ตอนที่ 2,074 : ประมุขตระกุลชิว!
“ปล่อยพวกเจ้าไปงั้นเรอะ?”
ทันทีที่ชิวกังยี่และเหล่าอาวุโสตระกูลชิวได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน พวกมันถึงกับอึ้งไปก่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวเย้ยเยาะออกมาด้วยน้ำเสียงขบขัน
ต่างรู้สึกว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าจะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว…
ชิวมู่ชิงนั้นย่อมไม่เป็นไร
เพราะถึงแม้ว่าชิวมู่ชิงจะทำให้ตระกูลตงฟางขุ่นเคือง แต่ด้วยฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลชิว รวมถึงได้รับการปกป้องจากประมุขตระกูลชิวของพวกมัน ต่อให้จะส่งตัวชิวมู่ชิงไปให้ตระกูลตงฟาง แต่อีกฝ่ายก็เพียงกล่าวโทษทั้งตำหนิติเตียนต่อหน้าเท่านั้น เรื่องทำร้ายถึงแก่ชีวิตเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้นับเป็นตัวอะไร?
บางทีชิวมู่ชิงอาจจะยินยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องมัน
แต่ตอนนี้ลำพังเอาตัวเองให้รอดชิวมู่ชิงก็ลำบากมากพอแล้ว ไหนเลยจะมีปัญญาไปช่วยเหลืออะไรชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ได้?
“ช่างไร้เดียงสา! ทั้งโง่งมไม่รู้ความนัก!”
“กล้าทำร้ายคุณชายรองตระกูลตงฟางอย่างตงฟางฉู่ให้อับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย…ยังกล้าคิดว่าตระกูลตงฟางจะปล่อยมันไปง่ายๆอีกหรือไร? หัวมันมีไว้คั่นหูรึ?”
“หรือมันยังหลับฝันไม่ตื่น? แต่อย่างไรก็ช่างหัวมันเถอะ!”
“ใช่ ในเมื่อมันยินดีไปห้องโถงใหญ่ตระกูลชิวเราเพื่อพบหน้าคนของตระกูลตงฟาง…เช่นนั้นตอนนี้มันอยากพูดอะไรก็ช่างมันเถอะ”
…
เหล่าอาวุโสฝ่ายชิวกังยี่พูดคุยกันอีกรอบ ฟังจากวาจาของพวกมัน ต่างรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนกำลังฝันกลางวัน!
อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้วนหลิงเทียนยินดีไปที่โถงหลักตระกูลชิวเพื่อเผชิญหน้ากับคนตระกูลตงฟางด้วยตัวเอง พวกมันก็ไม่คิดจะกล่าวใดให้มาก
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรต้วนหลิงเทียนก็ไม่ใช่คนของตระกูลชิวของพวกมัน ต่อให้พวกมันจะเป็นชนชั้นอาวุโสของตระกูลชิวแต่พวกมันก็ไม่มีสิทธิ์จะออกคำสั่งอะไรกับต้วนหลิงเทียน
ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนไม่ลากตระกูลชิวของมันให้จมปลักโคลนนี้ พวกมันก็คิดไม่ใยดีอะไรต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น
“ในเมื่อเจ้ายินดีไป…เช่นนั้นก็ไปกับพวกเราตอนนี้เลย!”
ชิวกังยี่มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทีขบขันค่อยกล่าว
กล่าวจบแล้วสองตาของมันก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนไม่วางตา
คล้ายต่อให้ต้วนหลิงเทียนเกิดเปลี่ยนใจไม่คิดไปแล้ว มันก็ยังจะลากคอต้วนหลิงเทียนไปโถงใหญ่ด้วยตัวเอง
อาวุโสคนอื่นๆเองก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนไม่วางตาเช่นกัน
เรียกว่าความคิดในหัวพวกมันก็ไม่ต่างอะไรจากชิวกังยี่เลย
ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนเต็มใจไปเผชิญหน้ากับตระกูลคงฟางที่โถงหลัก ในสายตาของตระกูลตงฟางย่อมเสมือนพวกมันยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับตระกูลชิวให้ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อกัน ถึงส่งตัวให้อย่างไร้แยแส…
แต่ถ้าต้วนหลิงเทียนไม่เต็มใจไปพบคนของตระกูลตงฟางขึ้นมา แน่นอนว่าทางตระกูลคงฟางย่อมคิดว่าคนตระกูลชิวของพวกมันคิดปกป้องต้วนหลิงเทียน!
หากเป็นแบบนั้น ความบาดหมางของตระกูลชิวกับตระกูลตงฟางจะยิ่งถลำลึกลงไปอีกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
และนั่นไม่ใช่อะไรที่พวกมันอยากจะเห็นและตั้งใจจะให้เป็นแม้แต่นิดเดียว
“อะไร หรือเจ้ากลัวว่าข้าจะเปลี่ยนใจ?”
ได้ยินคำกล่าวเร่งรัดของชิวกังยี่ รวมถึงสัมผัสได้ถึงสายตาของชิวกังยี่และอาวุโสคนอื่นๆ ต้วนหลิงเทียนก็ปรายตามองชิวกังยี่ด้วยสายตาเฉยเมย กล่าวถามออกไปเสียงเบาอย่างไม่รีบไม่ร้อน
“ข้าก็หวังว่าเจ้าจักไม่กลับคำ อย่างไรก็ตามต่อให้เจ้าจะกลับคำหรือไม่เต็มใจจะไป ข้าก็จะลากคอเจ้าไปด้วยตัวเอง!”
ชิวกังยี่กล่าวเย้ย ค่อยหัวเราะเยาะออกมา
“อาศัยพลังฝีมือระดับเจ้าน่ะหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเย้ยกลับ ก่อนที่จะหันไปมองกล่าวกับชิวมู่ชิง “แม่นางชิวโปรดนำทางไปที พอดีข้าไม่รู้ทางไปห้องโถงหลักของตระกูลชิวท่าน…”
เรียกว่าตอนหันไปคุยกับชิวมู่ชิงน้ำเสียงต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปเป็นหน้ามือหลังมือ มันอ่อนโยนและฟังดูสุภาพเป็นมิตรนัก
“แต่…”
อย่างไรก็ตามชิวมู่ชิงยังคงลังเลไม่น้อย แม้จะได้ยินต้วนหลิงเทียนกล่าวถึงขนาดนี้แล้วก็ตาม
เพราะตอนแรกนางยังเชื่อมั่นว่าอาศัยบารมีบิดา ย่อมสามารถปกป้องคุ้มภัยต้วนหลิงเทียนจากเงื้อมมือตระกูลฟางได้แน่
แต่พินิจจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ฝ่ายชิวกังยี่นั้นเจตนาขับไล่ไสส่งต้วนหลิงเทียนชัดเจน คล้ายจะประกาศชัดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้วนหลิงเทียน!
ถึงแม้เหล่าผู้อาวุโสจะไม่ได้อยู่ข้างชิวกังยี่ทั้งหมด แต่จำนวนที่อยู่ข้างมันก็มีมากกว่าครึ่ง!
ลองมีอาวุโสมากมายเห็นพ้องต้องกัน กอปรด้วยฐานะ ‘นายท่านรอง’ ที่เป็นดั่งรองประมุขตระกูลชิวของมันออกมาเห็นชอบเรื่องชับไล่ไสส่งต้วนหลิงเทียนล่ะก็…
กระทั่งบิดาของนาง ชิวอ้านผิง ที่เป็นประมุขตระกูลชิว ก็ไม่อาจปกป้องต้วนหลิงเทียนในนามของตระกูลชิวได้!
“ไม่ต้องกังวลไป”
เมื่อเห็นอาการลังเลของชิวมู่ชิงต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มกล่าวเสียงเรียบออกมา และด้วยทีท่ามั่นใจนี้ทำให้ชิวมู่ชิงพลอยติดเชื่อมั่นใจไปด้วย
“หรือ…ท่านมีหนทางทำให้ตระกูลตงฟางมิอาจลงมือต่อท่าน?”
จังหวะนี้ชิวมู่ชิงอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงผ่านพลังไปถามต้วนหลิงเทียน
เพราะตอนนี้นางยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนเลย
เช่นนั้นพอได้ยินน้ำเสียงทั้งแลเห็นความมั่นใจของต้วนหลิงเทียนแบบนี้ สิ่งแรกที่นางนึกถึงก็คือต้วนหลิงเทียนสมควรมี ‘ความเป็นมา’ ไม่ธรรมดา หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องกริ่งเกรงอะไรตระกูลตงฟาง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ตระกูลใหญ่ของเมืองคงหมิง
“ถึงเวลาเจ้าก็รู้เอง”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบชิวมู่ชิงด้วยน้ำเสียงที่ยังเปี่ยมความมั่นใจดุจเดิม และนั่นทำให้ชิวมู่ชิงยิ่งมั่นใจว่าความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนไม่ธรรมดาแน่นอน!
อย่างน้อยๆก็ต้องไม่ธรรมดามากพอจะสะกด ‘ตระกูลตงฟาง’ ให้ไม่กล้าลงมือทำอะไร!
ทันใดนั้นชิวมู่ชิงก็รู้สึกโล่งใจ และเดินนำออกจากเขตเรือนส่วนตัวมุ่งหน้าไปยังห้องโถงหลักตระกูลชิวพร้อมกันกับต้วนหลิงเทียน
ตอนนี้ในใจนางยังบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นฐานะความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนนัก
แต่เกรงว่าให้หลับนางยังไม่อาจฝันถึง
ว่าความมั่นใจของต้วนหลิงเทียนไม่ได้มาจากฐานะความเป็นมาอะไรอย่างที่นางคิด แต่เป็นพลังฝีมือล้วนๆ!
ตระกูลตงฟาง ในฐานะขุมพลังชั้น 3 อาจมีพลังความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา
แต่ในสายตาของต้วนหลิงเทียน มันช่างเปราะบางเหลือเกิน…
“ไป!”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเดินออกไปพร้อมชิวมู่ชิง และท่าทางจะมุ่งหน้าไปยังห้องโถงหลักจริงๆ ชิวกังยี่ก็เรียกอาวุโสทั้งหลายให้ทั้งหมดเดินตามกันไป
“หึ! ครั้งนี้คุณหนูใหญ่เอาแต่ใจเกินไป…หากเป็นไปได้ข้ายังหวังว่าตระกูลชิวเราจะส่งตัวนางให้ตระกูลฟางไปเสีย!”
“ใช่ ครั้งนี้นางนับว่าโง่งมนัก…กลับสนิทสนมกับบุรุษผู้อื่นอย่างออกหน้าออกตาเช่นนั้นกลางเมือง…”
“ต้องทราบด้วยว่าในเมืองคงหมิงล้วนรู้กันทั่วแล้วว่านางกำลังจะแต่งเข้าตระกูลตงฟาง ในฐานะภรรยาเอกของตงฟางฉู่ นางยังกล้ายุ่งกับบุรุษผู้อื่นอยู่อีก!”
“นั่นสิ…การกระทำของนางครั้งนี้ แทบมิต่างใดจากตบหน้าคนทั้งตระกูลตงฟางฉาดใหญ่”
“ตอนนี้ข้าเพียงหวังให้ตระกูลตงฟางจะคลายโทสะลงบ้าง หลังตระกูลชิวของพวกเราส่งเจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่นไปให้…ส่วนความผิดของคุณหนูใหญ่ พวกเราคงได้แต่หาทางชดใช้ด้วยวิธีอื่น…”
“มิผิด แถมครั้งนี้พวกเราต้องชดใช้ให้สมน้ำสมเนื้อ! จะอย่างไรก็ไม่อาจทำให้สัมพันธ์ระหว่างตระกูลเรากับตระกูลตงฟางร้าวฉานได้เด็ดขาด…อีกทั้งฝ่ายนั้นเองก็คงไม่เรียกร้องอันใดมาก อย่างไรพวกมันก็รู้ตัวดี ว่าหากไร้ตระกูลชิวของพวกเรา พวกมันก็ไม่อาจแข่งขันกับตระกูลเฝิงได้!”
……
ระหว่างเดินทางไปห้องโถงหลักตระกูลชิว เหล่าอาวุโสก็เริ่มสนทนากันอีกครั้ง
ต้วนหลิงเทียนย่อมได้ยินเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบเหล่านี้ชัดถนัดหู
เขาได้แต่ลอบส่ายหัวไปมาอย่างระอา
ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองคุณหนูใหญ่ตระกูลชิวอย่างชิวมู่ชิงที่เดินนำเขาเล็กน้อยด้วยสายตาสงสาร
ยิ่งมองก็ยิ่งเวทนาสงสารนัก แม้นางจะมีหน้ามีตาในครอบครัวเพียงใด แต่สุดท้ายก็ไม่วายเป็นได้แค่เครื่องมือของตระกูล หน้าที่ของนางคือเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลตงฟางเท่านั้น
“ข้างหน้าก็เป็นห้องโถงหลักของตระกูลชิวเราแล้ว…ท่านแน่ใจหรือว่าจักไปจริงๆ หากท่านเปลี่ยนใจข้าจะหาทางหยุดพวกมันไว้!”
ทันใดนั้นชิวมู่ชิงก็ชะลอฝีเท้าลง พูดกับต้วนหลิงเทียนเสียงเบา
ขณะเดียวกันทางด้านต้วนหลิงเทียนก็ได้แลเห็น อาคารหลังโตอันเป็นห้องโถงหลักตั้งอยู่เบื้องหน้า
มองจากไกลๆห้องโถงหลักหลังนี้ช่างโอ่อ่าน่าเกรงขามนัก ราวกับสัตว์ร้ายตัวเขื่องกำลังฟุบหมอบอยู่อย่างสงบ ประตูเข้าโถงนั่น ไม่ต่างใดจากปากของสัตว์ร้ายตัวเขื่องที่อ้าออกรอเหยื่อเข้าไปติดกับ
“เจ้าจะหยุดพวกมันได้หรือ?”
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงย้อนถามกลับไปด้วยสงสัยหลังได้ยินคำของชิวมู่ชิง
เขาได้ให้ผู้เฒ่าหั่วตรวจสอบพลังฝึกปรือของทุกคนเรียบร้อยแล้ว ทำให้ทราบดีว่าไม่มีใครในที่นี้มีพลังฝึกปรือบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์อยู่เลย
คนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างชิวกังยี่ ก็มีพลังฝึกปรือเพียงเซียนนภาขั้นสูงสุดเท่านั้น
แต่อาศัยพลังฝึกปรือของชิวมู่ชิงที่ยังรั้งอยู่ในขอบเขตเซียนปฐพี ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่นางจะหยุดพวกมันได้
“ตราบใดที่ข้าขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย และใครกล้าไล่ตามท่านไปข้าจะตายให้ดูทันที…ข้าเชื่อว่าต่อให้เป็นชิวกังยี่ก็ไม่กล้าไล่ตามท่านไป! เพราะมันย่อมหวาดกลัวไม่น้อยว่าหากข้าตกตายไปขึ้นมา ท่านพ่อของข้าจะไม่ละเว้นมัน!”
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ชิวมู่ชิงก็ส่งเสียงผ่านพลังกล่าวตอบอีกครั้ง
ฟังจากวาจาไม่อีนังขังขอบของนางแล้ว…เสมือนความตายสำหรับนางเป็นแค่การกลับบ้าน!
แม้ต้วนหลิงเทียนจะรู้ดีว่าที่ชิวมู่ชิงกล้าพูดแบบนี้ เพราะนางมั่นใจว่าถ้านางยกเรื่องตายมาขู่ ชิวกังยี่จะไม่กล้าลงมือทำอะไรวู่วาม…
แต่กระนั้นพอได้ฟังใจต้วนหลิงเทียนก็สะท้านไปไม่น้อย ยังรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจนางนัก
ต้องทราบด้วยว่าอย่างไรเขากับชิวมู่ชิงก็พึ่งพบกันวันนี้
ถึงแม้ว่าเรื่องที่ชิวมู่ชิงข่มขู่ชิวกังยี่จะเป็นดั่งการเขียนเสือให้วัวกลัว
แต่อย่างน้อยๆการที่นางเต็มใจทำเพื่อเขา ก็เผยให้รู้ว่านางเป็นสตรีที่หาได้ยากคนหนึ่ง และนางไม่ต้องการให้เขาได้รับอันตรายเพราะมีนางเป็นต้นเหตุ
“อะไรกันแม่นางชิว นี่ท่านไม่เชื่อข้าหรือ?”
หลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ต้วนหลิงเทียนก็ส่งเสียงผ่านพลังตอบกลับด้วยน้ำเสียหยอกล้อ
“ไม่ใช่แบบนั้น ข้า…ข้าแค่เป็นห่วงเล็กน้อย แต่ในเมื่อท่านมั่นใจแล้วพวกเราก็เข้าไปกันเถอะ…ข้าเองก็อยากรู้เช่นกันว่าตระกูลตงฟางจะทำอย่างไร เมื่อพวกมันพบว่าไม่อาจทำอะไรท่านได้”
ชิวมู่ชิงกล่าวตอบต้วนหลิงเทียนด้วยการส่งเสียงผ่านพลังอีกครั้ง
น้ำเสียงกล่าวคำรอบนี้ยังแฝงความซุกซนอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย
ทว่าฟังจากคำของนาง ดูเหมือนนางจะเชื่อไปแล้วว่าความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนไม่ธรรมดาจริงๆ!
อย่างน้อยๆก็เชื่อถึงขั้นว่าหลังจากที่พวกคนของตระกูลตงฟางได้รู้ พวกมันจะไม่กล้าแตะต้องต้วนหลิงเทียนสืบไป!
“หืม?”
เมื่อเดินมาถึงเบื้องหน้าห้องโถงหลักตระกูลชิว ต้วนหลิงเทียนก็เห็นคน 3 คนกำลังเดินมา เป็นชายวัยกลางคนในชุดหรูหราอู้ฟู่กับชายชราผมขาวโพลน 2 คน
“ท่านพ่อ!”
ชณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงชิวมู่ชิงที่อยู่ข้างๆดังขั้นอย่างสดใส จากนั้นก็เห็นนางรีบก้าวออกไปทักทายชายวัยกลางคนในชุดหรูหรานั่น
“นั่นหรือ ประมุขตระกูลชิว?”
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันที
ชายวัยกลางคนในชุดหรูหราแลดูร่ำรวยเบื้องหน้า สมควรเป็นประมุขตระกูลชิว ชิวอ้านผิง
ชิวอ้านผิงคนนี้รูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคน ใบหน้าเผยความเข้มแข็งหนักแน่น คิ้วโค้งดั่งดาบ จากเคร้าโครงรูปหน้าคมเข้มหมดจด เห็นได้ชัดว่าในตอนที่ยังเยาว์มันจัดเป็นคนหล่อเหลาเอาเรื่องคนหนึ่ง…