บทที่ 1803 ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
ไม่กี่วันก่อน มีข่าวจากสมาคมหงซิ่งว่าคนที่ลักพาตัวเหลียงเหม่ยเซวียนและหวงหมิงคุนโดนสั่งเก็บไปแล้ว รวมทั้งเสียงบันทึกก็ถูกทำลายไปด้วย…
อย่าบอกนะว่าสมาคมหงซิ่งโกหกเธอ?!
เมื่อเห็นเยี่ยอีอีมีปฏิกิริยาเช่นนี้ เยี่ยหวันหวั่นกลับมีสีหน้าเฉยเมย
เยี่ยอีอีต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าเธอเป็นคนขอให้สมาคมหงซิ่งแจ้งข่าวเท็จว่าเลี่ยวเจียฉีอยู่ในกำมือ ดังนั้นสมาคมหงซิ่งย่อมต้องเชื่อฟังเธออยู่แล้ว
เยี่ยหงเหวยมองหน้าจอด้วยใบหน้าที่ยากจะทำใจเชื่อและตั้งใจฟังจนจบ
เยี่ยเส่าอัน…ไม่ได้ถูกเยี่ยเส่าถิงและเยี่ยมู่ฝานฆ่า…ลูกชายคนที่สองของเขา จริงๆ แล้วถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของเหลียงเหม่ยเซวียนและพ่อบ้านหวงต่างหาก!
ทั้งสองทำแม้กระทั่งโยนความผิดให้เยี่ยเส่าถิงและเยี่ยมู่ฝาน!!
“คุณปู่เยี่ยคะ เยี่ยอีอีที่คุณรักไม่ใช่หลานสาวของคุณ เธอเป็นลูกสาวของพ่อบ้านหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนที่ลักลอบได้เสียกัน ท่านปู่เยี่ยช่างใจกว้างเสียจริง ยกบริษัทที่ใช้ความพยายามมาทั้งชีวิตให้กับหลานนอกไส้” เยี่ยหวันหวั่นมองเยี่ยหงเหวยแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“‘แก…แกพูดว่าอะไรนะ! เยี่ยหงเหวยมีสีหน้าตกใจ พลางมองไปยังเยี่ยอีอีที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เยี่ยหวันหวั่น เธออย่ามาสร้างข่าวลือและใส่ร้ายคนอื่นที่นี่นะ!” เยี่ยอีอีตวาดเสียงดัง
“สร้างข่าวลือและใส่ร้ายเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มอ่อน “แม่ของเธอกับพ่อบ้านหวงลักลอบเป็นชู้กัน เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องโกหก ฉันเคยจ้างนักสืบเอกชน และฉันมีหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับแม่ของเธอและหวงหมิงคุนในมือด้วย”
เมื่อฟังจบ เยี่ยอีอีก็ขมวดคิ้วแน่น…เธอประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริงๆ…
บนหน้าจอขนาดใหญ่ เดิมทีหวงหมิงคุนและเหลียงเหม่ยเซวียนนั่งอยู่ในห้องประชุมในฐานะครอบครัวของเหยื่อ แต่เมื่อเทปถูกปล่อยออกมา ท่าทางของหวงหมิงคุนและเหลียงเหม่ยเซวียนกลับเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ใช่อีอีพูดว่าสมาคมหงซิ่งจัดการคนที่ลักพาตัวพวกเขาไปแล้วเหรอ และยังทำลายเทปบันทึกเสียงไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?!
“ไม่…ไม่จริงนะ…มีคนลักพาตัวพวกเราไป และบังคับให้พวกเราพูดแบบนี้!” เหลียงเหม่ยเซวียนลุกพรวดขึ้นและตะโกนเสียงดังทันที
“อ๋อ? พวกคุณบอกว่าถูกคนลักพาตัวไป ก็เลยพูดแบบนั้นออกมาเหรอ มันน่าตลกไปแล้ว คุณไม่รู้เหรอว่าคำพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” จางเฮ่อ ทนายความชื่อดังของจีนกล่าวอย่างเยาะเย้ย
“ฉันรู้ แต่ถ้าพวกเราไม่ให้ความร่วมมือกับพวกมัน พวกเราก็ถูกฆ่าตายน่ะสิ!” เหลียงเหม่ยเซวียนรีบร้อนอธิบาย
“ตลก!” ทนายจางเฮ่อกล่าว “ถ้าเป็นจริงอย่างที่พวกคุณพูด ทำไมคุณไม่มีประวัติแจ้งความล่ะ ถูกคนลักพาตัวแล้วโดนบังคับให้พูดอะไรแบบนั้น แต่กลับไม่ไปแจ้งตำรวจเนี่ยนะ? และก่อนการพิจารณาคดีจนถึงปัจจุบัน พวกคุณไม่เคยแสดงว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น อย่าอ้างว่าตัวเองลืมไปแล้วว่าถูกลักพาตัวหรืออ้างอะไรเทือกนั้น”
“ฉัน…” เหงื่อเย็นซึมออกมาจากหน้าผากขอเหลียงเหม่ยเซวียน
ตอนนั้นที่พวกเขากลับบ้านไปหาเยี่ยอีอี ก็เคยวางแผนจะแจ้งความ แต่ทางสมาคมหงซิ่งกลับยืนยันว่าเทปเสียงถูกทำลายไปแล้ว ถ้าไปแจ้งความอีก ก็กลัวว่าจะเกิดปัญหามากขึ้น ยังไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหวงหมิงคุนเลย บางทีอาจจะสืบสาวไปถึงเรื่องของพวกเขากับสมาคมหงซิ่งด้วยซ้ำ…
“ใครเป็นคนส่งมอบบันทึกนี้”
ผู้พิพากษาที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เอ่ยถาม
“ฉันเอง”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเอ่ยตอบ
“แกมันพูดจาเพ้อเจ้อ…” เหลียงเหม่ยเซวียนตะโกนอย่างโกรธเคือง
ชายวัยกลางคนยิ้มเยาะแล้วหันไปหาผู้พิพากษาทันที “ผมเป็นนักสืบเอกชน มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ผมได้รับการฝึกอบรมมาอย่างมืออาชีพ และได้รับการว่าจ้างจากนางสาวเยี่ย หลังจากการสืบสวนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยของผม ในที่สุดก็ค้นพบว่าหวงหมิงคุน ติดหนี้คาสิโนเป็นค่าดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล
อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เรียกว่าการลักพาตัวของหวงหมิงคุน คือเขาถูกพบจากเจ้าหนี้เงินกู้เมื่อไม่กี่วันก่อน และบีบบังคับให้เขาชำระหนี้เท่านั้น…
นอกจากนี้แล้ว หวงหมิงคุนและเหลียงเหม่ยเซวียนยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติระหว่างชายหญิงอีกด้วย…
ผมได้สืบพบโรงแรมและห้องที่ปกติพวกเขามักจะเข้าพักด้วยกันเป็นประจำ ผมจึงติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ล่วงหน้า ตอนแรกคิดแค่ว่าจะลองเสี่ยงดวง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง”
————————————————
บทที่ 1804 เป็นเรื่องที่น่าสนใจ
ณ ตอนนี้ ในสถานที่จัดงานเลี้ยงครบรอบของซิงเฉิน สีหน้าของทุกคนต่างก็ปรากฏความประหลาดใจออกมา
คิดไม่ถึงเลยว่าคดีสะเทือนขวัญจะพลิกผันครั้งใหญ่ขนาดนี้…
เยี่ยเส่าอัน ลูกชายคนที่สองของตระกูลเยี่ย ไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเส่าถิงและเยี่ยมู่ฝานที่เป็นลูกชาย แต่ได้รับการว่าจ้างจากหวงหมิงคุน พ่อบ้านของตระกูลเยี่ยและเหลียงเหม่ยเซวียน ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองยังโยนความผิดให้กับเยี่ยเส่าถิงและเยี่ยมู่ฝานสองพ่อลูกอีก…
มันค่อนข้างน่าตกใจเกินไปสักหน่อย ที่นายหญิงแห่งตระกูลเยี่ยมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมระหว่างหญิงชายกับผู้ดูแลบ้าน…
“ศาลที่เคารพ ผมยังมีวิดีโอและรูปภาพอีกจำนวนหนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานได้”
ทนายจางก้าวไปข้างหน้าพร้อมส่งมอบวิดีโอและภาพถ่ายที่บันทึกโดยผู้อาวุโสสามและเป่ยโต่วให้กับศาลทันที
เนื้อหาของหลักฐานเป็นบันทึกเรื่องราวระหว่างเหลียงเหม่ยเซวียนและพ่อบ้านหวงมากกว่าหนึ่งครั้ง รวมถึงวิดีโอและภาพนิ่งของทั้งสองคนในที่เกิดเหตุ
“สิ่งนี้ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้โดยตรง”
ผู้พิพากษากล่าว หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง
เมื่อได้ยินดังนั้น ทนายจางเฮ่อก็ยกยิ้มเล็กน้อย “แน่นอนว่าพวกเราทราบเรื่องนี้ดีครับ แต่พวกเรายังมีหลักฐานเพิ่มเติมที่จะแสดงให้เห็นว่าเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงทั้งสองคน ไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าเยี่ยเส่าอันครับ”
จางเฮ่อได้แสดงหลักฐานความบริสุทธิ์จำนวนมากออกมาทันที รวมถึงหลักฐานที่บ่งบอกว่าเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงทั้งสองคนไม่ได้มีแรงจูงใจในการฆาตกรรม และไม่มีหลักฐานการฆาตกรรมที่ชัดเจน
ไม่นาน จางเฮ่อก็เปิดวิดีโอในคืนนั้นของเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงออกอากาศ
วิดีโอนี้ได้มาจากกล้องวงจรปิดของตระกูลเยี่ย
“อย่างที่เราทุกคนทราบ หลักฐานที่เราสามารถยืนยันได้ว่าเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงฆ่าคนก็คือวิดีโอนี้ แต่มีบางสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างมากอยู่ในนั้น”
จางเฮ่อชำเลืองมองผู้ชมและอธิบายช้าๆ “ข้อแรก ในวิดีโอนี้ เยี่ยเส่าถิงและเยี่ยมู่ฝานทั้งสองคนได้ปรากฏตัวที่บ้านตระกูลเยี่ยและเข้าไปในห้องของเยี่ยเส่าถิง อีกครู่ต่อมาในวิดีโอ เยี่ยเส่าถิงกับเยี่ยมู่ฝานก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับอาวุธสังหาร
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกัน…แต่ ทุกท่านโปรดทราบ! เยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงที่ถืออาวุธสังหารกลับหันหลังให้กล้องวงจรปิด นอกเหนือจากการสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันแล้ว ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดแจ้งว่าพวกเขาเป็นสองคนที่ถืออาวุธสังหารจริงๆ”
“หึ ตลกจริงๆ เสื้อผ้าก็เหมือนกันขนาดนั้น ไม่เห็นหน้าแล้วยังไงเหรอ” เหลียงเหม่ยเซวียนที่รู้ว่าเสียงนั้นไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมา และหัวเราเยาะทนายความทันที
จางเฮ่อมองไปยังเหลียงเหม่ยเซวียนแล้วกล่าวว่า “แม้แต่เสียงของพวกคุณสองคนยังไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ จะเป็นไปได้ไหมว่าการใช้เสื้อผ้าที่เหมือนกันสองชุดก็นำมาเป็นหลักฐานไม่ได้เช่นกัน? คุณผู้หญิงเหลียง ตรรกะของคุณมันน่าชื่นชมมาก”
“นาย…” เหลียงเหม่ยเซวียนจ้องจางเฮ่อเขม็งแต่ก็พูดไม่ออก “แต่บนอาวุธนั่นมีลายนิ้วมือของทั้งสองคนนะ!”
“ลายนิ้วมือ?” จางเห้อยิ้มอ่อน “ลายนิ้วมือเนี่ยนะ ถ้าอยากได้ก็หาได้ง่ายมากๆ แต่ว่าถ้าพูดถึงลายนิ้วมือ ยังมีเรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นอีก…
คนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้ สิ่งที่ผมต้องการเน้นก็คือ อาวุธสังหารถูกโยนลงไปในสระน้ำของตระกูลเยี่ยและแช่อยู่ในน้ำนานกว่าสิบชั่วโมง แม้ว่าจะได้ลายนิ้วมือของเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิง ก็ต้องไม่สมบูรณ์แน่นอน แต่ว่าลายนิ้วมือที่ได้จากแพทย์นิติเวชนั้นสมบูรณ์มาก…สมเหตุสมผลไหม”
เมื่อสิ้นเสียงจางเฮ่อ ทุกคนในศาลต่างก็เงียบงันและมองหน้ากันอย่างตกตะลึง
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมคิดว่าตลกกว่านี้อีก…”