คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1430

“แดร์ริล” ชายชราหัวเราะเบา ๆ และพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องตกใจ ข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า ข้าเพียงแค่รู้สึกหมดหวัง ดังนั้น ข้าจึงจับเจ้ามาก็เพื่อเติมเต็มความปรารถนาให้กับลูกสาวของข้า ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าต้องทำเช่นนั้น”

‘ลูกสาว?’

แดร์ริลรู้สึกงุนงงและไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ลูกสาวของคุณเป็นใคร? ผมรู้จักเธอหรือเปล่า?”

‘ที่ชายชราผู้นี้ใช้ชื่อของฉันแอบอ้างในการขายยาและโอสถก็เพื่อต้องการจับตัวฉัน นั่นเป็นเพราะว่าลูกสาวของเขาอยากเจอฉันงั้นเหรอ? เธอเป็นใครกัน?’ แดร์ริลครุ่นคิดอยู่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็หาคำตอบไม่ได้

ชายชรายิ้มให้แดร์ริลและไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงสั่งให้ชายทั้งสี่ก้าวเดินต่อไป

แดร์ริลไม่รู้ว่าชายชราผู้นี้คือ เอริค สโคป เจ้าสำนักเกาะเพลิงน้ำแข็ง!

สำนักเกาะเพลิงน้ำแข็งตั้งอยู่ในทะเลทางตอนใต้ห่างจากทวีปโลกใหม่ราว ๆ 400 กิโลเมตร แม้ว่ามันจะไม่ใช่เกาะขนาดใหญ่แต่มันกลับมีทิวทัศน์ที่แปลกตา เกาะแห่งนี้มีภูเขาสูงที่ถูกหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ในขณะที่มีลาวาไหลอยู่ที่เชิงเขา นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ

เมื่อพันปีที่แล้ว ชายแปลกหน้าจากทวีปโลกใหม่บังเอิญสะดุดเข้ากับเกาะเพลิงน้ำแข็ง และความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเกาะก็ดึงดูดใจเขาในทันที ดังนั้น เขาจึงสร้างสำนักเพลิงน้ำแข็งขึ้นมา สำนักเกาะเพลิงน้ำแข็งได้หลีกเลี่ยงโลกกว้างและไม่ค่อยเข้าไปสุงสิงกับโลกยุทธภพ

และเอริค สโคปก็คือเจ้าสำนักคนที่ 17 ของสำนักเกาะเพลิงน้ำแข็ง

เนื่องจากพวกเขาหลีกเลี่ยงทางโลกและไม่ค่อยสุงสิงกับผู้อื่น ดังนั้น สำนักเกาะเพลิงน้ำแข็งจึงมีสาวกน้อยมาก และที่ตั้งของพวกเขาก็ยังอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ ดังนั้น สำนักของพวกเขาจึงมีสาวกเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น

และผู้ชายสี่คนที่กำลังแบกร่างของแดร์ริลเอาไว้ ก็คือสาวกสี่คนสุดท้ายของเอริค

เมื่อสามสิบปีที่แล้ว เอริคไปพบพวกเขาที่เป็นเด็กกำพร้าและถูกทอดทิ้ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูไร้เดียงสา น่าเบื่อหน่าย และไร้สมอง แต่ถึงอย่างนั้น ชายทั้งสี่ก็ล้วนแต่มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง

เมื่อเอริคพาพวกเขาทั้งสี่คนกลับมายังเกาะเพลิงน้ำแข็ง เอริคก็ได้ตั้งชื่อให้พวกเขาทั้งสี่คนตามนามสกุลของเขาว่า สโคปหมายเลขหนึ่ง สโคปหมายเลขสอง สโคปหมายเลขสาม และสโคปหมายเลขสี่

เมื่อสโคปหมายเลขหนึ่งเห็นว่าแดร์ริลรู้สึกตื่นตระหนก สโคปหมายเลขหนึ่งจึงรีบหันไปหาเขาและพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องตื่นตระหนก เราแค่พาเจ้าไปพบกับน้องสาวตัวน้อยของเราเท่านั้น นั่นเป็นเพราะว่าเจ้าคือไอดอลของนาง!”

สโคปที่หนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูลึกลับแต่เสียงดัง

จากนั้นพวกเขาอีกสามคนก็พูดเสริมขึ้นว่า

“ใครบอกว่าเขาเป็นไอดอลของนาง? นต้องการแต่งงานกับเขาต่างหาก!”

“ใช่! เจ้าหนุ่มรูปหล่อผู้นี้ช่างเหมาะสมกับน้องเล็กของเราจริง ๆ !”

“ถ้างั้นเราควรจะเรียกแดร์ริลว่าน้องเขยใช่ไหม?”

แดร์ริลทั้งอยากจะหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน

“พวกเจ้าทุกคน หุบปาก!” เอริคขมวดคิ้วขณะตำหนิสาวกทั้งสี่คนของเขา

ถึงแม้ว่าสาวกทั้งสี่คนของเอริคจะมีความเฉลียวฉลาดในหลาย ๆ ด้าน แต่ปากของพวกเขากลับไม่มีตัวกรองเสียเลย!

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายทั้งสี่คนก็ก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไรต่อ

หลังจากที่เดินทางมาได้ไม่นาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยังคฤหาสน์ริมภูเขาและท้องทะเล

คฤหาสน์แห่งนี้ถูกทิ้งไว้นานหลายปี ดังนั้นจึงมีซากปรักหักพังและมีใยแมงมุมเกาะอยู่ทุกหนแห่ง อย่างไรก็ตาม ภายในคฤหาสน์กลับมีห้องห้องหนึ่งที่ยังดูสะอาดตา โดยภายในห้องก็ยังมีไฟส่องสว่าง

เมื่อพวกเขามาถึงที่ประตู ชายทั้งสี่คนก็ตะโกนขึ้นทันที

“น้องเล็ก ไอดอลของน้องข้ามาแล้ว!”

“ไม่สิ! เจ้าควรจะพูดว่าผู้ชายที่นางคิดถึงมาหาแล้ว…”

“อ้อ ใช่! ข้าลืมอีกแล้ว…”

‘ใครคือน้องเล็กที่พวกเขาพูดถึงกันล่ะเนี่ย?’ แดร์ริลขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าชายทั้งสี่คนปรนเปรอน้องสาวตัวน้อยของพวกเขามากเพียงใด

เอริคจ้องมองเหล่าสาวกเพื่อทำให้พวกเขาหุบปาก จากนั้น เขาก็ผลักประตูและเดินเข้าไปในห้อง

แกร่ก!