ไม่ว่าเส้นไหมลำแสงห้าสีหรือว่าอสรพิษสายฟ้ากลางอากาศสูง หลังจากถูกระลอกคลื่นเสียงสีดำม้วนวนเข้าไป ก็ส่งเสียงอึกทึกแล้วสลายหายไปในพริบตา

จากนั้นชายร่างยักษ์ก็ร้องตะโกนด้วยเสียงอันดัง มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นระลอกคลื่นสีดำทั่วทั้งฟ้าก็พุ่งมาที่ใจกลางฝ่ามือหม่นแสงลง ฉับพลันนั้นก็กลายเป็นเงาลวงตากิเลนกระโจนออกมา

เงาลวงตากิเลนยังไม่ทันได้กระโจนลงมาจริงๆ พายุทมิฬเย็นเยียบก็ม้วนวนลงไป

ทุกแห่งที่พายุทมิฬพัดผ่านไป อากาศพลันบิดเบี้ยวเลือนราง คาดไม่ถึงว่าจะดูเหมือนทำให้อากาศแข็งตัวก็ไม่ปาน

หานลี่หน้าเปลี่ยนสีแค่ใช้นิ้วหนึ่งชี้ไปกลางอากาศ

เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น!

เปลวเพลิงสีเงินกลุ่มหนึ่งบินออกมาจากปลายนิ้ว หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็กลายเป็นวิหคเพลิงยักษ์ อ้าปากพ่นใส่อากาศสูง

เสาลำแสงสีแดงสดพวยพุ่งขึ้นไป ชั่วพริบตาก็ทะลวงผ่านเงาลวงตากิเลน ทำให้ร่างของเขามีรูขนาดเท่าปากชามปรากฏขึ้น

เงาลวงตากิเลนแค่นเสียงหึ ร่างและพายุทมิฬเย็นเยียบที่สร้างขึ้นถูกทำลาย

และวิหคเพลิงสีเงินก็สะบัดหัว พ่นเสาลำแสงสีแดงสายหนึ่งใส่ชายร่างยักษ์

เสาลำแสงสีแดงสดรวดเร็วเป็นอย่างมาก แค่กะพริบวาบก็มาอยู่ตรงหน้าชายร่างยักษ์

แต่ชายร่างยักษ์กลับอ้าปากออก คาดไม่ถึงว่าจะดูดเสาลำแสงเข้าไปในทรวงอก และปากก็เอ่ยออกมาว่า “รสชาติไม่เลว!””

กลุ่มผู้บำเพ็ญเพียรที่อยู่ด้านล่างเห็นเช่นนั้น ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้

แต่หานลี่กลับหัวเราะออกมา

“คู่ควรกับที่เป็นสิ่งมีชีวิตระดับมหายาน จากนี้ก็ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ใช้อิทธิฤทธิ์ที่แท้จริงเลย พวกเรามาตัดสินกันเถิด”

“ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”

ชายร่างยักษ์ถูกท่าทางของหานลี่ทำให้โกรธเกรี้ยว ใบหน้าโหดเหี้ยมปรากฏขึ้น อ้าปากออกแล้วพ่น

พยัดหยกสีเขียวมรกตออกมา หลังจากใช้มือตะปบไว้ ผิวก็มีรัศมีลำแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมา ชั่วพริบตาก็ขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นคนยักษ์ขนาดสองสามร้อยจั้ง

และพัดในมือของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นเช่นกัน พอขยายใหญ่ขึ้นก็มีขนาดยักษ์ถึงร้อยจั้ง

ผิวของพัดยักษ์มีสีเขียวมรกต อักขระยันต์สีทองเงินจำนวนนับไม่ถ้วนสลักอยู่ ไหลวนโคจรไปมา แบ่งออกเป็นเจ็ดชั้น ห่อหุ้มมันเอาไว้

ดูแล้วลึกลับมาก

นกฮูกดำร้องตะโกนออกมา แขนพลันปูดโปง มือหนึ่งโบกสะบัดพัดยักษ์ กลายเป็นรัศมีลำแสงเจ็ดสีปกคลุมท้องฟ้า กดลงมาที่หานลี่และคนอื่นๆ ในจัตุรัสที่อยู่ด้านล่าง

ผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหมดในจัตุรัสเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึง ภายใต้ความตกตะลึงระคนหวาดกลัวก็ทยอยกันลงมือต้านทาน

ชั่วขณะนั้นดาบกระบี่บินจำนวนนับไม่ถ้วนและสมบัติอาคมต่างๆ ก็พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเป็นรัศมีลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนม้วนวนออกมา

ชายร่างยักษ์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเยาะเย้ย มือหนึ่งพลันชี้ไปที่พัดหยก

ปลายนิ้วมีลำแสงสีดำเปล่งแสงสว่างวาบ ไอสีดำเปล่งแสงสว่างวาบ จมหายเข้าไปในพัดอย่างไร้ร่องรอย

ชั่วขณะนั้นพัดยักษ์ส่งเสียงอึกทึกออกมา รัศมีลำแสงเจ็ดสีขยายใหญ่ขึ้น ท่าทางน่าตกตะลึง

สมบัติทั้งหมดกลายเป็นรัศมีลำแสงโจมตีด้านบน คาดไม่ถึงว่าจะจมหายไปเข้าไปในมหาสมุทรราวกับไร้รูปร่าง

ครู่ต่อมาทุกคนที่อยู่ด้านล่างถูกพัดยักษ์กลางอากาศกดลงมา ประกอบกับพลังปราณแว้งกัด คาดไม่ถึงว่าจะมีผู้ที่มีพลังยุทธ์ค่อนข้างอ่อนแอเกือบครึ่งหน้าถอดสี ทันใดนั้นก็กระอักโลหิตบริสุทธิ์ออกมา

นอกจากนี้แม้ว่าคนเหล่านี้จะฝึกระงับการแว้งกัดได้ แต่ไอโลหิตในร่างของทุกคนก็หมุนวน พลังปราณเดือดปุดๆ ไม่หยุด ไม่มีเรี่ยวแรงโจมตีย้อนกลับอันใดอีก

คาดไม่ถึงว่านกฮูกสีดำจะอาศัยแค่แรงกดผู้บำเพ็ญเพียรทั้งจัตุรัสไว้ แม้ว่าจะแค่ครู่เดียวแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนได้ยินแล้วตกตะลึง

ชายร่างยักษ์เองก็พึงพอใจ ยามที่คิดจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะร่า แต่สายตากลับตกอยู่ที่ข้างกายหานลี่ สีหน้าอดที่จะเคร่งขรึมไม่ได้

เห็นเพียงหานลี่ที่ยืนอยู่ตรงใจกลางดอกบัวยักษ์สีเขียว เรือนกายมีเปลวเพลิงสีเขียวพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้าสูงร้อยจั้ง รองรัศมีลำแสงเจ็ดสีรอบๆ เอาไว้ มองชายร่างยักษ์ด้วยท่าทีอมยิ้ม ไหนเลยจะมีท่าทีถูกผลกระทบจากการกดทับ

ชายร่างยักษ์พลันโกรธเกรี้ยว กระตุ้นอาคมทันที พัดยักษ์พันจังเบี่ยงออกข้าง รัศมีลำแสงเจ็ดสีด้านล่างส่งเสียงร้องออกมา คาดไม่ถึงว่าพลานุภาพกว่าครึ่งจะไหล่ทะลักออกมาจากหานลี่เพียงคนเดียว

รัศมีลำแสงเจ็ดสีตัดสลับกันไปมา คาดไม่ถึงว่าจะก่อตัวเป็นลูกบอลลำแสงยักษ์ลูกหนึ่งเหนือหัวของหานลี่ ท่าทางน่าตกตะลึง

หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลันหุบยิ้มบนใบหน้า แต่รูจมูกพลันแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา

“ไม่รู้จักกำลังตัวเอง!”

สิ้นเสียง อาคมก็ก่อตัวขึ้นในมือของเขา แผ่นหลังมีลำแสงสีทองทะลักออกมา เทวรูปสีม่วงทองสามเศียรหกกรปรากฏออกมา

เทวรูปนี้ไม่เพียงมีลำแสงสีม่วงทองห่อหุ้มเรือนร่างอยู่ ผิวยังมีลวดลายสีเงินปกคลุมอยู่ และเลือนรางกลายเป็นร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ราวกับเที่ยงแท้

เมื่อร่างทองปรากฏตัว แขนทั้งหกก็ขยับพร้อมกัน กรสีทองเรืองรองทั้งหกกดไปกลางอากาศ

เสียงวิหคระเบิดขึ้นกลางอากาศชั่วขณะนั้นพลันดังขึ้น!

พลังไร้รูปร่างหกกลุ่มทะลักออกมา

หลังจากเสียง “ปัง” ดังขึ้น รัศมีลำแสงก็ม้วนวนออกมา คาดไม่ถึงว่าจะถูกพลังมหาศาลหกกลุ่มกดลงมา

ชายร่างยักษ์พลันหน้าเปลี่ยนสี ปากก็ร้องคำรามต่ำๆ อย่างต่อเนื่อง สองมือถูกันไปมาแล้วยกขึ้น ชั่วขณะนั้นคาถาจำนวนมากก็จมหายไปในพัดยักษ์ราวกับห่าฝน

พัดยักษ์ถูกกระตุ้นจนสั่นเทาไม่หยุด รัศมีลำแสงหมื่นสาย แต่สุดท้ายก็ไม่อาจร่อนลงมาได้เลยสักนิด

ครานี้ชายร่างยักษ์พลันตกตะลึง แต่ไม่รอให้เขาได้มีการเคลื่อนไหวใด หานลี่กลับไม่สนใจร่างทองที่แผ่นหลัง แค่ใช้มือกวักไปทางดอกบัวสีเขียว

ชั่วขณะนั้นดอกบัวยักษ์สีเขียวใต้ฝ่าเท้าพลันระเบิดออก กระบี่ลำแสงสีเขียวเจ็ดสิบสองสายพวยพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ รวมตัวกันที่ใจกลาง กลายเป็นกระบี่ยักษ์สีเขียว และพุ่งไปหานกฮูกดำที่กลายร่างเป็นมนุษย์ยักษ์ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ พลางสับลงมา

“ลูกไม้ตื้นๆ”

มนุษย์ยักษ์ส่งเสียงหึ่งๆ แล้วม้วนวนลงมา ฝ่ามือขนาดเท่าภูเขาขนาดย่อมตะปบกระบี่ลำแสงสีเขียวเอาไว้ในมือ นิ้วทั้งห้าออกแรงบีบ

เสียง “ปัง” ดังขึ้น

กระบี่ลำแสงสีเขียวถูกบีบจนระเบิดออก

“ฮ่าๆ”

มนุษย์ยักษ์เห็นเช่นนี้ ทันใดนั้นก็หัวเราะร่าออกมา

แต่ครู่ต่อมาลำแสงสีเขียวก็ระเบิดผลึกเส้นไหมพุ่งออกมา วนล้อมรอบฝ่ามือยักษ์เอาไว้

ลำแสงสีโลหิตพ่นออกมาสูงสิบจั้งเศษ ฝ่ามือยักษ์ร่อนลงมาอย่างเงียบเชียบ

มนุษย์ยักษ์ส่งเสียงร้องคร่ำครวญ ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งโยนรีบพัดหยกออกไป ตะปบไปทางแขนขาดราวกับสายฟ้า

และในยามนั้นหานลี่ที่อยู่ด้านล่างกลับร่างกายเลือนราง คาดไม่ถึงว่าจะเปล่งแสงสว่างวาบหายไปจากที่เดิม

ครู่ต่อมาข้างแขนขาดพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น หานลี่ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ และยกมือข้างหนึ่งขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด นิ้วชี้ไปยังแขนที่ขาด

เสียงอึกทึกดังขึ้น แขนขาดกลายเป็นหมอกโลหิตระเบิดออก

“ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นชิ้น!”

นกฮูกทมิฬที่กลายเป็นมนุษย์ยักษ์เห็นเช่นนั้นดวงตาทั้งสองข้างพลันแดงก่ำ ส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น ฝ่ามือยักษ์ที่เดิมตะปบลงมาส่งเสียงหึ่งๆ คาดไม่ถึงว่าจะดีดเล็บสีเงินความยาวสองสามฉื่อห้าเล็บออกมา เมื่อนิ้วทั้งห้าหุบลง ชั่วขณะนั้นก็พากันสับลงมาราวกับใบมีดที่แหลมคมห้าเล่ม

หานลี่หัวเราะน้อยๆ ออกมา เปล่งแสงสว่างวาบไม่หลบหลีก ขยับแขนอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่าจะใช้กำปั้นโจมตีไปกลางอากาศ

ชั่วพริบตาร่างของเขาพลันมีลวดลายสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันลำแสงวิญญาณสีม่วงทองชั้นหนึ่งก็ปกคลุมทั่วเรือนร่าง

เสียง “ฟับ” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปลายเล็บแหลมคมทั้งห้ากลายเป็นใบมีดแหลมคมสับมาที่ร่างของหานลี่ คาดไม่ถึงว่าจะระเบิดลำแสงสีม่วงเจิดจ้าออกมา จากนั้นเล็บทั้งห้าก็ดีดตัวแล้วแตกออก

“อ๊าก”

ชายร่างยักษ์ร้องอุทานด้วยความตกตะลึง แทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตนเอง

เดิมเผ่าสามง่ามราตรีก็เลื่องชื่อว่ามีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง เขาที่อยู่ในฐานะระดับมหายาน สำแดงเคล็ดวิชาลับแล้ว กายเนื้อย่อมแข็งแกร่งจนถึงขีดสุด เล็บทั้งห้าผ่านการหลอมแบบพิเศษ แทบจะแหลมคมกว่าสมบัติวิเศษ แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกหานลี่ใช้กายเนื้อดีดกลับมาตรงๆ

นี่ช่างทำให้เขาไม่อาจเชื่อฉากที่เห็นเมื่อครู่จริงๆ

ทว่ายามที่นกฮูกทมิฬรู้สึกว่าแย่แล้ว และยามที่คิดจะชักมือยักษ์กลับมานั้น กลับไม่ทันเสียแล้ว

เสียงแขนระเบิดของหานลี่ดังขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะขยายใหญ่ขึ้นสองสามฉื่อ กำปั้นที่ดูเหมือนเบาหวิวแค่เลือนราง ก็โจมตีไปที่ฝ่ามือยักษ์อย่างแรง

หลังจากรัศมีลำแสงระเบิดออก ชายร่างยักษ์ก็ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง

หานลี่หัวเราะน้อยๆ ร่างกายพลิ้วไหวบินออกมาโดยไม่รู้เพราะเหตุใด และเปล่งแสงสว่างวาบมาปรากฏห่างออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง ใบหน้าแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเยาะพลางทำให้กายให้มั่นคงอีกครั้ง

แทบจะในเวลาเดียวกันรัศมีลำแสงใต้ร่างยักษ์สลายหายไป เผยฉากที่ทำให้ผู้บำเพ็ญเพียรหลายหมื่นคนดีอกดีใจอย่างบ้าคลั่งออกมา

ชายร่างยักษ์เบี่ยงกาย คราบโลหิตเป็นจ้ำๆ แค่ฝ่ามือและแขนกว่าครึ่งหายไป ส่วนที่เหลือก็มีคราบโลหิต เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

“เคล็ดวิชาหลอมร่าง คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะใช้ร่างหลอมเคล็ดวิชาลับเพื่อพัฒนาระดับมหายาน!” ชายร่างยักษ์ก้มหน้าลงมองแขนที่น่าอนาถของตนเอง ปากก็ร้องคำรามต่ำๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อออกมา ใบหน้าเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาอีกครั้ง

“เคล็ดวิชาหลอมร่าง ต่อให้เป็นเช่นนั้น ในเมื่อลงมือแล้ว สหายนกฮูกทมิฬก็อย่าเพิ่งรีบไป อยู่ที่เผ่ามนุษย์ของข้าอีกสักสองสามวันก็แล้วกัน” หานลี่หัวเราะบางๆ ออกมา แล้วเอ่ยอย่างไม่คิดเช่นนั้น

“หึ เจ้าคิดว่าแผลแค่นี้จะทำอันใดข้าได้หรือ ละครสนุกเพิ่งเริ่ม เมื่อครู่ข้าแค่ไม่ทันระวังเท่านั้น แค่ผู้ที่เพิ่งพัฒนาระดับมหายานจิ๊บจ๊อยคนหนึ่ง จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้อย่างไร” ใบหน้าของชายร่างยักษ์หน้าเปลี่ยนสีไม่แน่นอน ฉับพลันนั้นพลันเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นพลันหยักไหล่ ไอสีดำทะลักออกมาจากร่างของเขาชั่วพริบตาก็กลืนหายไปในร่างอันใหญ่ยักษ์

เสียงไผ่ระเบิดดังออกมาจากไอสีดำอย่างต่อเนื่อง

หานลี่เห็นเช่นนั้นพลันเลิกคิ้ว เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

ครู่ต่อมาไอสีดำพลันสลายออก ชายร่างยักษ์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ฝ่ามือที่เดิมถูกตัดขาและแขนที่ได้รับความเสียหาย คาดไม่ถึงว่าจะมีท่าทีไม่เป็นไรดังเก่า

เขามองไปด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมอีกครั้ง

“ร่างอมตะ! มิน่าล่ะเจ้าถึงกล้าใช้กายเนื้อรับการโจมตี ที่แท้ก็มีอิทธิฤทธิ์เพียงนี้” หานลี่ใช้สายตากวาดไปบนเรือนร่างของชายร่างยักษ์ กลับถอนหายใจเฮือกหนึ่งออกมาขณะเอ่ย

“ในเมื่อกายเนื้อของเจ้าแข็งแกร่งพอ เช่นนั้นก็ลองอิทธิฤทธิ์อื่นของข้าเป็นอย่างไร แหวกฟ้าเป็นธรณี!” ชายร่างยักษ์ร้องตะโกนเสียงเหี้ยม มือหนึ่งร่ายอาคม ร่างที่เดิมใหญ่ยักษ์ใหญ่ขึ้นสองสามส่วนราวกับถูกเป่าลม ในเวลาเดียวกันแขนข้างหนึ่งก็วาดไปกลางอากาศด้านหน้า ชั่วขณะนั้นระลอกคลื่นที่ไม่อาจอธิบายได้ก็แผ่ออกมา

“พลังของกฎเกณฑ์”

รูม่านตาของหานลี่หดเล็กลง ปากก็เอ่ยพึมพำออกมา

“เจ้ารู้ก็ดี ข้าไม่เชื่อว่าผู้ที่เพิ่งพัฒนาระดับมหายานได้จะเข้าใจพลังแห่งกฎเกณฑ์ได้เท่าใดนัก ราชานกฮูกทมิฬหัวเราะร่า นิ้ววาดออกไป กลางอากาศมีเส้นบางๆ สีดำปรากฏขึ้นเส้นหนึ่ง

จากนั้นเส้นก็เลือนราง ระหว่างฟ้าดินราวกับกลับตาลปัตร ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก พื้นดินกลับว่างเปล่า และมีลำแสงแวววาวพุ่งออกมา