ตอนที่ 864: เผ่าเมิ่งหวง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 864: เผ่าเมิ่งหวง

“ท่านผู้นำเผ่า การประมูลนี้พอดีมีของที่พวกเราต้องการพอดี เมื่อการประมูลเริ่มขึ้น ข้าหวังว่าท่านผู้นำเผ่าคงจะไปกับพวกเราเพื่อไปซื้อของที่พวกเราต้องการได้” เจี้ยนเฉินพูด

หลังจากพูดจบ แววแห่งความลังเลก็เกิดขึ้นที่ใบหน้าของผู้นำเผ่าแห่งความกล้า

เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา “อย่ากังวลเป็นท่านผู้นำเผ่า พวกเราเป็นคนรักษาคำพูด เมื่อเราได้ตกลงกันแล้ว พวกเราจะทำงานอย่างแน่นอน เมื่อการประมูลจบลง พวกเราจะช่วยพวกท่านในการจัดการกับเผ่าเมิ่งหวง ถ้าเผ่าเมิ่งหวงไม่มา พวกเราก็จะเข้าไปหาพวกนั้นเอง เช่นนั้นดีหรือไม่ ? “

“แน่นอน แน่นอน เมื่อท่านนักรบทั้งสองพูดแบบนั้นแล้ว ข้าจะพยายามร่วมมืออย่างสุดความสามารถ” ผู้นำเผ่าพูดออกมาพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและนูบิสก็ปักหลักอยู่ที่เผ่าแห่งความกล้าและรอการจู่โจมแบบทันควันจากเผ่าเมิ่งหวง พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทั้งเผ่าและได้รับการปฏิบัติราวกับพวกเขาเป็นเสมือนพระราชา

ในเวลาเดียวกัน ข่าวเรื่องที่ว่าเผ่าแห่งความกล้าได้หาจอมยุทธซึ่งมีพลังมากพอที่จะจะต่อกรกับเผ่าเมิ่งหวงได้แล้วก็กระจายออกไปเช่นกัน มันทำให้เกิดความวุ่นวายค่อนข้างใหญ่ นอกเหนือจากเรื่องการประมูลใหญ่ของเมืองแจ๊สที่จัดขึ้นทุก ๆ 100 ปีแล้ว การถกเถียงเรื่องคนที่จะมาเกี่ยวข้องในการต่อสู้ระหว่างเผ่าแห่งความกล้าและเผ่าเมิ่งหวงก็เกิดขึ้นด้วย

แม้ว่าจะมีความแตกต่างอย่างมากในด้านกำลังระหว่างเผ่าทั้งสอง แต่ทั้งสองก็มีเซียนผู้คุมกฎ บนทวีปเทียนหยวนพวกเขาคงเป็นเหมือนตระกูลสันโดษ เผ่าใหญ่ที่อยู่ในจุดสูงสุดในรัศมีแสนกิโลเมตรภายในอาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเล การต่อสู้ระหว่างเผ่าทั้งสองต้องเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากเป็นธรรมดา

ในป่าเก่าแก่ห่างออกไป 50 กิโลเมตรจากเผ่าแห่งความกล้า อาคารเล็ก ๆ ที่สร้างมาจากไม้อยู่รอบ ๆ ที่นั่น ผู้คนเดินเข้าออก ในขณะที่เสียงหัวเราะและและความเบิกบานดังขึ้นมาเป็นครั้งคราว บรรยากาศนั้นครึกครื้นและมีชีวิตชีวามาก

นี่เป็นเผ่าใหญ่ที่เป็นที่รู้จกกันดีในเขตนี้ เผ่าเมิ่งหวง

ในจุดกึ่งกลางของเผ่ามีหอคอยสูงที่สร้างมาจากหินทั้งหมด หอคอยนี้เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเผ่า การมีอยู่ของมันเป็นสิ่งแทนสันติภาพและความแข็งแกร่งของเผ่าเมิ่งหวงที่ได้เผชิญมาในแต่ละรุ่น นี้เป็นเพราะว่าผู้พิทักษ์ที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าทั้งสี่อาศัยอยู่ในนั้น

ในตอนนี้ ชายชรา 4 คนนั่งอยู่รอบ ๆ โต๊ะบนยอดสุดของหอคอย พวกเขาทั้งหมดเคร่งเครียด

“ข้าเพิ่งได้ข่าวมาว่าเผ่าแห่งความกล้าได้หาจอมยุทธซึ่งมีพลังมากพอแล้วที่จะมาขับไล่พวกเรา ข้าสงสัยว่ามันจริงหรือไม่ ? ” ชายชราผิวเลือดฝาดพูด เขาเป็นผู้นำเผ่าคนปัจจุบันของเผ่า ในขณะที่ที่เหลืออีกทั้งสามคนนั้น สองคนเป็นผู้อาวุโสที่เป็นผู้พิทักษ์ ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นผู้นำเผ่ารุ่นก่อน ผู้นำเผ่ารุ่นก่อนเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้

“ดูเหมือนเผ่าแห่งความกล้าวางแผนจะสู้เอาเป็นเอาตายกับพวกเรา ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าจอมยุทธที่เข้าร่วมกับพวกเขานั้นมีกำลังขนาดไหน” ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์พูดเสียงแหบห้าว

“แม้ว่าเผ่าแห่งความกล้าจะมั่งคั่งอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่เพียงพอที่พวกเขาจะสามารถจ้างจอมยุทธมาได้หรอก อีกทั้ง เผ่าของเรายังมีชื่อเสียงด้วย หนึ่งในสมาชิกที่มีพรสวรรค์ของพวกเราได้ถูกเลือกให้เป็นทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เขามีตำแหน่งที่สูงมาก ในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ไม่มีใครกล้าที่จะทำหยาบคายกับพวกเรายกเว้นเผ่าหรือกลุ่มระดับสูงเท่านั้น เช่นนั้น ข้าก็อนุมานเอาว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับเผ่าแห่งความกล้านั้นเป็นเรื่องลวงและแค่ตั้งใจจะขู่ให้พวกเรากลัวเท่านั้น ความเป็นไปได้อื่นคือ คนที่มาช่วยพวกเขานั้นไม่ได้ต้องการช่วยพวกเขาจริง ๆ และต้องการเพียงแค่เหรียญของพวกเขา ดังนั้น ข้าจะไม่ไปสนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่การประมูลจบลง พวกเราจะไปฆ่าพวกเผ่าแห่งความกล้าซะ” ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์วิเคราะห์

“ผู้นำเผ่ารุ่นก่อน ท่านคิดว่าอย่างไร?” ผู้นำเผ่าคนปัจจุบันถามชายชราที่ยังคงนั่งหลับตาอยู่

ผู้นำเผ่ารุ่นก่อนลืมตาขึ้นอย่างแช่มช้า “แม้ว่าพวกเราจะเป็นที่รู้จักดีที่แม้แต่เผ่าใหญ่หลายเผ่ายังต้องให้ความเคารพ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่มีศัตรู ข้าเดาว่าอาจจะมีศัตรูเก่าแก่อยู่ในกลุ่มจอมยุทธที่มาช่วยเหลือเผ่าแห่งความกล้าก็เป็นได้ ดังนั้นพวกเราจะไม่มองข้ามเรื่องนี้ ในตอนนี้ การประมูลในเมืองแจ๊สนั้นกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปดก็มาปรากฏในงานประมูลนี้ด้วย มันจะดึงดูดเผ่าใหญ่หลาย ๆ เผ่า แม้แต่เผ่าระดับสูง ๆ ให้มาแย่งชิงกัน ดังนั้นมันจะไม่สะดวกเท่าไรถ้าพวกเราจะเริ่มโจมตีก่อนที่การประมูลจะเริ่มต้นขึ้น พวกเจ้าทั้งสาม ไปตรวจดูที่เผ่าแห่งความกล้าและดูว่ามันจริงไหมตอนที่การประมูลจบลง”

..

ในพริบตาเดียว สิบกว่าวันก็ผ่านไป ตอนนี้ก็ถึงวันสำคัญซึ่งการประมูลจะเริ่มต้นขึ้นในเมืองแจ๊ส เรื่องชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปดได้ดึงดูดความสนในของจอมยุทธและเผ่าใหญ่จำนวนมากให้มารวมกันอยู่ที่เมืองแจ๊สมานานสักพักแล้ว มันดูเหมือนคลื่นได้น้ำที่ผิวน้ำสงบแต่ด้านล่างวุ่นวาย มันเป็นความสงบก่อนที่พายุจะมา

ก่อนที่การประมูลจะยังได้ทันเริ่มต้น กลุ่มคนจำนวนมากได้มารวมกันอยู่ข้างนอกสถานที่ประมูล เมื่อดูไปที่นั้น มีคนจำนวนมากมายในกลุ่ม มากเสียจนถนนใกล้เคียงนั้นถูกปิดจากคนจำนวนมาก มีเสียงดังจอแจของผู้คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

ส่วนหนึ่งของผู้คนที่มา มาเพื่อดูเท่านั้น ในขณะที่อีกส่วนมาเพื่อการประมูล อย่างไรก็ตามพวกที่มาถึงก่อนไม่ได้มีเบื้องหลังที่ใหญ่นัก พวกเขาเป็นเพียงคนที่มาจากเผ่าหรือกลุ่มเล็กบางกลุ่ม

1 ชั่วยามต่อมา เสียงดังจากดอกไม้ไฟที่ถูกจุดดังขึ้นรอบรอบ เสียงระเบิดดังตามมาหลังจากนั้นจากท้องฟ้า ซึ่งทำให้รอบ ๆ สว่างไสวไปด้วยแสงหลากสี มันค่อนข้างสวยงามทีเดียว

ในเวลาเดียวกัน ประตูของสถานที่ประมูลค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ ฝูงชนด้านนอกเริ่มที่จะเคลื่อนที่เข้าไปในสถานที่การประมูลเป็นลำดับ

ประมาณ 30 เมตรเหนือปราสาทที่มีการประมูล แท่นกลมกว้างร้อยเมตรได้ขยายออกไปอย่างช้า ๆ มันมีไว้สำหรับต้อนรับแขกพิเศษที่มีตำแหน่งที่ดีและต้องการปิดบังตนเอง บนแท่นนั้น มีหญิงสาวยี่สิบกว่าคนที่แต่งตัวมีเสน่ห์เดินย่างกรายออกมาอย่างนุ่มนวล พวกเขาทั้งหมดยิ้มอย่างสดใสและให้ความรู้สึกจริงใจ

เมื่อแท่นอยู่ตัวแล้ว คลื่นคนก็บินขึ้นจากพื้นและตรงขึ้นไปร่อนลงที่แท่น พวกเขาถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสาวใช้ที่นำพาพวกเขาผ่านทางอุโมงค์พิเศษเพื่อปิดบังตัวตนของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม คนเหล่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไปที่แท่นได้ทั้งหมดเป็นคนที่มีเกียรติของเผ่าพันธุ์ทะเล มีหลายคนมาจากเผ่าและกลุ่มชั้นหนึ่งที่เทียบเท่ากับตระกูลสันโดษและตระกูลโบราณบนทวีปเทียนหยวน

เจี้ยนเฉินและนูบิสก็บินขึ้นไปบนนั้นพร้อมกับผู้นำเผ่าแห่งความกล้าและตรงไปที่แท่น ทันใดนั้นเอง สาวใช้ก็เดินมาพร้อมรอยยิ้มอันสดใสและพูดอย่างนุ่มนวล “ท่านนักรบที่เคารพทั้งสาม กรุณาแสดงแผ่นหมายเลขสำหรับคอกปิดเพื่อที่ข้าน้อยจะสามารถพาพวกท่านไปได้ด้วย”

ผู้นำเผ่าดึงแผ่นหมายเลขคอกที่เขาจองเอาไว้ออกมาทันทีและส่งมันให้กับสาวใช้

“ท่านนักรบ โปรดตามข้ามา” รอยยิ้มของสาวรับใช้เหมือนดอกไม้นับร้อยกำลังผลิบานและน่ารักมาก

พวกเขาทั้งสามไม่ได้พูดอะไรและเดินตามนางไปข้างใน ข้าง ๆ พวกเขา คนหลายคนจากเผ่าต่าง ๆ กันก็ถูกค้อนรับจากสาวใช้และถูกพาเข้าไปในปราสาท

ในตอนนี้เอง ผู้นำเผ่าก็หยุดก้าว เขามองไปด้านหลังของเขาทันที ในขณะที่สายตาของเขาเป็นประกาย จิตสังหารจาง ๆ พุ่งออกมาจากร่างของเขา

มีเซียนผู้คุมกฎหลายคนท่านกลางคนที่นั่งอยู่ที่แท่น ท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้นำเผ่าทำให้คนหลายคนสังเกตและหันมามองด้วยความสงสัยทันที อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครพูดอะไรเลย

แม้ว่าเผ่าแห่งความกล้าจะไม่ทรงพลังมาก แต่เขาก็ยังเป็นเซียนผู้คุมกฎอยู่ดี ไม่มีใครต้องการที่จะไปยั่วยุเซียนผู้คุมกฎ

เจี้ยนเฉินและนูบิสทั้งคู่ก็หยุดก้าว เมื่อพวกเขาเห็นท่าทางของผู้นำเผ่า พวกเขาก็มองตามไปทันที พวกเขาเห็นว่าไกล ๆ นั้น มีชายชรา 3 คนกำลังบินตรงไปที่แท่นพร้อมกับเซียนสวรรค์หลายคน ทั้งสองสามารถบอกได้เพียงแค่มองปราดเดียวว่าชายชราทั้งสามเป็นเซียนผู้คุมกฎ

“นักรบ พวกเขาเป็นคนของเผ่าเมิ่งหวง ชายชราที่นำทั้งสามคนอยู่คือผู้นำเผ่าคนปัจจุบันและอีก 2 คนคือผู้อาวุโสผู้พิทักษ์” ผู้นำเผ่าของเผ่าแห่งความกล้าพูดเบาเบา สายตาที่เขามองไปที่พวกนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ปิดบังเอาไว้ไม่ได้

สายตาของนูบิสและเจี้ยนเฉินเป็นประกายอย่างสนใจ สายตาที่พวกเขามองไปที่ชายชราทั้งสามเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดเลยว่าผู้นำเผ่าแห่งความกล้าจะมาเข้าร่วมในการประมูลครั้งนี้เช่นกัน มันทำให้พวกเราทั้งสามประหลาดใจจริง ๆ ” ชายชราทั้งสามจากเผ่าเมิ่งหวงก็พบว่าผู้นำเผ่าแห่งความกล้าก็อยู่ที่นี่ด้วย ทันใดนั้นเอง หนึ่งในพวกนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“หึหึ ไม่ใช่ว่าเผ่าแห่งความกล้าใช้ทรัพย์สินทั้งหมดไปกับการตามหาจอมยุทธแล้วหรอกหรือ ? พวกเจ้ามีเหรียญผลึกเหลือเพื่อจะมาเข้าร่วมในการประมูลครั้งนี้ได้อย่างไร ? ” ชายชราที่อยู่ตรงกลางหัวเราะออกมา เขาเป็นผู้นำเผ่าคนปัจจุบัน

ในขณะที่พูด จอมยุทธจากเผ่าเมิ่งหวงก็สำรวจไปที่เจี้ยนเฉินและนูบิสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผู้นำเผ่าแห่งความกล้าอย่างไม่รู้ตัว

ใบหน้าของผู้นำเผ่าแห่งความกล้ามืดครึ้ม เขาเอ่ยเหยียดหยามออกมาว่า “เผ่าเมิ่งหวง ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะโอหังอยู่ได้อีกนานแค่ไหน หลังจากประมูลจบลง เผ่าแห่งความกล้าของข้าจะรอการมาของเผ่าเมิ่งหวงของเจ้า”

ท่าทางของจอมยุทธทั้งสามเปลี่ยนไปและตาของพวกเขาก็หรี่เล็กลงทันที ผู้นำเผ่าปัจจุบันพูด “ท่านผู้นำเผ่า ข้าสงสัยเหลือเกินว่าจอมยุทธประเภทไหนที่ท่านเจอมา ท่านถึงได้คุยโวได้แบบนี้”

“นักรบข้าง ๆ ข้าทั้งคู่เป็นนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวที่ทรงพลัง เผ่าเมิ่งหวง เจ้าคิดว่าเจ้าจะกดขี่เผ่าแห่งความกล้าของข้าได้อย่างง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ ? ” ผู้นำเผ่าพูด

ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าเจี้ยนเฉินและนูบิสนั้นเป็นนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาว ท่าทางของชายชราทั้งสามก็น่ากลัว พวกเขาไม่คิดว่าเผ่าแห่งความกล้าจะประสบความสำเร็จในการหาจอมยุทธแบบนี้มา ถ้าเผ่าแห่งความกล้าได้นักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวมาถึง 2 คนจริง ๆ เผ่าของพวกเขาคงเจอกับความยากลำบากในการที่จะกลืนกินเผ่าแห่งความกล้าเป็นแน่ พวกเขาอาจจะถึงขั้นล้มเหลวเลยก็เป็นได้

ชายบราทั้งสามมุ่งความสนใจไปที่เจี้ยนเฉินและนูบิส ผู้นำเผ่าของเผ่าเมิ่งหวงพูดขึ้นมา “ข้าขอถามชื่อของท่านนักรบทั้งสองได้หรือไม่ ? “

เจี้ยนเฉินมองอย่างเฉยเมยไปที่จอมยุทธของเผ่าเมิ่งหวง เขาไม่ได้สนใจพวกนั้นมาก เขาหันไปแล้วพูดกับนูบิสและผู้นำเผ่าแห่งความกล้า “พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ การประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว”

“เจ้าพูดถูก การประมูลกำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้แล้ว พวกเราจะมามัวเสียเวลากับคนของเผ่าเมิ่งหวงอยู่ไม่ได้ ไปกันเถอะ ไปกันเถอะ” ผู้นำเผ่าของเผ่าเมิ่งหวงว่าตามที่เจี้ยนเฉินต้องการ ก่อนที่พวกเขาจะถูกพาไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ โดยสาวใช้

จอมยุทธทั้งสามของเผ่าเมิ่งหวงที่ถูกพามาเริ่มทำท่าทางน่ากลัว หน้าของพวกเขามืดครึ้มเหมือนเมฆครึ้มที่กำลังจะมีฝน

“คนลึกลับทั้งสองที่เผ่าแห่งความกล้าหามานั้นทรงพลังมาก ข้าไม่สามารถมองทะลุพวกเขาเข้าไปได้เลย” ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ของเผ่าเมิ่งหวงพูดออกมา

“ข้าก็มองทะลุเข้าไปในพวกเขาไม่ได้เช่นกันแต่ข้าก็สัมผัสได้ลาง ๆ ถึงพลังแห่งการมีอยู่ที่กว้างใหญ่ของพวกเขาทั้งสอง พวกเขาเป็นนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวแน่นอน ดูเหมือนว่าเผ่าแห่งความกล้าจะเจอคนที่แข็งแกร่งที่จะมาต่อกรกับพวกเราแล้ว” ผู้อาวุโสอีกคนของเผ่าเมิ่งหวงพูดออกมา