มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 805
หลังจากที่หลัวซิวได้เข้ามาในถ้าแห่งนี้ ก็ได้สร้างค่ายกลระดับ 8 ขึ้นบริเวณใกล้เคียงปากถ้ำจำนวนไม่น้อยทันที

จากนั้นเขาก็ได้เปิดแหวนเก็บของของชายผมทองทั้งสองคนออกอยู่ภายในถ้ำ ในนั้นเต็มไปด้วยวัสดุหลากหลายระดับ รวมทั้งยาวิเศษระดับสูงจำนวนมาก

นอกจากนี้แล้วยังมีอาวุธขลังชั้นสูงอยู่อีกหลายชิ้น ในนั้นยังมีกระสวยบินรูปมังกรอยู่ชิ้นหนึ่ง เป็นของขลังนภาเวหาชั้นยอดอย่างหนึ่ง

ความเร็วในการเคลื่อนไหวของของขลังกระสวยเมื่อขับเคลื่อนจนถึงขีดสุด ความเร็วสามารถทัดเทียมได้กับปีกทิพย์ไร้มลทินของเขา เพียงแต่ว่าของสมบัติวิเศษชิ้นกลับไม่ได้อยู่ในมือของชายผมทองเจ้ายุทธจักรช่วงปลาย แต่ได้อยู่ในแหวนเก็บของของเจ้ายุทธจักรช่วงกลางที่ชื่อกว่างช่าวผู้นั้น

เขาลงมืออย่างรวดเร็วเกินไป กว่างช่าวผู้นั้นไม่มีโอกาสที่จะเอาของขลังกระสวยนี้ออกมาได้เลยสักนิด

“สองคนนี้มั่งมีเสียจริงเลย”

หลัวซิวตรวจนับสมบัติวิเศษที่อยู่ในแหวนเก็บของทั้งสองวง ที่ส่วนมากที่อยู่ด้านในล้วนไม่มีความจำเป็นสำหรับเขา แต่ของที่มีประโยชน์สำหรับเขาก็มีไม่น้อยเช่นกัน มียาวิเศษและวัสดุระดับแปดขึ้นไปอยู่ด้วยจำนวนมากอยู่ด้วย

ล้างเอายาวิเศษระดับแปดที่มีอยู่ในมือออกมาจนหมด หลัวซิวก็ได้เริ่มกลั่นยาขึ้นมาในทันที

หลายวันต่อมา เขาได้กลั่นยาระดับแปดออกมาจำนวนมาก เมื่อมียาพวกนี้ เขาสามารถเพิ่มระดับผลการฝึกตนของตนเองขึ้นมาเล็กน้อย

สองเดือนต่อมา ผลการฝึกตนของหลัวซิวได้บรรลุถึงแดนมหายุทธ์ขั้นสาม และเผชิญเข้ากับจุดคอขวด

ขั้นสามและขั้นสี่ เป็นเขตแดนระหว่างมหายุทธ์ขั้นปฐมภูมิและขั้นกลาง หลังจากที่ผลการฝึกตนได้บรรลุถึงแดนมหายุทธ์ขั้นสาม เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วในการฝึกตนนั้นได้ค่อย ๆ ช้าลง

หลัวซิวได้สิ้นสุดการฝึกตน จากนั้นก็ได้นำห้วงความคิดจมลงสู่ตัวหยั่งรู้ เชื่อมต่อกับร่างแยกอีกร่างหนึ่งที่สู่ห่างกันไกลแสนไกล

เวลานี้ร่างแยกชุดดำได้อยู่ในโลกล่มสลาย ไม่ได้อยู่ในโลกแสงดาวแล้ว ส่วนร่างแยกชุดขาวนั้นได้อยู่ในปริภูมิซ่อนเร้นในแดนตำหนักจื่อ พูดได้ว่าได้ถูกกั้นไว้ด้วยช่องอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แม้จะเป็นเช่นนี้ ร่างแยกทั้งสองก็ยังสามารถติดต่อกันได้ เห็นได้ว่าพลังอมตะวิชาแบ่งร่างดับเบิ้ลนั้นแข็งแกร่งถึงเพียงใด

เดิมทีร่างแยกทั้งสองรวมอยู่ในร่างเดียวกัน ผลการฝึกตนของร่างแยกชุดดำบรรลุถึงแดนมหายุทธ์ ร่างยุทธ์ร่างเนื้อบรรลุถึงขีดจำกัดแดนมหายุทธ์ ตัวสำนึกบรรลุถึงเจ้ายุทธจักรขั้นปฐมภูมิ ร่างแยกชุดขาวก็จะได้รับการเพิ่มระดับ บรรลุถึงระดับเดียวกัน

ลูกแก้วความเป็นตายอยู่ในร่างของร่างแยกชุดขาว คราวนี้ผลการฝึกตนได้บรรลุถึงแดนมหายุทธ์ หลัวซิวได้สร้างให้ร่างทั้งสองเกิดการเชื่อมต่อกัน ก็เพื่อเข้าสู่ลูกแก้วความเป็นตาย เพื่อรับของกำนัลจากกฎดั้งเดิมอีกครั้ง

โซนสงสารวัฏที่ลึกลับ หลัวซิวได้เงยหน้ามองวัฏจักรขนาดใหญ่มหึมานั่นอีกครั้ง

“ผู้สืบทอดที่อ่อนแอ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะบรรลุถึงแดนมหายุทธ์ได้เร็วเช่นนี้ ดูท่าอีกไม่นานนัก เจ้าก็จะกลายเป็นเทพมารแล้ว” เทพแห่งวัฏจักรชีวิตกล่าวกลับหลัวซิวหลายประโยคอย่างหาได้ยาก

“กลายเป็นเทพมาร ก็จะไม่อ่อนแอแล้วหรือ?” หลัวซิวยิ้มพลางเอ่ยถาม

“ต่อให้เป็นเทพมาร บนเส้นทางแห่งการฝึกตนอันไร้ที่สิ้นสุดก็นับเป็นเพียงพึ่งจะเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์เท่านั้นเอง ยังห่างจากการก้าวเข้าสู่ขอบเขตผู้แข็งแกร่ง อีกยาวไกลยิ่งนัก” เทพแห่งวัฏจักรชีวิตกล่าวบั่นทอนจิตใจอย่างเย็นชา

หลัวซิวเบ้ปาก เขาเองก็ทราบดีว่าสายตาของเทพแห่งวัฏจักรชีวิตนั้นสูงนักแล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถหลุดพ้นจากฉายาผู้สืบทอดที่อ่อนแอได้

“ข้ามาเพื่อรับของกำนัลจากกฎดั้งเดิม” หลัวซิวพูดอย่างตรงไปตรงมา

“ดั่งความปรารถนาของเจ้า” เทพแห่งวัฏจักรชีวิตไม่พูดอะไรมาก ลำแสงสายหนึ่งได้ร่วงหล่นลงมา ปกคลุมร่างกายของหลัวซิวเอาไว้

“อาณาจักร……”

ของกำนัลจากกฎดั้งเดิมในครั้งนี้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักร

หลัวซิวฝึกตนถึงแดนมหายุทธ์ แม้จะไม่ได้ตระหนักรู้ถึงพลังแห่งกฎ ก็สามารถสร้างอาณาจักรที่พิเศษขึ้นมาได้ พูดได้ว่าพลังแห่งอาณาจักร เป็นความสามารถเฉพาะของผู้แข็งแกร่งแดนมหายุทธ์

หลัวซิวเองก็ได้เคยเห็นมหายุทธ์คนอื่นแสดงพลังเช่นนี้ออกมา เพียงแต่ว่าพลังการต่อสู้ของเขานั้นค่อนข้างจะแข็งแกร่ง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากอาณาจักรธรรมดาเหล่านั้น