ตอนที่ 2177 ลูกบอลอัสนีสีดำขาว

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

ชั่วพริบตาที่มองเหนือหัวรูขนาดยักษ์ก็หดเล็กลงจนมีขนาดสองสามหมู่ รวมทั้งลูกบอลอัสนีสีดำขาวขนาดเท่าบ้านที่อยู่ด้านใน รูม่านตาของหานลี่พลันหดเล็กลง

เขาเองก็รู้ว่าในช่วงเวลาสุดท้ายจะถอยออกจากเคราะห์อัสนีเที่ยงแท้ออกมาได้หรือไม่ ก็ต้องดูว่าตนจะรับลูกบอลอัสนีลูกสุดท้ายได้หรือไม่

ทันใดนั้นหานลี่ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อ้าปากออกคาดไม่ถึงว่าจะพ่นโลหิตบริสุทธิ์ออกมาสามครั้ง จากนั้นก็ใช้สองมือร่ายอาคมชี้ไปกลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นโลหิตบริสุทธิ์ก็เปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นอักขระยันต์สีโลหิตขนาดยี่สิบสามสิบจั้ง แล้วพุ่งไปกลางอากาศ เปล่งแสงสว่างวาบแล้วจมหายเข้าไปในภูเขาลูกต่างๆ

ภูเขาสามลูกกลางอากาศหมุนคว้าง แล้วเลื่อนมาตรงใจกลาง คาดไม่ถึงว่าจะผสานร่างกันในพริบตา กลายเป็นยอดเขาสามสี และส่งเสียงอึกทึกดังมาก ขนาดหดเล็กลงจนมีความสูงยี่สิบสามสิบจั้ง ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายมหาศาลก็แผ่ออกมาจากมัน

ขั้นตอนการผสานร่างกันของภูเขาทั้งสาม ดูคล้ายกับรูปร่างสุดท้ายของภูเขาเบญจธาตุผสานปราณ แต่ความจริงแล้วทั้งสองนั้นแตกต่างกัน

ยอดเขาเบญจธาตุผสานปราณคือการผสานร่างกันของยอดเขาทั้งห้า ไม่ว่าผสานร่างหรือแยกจากกันล้วนทำได้สบายๆ ตามใจประสงค์ อานุภาพจึงไม่ใช่สิ่งที่การสำแดงเคล็ดวิชาลับผสานภูเขาทั้งสามก่อนหน้าจะเทียบเทียมได้

ยอดเขาทั้งสามผสานร่างกันไม่เพียงต้องการโลหิตบริสุทธิ์ ถึงจะกระตุ้นได้ยามที่ผสานร่างกันก็แสนสั้น จึงมีเพียงต้องรับการโจมตีนี้

เพื่อทะลวงจุดคอขวดนี้หานลี่ถึงได้คิดวิธีการเช่นนี้ขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น

เมื่อภูเขาทั้งสามผสานร่างกัน ลูกบอลอัสนีสีดำขาวกลางอากาศก็ส่งเสียงฟ้าร้องแล้วร่อนลงมา ตรงไปยังตำแหน่งที่หานลี่อยู่

ลูกบอลอัสนีสีดำขาวลูกนั้นและการโจมตีสายฟ้าก่อนหน้าไม่เหมือนกัน ด้านในมีพลังกฎเกณฑ์ฟ้าดินแฝงอยู่เล็กน้อย ล็อคทารกวิญญาณของหานลี่เอาไว้แน่น นอกเสียจากจะถูกต้านทานจนหายไป มิเช่นนั้นแม้ว่าจะหนีออกไปพันลี้ ก็จะไล่ตามมาราวกับแมลงเกาะกระดูก

แน่นอนสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออานุภาพอันน่ากลัวที่แฝงอยู่ในลูกบอลอัสนีสีดำขาว

ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ธรรมดาๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะรับลูกบอลอัสนีนี้ได้หรือไม่ ต่อให้ถูกเฉียดผ่านเล็กน้อย เกรงว่าคงถูกพลังทำลายล้างทำให้กลายเป็นผุยผงทันที

หานลี่มองเห็นสถานการณ์นี้ก็กระตุ้นอาคมอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ผิวปากยาวๆ ออกมา กรทั้งหกปรบมือพร้อมกัน

เสียง “ปังๆ” ดังขึ้น!

ลูกบอลลำแสงสีทองหกลูกพุ่งออกมา และลางเรือน ก่อนที่ภูเขาจะหลอมรวมกัน ก็หมุนคว้างกลายเป็นระลอกคลื่นยักษ์สีทอง

ระลอกคลื่นนี้มีขนาดสองสามหมู่ ด้านในมีอักขระยันต์จำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมา ในเวลาเดียวกันพลังมหาศาลที่ทำให้ผู้คนหยุดหายใจก็ม้วนวนออกมา

ลูกบอลอัสนีสีดำขาวถูกดูดเข้าไป แค่ส่งเสียงหึ่งๆ ต่ำๆ ออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วถูกดูดเข้าไปใจกลางระลอกคลื่น

ชั่วขณะนั้นกลางระลอกคลื่นสีทองพลันมีเสียงสวดมนต์ภาษาสันสกฤตดังออกมา ในเวลาเดียวกันสายฟ้าสีทองพลันเปล่งแสงสว่างวาบ

เสียงอึกทึกดังขึ้น!

ระลอกคลื่นสีทองสั่นเทา ลำแสงสีทองที่ก้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ลูกบอลอัสนีสีดำขาวพุ่งออกมาจากด้านใน ผิวมีสายฟ้าสีดำขาวเปล่งแสงเจิดจ้าจนแสบตา คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีความเสียหายเลยสักนิด

หานลี่พลันหน้าเปลี่ยนสี ไม่เห็นว่าเขาเคลื่อนไหวใดๆ ดอกบัวกระบี่สีเขียวหมุนวนอยู่เหนือศีรษะแล้วส่งเสียงร้องยาวๆ ออกมา แค่กะพริบวาบก็หายวับไปจากกลางอากาศ

ครู่ต่อมาด้านล่างลูกบอลอัสนีสีดำขาวก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ดอกบัวสีเขียวปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ หมุนวนเบาๆ ชั่วขณะนั้นพลันกลายเป็นไอกระบี่สีเขียวพันสายสับลงมา แล้วสับลงไปที่ลูกบอลอัสนีอย่างต่อเนื่อง

พริบตานั้นผิวของลูกบอลอัสนีสีดำขาวพลันมีไอกระบี่ตัดสลับกันไปมา ลำแสงสีเขียวระเบิดออก กลืนกินมันเอาไว้ข้างใน

แม้ว่าจากความน่ากลัวของลูกบอลอัสนี หยุดชะงักเล็กน้อยกลางลำแสงสีเขียว ยามนั้นพลันไม่อาจร่อนลงมาได้

หานลี่เห็นว่าได้ผลก็รู้สึกดีใจ รวบรวมพลังปราณในร่าง แล้วบรรจุเข้าไปในดอกบัวสีเขียวกลางอากาศอย่างบ้าคลั่ง

ไอกระบี่ที่บินออกมาจากดอกบัวสีเขียวเพิ่มขึ้นหลายเท่า ลำแสงสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนแทบจะปกคลุมไปทั่วลูกบอลอัสนี ทำให้ผิวของมันมีเสียงร้องออกมาไม่หยุด ราวกับว่าจะปริแตกได้ทุกวินาที

ในลูกบอลอัสนีมีเสียงอึกทึกดังขึ้น ผิวมีประจุไฟฟ้าสีดำขาวแผ่ออกมา มีความหนาเท่าปากชาม และกลางสายฟ้าก็มีไอกระบี่ดีดตัวออกมา

ในเวลาเดียวกันผิวของลูกบอลอัสนีก็ส่งเสียงอึกทึกแล้วร่อนลงมาด้านล่างอีกครั้ง

หานลี่มีสีหน้าเคร่งขรึม ปากก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา นิ้วชี้ไปที่ดอกบัวสีเขียวกลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นดอกบัวสีเขียวพลันผลิกลีบออก ชั่วพริบตาก็มีขนาดใหญ่ขึ้นสองสามส่วน ไอกระบี่ที่พ่นออกมาก็หนาขึ้นสองสามส่วน

แต่ลูกบอลอัสนีขนาดยักษ์แค่กะพริบวาบก็จมหายเข้าไปในดอกบัวสีเขียว

เสียงฟ้าคำรามดังออกมาจากดอกบัวสีเขียวอย่างต่อเนื่อง ดอกบัวกระบี่สีเขียวหมุนคว้างไปมาไม่หยุด กระบี่ลำแสงกลายเป็นกลีบดอกหดเล็กลงไปที่ใจกลาง ราวกับจะสับลูกบอลอัสนีออกเป็นชิ้นๆ ก็ไม่ปาน

แต่ครู่ต่อมากลางดอกบัวสีเขียวก็มีเสียงเพรียกแหลมสูงเสียดแก้วหูดังขึ้น กลีบดอกสีเขียวเว้านูนขึ้นมา และขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

หานลี่เห็นเช่นนั้นพลันตกตะลึง แต่ไม่รอให้ได้ทำอันใด กลางอากาศพลันมีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น

ดอกบัวกระบี่สีเขียวมีประจุไฟฟ้าสีดำขาวจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกมา กลายเป็นกระบี่บินเปล่งเสียงร้องคร่ำครวญเจ็ดสิบสองเล่ม ลำแสงหม่นแสงลง แล้วพุ่งหนีไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน

หานลี่พลันเชื่อมโยงจิตใจ หน้าซีดขาว คาดไม่ถึงว่าจะอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์ออกมาสองสามครั้ง กลิ่นอายบนเรือนร่างอ่อนแอลงสองสามส่วน แต่กลับสะบัดแขนเสื้อขาวไปกลางอากาศอย่างไม่รีบร้อน

ชั่วขณะนั้นกระบี่บินเจ็ดสิบสองเล่มพลันเปลี่ยนทิศทางพุ่งกลับไป ทยอยกันจมหายเข้าไปในแขนเสื้อและถูกหานลี่เก็บไว้ในร่าง

มองเห็นลูกบอลอัสนีสีดำขาวร่อนลงมาอีกครั้งอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด

ไม่ต้องกระตุ้นยอดเขาผสานร่าง ก็หมุนคว้างอยู่ที่เดิมโดยอัตโนมัติ ชั่วขณะนั้นก็มีอักขระยันต์หลากสีสันจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมา

ในเวลาเดียวกันผิวก็มีผลึกลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบ ทั้งยอดเขาผสานร่างเปลี่ยนเป็นกึ่งโปร่งแสง จากนั้นก็ส่งเสียงอึกทึกออกมาแล้วร่อนลงมาหาลูกบอลอัสนีสีดำขาว

หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น ลูกบอลอัสนีสีดำขาวก็ทุบไปที่ยอดเขาภูเขาผสานร่าง ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟ้าสีดำขาวจำนวนนับไม่ถ้วนก็ดีดตัวออกมา แล้วพุ่งไปหายอดเขาไม่หยุด

ยอดเขาผสานร่างสั่นเทาไม่หยุด ผิวมีรัศมีลำแสงหลากสีเปล่งแสงสว่างวาบ พยายามต้านทานการโจมตีจากประจุไฟฟ้าสีดำขาว

หานลี่ที่อยู่ด้านล่างกำลังกระตุ้นพลังปราณที่เหลือในร่างอย่างบ้าคลั่ง นิ้วชี้ไปกลางอากาศอย่างต่อเนื่อง บรรจุใส่ยอดเขากลางอากาศ ทำให้รัศมีลำแสงที่แผ่ออกมาจากยอดเขาเจิดจ้าจนแสบตา ราวกับดวงอาทิตย์งดงามก็ไม่ปาน

ยามนั้นกลางอากาศ ลูกบอลอัสนีสีดำขาวและยอดเขาก็ผสานร่างสั่นเทาไม่หยุด เสียงอึกทึกสั่นสะเทือนโสตประสาทดังขึ้น ระลอกคลื่นแผ่ออกมา พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

ทั้งสองต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน

แต่เมื่อเวลาผ่านไปลูกบอลอัสนีสีดำขาวกลางอากาศ ก็ถูกรัศมีลำแสงหลากสีสันที่แผ่ออกมาจากภูเขาบดให้เล็กลงอย่างช้าๆ พลังปราณในร่างของหานลี่เองก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว

หากไม่ใช่เพราะพลังปราณของหานลี่เหนือกว่าผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ทั่วๆ ไปหลายเท่า เกรงว่ายามนั้นพลังปราณคงแห้งเหือดไปจนเกลี้ยงแล้ว

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น หานลี่ก็มีสีหน้าดูไม่ได้!

เพราะเขาพบแล้วหากกระตุ้นยอดเขาเข้าต้านทาน เกรงว่าลูกบอลอัสนียังไม่ทันบดให้เกลี้ยง พลังปราณของตนคงหมดเกลี้ยงไปเสียก่อน

ทว่าถึงอย่างไรเสียหานลี่ก็ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ก่อนหน้านี้ได้เตรียมการรับมือกับเคราะห์สวรรค์นี้ไว้มากมาย ดังนั้นยามนี้จึงคิดวิธีที่ค่อนข้างอันตรายออก

แต่ทันใดนั้นเขาพลันกัดฟัน ดึงพลังปราณในยอดเขาผสานร่างกลางอากาศกลับมา จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นสิ่งหนึ่งก็บินออกมากลางอากาศ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นวงแหวนทรงกลมสีดำสนิท และส่งเสียงร้องประหลาด “วี้ดๆ” ดังออกมา พลางขยายขนาดขึ้นเป็นสองสามจั้ง

จากนั้นเขาพลันร้องตะโกน เรือนร่างหมุนวนไปที่พื้นดิน ชั่วขณะนั้นพลันกลายเป็นวานรยักษ์ขนสีทองตัวหนึ่ง ชั่วขณะนั้นผิวพลันเปล่งแสงสีทองออกมา ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนตัวตรงพลันเปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นลำแสงสีทองสลายหายไป และเปล่งแสงสว่างวาบ ทยอยกันพุ่งไปที่ร่างของวานรยักษ์ด้านล่าง จมหายเข้าไปอย่างไร้ร่องรอย

ฝ่ามือของวานรยักษ์เปล่งแสงสว่างวาบขึ้นเหนือศีรษะ ชั่วขณะนั้นหน้าผากพลันเปิดออก ทารกวิญญาณสีทองเปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้น

ทารกวิญญาณสูงสามฉื่อมือเล็กกวักไปรอบด้าน ชั่วขณะนั้นเงาลำแสงสองสามดวงพลันส่งเสียงแตกต่างกันบินออกมาจากในร่างของวานรยักษ์ หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็กลายเป็นเงาลวงตาจิตวิญญาณเที่ยงแท้ต่างๆ อย่างมังกรสวรรค์ หงส์หลากสี หงส์เขียว

และหลังจากที่เงาลวงตาเหล่านั้นหมุนวนกลางอากาศ ก็ส่งเสียงกรีดร้องแล้วทยอยกันจมหายเข้าไปในร่างของทารกวิญญาณ

กลิ่นอายบนร่างของทารกวิญญาณสีทองเปลี่ยนไป ร่างกายลางเรือน กลายเป็นลำแสงสีทองบินเข้าไปในร่างของวานรยักษ์

ต่อมาวานรยักษ์ก็ชูคอขึ้นส่งเสียงร้อง สองมือทุบอก ชั่วขณะนั้นลำแสงสีม่วงทองก็แผ่ออกมาจากเรือนร่าง เกล็ดสีม่วงทองปรากฏขึ้นทั่วร่าง พริบตานั้นเหนือหัวก็มีเขาเดี่ยวๆ สีเขียวงอกออกมา

สิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือหัวไหล่ของวานรยักษ์และใต้ซี่โครงมีลำแสงสีทองผนึกรวมตัวกัน คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นหัวสีทองอีกสองหัว และแขนที่เต็มไปด้วยเกล็ดอีกสี่แขน

ทว่าหัวสีทองหนึ่งในนั้นและแขนสองแขนนั้นหนาราวกับของจริง หัวอีกหัวและแขนกอีกสองแขนกลับลางเรือน อยู่ในสภาวะภาพลวงตา

หานลี่สำแดงอิทธิฤทธิ์ ‘ร่างนิพพาน’ ของตนเองออกมาในรวดเดียว

จากการเปลี่ยนร่างของเขา แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนร่างที่สอง แต่เห็นได้ชัดว่าพัฒนาขึ้นจากก่อนหน้าแล้ว

หากหานลี่สามารถรวมเศียรทั้งสามและแขนหลังทั้งสองเป็นร่างเที่ยงแท้ได้ ร่างนิพพานของเขาก็จะประสบความสำเร็จเข้าสู่ขั้นตอนการเปลี่ยนร่างที่สาม

ยามนี้ยอดเขากลางอากาศไม่ได้ถูกพลังปราณของหานลี่ประคองอยู่ ชั่วขณะนั้นก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีจากลูกบอลอัสนีที่หดเล็กลงกว่าครึ่งได้ ในที่สุดเสียงคำรามสองสามเสียงก็ดังขึ้น ลำแสงหม่นแสงลงแล้วกระจายออก กลายเป็นลำแสงสามลูกร่อนลงมารอบๆ

ลูกบอลอัสนีสีดำขาวแค่ส่งเสียงร้อง ก็ร่อนลงมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และกะพริบวาบ ทุบไปที่วงแหวนสีดำที่ไม่สะดุดตาด้านล่าง

วงแหวนสีดำเปล่งแสงสว่างวาบ ปริแตกออกในพริบตา แต่ทันใดนั้นเสียงอึกทึกก็ดังขึ้น ฝูงแมลงสีทองสิบกว่าฝูงปรากฏขึ้นกลางอากาศ

แมลงสีทองเหล่านั้นมีขนาดเท่ากำปั้น แต่ในฝูงจะมีแมลงเกราะยักษ์ขนาดสองสามฉื่ออยู่ตัวหนึ่ง

พวกมันก็คือฝูงแมลงกลืนทองและราชาแมลงที่ถูกเลือกสิบกว่าตัว!

ทว่าไม่ว่าฝูงแมลงหรือราชาแมลงเหล่านั้น การเคลื่อนไหวในยามนี้ดูเหมือนจะเชื่องช้า แค่เปล่งแสงสว่างวาบแล้วขยับปีกลอยอยู่กลางอากาศ คาดไม่ถึงว่ายามนั้นจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ อีก