บทที่ 1823 ซือเยี่ยหานกำลังมาตรวจดู
ถ้ากู้เยว่เจ๋อไม่พูดคำนี้ก็แล้วไป แต่พอพูดออกมาก็เหมือนกับยอมรับสิ่งที่เยี่ยอีอีพูดทั้งหมด
เมื่อเยี่ยอีอีเห็นกู้เยว่เจ๋อพูดแทนเธอแล้ว ก็เหมือนถูกโจมตีอย่างรุนแรงทันที เมื่อลุกขึ้นยืน ร่างกายของเธอก็โงนเงนราวกับจะเป็นลม “หวันหวั่น ตอนที่ฉันอยู่กับเยว่เจ๋อ เธอมักจะสะกดรอยตามไม่เลิก ฉันอดทนมาตลอดและไม่อยากสร้างปัญหาให้มาถึงจุดนี้จริงๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะก้าวร้าว…
เธอแกล้งทำตัวเป็นเหยื่อ แกล้งปล่อยเพื่อจับ เธอให้นักเลงหัวไม้มาบังคับฉัน กระทั่งใช้ซือเยี่ยหานมาคอยกระตุ้นเยว่เจ๋อ เป้าหมายสูงสุดของเธอคือได้ครอบครองเยว่เจ๋อ เพื่อที่เธอจะได้เป็นคุณผู้หญิงกู้…ตอนนี้สมใจเธอแล้วใช่ไหม”
เยี่ยอีอีเอ่ยถึงเยี่ยหวันหวั่นที่ไร้ยางอายพร้อมน้ำตา บรรดานักข่าวก็มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าที่แปลกขึ้นเรื่อยๆ
“ถึงแม้เยี่ยอีอีสมควรที่จะได้รับผลของสิ่งที่ทำลงไป แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่นับว่าเป็นคนดีเช่นกัน!”
“ก็ใช่ไง วางแผนมาดีมาก ยังตั้งใจเอาดีใส่ตัวแล้วบอกว่าซือเยี่ยหานเป็นแฟนของตัวเอง สุดท้าย ก็เป็นเพียงมารยาเพื่อบังคับให้กู้เยว่เจ๋อมาแต่งงานกับตัวเองก็แค่นั้น!”
“ช่างเป็นผู้หญิงที่จิตใจชั่วร้ายที่สุดเลย!”
……
เป๋ยโต่วมองดูเยี่ยอีอีที่แสร้งทำตัวน่าสงสาร ทำให้ทุกคนรุมด่าเยี่ยหวันหวั่น ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“เชี่ย! ผู้หญิงในจีนหน้าด้านไร้ยางอายเกินไปไหมวะ! มีเรื่องข้องใจอะไรก็มาสู้กันซึ่งๆ หน้าสิวะ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจเป๋ยโต่ว ที่นี่ก็เป็นแบบนี้ ที่เขาเห็นเป็นเพียงปลายยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
“คุณเยี่ยหวันหวั่น ขอถามหน่อยค่ะว่าที่เยี่ยอีอีพูดเป็นความจริงหรือไม่ คุณได้สั่งให้อันธพาลไปข่มขู่เธอจริงๆ เหรอ”
“เพื่อตำแหน่งคุณผู้หญิงกู้แล้ว ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล นี่คุณไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีบ้างเลยเหรอ”
“การขอแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้ คุณยังจะตอบรับด้วยความสบายใจอยู่ไหม”
……
ทันใดนั้น ความสนใจของนักข่าวก็ท่วมท้นทวีคูณขึ้นมา
“ทุกท่านโปรดใจเย็นก่อน นี่เป็นคำพูดของเยี่ยอีอีเพียงฝ่ายเดียว เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประธานเยี่ยของเรากับกู้เยว่เจ๋อนั้น ประธานเยี่ยของเราได้ชี้แจงไปตั้งนานแล้ว ขอทุกท่านโปรดทราบ”
โจวเทารีบยืนขึ้นเพื่อแก้ไขเรื่องตลกร้ายนี้ แต่ยังไงทุกคนก็ต้องเห็นอกเห็นใจผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่ดี ในขณะนี้ บรรดานักข่าวไม่เชื่อในสิ่งที่โจวเทาพูดแม้แต่น้อย ต่างก็เข้าข้างเยี่ยอีอีทั้งหมด
ขณะที่หน้างานกำลังวุ่นวาย จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่ามีนักข่าวคนไหนพูดขึ้นว่า “เธอว่าอะไรนะ ซือเยี่ยหาน?”
“ซือเยี่ยหาน?”
“ซือเยี่ยหานอะไร?”
ชื่อของซือเยี่ยหานเป็นเหมือนหยดน้ำมันในน้ำเดือด ดึงดูดความสนใจของนักข่าวทั้งหมดในทันที
“ได้ยินมาว่าซือเยี่ยหาน ประธานของซือกรุ๊ปกลับจากต่างประเทศวันนี้ และจะเข้ามาตรวจดูที่นี่ด้วย”
“หา!!! จริงไหมเนี่ย?”
ศูนย์จัดประชุมอวิ๋นฟางที่หรูหราที่สุดในเมืองหลวง คืออุตสาหกรรมที่ซือเยี่ยหานเป็นเจ้าของ จึงไม่น่าแปลกใจที่ซือเยี่ยหานจะมาที่นี่ แต่ไม่ว่าซือเยี่ยหานจะไปที่ไหนจะต้องเป็นความลับ ต้องปกปิดสถานที่และไม่อนุญาตให้มีนักข่าวสักคนเข้ามาไม่ใช่เหรอ
“ไม่จริงหรอก? ถ้าซือเยี่ยหานมาจริง ที่นี่ต้องถูกสั่งปิดแล้วสิ!”
“ฉันคิดว่าเป็นเพราะจู่ๆ กู้เยว่เจ๋อก็มาไม้นี้ เมื่อบอสของห้องประชุมแจ้งเขา ซือเยี่ยหานก็มาทันที ถ้าเธอไม่เชื่อฉันก็ไปดูเองเลย ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูงของซือกรุ๊ปทั้งหมด และเถ้าแก่ห้องประชุมก็อยู่ตรงประตูรอต้อนรับเขาอยู่นะ!”
“เชี่ย! คุ้มจริงๆ ที่วันนี้มาที่นี่!”
นักข่าวทุกคนต่างพากันตื่นเต้นอย่างหนัก
———————————————————————————————-
บทที่ 1824 ไม่นึกเลยว่าจะหล่อขนาดนี้
“เดี๋ยวนะ ถ้าซือเยี่ยหานมาก็เป็นเรื่องตลกแล้วสิ? ไม่กี่วันก่อนเยี่ยหวันหวั่นยังแกล้งบอกว่าเป็นแฟนของซือเยี่ยหานอยู่เลย ตอนนี้จะไม่เป็นการโดนตบหน้ากลางสี่แยกเลยเหรอ”
“เออ! ใช่! ครั้งก่อนก็ทำเรื่องไว้ใหญ่โต ซือเยี่ยหานต้องเคยได้ยินมาแน่ๆ เธอก็ช่างกล้าพูดจริงๆ กล้าแม้กระทั่งโกหกว่าเป็นแฟนของซือเยี่ยหาน!”
……
“ซือเยี่ยหาน…”
เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตาลงโดยไม่ตั้งใจเมื่อได้ยินชื่อนี้ท่ามกลางผู้คนมากมาย
นักข่าวทั้งหมดรีบไปยังทางเข้าห้องโถง ตอนแรกเห็นแค่บอดี้การ์ดชุดดำที่กรูกันเข้ามากันพวกนักข่าวออกไป ตามมาด้วยกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของซือกรุ๊ปในชุดสูทรองเท้าหนัง เถ้าแก่ของห้องประชุมก็มีเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าเดินตามมาด้านหลัง
ท่าทางเช่นนี้ทำให้บรรดานักข่าวที่ส่งเสียงดังในตอนแรกเงียบไปโดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงใดเล็ดลอดออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ตั้งกล้องขึ้นทีละตัวสองตัวหันไปทางฝูงชนจนครบ
ผ่านไปราวสิบนาที ผู้บริหารระดับสูงหลายคนก็ยืนต้อนรับที่หน้าประตู ไม่นานก็มีรถสีดำมาจอดตรงประตูพอดี ประตูรถเปิดออกและขาเรียวยาวก็ก้าวออกมา
จากนั้นชายในชุดสูทสีดำก็ก้าวลงมาจากรถ
“ซือ”
ในนาทีที่เห็นใบหน้าชายหนุ่มอย่างชัดเจน ในที่นั้นก็เกิดเสียงหายใจทางปากพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เนื่องจากออร่าของชายหนุ่มนั้นรุนแรงเกินไป นาทีที่เขาปรากฏตัว สถานที่ขนาดใหญ่ก็กลับคับแคบไปถนัดตา
หลังจากตั้งใจพินิจดูลักษณะหน้าตาของชายหนุ่มแล้ว บรรดานักข่าวต่างก็ตกตะลึงไปอีกครั้ง
คิดไม่ถึงเลยว่าซือเยี่ยหานจะหล่อขนาดนี้!
“พระเจ้าช่วย! ซือเยี่ยหานโคตรๆๆ หล่อเลยอะ!”
“ฉันขอประกาศ ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ฉันมีสามีใหม่แล้ว!”
“ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าซือเยี่ยหานหน้าตาอัปลักษณ์จนไม่กล้าออกมาเจอผู้คน? นี่มันหล่อมากชัดๆ พอปรากฏตัวก็ทำให้วุ่นวายเลยทีเดียว!”
“อ๋าๆๆ! ไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นซือเยี่ยหานกับตาตัวเอง ฉันไม่เสียใจที่ได้เป็นนักข่าวเลย!”
……
ในขณะนั้นสายตาของเยี่ยหวันหวั่นก็มองไปยังฝูงชน และจับจ้องไปที่ตัวของชายหนุ่มที่รายล้อมไปด้วยฝูงชน
นอกจากสีผมของชายหนุ่มจะเปลี่ยนไปเป็นสีดำแล้ว แทบไม่มีความต่างใดๆ จากนายแห่งอาชูร่าเลย
อย่างไรก็ตาม เหมือนว่าเธอจะไม่ได้เจอเขามาเป็นศตวรรษแล้ว…
ผู้ชายที่ให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับเธอ และเป็นผู้ชายที่โหดร้ายที่สุดกับเธอเช่นกัน…
พรมกุหลาบสีแดงของกู้เยว่เจ๋อโปรยจากห้องประชุมโกลด์ไปยังประตูใหญ่ หากซือเยี่ยหานต้องการเข้ามา เขาก็ต้องเหยียบมันอย่างช่วยไม่ได้
ร่างสูงโปร่งและใบหน้าหล่อเหลาเยือกเย็นก้าวเดินไปบนกลีบกุหลาบสีแดงสด ดูแล้วช่างงดงามจนไม่ควรอยู่บนโลกมนุษย์จริงๆ
ตอนที่ชายหนุ่มเดินมาถึงตรงกลาง ในที่สุดพวกนักข่าวก็ฟื้นคืนสติจากบรรยากาศงานเลี้ยงที่สวยงามนี้
มีนักข่าวผู้กล้าคนหนึ่งรีบฝ่าฝูงชนเข้าไป และคว้าโอกาสสัมภาษณ์ที่เป็นครั้งสำคัญในชีวิต “ซือ…สวัสดีครับคุณซือ ไม่กี่วันก่อนมีการสัมภาษณ์ของคุณเยี่ยหวันหวั่น ไม่ทราบว่าคุณได้ดูหรือไม่ เธออ้างว่าเป็นแฟนของคุณ ไม่ทราบว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไรครับ”
ว้าว! พอถามก็เป็นคำถามที่สุดยอดมาก!
นักข่าวคนอื่นๆ พอเห็นว่าถูกนักข่าวคนนี้ชิงถามไปก่อนแล้วต่างก็พากันถอนหายใจ ในขณะเดียวกันก็หันกล้องไปยังซือเยี่ยหานเพื่อรอคำตอบ
จากนั้น ชายหนุ่มก็หยุดฝีเท้าลงกะทันหัน
นักข่าวทุกคนกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นซือเยี่ยหานไม่พูดอะไร นักข่าวก็ดูหวาดกลัวเล็กน้อยแล้วยิงคำถามต่อไป “เยี่ยหวันหวั่น…ก็คือผู้ก่อตั้งจูเสินสือไต้…เป็นบอสของซิง…ซิงเฉินกรุ๊ป…ไม่ทราบว่าคุณเคยได้ยินมาบ้างไหม”
………………………………………..