บทที่ 1827 ทิวทัศน์ข้างนอกงดงามเหลือเกิน
“อา” หญิงสาวหลับตาลงและยิ้มออกมาอย่างนิ่มนวล ปลายขนตางอนงามเชิดขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างเหน็บแนมสามส่วนใจลอยเจ็ดส่วน “มาเร็วจัง? เร็วกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก”
ในเวลานี้ชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงอื่นใดแล้ว ได้ยินเพียงเสียงที่มาจากการเผยอริมฝีปากของหญิงสาวเท่านั้น
หญิงสาวยิ้มและพูดต่ออย่างเหนื่อยหน่าย “ฉันคิดว่าคุณคงจะรอจนถึงงานแต่งของฉัน ไม่ก็งานดื่มเหล้าครบเดือน ของลูกฉัน หรือไม่ก็…โผล่มาตอนที่ฉันท้องลูกคนที่สอง?”
ซือเยี่ยหานพูดไม่ออก
เมื่อหญิงสาวพูดจบ ดวงตาเย็นชาของชายหนุ่มก็หรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด “ต้องมาอยู่แล้ว”
เพราะไม่ว่าจะเป็นงานแต่งของเธอ งานดื่มเหล้าครบเดือนของลูกเธอ หรือเธอจะท้องลูกคนที่สอง ก็ทำได้แค่กับฉันคนเดียวเท่านั้น
แม้ว่าชายหนุ่มจะพูดข้าม และพูดแบบครึ่งๆ กลางๆ เหมือนเช่นเคย แต่เยี่ยหวันหวั่นก็เข้าใจในคำพูดค้างๆ คาๆ ของเขาอยู่ดี “คุณซือ อย่ามั่นใจเกินไปหน่อยเลย” เธอเอ่ยตอบอย่างแผ่วเบา
“ช่วงก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันออกตามหาคุณ ฉันไปมาหลายที่ เวลาหดหายไปบางส่วน จู่ๆ ฉันก็พบว่าฉันเคยนั่งดูท้องฟ้าโดยคิดว่าท้องฟ้าข้างบนนั้นงดงามที่สุด ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่าทิวทัศน์จากโลกภายนอก…ช่างงดงามเหลือเกิน…”
ชายหนุ่มจดจ้องหญิงสาวที่ยิ้มจนตาหยีด้วยใจที่ทั้งรักทั้งเกลียด เขาลดเสียงลงเล็กน้อยพร้อมกับก้าวเข้าไปหาหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม “จริงเหรอ? ที่ทิวทัศน์ข้างนอกสวยงามมาก…”
ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวเข้ามา ดวงตาดุจดังจักรวาลทางช้างเผือกก็แทรกซึมไปทุกอณูของความรู้สึก จนแทบจะทำลายพลังของเธอในทันที หลังจากแอบกระซิบคำสาปแล้ว หญิงสาวก็รีบถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงกลยุทธ์สาวงามของชายหนุ่ม
ในตอนนี้ โจวเทาก็โผล่เข้ามาและเอ่ยอย่างระแวดระวังว่า “อะแฮ่ม ประธานเยี่ย ตอนนี้นักข่าวและแฟนคลับเริ่มมาออกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณ…คุณกับประธานซือควร…”
ควรไปหาที่พลอดรักกันที่อื่นดีไหม?
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองโจวเทาแล้วกระแอมไอเบาๆ “รู้แล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นและซือเยี่ยหานถูกคุ้มกันออกมาจากฝูงชนโดยบอดี้การ์ดหลายคน ด้านหลังมีกู้เยว่เจ๋อที่ยืนหน้าซีดกับฉากขอแต่งงงานที่แสนโรแมนติก และเยี่ยอีอีที่ถูกบรรดานักข่าวรายล้อม…
แม้บรรดาผู้บริหารระดับสูงในบริษัทของเยี่ยหันหวั่นกับซือเยี่ยหานจะชอบซุบซิบนินทากันมาก แต่ก็รู้ว่าเวลานี้ไม่เหมาะที่จะอยู่เป็นก้างขวางคอ ดังนั้นจึงทยอยกันออกไป มีเพียงชีซิงและเป่ยโต่วที่คอยติดตามเยี่ยหวันหวั่นเพื่อคอยคุ้มกันเท่านั้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ณ คฤหาสน์อันเงียบสงบแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
เยี่ยหวันหวั่นไม่เคยมาที่นี่ อาจจะเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งของซือเยี่ยหาน
เยี่ยหวันหวั่นขอให้เป่ยโต่วกับชีซิงรออยู่ด้านนอก
เป่ยโต่วเดินตามมาด้านหลัง และแอบพึมพำกับชีซิง “เหล่าชี แกว่า สองคนนี้หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ ตกลงพี่เฟิงชอบซือเยี่ยหาน หรือว่านายแห่งอาชูร่ากันแน่?”
“ตอนที่พี่เฟิงอยู่ที่ประเทศจีนก็เป็นแฟนกับซือเยี่ยหาน…เหมือนฉันจะพบอะไรบางอย่างแล้ว เพราะฉะนั้น พี่เฟิงรู้จักกับซือเยี่ยหานคนนี้มาก่อน ถ้างั้นนายแห่งอาชูร่าก็มาแทนที่ผู้ชายคนนี้เหรอ?” เป่ยโต่วกล่าว
“แป๊ปๆๆๆ ฉันพบอะไรอีกอย่าง! พี่เฟิงรักกับผู้ชายธรรมดาๆ ในประเทศจีน! การเข้าไปพัวพันแบบนี้กว้างเกินไปไหม? ถ้างั้นที่พี่เฟิงหายตัวไปนานแล้วมาโผล่ที่จีน หรือว่าเบื่อที่จะวิ่งเล่นในรัฐอิสระแล้ว ก็เลยมาที่จีน?” เป๋ยโต๋วพูดต่อ
“เดี๋ยวๆๆๆๆๆ ฉันเจออะไรอีกอย่าง ถ้างั้นการที่พี่เฟิงกลับมาจีนครั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อมาสานสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้หรือเปล่า?”
“หุบปาก” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“อึก…” เป่ยโต่วจึงเงียบ
————————————————————
บทที่ 1828 คนที่รักที่สุด
ในที่สุดห้องรับแขกก็เหลือแค่เธอและซือเยี่ยหานเพียงสองคน หลังจากเข้ามาภายในห้องรับแขกแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เอนกายลงบนโซฟา
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังถอดสูทออกแล้วแขวนไว้ที่ตู้เก็บเสื้อผ้า ปลดกระดุมปลายแขนเสื้อ แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาว “จะดื่มอะไรดี?”
เยี่ยหวันหวั่นจ้องไปที่ใบหน้าอันสงบนิ่งของชายหนุ่มแล้วส่งเสียงจิ๊ออกมา “ไม่เจอกันตั้งนาน จะไม่สานสัมพันธ์อะไรกันหน่อยเหรอ?”
เขาให้ความร่วมมือได้ “ถ้าคุณต้องการ” ซือเยี่ยหานตอบ
ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นพลันมืดลง และหมดความสนใจเรื่องเสน่หากับฝ่ายตรงข้ามในทันที หญิงสาววางมือลงเละเอนหลังพิงโซฟา “ทำไมต้องเปลี่ยนความทรงจำของฉันด้วย?”
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ซือเยี่ยหานก็ชะงักไปเล็กน้อย
ดูเหมือนเธอจะรู้ความจริงแล้ว…
“เธอรู้แล้วเหรอ” ซือเยี่ยหานเอ่ย
เยี่ยหวันหวั่นมองชายหนุ่มที่ยังไงก็ดูไม่เปลี่ยนไปเลย ในแววตาของเขามีความโกรธเคืองอยู่ในนั้น
ไม่ตื่นตระหนก ไม่รู้สึกผิด ราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ
เธอตามหาเขามานานแสนนาน สืบหามานาน อยากรู้สาเหตุ อยากรู้ว่าทำไม แต่สิ่งที่เธอได้รับคือท่าทางที่ดูดายแบบนี้
“เพราะอะไร อธิบายฉันมาสิ!” เยี่ยหวันหวั่นถาม
นัยน์ตาอันสดใสของหญิงสาวตอนนี้ราวกับมีดวงไฟแผดเผา “ซือเยี่ยหาน มันเนิ่นนานมาขนาดนี้แล้ว คุณเห็นฉันเป็นอะไรเหรอ”
เธอคิดว่า เธอรู้จักเขาดีแล้วในชีวิตนี้ เข้าใจเขา เธอคิดว่าก่อนหน้านี้เธอเข้าใจผิดเสียอีก ยังคิดว่าตัวเองรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองไม่เคยรู้จักเขาดีเลย
“คนที่รักที่สุด” ซือเยี่ยหานตอบ
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นได้ยินคำนี้ก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา “ซือเยี่ยหาน ถึงตอนนี้แล้วยังพูดแบบนี้อีก คุณไม่คิดว่ามันตลกเหรอไง การรักใครสักคนต้องทำลายการมีอยู่ของเขางั้นเหรอ? เปลี่ยนเขาให้เป็นคนอื่น เปลี่ยนให้ไปเป็นทาสของตัวเองเหรอ”
เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของหญิงสาว ชายหนุ่มที่เหมือนสระน้ำนิ่งก็เอ่ยอีกว่า “เยี่ยหวันหวั่นเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุดจริงๆ”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว ตอนแรกคิดจะพูดแต่กลับนึกอะไรขึ้นมาได้ “คุณหมายความว่า…คนที่คุณรัก…คือเยี่ยหวันหวั่น …ไม่ใช่ฉัน ใช่ไหม?”
ถ้าเป็นแบบนั้น ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลแล้ว
คนที่ซือเยี่ยหานชอบก็คือเยี่ยหวันหวั่น และคนที่เขารักก็คือเยี่ยหวันหวั่น แต่เยี่ยหวั่นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ดังนั้นเขาจึงไม่รีรอที่จะหาคนที่คล้ายคลึงกับเยี่ยหวันหวั่นและเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นเยี่ยหวันหวั่นแทน…
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ตกใจ
“หึ ถ้างั้น ฉันก็เป็นแค่ของทดแทนตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหม?”
คำอธิบายนี้ไร้ที่ติจริงๆ
“ของทดแทน?” ซือเยี่ยหานมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาที่อธิบายไม่ถูก “ความคิดเธอน่าสนใจมาก”
เมื่อได้ยินคำพูดของซือเยี่ยหาน เยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณพยายามจะพูดอะไรกันแน่”
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นคิดว่า คนที่ซือเยี่ยหานรักก็คือเยี่ยหวันหวั่นแห่งตระกูลเยี่ยที่ตายไปนานแล้ว แต่เนื่องจากหน้าตาของพวกเธอคล้ายกัน จึงล้างความทรงจำของเธอและเปลี่ยนให้มาทดแทน แต่คำตอบของซือเยี่ยหานกลับไม่เป็นเช่นนั้น
หากเป็นเช่นนี้ ทำไมซือเยี่ยหานต้องลบความทรงจำของเธอด้วย
“ฉันจะเล่าเรื่องอะไรให้เธอฟัง”
ซือเยี่ยหานนั่งลงบนโซฟาและเอ่ยเบาๆ “ที่จริงแล้วตระกูลซือในประเทศจีนเป็นเพียงสาขาเล็กๆ ที่ถูกทิ้งร้าง…และสำนักงานใหญ่ที่แท้จริงของตระกูลซืออยู่ในสถานที่ที่เรียกว่ารัฐอิสระ”
…………………………………………………