ตอนที่ 984 ทำลายเรื่องดี ๆ ของเขา

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ภายใต้การทิ้งระเบิดของมู่เฉียนซี ตอนนี้เหลือเพียงแค่เจ้าเมืองเฮยถูคนเดียว

เหตุผลที่เขาไม่โดนมู่เฉียนซีโจมตีนั่นก็เพราะเขาเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญภูตธาตุดิน

เขามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งแม้แต่มู่เฉียนซีก็ไม่มีทางเอาชนะเขาได้

กองดินขวางหน้าเจ้าเมืองเฮยถูเอาไว้

เขามองไปที่มู่เฉียนซีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “สาวน้อย ข้าต้องยอมรับว่าเจ้ามันวิปริตเป็นอย่างมาก แต่ข้าจะไม่แพ้อย่างแน่นอน”

ปัง ปัง ปัง!

พื้นดินใต้เท้าของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนไป และหนามดินที่แหลมคมก็ได้พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี

ร่างของเจ้าเมืองเฮยถูพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีราวกับลูกธนูที่หลุดออกจากคันธนู มู่เฉียนซีรีบหลบไปในทันที

ตูม! เสียงระเบิดดังกึกก้อง

ทุก ๆ ครั้งที่มู่เฉียนซีหลบหลีกด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดานั่น มันก็ทำให้ทุกคนที่ดูอยู่รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเป็นอย่างยิ่ง

อีกนิดเดียว! เกือบจะถูกฝังทั้งเป็นเสียแล้ว

มู่เฉียนซีก็ไม่ได้คิดจะหลบไปตลอด นางเริ่มโต้กลับแล้ว!

“ทักษะโยวหลัว!”

บึ้ม!

ทันทีที่ระเบิดใส่ เจ้าเมืองเฮยถูก็ใช้กำแพงดินป้องกัน การโจมตีของมู่เฉียนซีไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยสักนิด

เย่เฉินกล่าว “ท่านกู้ การป้องกันของเจ้าเมืองเฮยถูผู้นี้ แม้แต่เจ้าเมืองซีเจว๋ก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทะลวงผ่าน หากนายท่านคิดจะทำลายเกรงว่าจะไม่ง่ายเลย!”

กู้ไป๋อีกล่าว “คุณหนูใหญ่จะเอาชนะเขาได้ ไม่จำเป็นต้องทำลายมัน ตอนนี้นางเพียงต้องการรับการโจมตีของคนผู้นี้เพื่อให้ตัวนางเองทะลวงผ่านระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้า”

อยู่ในเมืองเฮยตู ความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีได้พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สี่แล้ว

ทุกครั้งของการเลื่อนขั้นของระดับจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่นี่คือขอบเขตชั้นล่างของโลกสี่ทิศและมีปราณวิญญาณที่เบาบาง

หากนางต้องการเลื่อนระดับด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ธรรมดา นางย่อมต้องอาศัยแรงกดดันจากภายนอกที่อันตราย!

ตูม!

ทั้งสองต่างชะงักงัน เจ้าเมืองเฮยถูไม่สามารถโจมตีมู่เฉียนซีได้ มู่เฉียนซีก็ไม่สามารถทำลายผนึกของเขาได้

เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ สิ่งที่น่าตกใจคือการต่อสู้ระหว่างเจ้าเมืองซีเจว๋และเมืองหู่เสี้ยวที่เปลี่ยนไป

“โฮก โฮก โฮก!” เสียงคำรามของฝูงสัตว์ร้ายดังแว่วมา

ทั้งเจ็ดคนนั้นของเมืองหู่เสี้ยว ทุกคนได้อัญเชิญสัตว์พันธสัญญาออกมา

สัตว์พันธสัญญาที่อ่อนแอที่สุดก็คือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม แต่เจ้าเมืองหู่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า

มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมาเจ็ดตัว ความได้เปรียบในการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ได้เปลี่ยนไป

ทุกคนอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “ไม่จริงใช่ไหม! หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เมืองซีเจว๋จะต้องพ่ายแพ้แน่!”

“ตำแหน่งอันดับหนึ่งของเมืองซีเจว๋เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยแล้ว”

“เมืองหู่เสี้ยว ไปเอาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มากมายขนาดนี้มาจากไหนกันแน่?”

“……”

“น่าขยะแขยง!” ในเวลานี้ดวงตาของเจ้าเมืองซีเจว๋ก็ฉายแววจริงจัง

เมืองซีเจว๋ของเขาเป็นใหญ่ทางตะวันตกของทุ่งรกร้างมาหลายร้อยปี หากตอนนี้ต้องถูกเมืองหู่เสี้ยวดึงลงมา เขาย่อมไม่ยอม!

“เจว๋เทียน ออกมา!”

เขาต่อสู้อย่างสุดความสามารถ ในเมืองหู่เสี้ยวมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และเขาเองก็มีสัตว์พันธสัญญาที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

แต่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเขานี้เป็นเพียงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเท่านั้น! ยังห่างชั้นกันนัก!

“บึ้ม!”

ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม้ว่าคนจากเมืองซีเจว๋จะทุ่มเทสุดกำลังแล้ว แต่ทุกคนก็ถูกชาวเมืองหู่เสี้ยวทุบตีจนล้มลงไป

ครั้งนี้เมืองซีเจว๋คงพ่ายแพ้แล้วจริง ๆ

เจ้าเมืองหู่ชำเลืองมองเจ้าเมืองซีเจว๋ด้วยแววตาอันเย็นยะเยือก

“ไปตายซะ!”

พลังอันน่าหวาดหวั่นแผ่กระจายออกไป สัตว์พันธสัญญาของเขาถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ของเจ้าเมืองหู่ทุบตีจนพิการไปครึ่งหนึ่ง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารของเจ้าเมืองหู่ เจ้าเมืองซีเจว๋รู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความตายปกคลุม

ในขณะที่พลังนี้กำลังจะทำลายเขา แสงของดาบก็วาบผ่านเข้ามา

เจ้าเมืองหู่โกรธจัด เป็นเจ้าหนุ่มนั่นที่มาทำลายเรื่องดี ๆ ของเขาอีกแล้ว!

เย่เฉินกล่าว “ในเมื่อตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว ไยต้องลงมือสังหารด้วยเล่า เจ้าเมืองซีเจว๋ก็เป็นยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หก มีเขาอยู่ พวกเราก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้นในการต่อกรกับสำนักขวางโซ่ว! ”

เจ้าเมืองชางกล่าว “ใช่แล้ว! ถ้าเจ้าฆ่าเจ้าเมืองซีเจว๋ เจ้าจะไปหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หกได้จากที่ไหนกัน!”

“ท่านเจ้าเมืองซีเจว๋จะตายไม่ได้ ท่านเจ้าเมืองหู่เจ้ามันโหดร้ายเกินไปแล้ว”

“……”

มีหลายคนเห็นด้วย และเจ้าเมืองซีเจว๋ก็ได้เดินลงจากเวทีประลองแล้ว เขากล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ข้าขอยอมแพ้!”

หลังของเขาเปียกโชกไปหมด อีกนิดเดียวเขาก็เกือบจะต้องตายและไปเยือนยังยมโลกแล้ว

ก้นบึ้งหัวใจของเขานั้นเกลียดเจ้าเมืองหู่มาก แต่เขากลับต้องระงับอารมณ์ของเขา เจ้าเมืองซีเจว๋จึงกล่าวว่า “ข้ายอมแพ้ได้”

เขามองกู้ไป๋อีและเย่เฉินด้วยความซาบซึ้ง ก่อนจะเดินไปหาพวกเขา “เมื่อครู่นี้ ขอบคุณมากจริง ๆ”

กู้ไป๋อีมองมาทางเขาอย่างเฉยเมย และไม่กล่าวอันใด เขาเพียงไม่อยากให้เจ้าเมืองหู่ผู้นั้นทำแผนชั่วสำเร็จก็เท่านั้น

เย่เฉินหัวเราะพลางกล่าว “ต่อให้พ่ายแพ้ไปหนึ่งรอบ เจ้าเมืองซีเจว๋ก็มีพลังที่ไม่ธรรมดาในทุ่งรกร้าง ตอนนี้พวกเราไม่มีใครอยากให้เจ้าถูกคนใจแคบฆ่าตายหรอก”

ทั้งใจแคบทั้งโหดเหี้ยม เย่เฉินไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ทุกคนรู้ว่าเขากำลังพูดถึงใคร?

เจ้าเมืองหู่โกรธจัด “เจ้าหนู เจ้าว่าใครกัน? เจ้ารนหาที่ตายเหรอ?”

เย่เฉินกล่าว “เจ้าเมืองหู่ชอบเอาเรื่องราวมาโยงกับตัวเองงั้นรึ?”

“เจ้า..”

เจ้าเมืองซีเจว๋กล่าว “เจ้าเมืองหู่ ที่นี่คือเมืองซีเจว๋ของข้า อย่าได้เอะอะก็ให้ลุยให้ฆ่าแกงเลย ช่วยอยู่ในกฏให้ข้าหน่อย การแข่งขันยังไม่จบลง!”

มู่เฉียนซีกำลังต่อสู้อยู่กับเจ้าเมืองเฮยถู เจ้าเมืองเฮยถูคิดว่าหากมู่เฉียนซีใช้พลังวิญญาณมากจนเกินไป เช่นนั้นก็จะไม่มีทางที่จะมีความเร็วที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้

แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าคุณหนูผู้นี้จะหยิบเอายาทั้งหมดมากินเป็นอาหาร หากกินยาคุณภาพสูงไปหนึ่งขวด พลังวิญญาณของนางก็จะใช้ไม่มีหมด

มู่เฉียนซีรู้ว่าเมืองหู่เสี้ยวสามารถเอาชนะเจ้าเมืองแห่งทุ่งรกร้างได้อย่างปาฏิหาริย์ คาดว่าเบื้องหลังของพวกเขาคงมีสำนักขวางโซ่วคอยหนุนหลังอยู่จริง ๆ

หลังจากต่อสู้กันมาเป็นเวลานาน และยังไม่มีท่าทีว่านางจะสามารถทะลวง

พลังได้เลย มู่เฉียนซีจึงตัดสินใจที่จะยุติการต่อสู้กับเจ้าเมืองเฮยถูเสียที

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านเจ้าเมืองเฮยถู ดูเหมือนว่าการประลองครั้งนี้จะจบลงแล้ว”

เจ้าเมืองเฮยถูกล่าว “สาวน้อย เจ้าอยากยอมแพ้รึ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ ข้าจะเอาชนะท่าน”

“เจ้าฝันไปเถอะ!”

ทันทีที่คำพูดของเจ้าเมืองเฮยถูหลุดออกไป มู่เฉียนซีก็บีบยาเม็ดจนแหลกละเอียด เมื่อยาเม็ดแตกออก หมอกพิษสีดำก็ระเบิดออกมา

เมื่อเผชิญหน้ากับหมอกพิษ เจ้าเมืองเฮยถูก็รีบป้องกันมันทันที

แต่กำแพงดินของเขาไม่สามารถต้านทานพิษของมู่เฉียนซีได้ ดวงตาของเขาหดเล็กลง

เป็นไปได้อย่างไร?

เจ้าเมืองฮยถูถูกพิษจนสลบล้มลงไปกับพื้น

รองเจ้าเมืองตงกัวกล่าว “เมืองเหลย มู่เฉียนซีชนะ”

การต่อสู้รอบที่สองได้จบลงแล้ว สามอันดับแรกก็ได้รับการยืนยันแล้ว

เมืองเหลย เมืองเหยียน และเมืองหู่เสี้ยว สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เมืองที่เข้าไปถึงสามอันดับแรกทั้งสามเมืองนั้นล้วนเป็นเมืองขั้นสำนักนิกายระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจจินตนาการได้แม้แต่น้อย

สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าคือความแข็งแกร่งของเมืองทั้งสองแห่งก่อนหน้านี้อยู่ในอันดับท้ายสุดของทุ่งรกร้าง

ตอนนี้พวกเขากลับอาศัยคนสองคนที่ไม่ธรรมดาเพื่อเข้าสู่สามอันดับแรก

รองเจ้าเมืองตงกัวกล่าว “รอบที่สามจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ วันนี้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่!”

เจ้าเมืองหู่กล่าวอย่างรำคาญว่า “พรุ่งนี้ ยังต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้อีก ข้ารอที่จะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้น ๆ ไม่ไหวแล้ว?”