ตอนที่ 2,082 : การคาดเดาของชิวมู่ชิง
ย้อนกลับไปวันนี้ ก่อนที่ชิวมู่ชิงจะไปพบบิดา…
อันที่จริงตอนที่ชิวมู่ชิงได้ยินชื่อ ‘ต้วนหลิงเทียน’ นางก็ตกใจไม่น้อย
นั่นเพราะชื่อ ‘ต้วนหลิงเทียน’ ไม่ใช่ชื่อที่ไม่คุ้นเคยกับนางแต่อย่างใด
กล่าวอีกอย่างชื่อนี้ไม่ใช่อะไรที่ไม่คุ้นเคยสำหรับผู้คนในภาคตะวันตกของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเลย…
ถึงแม้เมืองคงหมิงที่ตระกูลชิวของนางตั้งอยู่เรียกว่าตั้งอยู่สุดขอบชายแดนทางใต้ของภาคตะวันตก แต่อย่างไรก็ถือว่ามันยังตั้งอยู่ในภาคตะวันตก! เรื่องราวเด่นๆทั้งประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในภาคตะวันตกย่อมแพร่กระจายมาถึงเมืองคงหมิงแห่งนี้ด้วย…
และสำหรับผู้คนในภาคตะวันตกแล้ว เรื่องเด่นประเด็นร้อนส่วนใหญ่ก็จะมาจากลัทธิที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกแห่งนี้ ลัทธิบูชาไฟ!
ลัทธิบูชาไฟนอกจากเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนมากมายในภาคตะวันตกแล้ว มันยังเป็นขุมพลังยักษ์ใหญ่ 1 ใน 3 มหาอำนาจของภูมิภาคเบื้องบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอีกด้วย
ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่ในภาคตะวันตก ย่อมให้ความสนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในลัทธิบูชาไฟเป็นพิเศษ
และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องที่ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะแตกตื่นฮือฮาแพร่ออกมาจากลัทธิบูชาไฟ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เพียงสะเทือนสะท้านไปทั่วภาคตะวันตก แต่ยังแพร่กระจายสร้างความแตกตื่นไปทั่วภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอีกด้วย!
เป็นข่าวเกี่ยวกับ ‘อัจฉริยะท้าทายสวรรค์’ คนใหม่ที่พึ่งปรากฏขึ้นในลัทธิบูชาไฟ!
ทุกเรื่องราวตั้งแต่ที่อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ผู้นั้นเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟ จนถีบตัวทะยานฟ้าขึ้นไปเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 8 ทุกคนล้วนรับทราบดี!
อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ทั้ง 8 ของลัทธิบูชาไฟ ล้วนแล้วแต่ยังเป็นรุ่นเยาว์ทั้งสิ้น ทว่าทั้งหมดมีพลังฝีมือสูงส่งถึงขั้นติดอันดับในรายนามยอดเซียน! ซึ่งผู้ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็ยังบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยน ยังเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนทั้งสิ้น!!!
‘ต้วนหลิงเทียน…นี่มิใช่นามของอัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 8 ที่พึ่งปรากฏตัวขึ้นในลัทธิบูชาไฟหรอกหรือ’
ดังนั้นวันนี้ตอนที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกชื่อออกมา ชิวมู่ชิงก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องนี้ก่อนใดอื่น
เพราะชื่อ ต้วนหลิงเทียน เป็นอะไรที่ชิวมู่ชิงรู้จักแต่แรก ก่อนที่จะมาได้ยินวันนี้เสียอีก
เพราะนี่คือนามของอัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 8 ที่พึ่งถือกำเนิดขึ้นในลัทธิบูชาไฟ!
ชิวมู่ชิงเองก็รู้เรื่องของ ต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 8 ของลัทธิบูชาไฟมาบ้าง
ต้วนหลิงเทียน 1 ใน 8 อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ของลัทธิบูชาไฟคนนี้ เป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนใหม่ที่พึ่งถือกำเนิดขึ้นในลัทธิบูชาไฟ ว่ากันว่ายังเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟไม่ถึงปีด้วยซ้ำ!
ทว่าภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี…
ต้วนหลิงเทียนคนนี้กลับสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองในลัทธิบูชาไฟอย่างยิ่งใหญ่ ถีบตัวขึ้นมาเป็นยอดฝีมือลำดับที่ 4 ของทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริง กลายเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนที่ 8 ได้ในเวลาอันสั้น! พลังฝีมือสมควรเป็นรองแค่อัจฉริยะ 3 คนที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนแล้วเท่านั้น!!
นอกจากนี้ไม่เพียงแต่จะติดอันดับในรายนามยอดเซียนได้ ทว่ายังติดอยู่ในอันดับที่ 537 ด้วยซ้ำ!
นี่คือสิ่งที่ชิวมู่ชิงล่วงรู้เกี่ยวกับ ต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ของลัทธิบูชาไฟ
อย่างไรก็ตาม
ชิวมู่ชิงยังไม่รู้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ต้วนหลิงเทียน กลับมีชัยเหนืออัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับที่ 2 ของลัทธิบูชาไฟอย่างปู้หง ที่พลังฝึกปรือบรรลุถึงด่านพลังเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนได้อย่างหมดจด! กลายเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับที่ 2 คนใหม่!!
ในปัจจุบันต้วนหลิงเทียนได้รับการยอมรับว่าเป็น อัจฉริยะท้าทายสววรรค์อันดับที่ 2 ของศิษย์รุ่นเยาว์ลัทธิบูชาไฟ!
นอกจากนี้ปู้หงที่พ่ายแพ้ต้วนหลิงเทียนยับเยิน ไม่เพียงแต่จะเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับที่ 2 เท่านั้น มันยังรั้งอยู่ในอันดับที่ 421 ของรางนามยอดเซียนอีกด้วย!
ต้วนหลิงเทียนที่เอาชนะมันมาได้ย่อมหมายความว่าเขาชิงอันดับที่ 421 ในรายนามยอดเซียนของมันมาครอง!
สาเหตุที่ไฉนเรื่องนี้ชิวมู่ชิงไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องราวล่าสุดที่เกิดขึ้นในลัทธิบูชาไฟ จึงยังแพร่กระจายมาไม่ถึงเมืองคงหมิงที่อยู่ทางใต้สุดของภาคตะวันตก
‘เรียกว่าต้วนหลิงเทียนเหมือนกัน ยังเยาว์ทั้งแข็งแกร่งทรงพลังยิ่ง…หรือเขาคือต้วนหลิงเทียนอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ ของลัทธิบูชาไฟผู้นั้นจริงๆ?’
พอมาย้อนนึกดูอีกครั้ง ชิวมู่ชิงก็เริ่มมั่นใจ
ว่าชายหนุ่มชุดม่วงที่นางได้บังเอิญพบเจอที่เหลาอาหารวันนี้ สมควรเป็นอัจฉริยะท้าทายสวรรค์ ต้วนหลิงเทียน แห่งลัทธิบูชาไฟ
‘หากเขาเป็นต้วนหลิงเทียนผู้นั้นจริงๆ เช่นนั้นก็มิแปลกอันใดที่เขาขอให้ข้าช่วยปกปิดนามของเขาเอาไว้…เห็นว่าเขาได้ล่วงเกินผู้คนในลัทธิบูชาไฟไปมากมาย ยังเป็นระดับสูงทั้งสิ้น! ที่มิยอมเปิดเผยชื่อออกมาเช่นนี้…สมควรเป็นเพราะตัวตนเหล่านั้นจะล่วงรู้เขาอยู่ที่เมืองคงหมิงและเกิดอันตรายต่อเขา..’
ต้องกล่าวเลยว่าชิวมู่ชิงก็หัวไวไม่เบา
เมื่อรวมกับข่าวเรื่องราวที่ได้ยินมา กลับเดาเรื่องต้วนหลิงเทียนได้ครึ่ง
สาเหตุที่บอกว่านางเดาได้ครึ่งเดียวนั้น
ต้วนหลิงเทียนปกปิดชื่อไม่ใช่เพราะไม่อยากให้คนของลัทธิบูชาไฟล่วงรู้ว่าเขาอยู่ที่เมืองคงหมิง หากแต่กลัวว่าหลังเขาออกจากเมืองคงหมิงไปแล้ว ลัทธิบูชาไฟจะมาหาความจาก ‘ตระกูลชิว’ และชิวมู่ชิงต่างหาก!
เรื่องของตัวเองนั้นต้วนหลิงเทียนไม่ได้กังวลแม้แต่นิดเดียว
นั่นเพราะเขาไม่ได้คิดที่จะอยู่ในเมืองคงหมิงแห่งนี้นานนัก กว่าที่คนของลัทธิบูชาไฟจะล่วงรู้ว่าเขาอยู่เมืองคงหมิง ตอนนั้นเขาคงออกกไปจากเมืองนานแล้ว
“พวกเจ้า…ไม่อยากตายงั้นรึ?”
ในขณะที่อาวุโสทั้ง 4 ของตระกูลตงฟางกำลังวิตกกังวลอย่างหนัก และเฝ้ารอคำตัดสินของต้วนหลิงเทียน ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็กล่าวคำออกมาอีกครั้ง ยังถามทั้ง 4 เรื่องชีวิตของพวกมัน
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน อาวุโสหลักตระกูลชิว ประมุขตระกูลชิว ไม่เว้นอาวุโส 2 ตระกูลชิวก็ถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง
หากไม่ใช่เพราะไม่อยากตายแล้วคนของตระกูลตงฟางจะร้องขอความเมตตาแบบนี้หรือ?
พวกมันรู้สึกว่าคำถามนี้ของต้วนหลิงเทียนออกจะซ้ำซ้อนเกินจำเป็นไปบ้าง
แต่แน่นอนว่าพวกมันทำได้แค่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมาด้วยกลัวว่าจะทำให้ต้วนหลิงเทียนรำคาญใจ
เพราะด้วยพลังฝีมือของผู้ฝึกตนพเนจรไร้รากนามลี่เฟิงผู้นี้ ไม่ต้องกล่าวถึงฆ่ายอดฝีมือของตระกูลตงฟางให้ตกตายหมดสิ้นเลย กระทั่งจะกวาดล้างยอดฝีมือทั้ง 3 ตระกูลก็สมควรลำบากเพียงยกมือ!
“ใต้เท้า ข้าไม่อยากตาย!”
อาวุโสหลักตระกูลตงฟางเร่งกล่าวออกมาก่อนใครด้วยใบหน้าตื่นตระหนก มันย่อมไม่อยากตายแบบนี้
หากมันยินดีตายตกไป มันจะไปจับคุณชายรองตระกูลตงฟางของมันมาฆ่าต่อหน้าต้วนหลิงเทียน ทั้งกล่าวบอกปัดเรื่องราวทั้งหมดแต่แรกทำอะไร?
ด้วยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ตงฟางฉู่ยังมีปัญญาหนีรอดได้หรือ?
มันที่เลือกลงมือสร้างความดีความชอบไหนเลยจะยังยินดีตกตาย?
“ใต้เท้าข้าน้อยก็มิอยากตายเช่นกัน”
อาวุโส 2 ตระกูลตงฟางเมื่อคืนสติก็เร่งกล่าวออกมาด้วยความหวาดผวาเสียขวัญ
“ใต้เท้าลี่เฟิงผู้ยิ่งใหญ่ ผู้น้อยมิอยากตาย”
“ใต้เท้าลี่เฟิงผู้ยิ่งใหญ่ ผู้น้อยมิอยากตาย”
อาวุโสอีก 2 คนของตระกูลตงฟางที่คุกกเข้าก้มกราบอยู่ไกลๆ ก็ร่ำร้องออกมาเสียงหลง พวกมันยิ่งมาก็ยิ่งหวั่นวิตกจนแทบร่ำไห้แล้ว
เพราะตอนนี้ ‘ความเป็นตาย’ ของพวกมัน อยู่ในกำมือของชายหนุ่มชุดม่วงตรงหน้า!
จะบีบก็ตาย…
จะคลายก็รอด!
“พวกเจ้าไม่ต้องห่วง หากไม่อยากตายก็ง่ายดายนัก…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเกริ่นออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหยุดลง
ทว่าคำนี้ทำให้สองตาของเหล่าอาวุโสทั้ง 4 ของตระกูลตงฟางเรืองวูบขึ้นมาทันที ราวกับพวกมันไขว่คว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้แล้วว!
“แค่พวกเจ้าต้องแสดงความจริงใจให้ข้าเห็นเท่านั้นเอง…”
หลังหยุดไปครู่หนึ่งต้วนหลิงเทียค่อยกล่าวต่อ
และเมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็ละสายตาออกจากร่างอาวุโสของตระกูลตงฟาง เบนไปตกยังร่างชิวมู่ชิงอย่างประจวบเหมาะ
ไม่ต้องกล่าวคำใดให้มากความ
ทันทีที่เสียงกล่าวต้วนหลิงเทียนดังขึ้นมาคล้ายจะบอกเงื่อนไข อาวุโสหลักกับอาวุโส 2 รวมถึงอาวุโสอีก 2 คนของตระกูลตงฟางก็เงยหน้าขึ้นมามองต้วนหลิงเทียนไม่วางตาแต่แรก ไหนเลยจะพลาดความเคลื่อนไหวนี้ของต้วนหลิงเทียนไปได้!
เช่นนั้นพวกมันจึงมองตามสายตาของต้วนหลิงเทียนไป และในที่สุดก็เห็นร่างชิวมู่ชิงไกลตา!
“ข้าตงฟางป๋อขอสาบานด้วยโลหิต…”
เป็นอาวุโสหลักของตระกูลตงฟางลงมือฉับไวกว่าใคร มันกรีดนิ้วโลหิตกล่าววาจาออกมาเสียงดังฟังชัดว่า…
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าตงฟางป๋อจักให้ความเคารพแก่คุณหนูใหญ่ตระกูลชิว ชิวมู่ชิง เป็นสำคัญ และไม่ว่าจะเป็นคำสั่งใดของคุณหนูมู่ชิงข้าผู้รับใช้ล้วนกระทำตามทั้งสิ้น และจะไม่มีวันกระทำอันใดให้เกิดอันตรายต่อคุณหนูมู่ชิงไม่ว่าจะทางใดก็ทางหนึ่งเด็ดขาด…หากข้าผิดคำสาบานนี้ ขอให้อัสนีทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าพิฆาตร่างตายตก!”
และทันทีที่เสียงของตงฟางป๋อ อาวุโสหลักตระกูลตงฟางดังจบคำ
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
……
เสียงฟ้าผ่า 9 ครั้งพลันดังสะท้านสะเทือนลงมาจากฟ้าเบื้องบน เผยให้รู้ว่าคำสาบานของตงฟางป๋อถูกตอบรับแล้ว!
จังหวะนี้ชิวมู่ชิงอดไม่ได้ที่จะอึ้ง
นางได้ข้ารับใช้เพิ่มมาอีกคนแล้ว?
นอกจากนั้นข้ารับใช้ผู้นี้ยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลตงฟางอีกด้วย พลังฝีมือเหนือกว่าอาวุโส 2 ตระกูลชิว อย่างชิวจื่อ และเทียบได้กับอาวุโสหลักตระกูลชิว?
ในขณะที่ชิวมู่ชิงกำลังอึ้ง ด้านอาวุโสหลักตระกูลชิวก็อึ้งไปไม่ต่างกัน
มันไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนเลยว่าอาวุโสหลักตระกูลตงฟางที่มีพลังฝีมือและอำนาจในเมืองคงหมิงทัดเทียมกับมัน เพื่อความอยู่รอดแล้วถึงกับยอมเป็นข้ารับใช้ของชิวมู่ชิง
อย่างไรก็ตามพอคิดอีกมุม มันก็รู้สึกว่าหากมันเป็นตงฟางป๋อมันก็คงเลือกที่จะกระทำเช่นนี้เหมือนกัน
เพราะสุดท้ายแล้วกว่ามันจะบ่มเพาะฝึกฝนจนบรรลุด่านพลังในปัจจุบันก็ฝ่าฟันมาอย่างยากเย็น
หากต้องมาตกตายไปวันนี้ ก็เท่ากับเสียโอกาสใช้ชีวิตไปนับพันๆปี
บางครั้งเพื่อความอยู่รอดแล้วศักดิ์ศรีอันใดก็จำต้องละทิ้ง
สำหรับอาวุโส 2 ตระกูลชิว ชิวจื่อ กลับมองเรื่องราวด้วยสายตาเฉยเมย มันไม่ได้แปลกใจอะไรแม้แต่นิดเดียว
สำหรับประมุขตระกูลชิวอย่างชิวอ้านผิง ตอนนี้มันกำลังงุนงงไปหมด
อาวุโสหลักตระกูลตงฟาง ตงฟางป๋อ ที่มีพลังฝีมือทัดเทียมกับอาวุโสหลักของพวกมัน อดีตนั้นเป็นตัวตนที่มันจำต้องแหงนมอง…ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะเป็นข้ารับใช้บุตรีของมัน?
“ข้าคงมิได้กำลังฝันอยู่หรอกนะ…”
ชิวอ้านผิงตอนแรกก็สับสนไม่น้อย
ต่อมาหลังจากที่ยืนยันแล้วว่ามันไม่ได้ฝันไป มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ!
ตงฟางป๋อเป็นข้ารับใช้ลูกสาวมันเช่นนี้ ก็หมายถึงกำลังหลักตระกูลตงฟางเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลชิวไปแล้ว ทำให้วันหน้าพวกมันมีไพ่อันร้ายกาจในมือ!
หากตระกูลเฝิงซึ่งเป็นอันดับ 1 ในเมืองคงหมิงลงมือทำอะไรต่อตระกูลชิวก็ไม่ต้องกลัวว่าตงฟางป๋อจะไม่ช่วย!
ครู่ต่อมาใบหน้าปิติยินดีของชิวอ้านผิงก็ถึงกับต้องตะลึงงันไปอีกครั้ง
เพราะมันได้ยิน…
อาวุโส 2 ของตระกูลตงฟาง ‘ตงฟางเหลียง’ ผู้มีพลังฝีมือรองจากตงฟางป๋อ ก็ได้กล่าวคำสาบานต่อทันฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะรับใช้บุตรีมันเช่นกัน!
จังหวะนี้ชิวอ้านผิงดีใจจนเนื้อเต้น
และคราวนี้ไม่เพียงแต่ชิวอ้านผิง กระทั่งอาวุโสหลักตระกูลชิวก็เผยความยินดีออกหน้าออกตา
แต่ก่อนนั้นเหตุผลเดียวที่ตระกูลชิวและตระกูลตงฟางหวาดกลัวตระกูลเฝิงที่เป็นตระกูลใหญ่อันดับ 1 ของเมืองคงหมิงนั้น เพราะตระกูลเฝิงมีผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ถึง 5 คน
และ 2 คนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเฝิง ก็มีพลังฝีมือทัดเทียมกับอาวุโสหลักตระกูลชิวและตระกูลตงฟาง และยอดฝีมือรองลงมาอีก 2 คนของตระกูลเฝิง ก็อยู่ในระดับเดียวกันกับอาวุโส 2 ของพวกมัน
ที่ตระกูลชิวคิดร่วมมือกับตระกูลตงฟางนั้น ก็เพียงหวังว่าอาวุโสหลักและอาวุโส 2 ของตระกูลตงฟางจะให้ความช่วยเหลือและต่อต้านตระกูลเฝิงในช่วงเวลาคับขัน
ด้านตระกูลคงฟางก็ดุจเดียวกัน พวกมันหวังว่าอาวุโสหลักและอาวุโส 2 ของตระกูลชิวจะให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาคับขัน…