ตอนที่ 1264

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันเพียงแค่ยิ้มและพูดกับจินซวนว่า “ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจภายหลัง”

“หึ่ม นี่เจ้ากล้าข่มขู่ข้าอย่างนั้นรึ? เหลวไหลสิ้นดี!” จินซวนแสยะยิ้ม แต่เขาก็อดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นถึงกล้าพูดว่าเขาจะไม่เสียใจภายหลัง

“รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ได้แล้ว!” เขาโบกมือไล่หลิงฮัน

เชี่ยตงหลายแอบเยาะเย้ย เจ้าคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้านี่กล้าต่อสู้กับเขาอย่างนั้นรึ? ถึงก่อนหน้านี้ที่ร้านอาหารเขาจะไม่สามารถใช้สถานะข่มขู่อีกฝ่ายได้ แต่ตอนนี้เขาอยู่ภายในโรงประมูลที่แม้แต่ตระกูลจินยังต้องไว้หน้าเขา ทำให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากสถานะได้

หลิงฮันไม่ขัดขืนแต่อย่างใด และถูกผู้คุ้มกันสองคนพาออกไปจากที่นี่

เมื่อครู่เขากำลังพูดคุยกับประชาสัมพันธ์ให้ติดต่อจินหมิง ซึ่งจินหมิงคือคนที่ดูแลที่นี่ คราวก่อนเมื่อหลิงฮันพูดว่าเขาต้องการประมูลศิลาวิญญาณปฐพี จินหมิงจึงเป็นคนรับรองเขาและให้ความสนใจเขาเป็นอย่างมาก

“นายน้อยเชี่ย โปรดเชิญทางนี้!” ท่าทางของจินหยวนนั้นสุภาพเป็นอย่างมาก ทั้งที่ความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลจินจะเหนือกว่าตระกูลเชี่ยที่แม้แต่ตระกูลจักรพรรดิก็ยังต้องหวาดกลัว แต่ตระกูลเชี่ยมีคนมากเกินไป ดังนั้นหากคนอย่างจินหยวนต้องการมีอำนาจในตระกูล เขาก็ต้องพึ่งพาขุมพลังภายนอก

ในทางกลับกัน เชี่ยตงหลายเป็นแค่ทายาทคนสำคัญของตระกูลเชี่ย เขาไม่ใช่จอมยุทธที่แข็งแกร่งจริงๆแต่อย่างใด ซึ่งถ้าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากตระกูลจินได้ มันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเขา

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน แต่สถานะของจินซวนนั้นต่ำต้อยกว่าเชี่ยตงหลายมาก ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน มันเหมือนกับว่าจินซวนเป็นสุนัขรับใช้มากกว่าคนรับใช้

ด้วยการนำทางของจินซวน เชี่ยตงหลายก็เข้าไปนั่งในห้องส่วนตัวพร้อมกับจินซวน นี่แสดงให้เห็นว่าเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน

ในขณะเดียวกัน เมื่อจินหมิงได้รับรายงานจากคนรับใช้ เขาก็รีบขอให้อีกฝ่ายพาไปหาหลิงฮันทันที แต่เมื่อเขามาถึงห้องโถงหลักและกวาดสายตามองไปรอบๆ เขาก็ไม่พบร่องรอยของหลิงฮัน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาเริ่มร้อนรน หลังจากสอบถามผู้คนที่อยู่รอบข้าง มันก็ทำให้เขารู้ว่าหลิงฮันถูกขับไล่ออกไปจากที่นี่

เขาเลยรีบวิ่งออกไปดูที่ด้านนอกประตู และเห็นหลิงฮันกำลังนั่งดื่มชาอยู่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นเช่นนั้นสีหน้าของจินหมิงก็ดูผ่อนคลายขึ้นมาทันที เขากลัวว่าหลิงฮันจะจากไปแล้ว มิฉะนั้นการประมูลครั้งนี้คงกลายเป็นเรื่องตลก ดังนั้นเขาจึงส่งคนรับใช้เข้าไปหาหลิงฮัน

“นายน้อยฮัน งานประมูลกำลังจะเริ่้มต้นขึ้นแล้ว โปรดตามข้าน้อยเข้าด้านในด้วย” คนรับใช้ถาม

หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยพรางส่ายหัว จากนั้นเขาก็พูดว่า “ข้าถูกไล่ออกมา ถ้าข้ากลับเข้าไปในสภาพนี้มันจะไม่น่าอายหรอกหรือ?”

“นายน้อยท่านหมายถึงอะไร?” คนรับใช้ถาม หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

“เรื่องนั้นง่ายมาก ให้คนที่ไล่ข้าออกมา ขอให้ข้ากลับไปข้างใน” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรก็ตาม เพราะข้าถูกขับไล่ออกมาต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ข้าคงไม่มีหน้ากลับเข้าไปข้างในได้อีก”

“ขอรับ” คนรับใช้ไม่อาจตัดสินใจได้มากนัก หลังจากที่เขาทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็รีบวิ่งกลับไปรายงานจินหมิงทันที

ปัง!

จินหมิงทุบโต๊ะด้วยความโกรธเกรี้ยว หลายวันที่ผ่านมา นอกจากเขาจะตรวจสอบภูมิหลังของหลิงฮันแล้ว มันไม่ได้ทำให้เขารู้แค่ว่าหลิงฮันเป็นลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นนักปรุงยาระดับแปดอีกด้วย!

เนื่องจากเขาเป็นจอมยุทธระดับดารา แน่นอนว่าเขามองเห็นร่างกายที่เป็นเด็กน้อยของหลิงฮัน แต่เขาไม่คิดเลยว่าหลิงฮันจะยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ซึ่งบางทีเหตุผลที่ร่างกายของเขาเป็นเด็กน้อย บางทีอาจเป็นผลของเม็ดยาบางอย่าง

แล้วเรื่องนี้เองก็ทำให้เขาประหลาดใจมากเช่นกัน เม็ดยาที่ทำให้ร่างกายคืนความอ่อนเยาว์…เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

แค่สถานะนักปรุงยาระดับแปดของหลิงฮัน จินหมิงก็ตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าจะปฏิบัติกับหลิงฮันเป็นอย่างดี การที่เขาสามารถเป็นนักปรุงยาระดับแปดด้วยอายุเพียงเท่านี้ อนาคตของเขาจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!

ทว่าจินซวน…เจ้ากล้าดียังไงถึงขับไล่แขกผู้มีเกียรติแบบนี้ออกไป

“ช่างโง่เขลาสิ้นดี!” จินหมิงกล่าว ซึ่งไม่แปลกเลยที่จินซวนไม่เคยได้เป็นผู้รับผิดชอบงานประมูลแม้แต่ครั้งเดียว คนอย่างเขามีแต่ทำให้ตระกูลจินสูญเสียชื่อเสียงและสนองความเห็นแก่ตัวของตัวเองเท่านั้น

“จินซวนอยู่ไหน?” จินหมิงถาม

“ในห้องส่วนตัวห้องที่เจ็ดขอรับ!” คนรับใช้รีบตอนกลับอย่างรวดเร็ว

จินหมิงลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ห้องส่วนตัวห้องที่เจ็ด

ปัง!

หลังจากเดินมาถึง จินหมิงไม่พูดพร่ำทำเพลงและผลักประตูเข้าไปทันที

“เจ้าเป็น- จินหมิง!” จินซวนกำลังจะตะโกนถาม แต่เมื่อหันไปแล้วเขาก็พบคนที่มีอำนาจสูงสุดของที่นี่ เขารีบลุกยืนแสดงความเคารพทันที ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะเป็นคนตระกูลจินเหมือนกัน แต่สถานะของเขานั้นต่ำต้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นจอมยุทธระดับดารา ขณะที่เขาเป็นแค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทรา

“มากับข้า!” จินหมิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ต่อหน้าคนนอกเขาไม่กล้าดุด่าจินซวนโดยตรงเพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของตระกูลจิน

จินซวนรู้สึกสับสน มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?

“ผู้อาวุโสจินหมิง ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นอย่างนั้นหรือ?” เชี่ยตงหลายถามด้วยความสับสนว่าเพราะอะไรจินหมิงถึงเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาระหว่างเขากับจินซวน

จินหมิงเหลือบมองและพูดว่า “นี่เป็นเรื่องภายในตระกูล นายน้อยเชี่ยได้โปรดอย่าเข้ามายุ่ง!” เขาเป็นจอมยุทธระดับดาราและพลังอำนาจของตระกูลจินสามารถเทียบกับตระกูลจักรพรรดิได้เลย แน่นอนว่าเชี่ยตงหลายไม่อาจปฏิเสธคำพูดของจินหมิงได้

ถึงจะถูกพูดเช่นนั้น แต่สีหน้าของเชี่ยตงหลายก็ไม่เปลี่ยน เขามีคุณสมบัติทำให้จอมยุทธระดับดาราไม่พอใจได้หรือไม่?

“เจ้ายังไม่ตามข้ามาอีกรึ?” จินหมิงกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชากว่าเดิม

ครั้งนี้จินซวนไม่กล้าขัดขืนและเดินตามจินหมิงไปอย่างเชื่อฟัง พวกเขาเดินลงบันไดเพื่อเดินออกไปด้านนอกโรงประมูล

“ผู้อาวุโสจินหมิง นี่พวกเรากำลังจะเดินไปที่ไหนอย่างนั้นหรือ?” จินซวนถามอย่างระมัดระวัง

จินหมิงไม่ตอบคำถาม และพาจินซวนออกไปข้างนอกไปที่ร้านน้ำชาฝั่งตรงข้ามถนนที่หลิงฮันกำลังนั่งดื่มชาอยู่

เมื่อจินซวนเห็นแวบแรก เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า หรือจะเป็นเพราะเจ้าเด็กคนนี้?

มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง!

เขาคิดอยู่ในใจ ตามที่เขาตรวจสอบมาผู้คนที่เข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้ไม่มีใครมีภูมิหลังที่สูงส่งกว่าเชี่ยตงหลาย ดังนั้นในเมื่ออีกฝ่ายมีความขัดแย้งกับเชี่ยตงหลาย เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลจินแล้วเป็นธรรมดาที่เขาจะเลือกเชี่ยตงหลายและขับไล่เด็กคนนี้ออกไป

แล้วมันเพราะอะไรกันล่ะ?

“นายน้อยฮัน!” จินหมิงเดินเข้ามาหาหลิงฮันด้วยรอยยิ้มพร้อมกับโค้งคำนับ แม้ว่าตัวตนของอีกฝ่ายจะไม่สามารถเทียบกับจอมยุทธระดับดาราได้ แต่เมื่อคำนึงถึงอายุของอีกฝ่ายแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะปฏิบัติกับหลิงฮันเป็นอย่างดี

พรวด!

จินซวนแทบสำลัก เมื่อเห็นท่าทางที่จินหมิงปฏิบัติต่อหลิงฮัน