ในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นเข้าใกล้ประตูในระยะหนึ่งเมตร ทันใดนั้นก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาถูกพลังไร้รูปดีดกลับออกมา
พลังที่ตีกลับนั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นสลบไปเลย
“นั่น………..” คนที่มาทีหลัง มองดูภาพนี้ด้วยสีหน้าที่ตกใจ
ชายหนุ่มคนนั้นก็เป็นปรมาจารย์คนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นแค่ปรมาจารย์แดนชี่แท้ แต่ความสามารถของนั้นไม่มีข้อกังขาเลย แต่เขาถูกพลังแสงต้องห้ามทำให้สลบไป เห็นได้ชัดว่าพลังต้องห้ามนี้แข็งแกร่งเพียงใด!
“ฮึ่ม ถ้ามันเข้าไปง่ายขนาดนั้น เราคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้โดยที่ไม่ทำอะไรเลย!” นักบู๊ที่มาถึงก่อนพูดอย่างเย้ยหยัน
“แล้วจะทำอย่างไรดี? หรือว่าเราทำได้เพียงมองมันอยู่อย่างนี้เหรอ?” มีนักบู๊พูดขึ้นมาอย่างคาใจ
คุณชายฉางกวาดมองทุกคนอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นก็หัวเราะพูด “ทุกคนโปรดฟังผมก่อน!”
ผู้คนมองไปทางเขา ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร
คุณชายฉางเห็นว่าสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนได้แล้ว ก็พูดอย่างต่อเนื่อง “เห็นได้ชัดว่าที่นี่ถูกตั้งพลังต้องห้ามเอาไว้ ถ้าเราอยากจะเข้าไป อาศัยความสามารถของเราคนเดียวมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน รวมพลังเพื่อทำลายพลังต้องห้ามนี้ แบบนี้ทุกคนก็จะสามารถเข้าไปได้แล้ว?”
ชายชราคนพูดอย่างเย้ยหยัน “วิธีการที่คุณพูดมาเราก็คิดได้ในก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตามคุณจะรับประกันได้อย่างไรว่าเมื่อทุกคนร่วมแรงกันแล้วจะสามารถทำลายมันได้จริงๆ? อีกอย่างถ้าฝืนทำลายพลังต้องห้ามนี้ แล้วทำให้หอน้ำแข็งนี้ทลายไปด้วยจะทำอย่างไร?”
คนส่วนหนึ่งพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของชายชรา
แต่ก็มีคนที่ไม่เห็นด้วย
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดอย่างเยาะเย้ย “หากไม่ทำลายพลังต้องห้ามนี้ ใครมีวิธีที่เข้าไปได้ล่ะ?”
ไม่มีใครพูดอีกเลย ถ้าหากมีวิธีที่สามารถเข้าไปได้ ทุกคนก็คงไม่มาเสียเวลาอยู่ตรงนี้
นักบู๊คนนั้นพูดต่อ “ในเมื่อทุกคนไม่มีวิธีอื่น ถ้าอย่างนั้นต่อให้ต้องทำลายหอน้ำแข็งนี้แล้วจะยังไง? ถ้าหากทำลายพลังต้องห้ามแล้วตึกยังไม่ถูกทำลาย เรายังสามารถเข้าไปดูให้เห็นกับตา”
“ดังนั้น ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณชายฉาง!”
ครั้งนี้ มีคนที่เห็นด้วยมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าทุกคนเห็นด้วยกับวิธีนี้
“ผมก็เห็นด้วยกับข้อเสนอคุณชายฉาง เมื่อเทียบกับที่ทุกคนมามองมันอยู่ตรงนี้ ไม่สู้ลองดูสักตั้ง!” มีนักบู๊ออกเสียง
“ผมก็เห็นด้วย ทุกคนมาร่วมมือกัน ทำลายพลังต้องห้ามนี้!”
“ใช่ ทุกคนมาร่วมมือกัน ทำลายพลังต้องห้ามนี้!”
มีคนแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณชายฉาง
คุณชายฉางหน้าชื่อตาบาน มองทุกคนแล้วพูด “ในเมื่อทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของผม ผมที่ไม่มีความสามารถ ยินดีที่จะเป็นผู้นำ คนที่ยินดีสนับสนุนผม ก็ขอให้มายืนข้างกายผม รอให้เราทำลายพลังต้องห้ามนี้แล้ว มาแบ่งของที่อยู่ข้างในอย่างยุติธรรม”
“แน่นอน หากคนที่ไม่สนับสนุนผม ก็ขอให้ไปจากที่นี่ อยากหวังให้พวกเราใช้ชี่แท้ทำลายพลังต้องห้ามนี้แล้ว พวกนายก็มารับผลประโยชน์จากมัน!”
คำพูดประโยคนี้ โดยพื้นฐานไม่มีคนคัดค้านอีก
“ตอนนี้ คนที่ยินดีร่วมมือทำลายพลังต้องห้ามนี้ ขอให้มายืนอยู่ข้างผม!” คุณชายฉางตะโกนพูด
ทันใดนั้น ก็มีคนเกือบครึ่งไปยืนอยู่รอบๆคุณชายฉาง คนที่เหลืออยู่ลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เลือกไปยืนข้างเขา
ไม่นาน ก็เหลือเพียงเฉินโม่และหลินหยุนสามคน ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
สายตาของทุกคนอดไม่ได้ที่จะจับจ้องไปยังเฉินโม่ทั้งสี่ และแววตาของคุณชายฉาง มีความขุ่นมัวเพิ่มขึ้น
“ถ้าหากพวกนายสี่คนไม่ยินดีที่จะร่วมทำลายพลังต้องห้ามพร้อมกับพวกเรา เราก็ไม่ฝืนใจพวกนาย ขอให้พวกนายรีบออกไปจากที่นี่
หลินหยุนที่อยู่ด้านหลังของเฉินโม่พูดกระซิบ “ผู้อาวุโส เราเข้าร่วมกับพวกเขาเถอะ!”
เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ “ไม่ต้อง ตามฉันมา!”
พูดจบ เฉินโม่ก็เดินไปทางหอน้ำแข็งทันที
หลินหยุนสามคนมองเฉินโม่อย่างขมวดคิ้ว ต่างมองสบตากัน แววตาต่างมีความสงสัย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลังเลไปชั่วครู่ ทั้งสามคนก็ยังคงเลือกที่จะตามเฉินโม่ไป