เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1916 ภารกิจสุดท้าย
ถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า
ฟางหยวนและเฉินกงเจิ้งยืนมองแต้มบุญของตนอยู่ด้านหน้าหอคอยเกียรติยศ
ภารกิจเกี่ยวกับเพลิงสีดํายังอยู่แต่พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายที่พวกเขาจะสามารถอยู่ที่นี่
แต้มบุญของฟางหยวนอยู่ด้านบนสุด เขามีแต้มบุญจํานวนมาก
เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆทํางานร่วมกับเขาและได้แต้มบุญมากมายเช่นกัน
หลังจากตระหนักถึงความยากของภารกิจระดับสุดยอด เฉินกงเจิ้งและคนอื่นๆเริ่มเรียนรู้จากฟางหยวน นั่นทําให้แต้มบุญของพวกเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“สามร้อยวันผ่านไปแต่ข้ารู้สึกราวกับพวกเราพึ่งเข้ามาเมื่อวาน” เฉินกงเจิ้งเผยรอยยิ้มขมขึ้น
ที่นี่เป็นดินแดนแห่งขุมทรัพย์อย่างแท้จริง ด้วยการทําภารกิจต่างๆให้สําเร็จ ผู้อมตะสามารถได้รับวิญญาณอมตะ เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ หรือท่าไม้ตายอมตะต่างๆ กระทั่งผู้อมตะระดับแปดเช่นเฉินกงเจิ้งยังไม่ต้องการจากไป
แต่เขาไม่มีทางเลือก เมื่อถึงเวลาที่กําหนด พวกเขาจะถูกขับไล่ออกจากถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า
“น่าเสียดายที่ครั้งนี้เราไม่สามารถสํารวจความลับทั้งหมดของถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า” ฟางหยวนถอนหายใจ
มีสิ่งลึกลับอีกมากมายเกี่ยวกับสวรรค์มังกรฟ้า
เพลิงสีดําเป็นเพียงหนึ่งในนั้น
เพลิงสีดํามาจากที่ใด? มันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้อย่างไร? เหตุใดมันจึงไม่สามารถระบุเส้นทาง? แล้วเหตุใดวิธีบนเส้นทางมนุษย์จึงมีประสิทธิภาพในการต่อต้านมัน?
นอกจากเพลิงสีดํา กระดูกสันหลังสวรรค์ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพมาจากที่ใด? เจตนาที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพคือสิ่งใด?
เทพอมตะสวรรค์พิภพและเฉินซานทําข้อตกลงใดไว้ในอดีต? เฉินซานบ่มเพาะอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลแต่เหตุใดเขาจึงถูกคุกคามโดยเพลิงสีด่า?
นอกเหนือจากเฉินซาน ฟางหยวนไม่พบผู้อมตะคนอื่นอยู่ที่นี่อีก ไม่มีผู้อมตะอยู่ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า ตั้งแต่แรกงั้นหรือ? แล้ววิญญาณอมตะในหอคอยเกียรติยศมาจากที่ใด? หากพวกมันปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติจํานวนของพวกมันก็มีมากเกินไป
หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เฉินกงเจิ้งก็เปิดปากกล่าว “เราต้องทิ้งความลับเหล่านี้ให้เป็นเรื่องของอนาคต เราแลกเปลี่ยนป้ายตําแหน่งเรียบร้อยแล้ว เมื่อวาฬมังกรฟ้าปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอนาคต เราจะตระหนักถึงมันและสามารถมาสํารวจได้อีกครั้ง”
ฟางหยวนพยักหน้า นี่เป็นการค้นพบที่ดี
เป็นเช่นที่เขาอนุมานไว้ เหตุผลที่เมี่ยวหมิงเฉินสามารถระบุตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้าเนื่องจากป้ายตําแหน่ง
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือผู้ใดส่งมอบป้ายตําแหน่งให้กับเมี่ยวหมิงเฉินอย่างลับๆ
ท่ามกลางป้ายตําแหน่งทั้งหมดของหอคอยเกียรติยศ มีป้ายตําแหน่งเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถโอนถ่ายกรรมสิทธิ์
นอกจากนี้มันยังมีป้ายตําแหน่งที่สามารถระบุสถานที่ใดก็ได้ในรัศมีหนึ่งแสนเมื่อพวกเขาออกจากวาฬมังกรฟ้า
นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนเคยโกหกกลุ่มของเมี่ยวหมิงเฉินแต่มันกลับมีอยู่จริง
เป็นเพียงเวลานี้ที่ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นขณะที่ภารกิจอื่นหายไปทั้งหมด
ภารกิจสุดท้าย ไปกับวาฬมังกรฟ้าและกลับมา
“นี่คือ…” เฉินกงเจิ้งอ้าปากค้าง
ฟางหยวนขมวดคิ้ว “มันคือภารกิจสุดท้ายงั้นหรือ? คําอธิบายค่อนข้างคลุมเครือมาก ข้าเกรงว่ามันจะยากกว่าภารกิจกําจัดเพลิงสีดํา
ทันใดนั้นข้อความใหม่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เฉินกงเจิ้งอ่านมันด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ “ภารกิจนี้ไม่กําหนดเวลา หลังจากรับมันแล้วจะสามารถอยู่ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าได้อย่างไม่มีกําหนด หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสุดท้าย คนผู้นั้นจะมีคุณสมบัติเป็นเจ้าของหอคอยเกียรติยศ”
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาคิด ‘เทพอมตะสวรรค์พิภพจัดเตรียมสิ่งนี้ไว้เพื่อคัดเลือกเจ้าของหอคอยเกียรติยศคนใหม่ แต่น่าเสียดาย…’
ฟางหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
เขารู้วิธีรับสืบทอดหอคอยเกียรติยศแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของเขามีจํากัด เขาไม่สามารถทําภารกิจดังกล่าว
เห็นได้ชัดว่าภารกิจนี้ยากกว่าภารกิจก่าจัดเพลิงสีดํา กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังแทบไม่มีความหวัง
นี่เป็นเรื่องง่ายที่จะอนุมาน
มีผู้อมตะคนอื่นๆเคยมายังถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าก่อนกลุ่มของฟางหยวน บางคนอาจเลือกรับภารกิจนี้ แต่หอคอยเกียรติยศยังอยู่ในสภาพที่ไร้เจ้าของมาถึงปัจจุบัน นี่หมายความว่าไม่มีผู้ใดประสบความสําเร็จ
นอกจากนั้นมันยังมีเหตุผลอื่นที่ทําให้ฟางหยวนไม่ต้องการรับภารกิจนี้
นั่นคือภารกิจนี้ไม่มีกําหนดเวลา
หากมันใช้เวลานานเกินไป เมื่อเขาทําภารกิจเสร็จสิ้น วังสวรรค์อาจซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรมเรียบร้อยแล้ว หากเป็นเช่นนั้นภารกิจนี้จะมีประโยชน์ใด?
“เห้อ…” เฉินกงเจิ้งถอนหายใจ เขาตระหนักถึงความเสี่ยงและเลือกยอมแพ้ต่อมัน
ฟางหยวนชี้นิ้วไปที่หอคอยเกียรติยศและวิเคราะห์ “พี่เฉิน ภารกิจนี้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเรา หลังจากรับภารกิจนี้ แต้มบุญของเราจะยังอยู่ นั่นหมายความว่าผู้ที่ไม่รับภารกิจจะสูญเสียแต้มบุญทั้งหมดเมื่อพวกเขาออกจากถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า”
เฉินกงเจิ้งพยักหน้าซ้ําๆ “ข้าเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น เมื่อเรามาถึงที่นี่ครั้งแรก อันดับบนหอคอยเกียรติยศมีเพียงความว่างเปล่า”
นั่นหมายความว่าผู้อมตะต้องใช้แต้มบุญของพวกเขาให้มากที่สุด
วันถัดมา
บางแห่งในทะเลตะวันออก แสงสีขาวนําฟางหยวน เฉินกงเจิ้ง และเฉินซานปรากฏตัวขึ้น
ผู้อมตะทั้งหมดยอมแพ้ต่อภารกิจสุดท้ายและเลือกที่จะจากไป
อย่างไรก็ตามกลุ่มของเมียวหมิงเฉินไม่ได้ออกมาพร้อมกับฟางหยวน พวกเขายังมีความกังวลเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะแยกตัวออกไป
เหรินซิ่วผิงและตงฮัวจากไปพร้อมกับกลุ่มผู้อมตะตระกูลเฉิน หลังจากเหตุการณ์นี้ผู้บ่มเพาะสันโดษทั้งสองถูกผูกติดอยู่กับตระกูลเฉินเรียบร้อยแล้ว
ฟางหยวนหันหน้าไปรอบๆและพบเพียงท้องฟ้าที่ว่างเปล่าและทะเลที่สงบนิ่ง
แม้ฟางหยวนจะร่วมมือกับเฉินกงเจิ้งและเฉินซานแต่พวกเขายังไม่พบร่องรอยของวาฬมังกรฟ้า
“พวกเราจงใจเลือกตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้าแต่ตอนนี้วาฬมังกรฟ้าอยู่ที่ใด?”
“นี่เป็นวิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แม้มันอาจดูสมจริงแต่มันอาจเป็นเพียงภาพลวงตา”
“แท้จริงแล้วเรายังไม่เคยเห็นรูปร่างที่แท้จริงของวาฬมังกรฟ้าจนถึงตอนนี้”
สามผู้อมตะถอนหายใจ
มีความลับมากมายเกี่ยวกับวาฬมังกรฟ้า
วาฬมังกรฟ้าเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานของเทพอมตะสวรรค์พิภพ มันมีมิติช่องว่างและสามารถบ่มเพาะ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์ทั่วไป แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขายังไม่เคยเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมัน
วาฬมังกรฟ้าลึกลับมาก มันปรากฏตัวขึ้นและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีผู้ใดสามารถค้นหาเบาะแสของมัน
ฟางหยวนลอบถอนหายใจอยู่ภายในแผนเดิมของเขาคือการยึดครองวาฬมังกรฟ้าและหอคอยเกียรติยศ
แต่ความจริงก็คือเขาทําได้เพียงฝันไป
นี่เป็นการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันของเทพอมตะสวรรค์พิภพ มันมีจุดประสงค์ลึกลับบางอย่าง มันเหมือนกับถ้ำปีศาจคลั่งของภาคเหนือที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจไร้ขอบเขต
ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับแปด เขาไม่สามารถทําความเข้าใจแก่นแท้ของระดับเก้า
‘เดี๋ยว! ถ้ำปีศาจคลั่ง…บ้าคลั่ง?’ ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจขึ้นอย่างกะทันหัน
ถ้ำปีศาจคลั่งมีเสียงปีศาจที่ท่าให้สิ่งมีชีวิตกลายเป็นบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันเพลิงสีดําในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าก็ทําให้สิ่งมีชีวิตกลายเป็นบ้าคลั่งเช่นกัน
มีความสัมพันธ์บางอย่างเกี่ยวกับพวกมันหรือไม่?
‘ในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้ามีสิ่งมีชีวิตที่บ้าคลั่งมากมาย ตัวอย่างเช่นราชากิ้งก่าเพลิงพยัคฆ์ที่ข้าสังหารไปก่อนหน้านี้…’ ฟางหยวนคิด
เขาไม่สามารถช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เขาไม่สามารถหาสาเหตุของความบ้าคลั่งและทําได้เพียงฆ่าพวกมันเท่านั้น
พวกมันไม่มีเพลิงสีดําแต่พวกมันอยู่ในสภาพเดียวกับเฉินซาน
จุดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเฉินซาน
แม้เขาจะถูกเพลิงสีดําโจมตีโดยตรงและกลายเป็นบ้าคลั่งแต่เขายังสามารถฟื้นคืนสติหลังจากระยะเวลาหนึ่ง
กระทั่งฟางหยวนก็ไม่มั่นใจว่าตนเองจะท่าสิ่งนี้ได้หรือไม่
แม้เขาจะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากมายแต่พวกมันไม่ใช่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางมนุษย์
‘ในปัจจุบันเฉินซานน่าจะเป็นตัวตนอันดับหนึ่งบนเส้นทางมนุษย์ กระทั่งตาแก่เจิ้งหยวนของวังสวรรค์ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขา’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนก็ตระหนักถึงความสําคัญของเฉินซานในการต่อต้านวังสวรรค์
สามผู้อมตะไม่พบร่องรอยของวาฬมังกรฟ้า ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจจากไป
ทุกคนได้รับประโยชน์จากการสํารวจวาฬมังกรฟ้าแต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดย่อมเป็นฟางหยวนโดยไม่ต้องสงสัย
เมื่อฟางหยวนอยู่เพียงลําพัง เขาเปลี่ยนร่างเป็นบรรพชนทะเลปราณและกลับไปยังทะเลปราณอย่างลับๆ
ค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลปราณยังอยู่ เขาพบอู๋ส่วยที่นี่
ก่อนหน้านี้ส่วยเดินทางไปยังภาคใต้เพื่อทําธุรกรรมกับจื่อชิวหยู หลังจากการทําธุรกรรมครั้งนี้ จื่อชิวหยูขอเพิ่มราคา ดังนั้นธุรกรรมจึงหยุดลง
อู๋ส่วยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับมายังทะเลตะวันออก
ฟางหยวนพบอู่ส่วยและได้เรียนรู้เกี่ยวสถานการณ์ปัจจุบัน
มันค่อนข้างแย่
ภาคใต้ อิทธิพลของวูหยงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ การหายไปของอาณาจักรแห่งความฝันทําให้จอชั่วหยูเผชิญหน้ากับข้อสงสัย วูหยงใช้โอกาสนี้สร้างอิทธิพลให้กับตนเอง
ทะเลทรายตะวันตก ร่างแยกฟางเฉินของฟางหยวนกําลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลําบาก
หลังจากเขาก่อตั้งกองกําลังพันธมิตรของทะเลทรายตะวันตก ปีศาจอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งเลือดปรากฏตัวขึ้นและสร้างความโกลาหลไปทั่ว ตระกูลฟางเป็นหนึ่งในเหยื่อของมัน
นอกเหนือจากนี้ยังมีสัตว์อสูรแรกกําเนิดที่สร้างหายนะในทะเลทรายเพลิงน้ําแข็งของตระกูลฟาง
สัตว์อสูรแรกกําเนิดตัวนี้แข็งแกร่งมาก ตระกูลฟางพบกับความล้มเหลวหลายครั้งในการจับหรือสังหารมัน
ถ้ําสวรรค์วรรณกรรม หลี่เสี่ยวไป๋ค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างราบรื่น
ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร เจิ้งปู้ตู๋กําลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย