บทที่ 513
ในขณะที่เซียวฉางเฉียนกำลังเพ้อฝันว่าจะเอาผลประโยชน์จากหม่าหลันอยู่นั้น
นายหญิงใหญ่เซียวก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เซียวฉางเฉียนรีบทักทายและพูดว่า “แม่ ท่านกลับมาแล้วเหรอ?สถานการณ์ที่บริษัทเป็นอย่างไรบ้าง?”
นายหญิงใหญ่เซียวมีใบหน้าที่มืดคล้ำและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ธนาคารจะเริ่มกระบวนการชำระบัญชีการล้มละลายในเร็ว ๆ นี้ บอกว่าจะเริ่มในวันจันทร์หน้า ถ้ากระบวนการเริ่มต้นแล้ว วิลล่าจะถูกปิดไว้ ที่แกบอกว่าแปดล้าน ทำไมตอนนี้ถึงยังไม่ได้อีก?!”
เซียวฉางเฉียนหัวเราะและพูดว่า “แม่ ผมไม่ได้บอกหรอกเหรอ เงินอยู่กับผู้จัดการด้านการเงิน ตอนนี้ก็กำลังไถ่ถอนให้อยู่ ท่านจะมาเร่งอะไรผมล่ะ เงินนี้จะไม่ให้ท่านได้งั้นเหรอ? ”
แม้ว่าจะพูดขนาดนี้ แต่ในใจของเซียงฉางเฉียนนั้น เงินแม้แต่สักหยดเดียวเขาก็ไม่ต้องการที่จะให้นายหญิงใหญ่เซียวนี่ เพียงแค่นายหญิงใหญ่เซียวจะมีเงินอีกหลายล้านหากหล่อนตายไป อีกทั้งหล่อนยังมีเครื่องประดับราคาหลายล้านอีกมากมาย หญิงชราจะทิ้งของมูลค่ากว่ายี่สิบล้านเอาไว้ให้
เซียวฉางเฉียนนั้นรู้จักแม่ของเขาเป็นอย่างดี พวกเครื่องประดับของเก่าต่างๆ ล้วนแต่เงินบำนาญของหล่อนตลอดมาและหล่อนไม่เต็มใจที่จะนำมันออกมาช่วยบริษัท
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งเหล่านี้ถูกซ่อนไว้ที่ไหน ก็ไม่มีใครรู้นอกจากหล่อน
ถึงแม้ว่าทางธนาคารหรือศาลมา ตรวจบริษัทหรือวิลล่าก็ตาม ก็ไม่มีวันหาสิ่งเหล่านี้เจอ
ด้วยความฉลาดของนายหญิงใหญ่นั้น เครื่องประดับและของเก่าต่างๆคงถูกย้ายไปที่ที่ปลอดภัยนานแล้ว
ถ้าตนวีนแตกกับนายหญิง ไม่ยอมให้แปดล้านล่ะก็ ทรัพย์สมบัติต่างๆของหล่อนคงไม่ตกมาถึงตนเป็นแน่
ดังนั้น เงินแปดล้านนี้ยังไงก็ต้องให้!
เพียงแค่รอเหอเหลียนเอาวิลล่าที่ Tomson Riveira ไปขาย แปดล้านนี้ก็สามารถเอามาให้นายหญิงใหญ่ได้แล้ว!
นายหญิงใหญ่เซียวไม่รู้ว่าเซียวฉางเฉียนนั้นกำลังทำอะไร เมื่อเห็นว่าเขายังคงปฏิเสธ หล่อนจึงพูดด้วยความโกรธว่า “ฉางเฉียน ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็กจนโตแค่แกกระดิกนิดเดียว ก็รู้แล้วว่าแกกำลังจะทำอะไร แกอย่าคิดที่จะไม่ให้เงินฉัน ฉันบอกแกไว้เลยนะ ถ้าแกไม่ให้เงินก้อนนั้นกับฉันล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันจะไปอยู่ที่บ้านฉางควน แล้วเมื่อฉันตาย ประกันของฉัน เครื่องประดับ รวมถึงของโบราณและภาพวาดต่างๆที่พ่อแกให้ฉันไว้ ฉันจะให้ฉางควนให้หมด!”
เซียวฉางเฉียนรีบปลอบแม่อย่างเร็วไว “แม่ ท่านพูดอะไรออกมาน่ะ เงินนี้ผมสัญญากับท่านแล้ว ผมก็ต้องให้ท่านสิ อย่างเร็วก็วันนี้ ช้าสุดคือพรุ่งนี้ ตกลงไหม?”
นายหญิงใหญ่นั่งบนโซฟาและพูดว่า “ได้ งั้นแกเอาเงินของแกมาก่อน!”
เซียวฉางเฉียนโบกมือแล้วพูดว่า “ตอนนี้ผมไม่มีหรอกนะ…แต่ท่านวางใจเถอะ พรุ่งนี้ผมจะเอามาให้นะครับ”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ นายหญิงใหญ่เซียวก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสยดสยองพร้อมกับพูดว่า “แกนี่มันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ดีแต่พูดว่าพรุ่งนี้ พรุ่งนี้กับฉัน ฉันนี่เลี้ยงแกเสียข้าวสุกจริงๆ!”
เซียวฉางเฉียนรีบหยุดแม่ของเขาและพูดว่า “แม่ หยุดตะโกนได้แล้ว เงินของครอบครัวเราไม่ได้อยู่กับผมจริงๆ มันอยู่กับหงเย่นนู้น!หงเย่นออกไปทำเรื่องให้ท่านน่ะสิ รอเธอกลับมา ผมจะให้ท่านเลย ช้าสุดก็ไม่เกินวันพรุ่งนี้แน่นอน!”
เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวได้ยินดังนั้น เธอก็หยุดร้องไห้และถามว่า “นี่จะมืดแล้ว ทำไมหงเย่นยังไม่กลับมาอีก? ”
เซียวฉางเฉียนตอบว่า “เธอไปจัดการเรื่องเงินน่ะ น่าจะใกล้กลับมาแล้วล่ะ..”
ขณะพูด เซียวฉางเฉียนก็ส่งข้อความไปหาเฉียนหงเย่นว่า “ภรรยา ใกล้จะกลับมาแล้วใช่ไหมครับ?”
ข้อความก็ส่งไปแล้ว แต่ไร้การตอบกลับเป็นเวลานาน
เซียวฉางเฉียนขมวดคิ้วและพูดกับนายหญิงใหญ่เซียวว่า “แม่ เดี๋ยวผมจะโทรหาหงเย่น”
จากนั้นจึงกดเบอร์ของเฉียนหงเย่นและโทรออกไป
โทรศัพท์นั้นเปิดอยู่และมีการแจ้งเตือนระบบมาจากลำโพงว่า: “ขออภัยผู้ใช้ที่คุณโทรถูกปิดอยู่”
เซียวฉางเฉียนพูดกับนายหญิงใหญ่ว่า “แม่ แม่ก็ได้ยินแล้วใช่ไหม โทรไม่ติด เดาว่าโทรศัพท์แบตน่าจะหมด…”
“โทรไม่ติด ก็โทรไปเรื่อยๆ โทรจนกว่าจะติดแล้วค่อยหยุด!” นายหญิงใหญ่พูดอย่างหงุดหงิดว่า “ฉันบอกแกไว้ก่อนเลยนะ อย่าคิดที่จะหลอกฉัน เอาโทรศัพท์มา ฉันโทรเอง!”
เซียวฉางเฉียนถอนหายใจอย่างจนใจและยื่นโทรศัพท์ให้นายหญิงใหญ่เซียว “ท่านเอาไปโทรเองละกัน”