บทที่ 962 ดวงจิตวิญญาณดวงที่สอง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

หลังจากงานประมูลเสร็จสิ้นได้ไม่นาน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อมแหวนมิติ สะบัดหางงูมาตรงหน้ากู้ชูหน่วน มันเอาแหวนมิติให้กับกู้ชูหน่วนอย่างกับยื่นสิ่งของล้ำค่าให้

กู้ชูหน่วนลูบแหวนมิติอย่างอ่อนโยน แล้วก็สวมแหวนมิติบนนิ้วกลางอย่างอัตโนมัติ

แหวนวงนี้ทำให้นางมีความรู้สึกคุ้นเคยมาตลอด รู้สึกสนิทสนม ราวกับถูกปกป้อง ราวกับเดิมก็เป็นของนาง

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้าทำได้ดีมาก ยกหัวหมู่ในเจ้าหนึ่งตัว ค่ำๆข้าย่างให้เจ้ากิน”

“ซี๊ดๆ….นายหญิงย่างให้เยอะหน่อยได้ไหม เพื่อให้ได้แหวนวงนี้มา เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ต้องใช้พละกำลังมหาศาล”

“มีหนึ่งหัวก็ไม่เลวแล้ว ยังจะต่อรอง”

กู้ชูหน่วนเขกหัวมันหนึ่งทีอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็ถอดแหวนวงที่ขโมยมาจากหอสมบัติออกมา

แหวนมิติ นางมีวงเดียวก็เพียงพอแล้ว

กู้ชูหน่วนพูดขึ้นว่า “แหวนมิติวงนี้ ข้ายิ่งดูก็ยิ่งชอบ หรือว่าเมื่อภพที่แล้วข้าเป็นเจ้าของแหวนมิติวงนี้”

ไม่ไกลออกไป หัวใจเย่จิ่งหานที่นั่งอยู่บนรถเข็นเต้นแรง มือทั้งคู่คว้าจับที่วางมือไว้แน่น

เดิมภพที่แล้วนางก็คือเจ้าของแหวน

อาหน่วน นาง…..คิดอะไรขึ้นมาได้หรือ?

เย่จิ่งหานมองดูกู้ชูหน่วนอย่างตื่นเต้น อยากดูว่านางจะสามารถคิดอะไรออกอีกบ้างไหม แต่เสียดายนางไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย

แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์คลอเคลียอยู่นาง ออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของนางตลอด ทำให้เจ้าเสือน้อยไม่พอใจอย่างมาก งูตัวหนึ่งเสือตัวหนึ่ง เริ่มหึงหวงกันขึ้นมาอีกแล้ว

เจี่ยงเสวียพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนี้เพื่อหลบหนีการตามฆ่าของตระกูลไป๋หลี่ หลบเข้าไปในหอสมบัติ หลังจากเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เห็นแม่นางมู่ก็พัวพันอยู่กับนางตลอด ข้าน้อนเดาว่า น่าจะเป็นเพราะในร่างกายของนางมีดวงจิตของพระชายาหนึ่งดวงจิต เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จึงติดตามนางอยู่ตลอด กระทั่งช่วยนางยึดหอสมบัติ”

“แหวนมิติ นางเป็นคนให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาหลอกมา เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์…..รับปากว่าหลังจากได้แหวนแล้วจะเซ็นสัญญาผูกพันกับตระกูลไป๋หลี่ แต่หลังจากได้แหวนมาแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็หลบหนีไป ตอนนี้คนของตระกูลไป๋หลี่ล้วนกำลังตามหาเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ แม้แต่หัวหน้าตระกูลไป๋หลี่ก็โกรธโมโหจนสลบไป”

“ท่านอ๋อง เราจะเรียกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลับมา แล้วเอาแหวนมิติกลับคืนมาไหม?”

เย่จิ่งหานเงียบ จ้องมองดูกู้ชูหน่วนเพียงอย่างเดียว

เห็นกู้ชูหน่วนใช้พลังจิตของตน เปิดแหวนมิติ เอาสิ่งของในแหวนมิติออกมา

เมื่อก่อนแหวนมิติของกู้ชูหน่วน เก็บสะสมสิ่งของล้ำค่าไว้เยอะมาก ตอนนี้ในแหวนมิติไม่มีอะไรเลย มีเพียงขนมดอกไม้

ขนมดอกไม้ดูเหมือนจะถูกเก็บไว้นานมากแล้ว มีหลายรสชาติมากมาย ขนมดอกไม้ทุกชิ้นยังรักษาไว้เหมือนเดิม ยังมีกลิ่นหอมโชยออกมาด้วย

มองเห็นขนมดอกไม้ที่ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลก กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว ดวงตาแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว น้ำตาก็ร่วงไหลลง

“นายหญิง ท่านเป็นอะไร?” เจ้าเสือน้อยเห็นแล้วก็ไม่หึงหวงกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อีก ยื่นมือเสือออกมา ช่วยเช็ดน้ำตาให้กับกู้ชูหน่วน

กู้ชูหน่วนเช็ดเองอย่างขอไปที เช็ดน้ำตาที่ร่วงไหลทิ้งไป

“น่าแปลก เห็นขนมดอกไม้พวกนี้ ในใจกลับรู้สึกทรมาน ยังน้ำตาไหลอย่างไม่รู้ตัว เจ้าว่าเจ้าของแหวนทำไมไม่เก็บอะไร กลับเก็บแค่ขนมดอกไม้? หรือว่าเมื่อก่อนเจ้าของแหวนเป็นคนกินเก่ง?”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ร้องซี๊ดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

นั่นคืออี้เฉินเฟยทำให้นางกินก่อนตาย นายหญิงเห็นเป็นสิ่งของล้ำค่ามาตลอด แม้แต่ชิ้นเดียวก็ไม่กล้ากิน ยังใช้วิชาอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองปิดผนึกไว้ในแหวนมิติ นอกจากตัวนางเอง ไม่มีใครเอาออกมาได้

ถึงแม้ตอนนี้นางสูญเสียความทรงจำ แต่บางอย่างที่จดจำไว้ในใจ ยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จึงรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

เย่จิ่งหานรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

อาหน่วน…

อาหน่วนกำลังทุกข์ทรมานหรือ?

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียก็ตื่นเต้น

ตั้งนานหลายปีขนาดนั้น ดวงจิตวิญญาณของพระชายาไม่มีความเคลื่อนไหวมาตลอด

คิดไม่ถึงว่าวันนี้กลับ….กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองบ้าง

สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งตื่นเต้นก็คือ

มีดวงจิตวิญญาณดวงหนึ่งของกู้ชูหน่วน ถูกกลิ่นหอมของขนมดอกไม้ดึงดูดมา โอบล้อมขนมดอกไม้กับกู้ชูหน่วนไม่หยุด สุดท้ายก็แทรกซึมเข้าไปตรงหว่างคิ้วกู้ชูหน่วน

กู้ชูหน่วนพรวดกระโดดขึ้นมา

“ดวงจิตวิญญาณของผู้หญิงคนนั้น ทำไมถึงได้เข้ามาในร่างกายของข้าอีกแล้ว? นางจะไม่แทนที่ดวงจิตวิญญาณของข้าใช่ไหม”

เจ้าเสือน้อยมึนงง

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลับส่ายหางอย่างตื่นเต้น

“นายหญิง…..นายหญิง…..”

หัวใจเย่จิ่งหานเต้นแรงจนจะกระเด็นออกมาแล้ว

หากไม่ใช่เพราะเขาพยายามอดกลั้นไว้ คงกระโจนเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว

ดวงจิตวิญญาณอีกดวงหนึ่งของอาหน่วน

ผู้หญิงคนนี้สามารถดึงดูดดวงจิตวิญญาณของอาหน่วน

นี่เป็นเวลาเพียงไม่กี่วันเอง

นางสามารถที่จะรวบรวมดวงจิตวิญญาณทั้งหมดของอาหน่วนได้จริงๆหรือเปล่า

“นายท่าน ให้ข้าน้อยพาท่านลงไปไหม?”

“ไม่ รอดูก่อนว่านางสามารถดึงดูดดวงจิตวิญญาณดวงอื่นของอาหน่วนได้ไหม”

ความผิดหวังภายในใจเย่จิ่งหานเกิดมีความหวังขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ชิงเฟิงเจี่ยงเสวีย ส่งยอดฝีมือของเราที่อยู่ในแผ่นดินปิงหลิง จับตาดูมู่หน่วนให้ดี หากนางดึงดูดดวงจิตวิญญาณของอาหน่วนมาอีก ต้องแจ้งให้ข้ารู้เป็นอันดับแรก”

“ท่านไม่ลงไปดูนางหรือ?”

“ไม่ล่ะ ดวงจิตวิญญาณของอาหน่วนอยู่ในมือของข้าตั้งนานหลายปีขนาดนั้น ดวงจิตวิญญาณดวงสุดท้ายที่หายไปนั้นไม่สามารถสัมผัสได้มาตลอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะกลับมา แม้แต่ในฝัน นางก็ไม่เคยมาหาข้า บางที….ภายในใจของนางยังโกรธเคืองข้า”

โกรธเคืองที่ข้าไม่สามารถปกป้องซือโม่เฟยไว้ได้

ซือโม่เฟย…

คิดถึงจอมมาร ในใจเย่จิ่งหานเจ็บปวดขึ้นมาทันที

ตอนนั้นสุดยอดผู้อาวุโสใช้กำลังทั้งหมดที่มี กระทั่งเสียสละชีวิตของตนเอง ค่อยสามารถรักษาชีพจรของจอมมารไว้ได้ ไม่ให้เขาถึงขาดใจ

แต่จอมมารก็ไม่ฟื้นขึ้นมา เป็นเหมือนคนนิทรา

แบบนี้ก็ช่างเถอะ

หลังจากจอมมารนอนหลับไปสองปี เขาได้รับข่าวว่า จู่ๆจอมมารก็หายไป

ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน

หรือว่าใครขโมยเขาไปในขณะที่หลับอยู่

เผ่าหยกกับเขาส่งคนที่ฝีมือดีที่สุดออกไปตามหาเป็นปี

สุดท้าย….

ตามหาจอมมารไม่เจอ

การหายสาบสูญนางเขาเป็นเหมือนอย่างปริศนา

ราวกับอยู่ๆก็หายไป ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเลย

เย่จิ่งหานจากไปอย่างโศกเศร้า

ดวงจิตวิญญาณสองดวงเข้าสู่ร่างกายกู้ชูหน่วน ทำให้เย่จิ่งหานตัดสินใจ จะปกป้องผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้

หลังจากเย่จิ่งหานไปแล้ว กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจว่าทำไมดวงจิตวิญญาณดวงนั้นถึงเข้ามาอยู่ในร่างกายของนาง

แต่ก็ไม่คิดมาก สายตามองไปที่ขนมดอกไม้

“พวกเจ้าว่าขนมดอกไม้ถูกเก็บไว้ตั้งนานหลายปีขนาดนั้นแล้ว ยังจะกินได้ไหม?”

“โฮ่กๆ….”

เจ้าเสือน้อยไม่เกรงใจ ยกอุ้งเท้าเสือขึ้นมาคิดอยากกินสักชิ้น

กู้ชูหน่วนปัดอุ้งเท้าของมันอย่างไม่เกรงใจ

“นี่เป็นของข้า เจ้ากินทำไม หลีกไป”

“นายหญิง ขนมดอกไม้เยอะแยะขนาดนั้น คนอื่นก็อยากกิน”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่ายหางพร้อมหัวเราะเย้ย

“ฝันไปเถอะ นายหญิงไม่มีทางให้เจ้ากินขนมดอกไม้หรอก แม้แต่ข้ายังไม่มีสิทธิ์ เจ้ามีหรือ?”

“…”