจะสร้างเสร็จในเดือนห้าของปีหน้า จากนั้นจึงจะสามารถต่อเรือรบได้พ่ะย่ะค่ะ”

“นอกจากนี้ยังมีข่าวจากท่าเรือราชนาวีเซี่ยเย๋ว่ามีความคืบหน้าเร็วกว่า แม้จะเริ่มดำเนินการล้าช้ากว่าเซินกังและซื่อไห่ราว 2 เดือน ทว่าก็ตามทันและอย่างช้าสุดจะสามารถต่อเรือรบได้ภายในเดือนห้าเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

“การปรับปรุงท่าเรือในหยวนตงเต้าดำเนินไปอย่างราบรื่น ทว่าว่ามันอยู่ไกลมากยิ่งนักจึงทำให้รายงานที่ส่งมาเกิดความล่าช้าไป 1 เดือนและคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนห้าของปีหน้าเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

“ด้านการปรับปรุงท่าเรือเจียงเฉิงมิค่อยราบรื่นพ่ะย่ะค่ะ ประการแรกคือพวกเรามิสามารถชะลอการสร้างเรือรบได้ ประการที่สองคือขนาดของท่าเทียบเรือแต่ละช่องต้องมีการขยายออกอีก และต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มอีกหลายอย่าง แต่การปรับเปลี่ยนตรงนี้ จะไปส่งผลกระทบต่อความเร็วในการต่อเรือรบ ดังนั้นกระหม่อมคิดว่า…ควรรอให้ท่าเรือราชนาวีทั้งสามแห่งสร้างเสร็จก่อน พวกเราค่อยปรับปรุงท่าเรือเจียงเฉิงดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มิรู้ว่ากองทัพเรือของฝูหล่างจีจะบุกเข้าโจมตีเมื่อใด ดังนั้นคำสั่งของเขาก็คือสร้างท่าเรือและท่าเทียบเรือให้เสร็จเสียก่อน

เพื่อที่จะได้เริ่มต่อเรือรบให้เร็วที่สุด และจะได้มีเรือรบอู่เว้ยจำนวน 20 ลำสำหรับกองทัพเรือที่หนึ่งตามความตั้งใจแรกของเขา

การต่อเรือรบในท่าเรือเจียงเฉิงต้องใช้เวลาครึ่งปีสำหรับเรือหนึ่งลำและสิ่งอำนวยความสะดวกในท่าเรือใหม่เหล่านี้ จำต้องถูกปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เกรงว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนเลยทีเดียว จำต้องมีอุปกรณ์และแรงงานอย่างเพียงพอ

ก่อนที่เรือรบเหล่านี้จะถูกส่งมอบให้กองทัพเรือ จำต้องมีการทดลองและปรับปรุงอย่างน้อยอีก 2 เดือน

เอ่ยอีกนัยหนึ่งก็คือประเทศต้าเซี่ยต้องการมีกองทัพเรือที่สมบูรณ์แบบกองทัพแรกโดยเร็วที่สุดภายในสิ้นปีหน้า

เป็นผลให้มิสามารถหยุดการต่อเรือที่ท่าเรือเจียงเฉิงได้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า “เช่นนั้นก็ทำตามแผนการของท่านเถิด ส่วนเรื่องดำเนินงานของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์เป็นเยี่ยงไรบ้าง ? ”

“ทูลฝ่าบาท น้ำมันดิบได้สูบออกมากักเก็บไว้เป็นจำนวนมาก พบว่าหนึ่งในผลพลอยได้ของมันก็คือโคลนสีดำ ทว่ากระหม่อมมิรู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นใช้ประโยชน์อันใดได้บ้าง ส่วนเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในที่พระองค์ตรัสนั้น…”

เหว่ยชังส่ายศีรษะช้า ๆ “ยังมิได้รับข่าวดีจากใต้เท้าฉินเลยพ่ะย่ะค่ะ คาดว่ายังมิมีความคืบหน้าใดพ่ะย่ะค่ะ”

ปัญหาอยู่ที่การหลอมและตีเหล็กให้กลายเป็นลักษณะหรือวัสดุตามต้องการมิใช่เรื่องง่ายเลย จึงยังมิประสบผลสำเร็จ ฟู่เสี่ยวกวนเองก็ไร้ประสบการณ์ในด้านนี้โดยสิ้นเชิง ดังนั้นจำต้องให้ฉินเฉิงเย่และคนอื่น ๆ คลำหามันด้วยตนเอง

สำหรับโคลนสีดำ…หรือว่าจะเป็นน้ำมันดิน ?

ฟู่เสี่ยวกวนทราบถึงประโยชน์ของน้ำมันดินเพียงอย่างเดียวว่าใช้สำหรับ…เทถนน

“ข้าจะเอ่ยกับเจียงซั่งนายอำเภอเขตซื่อหยางว่าจงสั่งให้คนนำโคลนสีดำไปเทบนถนน… บัดนี้อากาศหนาวจึงมิใช่เวลาที่เหมาะสม เยี่ยงนั้นท่านจงจำเรื่องนี้เอาไว้ว่า รอให้ถึงเดือนห้าของปีหน้าค่อยลงมือทำ”

เหว่ยชังมิเข้าใจความหมายนี้ ทว่าเขาก็จดจำมันจนขึ้นใจ

“อ้อ ! เผิงฟางซื่อหลางแห่งกรมเกษตร…เรื่องดำเนินการปรับปรุงสายพันธุ์ของเซียงจูอวี๋ห้าวของเขาเป็นเยี่ยงไรบ้าง ? ”