บทที่ 796 เอาล่ะ นี่คือกุญแจ

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 796 เอาล่ะ นี่คือกุญแจ

จะมีใครรู้บ้างว่าในร่างกายของเหลียงหยวนเตาจะเก็บซ่อนไว้ด้วยอาวุธวิเศษหรือเหรียญทองคำมากมายขนาดไหน?

แต่เมื่อคำนึงมาถึงตรงนี้ หัวใจของเด็กหนุ่มก็กระตุกวูบ เขารีบหันกลับไปมองหาพวกของขันทีเฒ่าเซียวเซียวและกลุ่มขันทีคนอื่น ๆ ทันที

คนกลุ่มนี้รับใช้เหลียงหยวนเตามานานปี ต่อให้ชายอ้วนจะถูกวิญญาณปีศาจเข้าครอบงำ แต่ก็คงต้องมีทรัพย์สมบัติมหาศาลเก็บไว้มากมายไม่ใช่หรือ?

เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย

ใบหน้าของหลินเป่ยเฉินรู้สึกร้อนผ่าวอีกครั้ง

เพราะสิ่งที่เขาพบเห็นคือความว่างเปล่า

ปรากฏว่า

ขันทีกลุ่มนั้นหายตัวไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่นานยังเห็นแบกเสลี่ยงของเหลียงหยวนเตายืนรอแถวนี้อยู่เลย อยู่ดี ๆ ทำไมถึงได้หายตัวไปแล้วเล่า?

“อย่าบอกนะว่าไอ้ขันทีพวกนั้นมันจะแอบกลับไปขโมยสมบัติของเหลียงหยวนเตาตัดหน้าเรา?”

หลินเป่ยเฉินคิดด้วยความร้อนใจ

“ทุกคน ตามข้าไปที่เมืองเขตห้าเดี๋ยวนี้”

เด็กหนุ่มตะโกนออกคำสั่ง ก่อนจะกระโดดขึ้นเหยียบบนกระบี่และบินหายวับไปบนท้องฟ้า

พื้นที่เมืองเขตห้า

ป้อมทมิฬ

อุโมงค์ลับใต้ดิน

แสงสว่างริบหรี่

ศพของขันทีทั้งสิบคนนอนเกลื่อนกลาดเลือดสาดกระจายอยู่บนพื้น

หากลองมองดูให้ดี ก็จะเห็นว่าขันทีทั้งสิบคนนี้คือขันทีผู้มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลาย ซึ่งทำหน้าที่แบกเสลี่ยงให้แก่เหลียงหยวนเตานั่นเอง และขณะนี้ ทุกคนก็มีรูโบ๋อยู่บนหน้าอก ปรากฏว่าหัวใจถูกควักออกมา

มวลอากาศปั่นป่วน

เหลียงหยวนเตาที่สมควรตายไปแล้วสามารถหลบหนีมายังอุโมงค์ใต้ดินแห่งนี้ได้สำเร็จ เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน และเอนตัวฟุบหน้าหอบหายใจหนักหน่วงอยู่กับโต๊ะหินตัวหนึ่ง เสียงคำรามแหบต่ำดังครืดคราดรอดออกมาจากลำคอตลอดเวลา

เหลียงหยวนเตากลับมามีสภาพเป็นมนุษย์ปกติอีกครั้ง แต่เขาอยู่ในวัยที่แก่ชราเป็นอย่างยิ่ง

เส้นผมยาวเป็นสีขาวหงอกเต็มศีรษะ ผิวหนังเต็มไปด้วยรอยย่นไม่ต่างจากเปลือกส้มที่แห้งเหี่ยว

มุมปากมีคราบเลือดไหลซึม สองมือผอมแห้งราวกับขาไก่ ในมือของเหลียงหยวนเตากำลังถือหัวใจที่เต้นตุบ ๆ ก่อนที่ชายชราจะกัดกินหัวใจเหล่านั้นอย่างมูมมาม…

หลังจากนั้นไม่นาน

ใบหน้าของเหลียงหยวนเตาก็กลับมามีสีเลือดฝาดมากขึ้น ผิวพรรณก็อ่อนเยาว์เต่งตึงขึ้นกว่าเดิม

ขันทีเซียวเซียวยืนอยู่ด้านข้าง ในมือข้างหนึ่งถือมีดสั้นซึ่งใช้เป็นเครื่องมือในการควักหัวใจจากซากศพบนพื้นดินออกมา พูดว่า “นายท่านขอรับ หัวใจของข้าน้อยก็เป็นของนายท่านเช่นกัน ข้าน้อยยินดีมอบมันให้แก่นายท่าน ขอเพียงนายท่านฟื้นตัวกลับมา…”

วูบ!

พลังลมปราณพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเหลียงหยวนเตา

มีดสั้นในมือขันทีชราพลันตกลงไปบนพื้นหิน

“เจ้า…”

เหลียงหยวนเตาหอบหายใจ พูดอย่างยากลำบาก “… เป็นผู้ที่ภักดีต่อข้ามากที่สุดแล้ว เจ้าจะตายไม่ได้ ข้ายังมีบางสิ่งที่ต้องทำ ข้าจำเป็นต้องใช้งานเจ้า…”

เขาจะปล่อยให้เซียวเซียวตายตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ยังคงมีบางเรื่องราวที่เหลียงหยวนเตาไม่สามารถทำได้ด้วยตนเองขณะนี้

เขายังอ่อนแอเกินไป

จำเป็นต้องใช้งานเซียวเซียว

“นายท่านได้โปรดออกคำสั่ง” เซียวเซียวหัวเราะร่าและคุกเข่าลงคำนับด้วยความประจบประแจง

เหลียงหยวนเตาแค่นหัวเราะในลำคอ

ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความเกลียดชัง

ทุกอย่างควรจะเป็นไปตามแผนการของเขา

วันนี้ เหลียงหยวนเตาตั้งใจจะเปลี่ยนหมู่บ้านผู้อพยพให้กลายเป็นบ่อโลหิตขนาดใหญ่ หลังจากนั้น เขาก็จะปลดปล่อยเผ่าพันธุ์มารบ่อโลหิตออกมาสู่โลกใบนี้

แต่ใครจะไปคิดเลยว่าเจ้าหลินเป่ยเฉินมันจะมีฝีมือแข็งแกร่งปานนี้…

เขาไม่น่าประมาทเจ้าเด็กนั่นมากเกินไปเลยจริง ๆ

บัดนี้ เหลียงหยวนเตาก็ยังคงคิดหาคำตอบไม่ได้อยู่ดี

เหตุไฉนเจ้าเด็กนั่นถึงเลื่อนขั้นพลังได้อย่างรวดเร็ว? เหตุไฉนการโจมตีของมันถึงสามารถทะลวงชุดเกราะเกล็ดดำของเขาได้สำเร็จ?

นี่คือเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

เหลียงหยวนเตาเริ่มหอบหายใจอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง

“บัดซบ เห็นทีข้าคงต้องหาทางเปลี่ยนเป็นร่างที่เก้าให้ได้โดยเร็วเสียแล้ว มิเช่นนั้น หากพวกหลินเป่ยเฉินติดตามมาที่นี่ ต่อให้เป็นผู้มีพลังแค่ระดับปรมาจารย์ ข้าก็ไม่อาจรับมือพวกมันได้อีก”

เหลียงหยวนเตาคำรามด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว

และพอรับทราบว่าตนเองอ่อนแอมากเกินไป เขาจึงได้เลือกที่จะหลบหนี

“นายท่านโปรดใจเย็นก่อน” ขันทีเฒ่าเซียวเซียวพยายามปลอบโยน “สักวันหนึ่งระดับพลังของท่านจะต้องฟื้นฟูกลับมาแน่นอน และเมื่อถึงวันนั้น พวกของหลินเป่ยเฉินก็จะต้องชดใช้อย่างสาสม”

“ใช่ มันจะต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”

เหลียงหยวนเตาระเบิดเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ “รอให้ข้าเปลี่ยนเป็นร่างที่เก้าได้สำเร็จเมื่อไหร่ รับรองว่าในโลกนี้ก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งข้าได้อีกแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า และเจ้าก็จะเป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ข้างกายข้า ข้าจะมอบชีวิตอมตะให้แก่เจ้า”

ได้ยินดังนั้น เซียวเซียวก็ตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าประดับรอยยิ้มกว้างขณะพูดว่า “ขอแค่นายท่านมีความสุข ข้าน้อยก็ดีใจแล้วขอรับ”

“เอาล่ะ นี่คือกุญแจ”

เหลียงหยวนเตายื่นมือออกมาข้างหน้า เผยให้เห็นจี้ทองคำรูปทรงกระบี่ขนาดเล็กชิ้นหนึ่ง

ไม่รู้เลยว่าจี้กระบี่ทองคำชิ้นนี้มีอายุกี่ร้อยปี แต่ดูจากร่องรอยความสึกหรอของตัวจี้ เห็นได้ชัดว่ามันคงผ่านกาลเวลามานานไม่ใช่น้อย

เหลียงหยวนเตากล่าวต่อ “เจ้านำมันไปเปิดประตู หลังประตูเป็นห้องเก็บสมบัติที่ข้าสร้างเอาไว้เป็นอย่างดี นำโอสถวิญญาณโลหิตออกมาให้ข้าทั้งหมด เมื่อข้ารับประทานพวกมันแล้ว ร่างกายของข้าก็จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง…”

เซียวเซียวลุกขึ้นประคองรับจี้กระบี่ทองคำด้วยสองมืออย่างนอบน้อมยิ่ง

ขันทีชรากำลังจะหมุนตัวกลับไป แต่ทันใดนั้น ดวงตาก็เบิกกว้าง จ้องมองไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดิน กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นกระตุกคล้ายกับได้พบเห็นเรื่องราวน่ากลัวบางอย่าง “ละ…ละ…หลิน…”

เหลียงหยวนเตาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำนั้น ร่างกายแข็งค้างเย็นเฉียบทั่วไขสันหลัง

หลินเป่ยเฉิน?

เจ้าเด็กนั่นตามมาถึงที่นี่แล้วหรือ?

เหลียงหยวนเตาพลันหันขวับไปมองที่ประตูทางเข้าอุโมงค์ใต้ดิน

แต่ตรงบริเวณนั้นไม่มีผู้ใดยืนอยู่เลย

ในเวลาเดียวกันนี้ แผ่นหลังของเขากลับรู้สึกเย็นวาบ

ปรากฏคมกระบี่ทิ่มแทงทะลุหน้าอกออกมา

“อะเฮือก…เจ้า…”

เหลียงหยวนเตาหันหน้ามองกลับไปข้างหลังด้วยความยากลำบาก

สิ่งที่เขาพบเจอกลับเป็นใบหน้าประดับรอยยิ้มสะใจของเซียวเซียว

ผลั่ก!

ขันทีเซียวเซียวกระแทกฝ่ามือใส่แผ่นหลังของเหลียงหยวนเตาโดยไม่ลังเล นี่คือการโจมตีขั้นสูงสุดของผู้มีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลาย และนั่นก็ทำให้อวัยวะภายในร่างกายของเหลียงหยวนเตาระเบิดกระจายกลายเป็นม่านหมอกเลือด!

โครม!

ร่างของเหลียงหยวนเตาลอยไปกระแทกเข้ากับกำแพงหินอย่างแรง ก่อนจะไถลลงมาอย่างช้า ๆ

“ฟู่…”

เหลียงหยวนเตากระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ดวงตาเบิกโตด้วยความโกรธแค้น

“คิดไม่ถึง… เลยว่า… เจ้ากลับ… เป็นผู้ที่… ทรยศข้า…”

เหลียงหยวนเตาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเซียวเซียวผู้จงรักภักดีจะกลับกลายเป็นคนทรยศในที่สุด

ยามที่ตัวเขาอ่อนแอที่สุด การโจมตีเพียงเท่านี้ก็เกินพอที่จะทำให้ชีวิตถึงแก่ความตายแล้ว

“ทรยศอย่างนั้นหรือ?”

เซียวเซียวถือกระบี่ด้วยมือที่สั่นเทา ไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะหวาดกลัวหรือตื่นเต้นมากเกินไปกันแน่

ขันทีชรายังคงยืนอยู่ที่เดิมระหว่างโคจรพลังลมปราณในร่างกายอีกครั้งและหัวเราะเยาะว่า “เจ้าไม่เคยมองข้าเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งอยู่แล้ว เจ้าเห็นข้าเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้สังหารและทรมานศัตรู ข้าเองก็ไม่เคยมองเจ้าเป็นนายของข้าเช่นกัน แล้วจะถือว่าข้าทรยศหักหลังเจ้าได้อย่างไร?”

“บัดซบ… เจ้านี่มัน… เลี้ยงไม่เชื่อง”

เหลียงหยวนเตากัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น พยายามยันกายลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องล้มลงไปอีกครั้ง “ข้าจะ… ฆ่าเจ้า… ข้า… จะ… ฆ่าเจ้า!!”

วูบ!

คมกระบี่สาดประกาย

เซียวเซียวโจมตีอีกครั้ง

กระบี่นี้ตัดศีรษะเหลียงหยวนเตาขาดกระเด็น

วูบ!

คมกระบี่สาดประกาย

กระบี่นี้ตัดแขนขาของเหลียงหยวนเตา

ตุบ!

ศีรษะกลิ้งไปบนพื้นหิน

ดวงวิญญาณลอยขึ้นจากซากศพเลือนหายไปในอากาศ

เหลียงหยวนเตาไม่อยากเชื่อเลยว่าเผ่าพันธุ์มารบ่อโลหิตที่สามารถฟื้นคืนชีวิตได้นับครั้งไม่ถ้วนอย่างตนเองกลับต้องมาพบเจอจุดจบเช่นนี้

เหลียงหยวนเตาอุตส่าห์หนีรอดจากเงื้อมมือของหลินเป่ยเฉิน แต่กลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของบุคคลที่ตนเองเชื่อใจมากที่สุด นี่คือเรื่องตลกร้ายที่ใครก็ขำไม่ออก นับเป็นครั้งแรกที่เหลียงหยวนเตาได้รับรู้ถึงความโหดร้ายและขมขื่นของโลกใบนี้อย่างแท้จริง

“เจ้าตายหรือยัง?”

เซียวเซียวยังคงตวัดกระบี่ฟันแทงซากศพของเหลียงหยวนเตาต่อไปอีกนานสองนาน

หลังจากนั้น ชายชราจึงได้นั่งลงข้าง ๆ กองเลือดอย่างแช่มช้า

“ในที่สุดก็ตายสักที”

กระบี่ที่บรรจุพลังลมปราณระดับยอดปรมาจารย์ตอนปลาย เมื่อใช้งานออกไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้แต่วิญญาณของเหลียงหยวนเตาก็ถูกสลายไม่เหลือสิ้น สุดท้ายนี้ ในความทรงจำของเซียวเซียวกลับฉายภาพบุคคลที่ต้องตายด้วยน้ำมือเหลียงหยวนเตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทมิตรสหายของเขาต่างก็ไม่รอดพ้นชะตากรรมอันแสนเศร้า และนั่นก็ทำให้เซียวเซียวต้องยกมือขึ้นมากุมใบหน้า ก่อนส่งเสียงร้องไห้ดังกึกก้องห้องใต้ดิน