ตอนที่ 1277

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิวสือมีการป้องกันจากหอคอยอยู่ ดังนั้นในเมื่อตอนนี้เขาไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ในระยะเวลาสั้นๆเขาจึงไม่ต้องการจะเสียเวลาเปล่าและทำการเปลี่ยนเป้าหมาย

“เจ้าเองก็มีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ประหลาดๆด้วยรึไม่?” หลิงฮันถามไปยังคนของนิกายดาบสวรรค์อีกคน

ชายคนนั้นหวาดกลัวจนฉี่ราด

เขาคิดว่าหากหลิวสือลงมือแล้ว หลิงฮันจะถูกกำจัดอย่างง่ายดาย แต่ผลลัพธ์ตรงหน้านั้นเหนือความคาดหมายของเขามาก หลิวสือถูกบังคับให้ต้องป้องกันตัวเอง ส่วนเขาก็กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของหลิงฮัน

ตอนนี้เขาหวาดกลัวจนเงื่อท่วมตัว ขาทั้งสองคนอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง แม้แต่ยืนให้มั่นคงก็ยังทำไม่ได้

การผสานอำนาจพลังบ่มเพาะกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นัน้เป็นทักษะลับที่นิกายจะสอนให้กับจอมยุทธที่บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดแล้วเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่มีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งติดตัวเหมือนหลิวสือ ต่อให้มีเขาก็ยังมีพลังบ่มเพาะที่ต่ำอยู่ดีแล้วจะให้ต่อกรกับหลิงฮันได้อย่างไร?

“อย่าได้บังอาจ!” เสียงของหลิวสือดังออกมาจากหอคอย การโจมตีจากดาบลอยออกมาจากด้านในและจู่โจมใส่หลิงฮัน

หลิงฮันกวัดแกว่งดาบปล่อยปราณดาบสลายการโจมตีของหลิวสือ ซึ่งคนของนิกายดาบสวรรค์ได้ใช้โอกาสนี้หลบหนี เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายหวาดกลัวอย่างมากจริงๆ เขาของเขาอ่อนแรงจนวิ่งหนีได้ไม่เร็วพอ

“คิดจะหนี?” หลิงฮันส่ายหัวและโจรทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา ‘ฉัวะ’ คันศรถูกยิ่งออกไปอย่างรวดเร็วและทะลุผ่านหน้าอกของชายคนนั้น ร่างของอีกฝ่ายถูกระเบิดออกเป็นสองส่วนทันที

เพียงแต่ว่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทรานั้นมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ต่อให้ร่างจะถูกแยกออกเป็นสองส่วนก็ยังไม่ตาย อีกฝ่ายพยายามตะเกียกตะกายขยับแขนและขาให้ร่างต่อกัน หากใช้ปราณก่อเกิดเชื่อมต่อร่างเข้าด้วยกันอีกไม่กี่ปีร่างกายก็จะกลับสู่สภาพเดิม

“ช่างน่ารำคาญเสียจริง!” หลิงฮันควบแน่นคันศรอีกครั้ง

“ฮึ่ม ฝันเถอะ!” หลิวสือคำราม เขายกหอคอยขึ้นและควบคุมให้หอคอยเข้าทับหลิงฮัน

หลิงฮันเปลี่ยนมุมของคันศรและยิงใส่หลิวสือ ’พรึบ’ ลูกศรปราณก่อเกิดเคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ว ต่อให้เป็นปรมาจารย์ระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดก็ยากที่จะป้องกันได้ทัน

ฉัวะ!

ลูกศรแทงทะลุเข้าที่ไหล่ซ้ายของหลิวสือ ถ้าเขาหลบช้ากว่านี้อีกนิดเดียวลูกศรคงทะลวงผ่านหัวใจไปแล้ว ต่อให้ไม่ตายเขาก็ต้องบาดเจ็บสาหัส

หลิวสือตกตะลึง ลูกศรนี้เคลื่อนที่ไวเกินไปแถมพลังทำลายก็ยังน่าสะพรึงกลัวขนาดที่ว่าร่างกายของเขาไม่สามารถป้องกันได้ แม้เขาจะยังมีทักษะและไพ่ลับที่ยังไม่ได้ใช้ แต่ตอนนี้จิตใจของเขาไม่เหลือไฟสู้รบแล้ว

รุ่นเยาว์ตรงหน้าทำให้เขารู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจเอาชนะได้

ในใจของเขาเกิดความคิดที่ว่าต่อให้ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายลงมือก็อาจจะไม่สามารถจัดการรุ่นเยาว์ผู้นี้ได้ แต่ว่าหากหนึ่งตนทำไม่ได้ ทำไมไม่ลงมือพร้อมกันสองหรือสามคนล่ะ?

ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ยังมีพลังจำกัด ตราบใดที่อีกฝ่ายถูกต้อนจนมุมก็ไม่มีทางหลบหนีไปไหนได้

เขาตัดสินใจกลับไปรายงานทันทีว่าหลิงฮันมาถึงดาวหยุนติ่งแห่งนี้แล้วและจำเป็นส่งเหล่าปรมาจารย์ของนิกายดาบสวรรค์… ไม่สิ ต้องให้ห้านิกายโบราณส่งเหล่าปรมาจารย์มาสังหารหลิงฮัน

ไม่เช่นนั้นด้วยพรสวรรค์ในการเติบโตของเจ้าหนูนี่ เกรงว่าหากเวลาผ่านไปอีกไม่กี่ปีห้านิกายโบราณอาจจะไม่อยู่ในจุดยืนที่จะต่อกรกับหลิงฮันได้ไปตลอดกาล

เขาเป็นคนที่ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อเอาชีวิตรอด หลิวสือกัดฟันหันหลังเพื่อเผ่นหนีทันที หอคอยทำการหมุนเบาๆสร้างชั้นเปลวเพลิงขึ้นมาป้องกันตัวเขา

“ปรมาจารย์หลิว! ปรมาจารย์หลิว!” ชายที่เหลือรอดของนิกายดาบสวรรค์ร้องโอดครวญ เขาต่อร่างของตัวเองทั้งสองส่วนเข้าหาได้อย่างหยาบๆแล้ว แต่ยังต้องการเวลาอีกเล็กน้อยถึงจะฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่เสียหายได้

แต่ตอนนี้ในเมื่อหลิวสือทิ้งเขาไปย่อมหมายความว่าชีวิตของเขาคงจบสิ้นแน่ๆ

“ฮ่าๆๆ ข้าจะให้เจ้ากินส่วนหนึ่งของร่างกายนายท่านโสมเอง! เอาฝ่าเท้าของนายท่านโสมไปกิน!” โสมเฒ่าเริ่มอวดเบ่งอีกครั้ง ศัตรูที่แข็งแกร่งเผ่นหนีไปแล้วเหลือเพียงหนึ่งคนที่กำลังจะตาย แน่นอนว่ามันย่อมไม่หวาดกลัวอีกต่อไปและพุ่งออกมาไล่เตะศัตรูที่กำลังจะตาย

ชายผู้น่าสงสารคนนั้นเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูง หากเป็นในตอนปรกติเพียงแค่มือเดียวเขาก็สามารถจัดการโสมเฒ่าได้แล้ว แต่ตอนนี้เขากลับทำได้เพียงถูกโสมเฒ่ากระทืบไม่หยุด เขากระอักโลหิตออกมาสองสามครั้งก่อนจะสิ้นลมด้วยฝ่าเท้าของโสมเฒ่า

“ให้ตายเถอะ นายท่านโสมช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก เพิ่งทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้ไม่นานก็เอาชนะศัตรูระดับสุริยันจันทราขั้นสูงกับสูงสุดได้แล้ว!” โสมเฒ่ารู้สึกภูมิใจ “แบบนี้ต้องฉลองด้วยชุดชั้นในร้อยปี”

มันนำชุดชั้นในสีชมพูออกมาและสูดดมอย่างเคลิบเคลิ้ม

“โรคจิต!” หลิงฮันกับเจ้ากระต่ายเตะโสมเฒ่าพร้อมกัน

เพียงแต่ว่าหลิวสือหนีไปได้เสียแล้ว

หลิงฮันครุ่นคิดชั่วครู่และล้มเลิกความคิดที่จะไล่ตาม อีกฝ่ายมีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์หอคอยที่มีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยม หากจะทำลายหอคอยนั่นเขาจำเป็นต้องใช้ดาบอสูรนิรันดร์โจมตีนานพอสมควร ซึ่งอีกฝ่ายคงไม่นั่งนิ่งเฉยๆให้เขาทำลายการป้องกันของตัวเองแน่

แต่ที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองเขี้ยวหมาป่าด้วย

“เอาเถอะ ปล่อยงูไปหนึ่งตัวเพื่อให้ล่อตัวอื่นๆย้อนกลับมา ใช้โอกาสนี้ในการสังหารพวกมันเพิ่มแล้วกัน” หลิงฮันกล่าวในใจ ใครจะเป็นเหยื่อหรือใครจะเป็นผู้ล่านั้นไม่สำคัญ

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ทุกๆสามเดือนพลังของข้าจะยกระดับขึ้นอย่างมาก ขอเวลาครึ่งปีข้ามั่นใช้ว่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดชั้นสูงสุดจะต้องถูกสังหารด้วยดาบข้า”

ตอนนี้เขาสามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดด้วยการพึ่งพาบุปผาหมอกครอบงำจิตเพียงอย่างเดียว แต่ตราบใดที่ระดับพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นอีกนิด การสังหารศัตรูเช่นนั้นด้วยมือตัวเองจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

“ที่อื่นอาจจะมีศิลาวิญญาณปฐพีอยู่อีกก็ได้ ข้าเป็นคนที่มาบนดินแดนนี้จากการเปิดสวรรค์ ด้วยพรจากสวรรค์และปฐพีวาสนาของข้าจึงยิ่งใหญ่กว่าคนทั่วไป”

สำหรับหลิงฮัน การดูดซับผลึกก่อเกิดเพื่อบ่มเพาะพลังนั้นไม่รวดเร็วเท่าการดูดซับพลังงานจากเม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง ดังนั้นหากให้เขาบ่มเพาะพลังด้วยผลึกก่อเกิดไปก็เสียเวลา ดังนั้นสิ่งที่เขาจะทำคือหลอมเม็ดยา เดินตระเวนหาศิลาวิญญาณปฐพีและสังหารสิ่งมีชีวิตใต้พิภพ

วาสนาของเขายิ่งใหญ่อย่างที่ว่า เขาเดินตระเวนไปมาและพบศิลาวิญญาณปฐพีมาพอสมควร แต่พวกมันมีขนาดเท่านิ้วก้อยเท่านั้น มันเทียบกับศิลาวิญญาณปฐพีก้อนใหญ่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แม้แต่หนึ่งในร้อย

“ดูเหมือนดวงข้าจะหมดซะแล้ว!”

หลิงฮันถอนหายใจ

……

หลังจากหลิวสือกลับไปยังเมืองเขี้ยวหมาป่า เขาได้เรียกรวมพลคนของนิกายดาบสวรรค์และรายงานเรื่องที่ว่าเขาได้พบเจอหลิงฮันและศิษย์ร่วมนิกายได้ถูกสังหาร นอกจากนี้เขายังรายงานส่งข่าวไปยังนิกายดาบสวรรค์ด้วย

เขาเน้นย้ำว่าต่อให้หลิงฮันจะเป็นมดปลวกที่มาจากโลกใบเล็ก แต่อีกฝ่ายเป็นสัตว์ประหลาดที่เติบโตด้วยการบ่มเพาะพลังเพียงไม่เกินสิบเท่านั้น

ศัตรูเช่นนี้… จำเป็นต้องจัดการด้วยพลังทั้งหมดที่มี ไม่เช่นนั้นนิกายดาบสวรรค์จะตกอยู่ในวิกฤตครั้งใหญ่

หลังจากได้รับฟังเรื่องราวแล้ว ทางฝั่งนิกายดาบสวรรค์ได้เห็นด้วยกับความคิดของหลิวสือ พวกเขาตัดสินใจรวมกำลังทั้งห้านิกายเพื่อไล่ล่าหลิงฮัน แต่ก็ยังมีบางคนที่คิดว่าหลิวสือนั้นกล่าวเกินจริง

ตั้งแต่หลิงฮันเปิดสวรรค์ขึ้นมาเวลายังไม่ผ่านไปสิบปีเลย อีกฝ่ายจะเป็นภัยคุกคามได้อย่างไร?

ล้อเล่นรึเปล่า? เวลาเพียงสิบปี สำหรับจอมยุทธระดับพระเจ้าแม้แต่จะยกระดับพลังเพียงน้อยนิดยังทำไม่ได้เลย แค่อีกฝ่ายทะลวงผ่านมายังระดับพระเจ้าได้ก็ถือว่าน่าอัศจรรย์แล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะบรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นกลาง?

สุดท้ายแล้ว เมื่อปรมาจารย์ที่เก็บตัวฝึกฝนมานานหลายปีรับรู้ข่าวนี้ การประชุมก็ถูกจัดสินและลงมติว่านิกายดาบสวรรค์จะทำการเรียกรวมอีกสี่นิกายเพื่อไล่ล่าหลิงฮันทันที