บทที่ 754 เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าว + ตอนที่ 755 เหยียนหมิงซุ่นที่แสนใจเย็น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 754 เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าว + ตอนที่ 755 เหยียนหมิงซุ่นที่แสนใจเย็น โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 754 เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าว

คนรอบข้างเข้าใจในทันที มิน่าละที่เจ้าหญิงน้อยตระกูลจ้าวจะไม่พอใจ ไม่ว่าใครถ้าถูกคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดแล้วมาเรียกน้องสาวก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นแหละ!

ยิ่งไปกว่านั้นในบรรดาพวกเขาจะมีใครบ้างที่มองความคิดลึกๆในใจของหวงอวี้เหลียนไม่ออก?

สายตาที่ทุกคนมองไปทางสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนแฝงด้วยความดูถูกและสมน้ำหน้าอยู่ในนั้น เมื่อก่อนสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนชอบอ้างตระกูลจ้าวแล้ววางท่า พวกเขาจำต้องพูดเอาใจคล้อยตามกันไป

สองปีก่อนคุณปู่จ้าวจัดงานฉลองประกาศถึงการกลับมาของเหมยเหมย สองแม่ลูกก็สงบเสงี่ยมไปพักหนึ่ง แต่เพราะจ้าวเหมยไม่ได้อยู่เมืองหลวงประจำ อีกทั้งสองแม่ลูกคู่นี้ชอบไปเรียกร้องความสนใจที่ตระกูลจ้าวอยู่บ่อยครั้ง ความสัมพันธ์จึงยังคลุมเครืออยู่บ้าง!

ไหนจะเป็นเรื่องที่หวงอวี้เหลียนชอบพูดกับคนนอกว่าคุณย่าจ้าวชื่นชอบลูกสาวของตนขนาดไหน รักปานดวงใจขนาดไหน คำพูดพวกนี้เขาไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ และคงไม่ไปตามถามหาความจริงจากปากของคุณย่าจ้าวหรอก!

ก็คิดว่ามันเป็นความจริงไปก่อนแล้วกัน มันก็แค่เรื่องฉาบหน้าไม่ได้เสียผลประโยชน์อะไร แต่พอเห็นสองแม่ลูกคู่นี้ได้ใจขนาดนี้ พวกเขาก็อดรู้สึกหงุดหงิดในใจไม่ได้

วันนี้เห็นท่าทีของเจ้าหญิงน้อยตระกูลจ้าว พวกเขาชักจะเริ่มสงสัยในคำพูดของหวงอวี้เหลียนเสียแล้ว หากคุณย่าจ้าวรักโอหยางซานซานปานดวงใจจริงๆ เจ้าหญิงน้อยตระกูลจ้าวไม่เห็นแก่เธอก็ต้องเห็นแก่ย่าตัวเอง จะปะทะกับหวงอวี้เหลียนซึ่งๆ หน้าได้อย่างไร?

หวงอวี้เหลียนรู้สึกถึงสายตาเย้ยหยันจากคนรอบข้างก็กัดฟันกรอดแทบหัก แต่ยังคงรักษารอยยิ้มใจดีบนหน้าไว้ได้ดีเหมือนเดิม ความมารยานี้มันน่าหวาดผวาจริงๆ

“ก็ได้ก็ได้ ในเมื่อเหมยเหมยไม่พอใจงั้นวันหลังฉันไม่พูดต่อหน้าเธอแล้ว เฮ้อ น้ารู้ว่าเธออิจฉา แต่ก็นะ ในเมื่อซานซาน…ฮ่าฮ่า ซานซานของเราสนิทกับคุณย่าจ้าวของเธอจริงๆ นี่นา เหมยเหมยอย่าโกรธนะ ต่อไปฉันจะระวังปากระวังคำให้ดี!”

หวงอวี้เหลียนพูดไปพลางถอนหายใจไป ประโยคขาดๆ หายๆ แต่ทุกคนที่ได้ยินก็เข้าใจความหมายได้ทันที

กำลังจะบอกว่าคุณย่าจ้าวชอบโอหยางซานซานมากกว่าเจ้าหญิงน้อยตระกูลจ้าวจนเจ้าหญิงน้อยตระกูลจ้าวต้องอิจฉาอยู่หรือไง!

ทุกคนเริ่มทำสีหน้าลังเลอีกครั้งพลางคิดว่าที่หวงอวี้เหลียนพูดอาจเป็นไปได้ สายเลือดสำคัญมากแต่ความผูกพันสร้างขึ้นได้ คนหนึ่งอยู่ด้วยกันมานับสิบกว่าปี อีกคนแค่สองปีเท่านั้น มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ!

เหยียนหมิงซุ่นคอยมองเหมยเหมยที่โกรธจนตัวสั่นอย่างปวดใจ ลูบหลังเธอเบาๆ แล้วพูดเสียงแผ่ว “อย่าโกรธ จะหลงกลอีกฝ่ายไม่ได้”

ดีที่เหมยเหมยไม่ใช่เด็กที่แท้จริง ไม่นานเธอก็สงบสติอารมณ์ลงได้พลางยิ้มให้หวงอวี้เหลียนแล้วกล่าวเสียงดัง “คุณนายโอหยางกำลังจะบอกว่าลูกสาวของคุณเป็นที่ชื่นชอบของคุณย่าฉันมากกว่า ใช่มั้ยคะ?”

หวงอวี้เหลียนยิ้มเสแสร้ง “เหมยเหมยเข้าใจความหมายฉันผิดไปแล้ว ฉันแค่อยากให้พวกเธอสองพี่น้องรักใคร่ปรองดองกัน คุณย่าเธอก็คิดแบบนี้เหมือนกันนี่นา”

“คุณย่าฉันไม่เคยขอให้ฉันเรียกคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกันเป็นพี่น้อง คุณย่าฉันไม่ใช่คนโง่สักหน่อย อีกอย่างคุณนายโอหยางต้องทำความเข้าใจก่อนว่าคุณกับตระกูลจ้าวของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันสักนิด ก็แค่คุณย่าฉันเห็นแก่คุณลุงใหญ่ที่เสียชีวิตไปเลยดูแลคุณเป็นพิเศษ แต่ก็ขอให้คุณนายโอหยางจำไว้ให้ดีว่าคุณเป็นหนึ่งในแขกของคุณย่าฉันก็เท่านั้น ไม่ใช่แขกของตระกูลจ้าว นั่นเท่ากับว่าพวกคุณไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉันจ้าวเหมยเลยแม้แต่นิดเดียว”

เหมยเหมยพูดจบในทีเดียวโดยไม่หันไปมองสองแม่ลูกที่น่ารังเกียจนี้อีก ก้มหน้าให้คนอื่นเล็กน้อยก่อนฉุดเหยียนหมิงซุ่นจากไป

หวงอวี้เหลียนฝืนยิ้มไม่ได้อีกต่อไป เธอมองแผ่นหลังของเหยียนหมิงซุ่นแล้วเหยียดยิ้มที่มุมปาก

………………….

ตอนที่ 755 เหยียนหมิงซุ่นที่แสนใจเย็น

เหยียนหมิงซุ่นเห็นเหมยเหมยที่โกรธจนแก้มป่องพลางพูดปลอบ “อย่าโกรธเลย คราวหลังถ้าเจอคนแบบนี้อย่าโกรธอีกเป็นอันขาด จำไว้ว่าต้องใจเย็น”

“ฉันทำไม่ได้นี่นา แค่เห็นสองแม่ลูกคู่นี้ก็โมโหแล้ว น่ารังเกียจเหมือนอู่เยวี่ยเลย จะให้ใจเย็นได้ยังไงล่ะ!”

เหมยเหมยพูดด้วยอารมณ์ปนอ้อนเล็กน้อยเพราะอยากให้เหยียนหมิงซุ่นปลอบเธอสักหน่อย

แต่ว่าที่ผู้บังคับบัญชาการใหญ่ในอนาคตทำเป็นทุกอย่างยกเว้นปากหวานน่ะสิ!

เหยียนหมิงซุ่นยังเกลี้ยกล่อมเธออย่างใจเย็น “เหมยเหมยจะโกรธขนาดไหนก็ต้องใจเย็น ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กในตระกูลธรรมดาอีกแล้ว แต่เป็นเจ้าหญิงน้อยของตระกูลจ้าว มีคนจับตาดูอยู่ทุกคำที่พูดทุกย่างก้าวที่เดิน ห้ามพลาดแม้แต่นิดเดียว เธอเข้าใจความหมายฉันมั้ย?”

เดิมทีเหมยเหมยรู้สึกไม่พอใจเหยียนหมิงซุ่นอยู่บ้างที่ไม่รู้จักพูดปลอบใจเธอ แต่พอได้ฟังคำของเหยียนหมิงซุ่นเธอก็นึกโกรธกับความเป็นเด็กน้อยของตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นเด็กจริงๆ หรือไงกัน ไม่รู้จักโตเอาเสียเลย

เหยียนหมิงซุ่นพูดไม่มีผิด เธอในตอนนี้จะใช้อารมณ์แทนสติไม่ได้ อย่าเห็นว่าตระกูลจ้าวในเวลานี้กำลังไปได้ดี แต่พระจันทร์เต็มดวงก็ยังมีพระจันทร์เสี้ยว น้ำเต็มแก้วก็ยังล้น ตระกูลเจี่ยในเรื่องความฝันในหอแดงเป็นตัวอย่างที่ดีเลยล่ะ!

จึงเป็นเหตุผลที่คุณปู่จ้าวเข้มงวดต่อลูกหลานในตระกูลมาโดยตลอด เข้มงวดกว่ากฎของบ้านในตระกูลทั่วไป บทลงโทษก็ด้วยเช่นกัน ลูกหลานตระกูลอื่นสนุกกันอย่างบ้าคลั่งถึงขั้นมีคนท้าทายกฎหมายบ้านเมือง จนผู้ใหญ่ที่บ้านจะต้องออกหน้ารับประกันตัวพวกเขามาถึงจะรอดพ้นมาได้

แต่มีประโยคหนึ่งที่พูดได้ดี ทำอะไรไว้สักวันต้องชดใช้คืน เหมยเหมยไม่เห็นดีเห็นงามกับคนพวกนั้นสักนิด ใครจะรู้ได้บ้างล่ะว่าพวกเขาจะพลาดท่ากันเมื่อไร!

ส่วนเหล่าพี่น้องจ้าวเสวียเอ๋อร์นั้นกลับรักษาพฤติกรรมไว้ได้ดีมาตลอด แน่นอนว่าไม่สามารถตัดขาดการติดต่อกับคนพวกนั้นเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง

ทุกคนต่างอยู่ในแวดวงสังคมเดียวกัน ถ้าเธอทำตัวบริสุทธิ์เกินไปต้องมีคนในแวดวงเดียวกันเย็นชาและสุดท้ายจะเพิกเฉยต่อเธอ ในเมื่อบัดนี้ตระกูลจ้าวยังไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของยอดพีระมิด!

กับแวดวงกลุ่มเพื่อนของเหล่าพี่ชายนั้นเหมยเหมยไม่ได้รับรู้อะไรมาก แต่เธอรู้ว่าพวกจ้าวเสวียเอ๋อร์ต่างก็มีสังคมเล็กๆ ของตัวเอง ถึงเวลาจะนัดสังสรรค์กันเป็นบางครั้ง คิดว่าคงเป็นเพื่อนในแวดวงเดียวกัน

เงื่อนไขที่คุณปู่จ้าวมีต่อพวกเขาคือ ห้ามกระทำความชั่วไปด้วยกันแต่ก็ห้ามทำตัวโดดเด่นเพียงลำพัง ต้องรักษามิตรภาพกับคนเหล่านั้นให้ดี

เพราะเธอเป็นหลานสาวของคุณปู่จึงไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรต่อเธอ ปล่อยให้เธออยากทำในสิ่งที่ต้องการ หนำซ้ำยังบอกว่าเกิดเรื่องอะไรจะมีเขาคอยรับหน้าไว้ให้

แต่เธอไม่มีทางสร้างเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อตระกูลจ้าวแน่นอน ตรงกันข้ามเธอควรยิ่งระมัดระวังคำพูดและการกระทำ วันนี้เธอหลงกลหวงอวี้เหลียนเข้าแล้วจริงๆ โชคดีที่มีเหยียนหมิงซุ่นอยู่

“พี่หมิงซุ่น ดีจังที่พี่อยู่!” เหมยเหมยแหงนหน้ากล่าว

เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างปลื้มใจ ลูบศีรษะเธอไปมาเบาๆ “เด็กดี!”

ไม่นานก็มาถึงหน้าบ้านตระกูลจ้าว เหมยเหมยให้เหยียนหมิงซุ่นเข้าไปพบคุณย่าด้วยกันแต่เขาก็ปฏิเสธไป วันนี้ไม่เหมาะที่จะพบกับคนตระกูลจ้าว เขายังเตรียมตัวมาไม่ดีพอ

“ไม่ต้องรีบ ฉันจะอยู่เมืองหลวงอีกสักระยะ เหมยเหมยลองขอความเห็นคุณปู่คุณย่าดู ถ้าพวกท่านตกลง ฉันค่อยมาพบพวกท่าน”

เหยียนหมิงซุ่นอธิบายเหตุผลที่เขาเลือกจะไม่เข้าไป อีกฝ่ายเป็นผู้บัญชาการอาวุโสที่เขาเคารพ เขาจะเข้าไปพบเหมือนคนปกติทั่วไปไม่ได้ ต้องแสดงท่าทีที่นอบน้อมให้เกียรติที่สุด

เหมยเหมยคิดตามก็รู้สึกว่ามีเหตุผลดีเลยไม่รั้งไว้อีก กลับถามเหยียนหมิงซุ่นว่าพักที่ไหน

“ที่พักไม่ไกลจากตรงนี้ รถเมล์ป้ายเดียวก็ถึง”

“งั้นพรุ่งนี้เช้าฉันไปหาพี่นะ!”

เหมยเหมยพูดอย่างดีอกดีใจ เหยียนหมิงซุ่นเองก็อดยิ้มตามไม่ได้ กรงเล็บที่อดกลั้นมานานถูกยื่นออกไปในที่สุด จับพวงแก้มอวบอิ่มของเด็กสาวไว้ได้ก็รู้สึกอิ่มเอมใจในทันที

………………….