บทที่950 ภาษาฉาบฉวย

Mars เจ้าสงครามครองโลก

“เหนือกว่าแดนลอยเมฆ คือแดนฉ่องทิพย์ แล้วแดนฉ่องทิพย์ จะต้องฝึกยังไง?”

เย่เซิ่งเทียนเริ่มหนักใจ

แดนลอยเมฆเป็นเทพอารักษ์เสินฉาง ถ้างั้นแดนฉ่องทิพย์ หละ?

เห็นทีคงต้องหาเหล่าเฟิงมาถามดูละ

มี “ผู้ช่วย” ชั้นดีอย่างตระกูลเซียวนี่ ถ้าไม่ดูดเอามาให้ตระกูลเซียวแห้งไปเลย มันจะเป็นการผิดต่อตัวเองที่อุตส่าห์วางแผนมาอย่างแสนลำเค็ญนะ

“แดนฉ่องทิพย์?”

เหล่าเฟิงมองพิเคราะห์เย่เซิ่งเทียนด้วยสายตาสงสัย คนที่ถูกมองก็ยังดูโหวงเหวงเหมือนเดิม แต่ในอวัยวะสำคัญภายในทั้งห้ายกเว้นหัวใจ อีกสี่อวัยวะนั้นเห็นมีเป็นจุดสว่างใสเล็ก ๆ สี่จุด

นี่คือสัญลักษณ์ของเสินฉางสี่ชั้น เสินฉางเมื่อมีเทพอารักษ์แล้ว ก็จะปรากฏมีจุดแสงให้เห็น

เพียงแต่ว่า คนส่วนใหญ่จะเก็บซ่อนจุดแสงนี้ขึ้น เพื่อปกปิดไม่ให้ใครรู้

ดูทีว่าเย่เซิ่งเทียนคนนี้จะไม่รู้จักวิธีการเก็บซ่อนจุดแสงนี้

“คุณชายเย่ คุณทะลวงเปิดเสินฉางธาตุทองสำเร็จแล้ว?”

เย่เซิ่งเทียนในท่าทีที่ดูใสซื่อ เอามือเกาหัว พูดด้วยยิ้มน้อย ๆ ว่า “เพิ่งจะสำเร็จ ฉันรู้สึกว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน เสินฉางธาตุไฟฉันก็จะต้องทะลวงเปิดได้ ด้วยเหตุนี้ฉันจึงได้มาขอถามท่านเฟิง อยากรู้ว่าแดนฉ่องทิพย์ต้องฝึกอย่างไร”

เหล่าเฟิงแม้ในใจดูแคลนเย่เซิ่งเทียนอยู่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องทึ่งกับความอัจฉริยะในการฝึกวิชาของเขา

ความอัจฉริยะขนาดนี้ คำว่าพรสวรรค์คงไม่สามารถใช้มาเปรียบเปรยได้

มันเป็นความพิสดารแท้ ๆ

ใช้เทียบกับพวกตัวประหลาดมหัศจรรย์ระดับติดบอร์ดยอดคนวัยฉกรรจ์ของพวกตระกูลลี้ลับได้เลย!

แต่ทว่า ถึงให้เป็นขนาดตัวประหลาดมหัศจรรย์แล้วจะยังไง?

มันก็เป็นแค่เพียงหนูทดลองที่น่าสงสารเท่านั้นเอง

สุดท้ายก็กลายเป็นชุดประดับเข้าพิธีให้เจ้าบ้าน

เหล่าเฟิงผงกหัวพูดว่า “แดนลอยเมฆคือการฝึกจิตเทพอารักษ์เสินฉาง ส่วนแดนฉ่องทิพย์ ก็คือการรวมเสินฉางทั้งห้าธาตุเข้าด้วยกัน ห้าจิตวิญญาณรวมเป็นหนึ่งเดียว”

“ผสานรวมเข้ากันอีกครั้งงั้นหรือ?”

เย่เซิ่งเทียนไม่เข้าใจ

เหล่าเฟิงอธิบายต่อไปว่า “คุณรู้ไหมว่าแดนฉ่องทิพย์ทำไมถึงถูกเรียกว่าแดนฉ่องทิพย์?”

เย่เทียนจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง ส่ายหน้าซื่อ ๆ ไปอย่างงง ๆ

เหล่าเฟิงพูด “แดนฉ่องทิพย์ที่ถูกเรียกว่าแดนฉ่องทิพย์ ก็เพื่อให้ห้าจิตวิญญาณที่ผสานรวมตัวกันแล้วขึ้นสู่วิมานฟ้า ข้ามสะพานเทพ เคาะเปิดประตูสวรรค์”

“ตามที่พูดกันว่าขึ้นวิมานฟ้า ข้ามสะพานเทพ เคาะเปิดประตูสวรรค์ ถามหาชีวิตอมตะ เทวดาลูบหัวกะหม่อมฉัน กล้ามวยผมได้เป็นนิรันดร์ ด้วยเหตุนี้ แดนฉ่องทิพย์ในสมัยโบราณ ยังมีเรียกกันว่าแดนวิมานฟ้า แดนทะยานฟ้า รอให้เสินฉางทั้งห้าของคุณมีวี่แววจะผสานรวม ก็บ่งชัดได้ว่าสัมผัสถึงระดับขั้นแดนฉ่องทิพย์แล้ว”

“แดนฉ่องทิพย์ ตามความเป็นจริงก็ยังแบ่งเป็นแดนวิมานฟ้ากับแดนหลอมวิญญาณ พูดถึงห้าจิตวิญญาณที่เพาะเลี้ยงมาโดยจิตเทพอารักษ์เสินฉางในแดนฉ่องทิพย์ แท้จริงก็คือวิญญาณอารักษ์ สุดท้ายมาถึงแดนฉ่องทิพย์ ห้าจิตวิญญาณผสานรวมเข้ากันก็จะกลายเป็นวิญญาณเทพของคุณ”

“ความจริงที่มีบันทึกในตำราโบราณ ในสมัยบรรพกาลนั้น ไม่ได้ยุ่งเหยิงมากมายแบบนี้ มีแต่รากวิญญาณแปรสถานะสู่วิญญาณเทพโดยตรง แต่จากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของมนุษย์อย่างไม่หยุดหย่อน ปราณทิพย์ในโลกยิ่งวันก็ยิ่งเลือนจางลงไป ฉะนั้นจึงมีการแปรแยกแตกตัวกันออกไป ให้รากวิญญาณแปรเป็นทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดินห้าจิตวิญญาณ โดยมีเสินฉางทั้งห้าคอยบ่มเพาะดูแล เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงปราณทิพย์ และทำให้การฝึกให้ได้มาซึ่งวิญญาณเทพง่ายยิ่งขึ้น”

“ส่วนแดนฉ่องทิพย์ดั้งเดิมนั้น ความจริงเพียงแค่ให้เสินฉางทั้งห้ารวมเป็นหนึ่งเดียวก็เป็นการก้าวขึ้นวิมานฟ้าแล้ว เพียงแต่ตอนหลังมาเพิ่มตัวหลอมวิญญาณก็เท่านั้นแหละ ไว้ตอนที่คุณไปถึงขั้นเสินฉางห้าธาตุเริ่มมีทีท่าผนวกรวมเข้าด้วยกันแล้ว คุณก็จะเข้าใจอย่างถ่องแท้”

เย่เซิ่งเทียนจึงได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้เอง

“งั้นแดนสะพานเทพหละ?ควรต้องฝึกยังไง?”

ความอยากรู้เต็มอยู่บนใบหน้าเย่เซิ่งเทียน

เหล่าเฟิงส่ายหน้า “ผมก็ไม่รู้เรื่อง คิดว่าท่านเจ้าบ้านคงจะรู้เรื่อง เรื่องการฝึกวิชา แต่ละคนต่างมีสภาพที่ไม่เหมือนกัน มีแต่ต้องให้คุณเข้าไปถึงในสถานะนั้น คุณก็จะเข้าใจ ผมก็รู้เพียงแค่ว่าแดนสะพานเทพก็คือฝึกวิชาสะพานเทพ แต่หลักการฝึกวิชาสะพานเทพเป็นยังไง จะไม่รู้เรื่องเลย”

เย่เซิ่งเทียนให้รู้สึกผิดหวังนิด ๆ เดิมคิดว่าไอ้แก่คนนี้จะรู้เรื่อง คิดไม่ถึงว่ามีที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

แต่ก็ถือว่ายังมีส่วนที่เป็นประโยชน์บ้าง

ช่างเถอะ เรื่องแดนสะพานเทพค่อยไว้ถามเซียวเทียนเฉิงทีหลังเถอะ

เย่เซิ่งเทียนจี้ถามต่อไปว่า “ท่านเฟิง งั้นถ้าฉันอยากจะเร่งรัดในการเข้าไปถึงแดนฉ่องทิพย์ ควรจะทำยังไงได้?”

แววตาเหล่าเฟิงแสดงออกถึงความหงุดหงิด แต่ทำไงได้เพราะเจ้าบ้านกำชับเขาไว้ ต้องทำให้เย่เซิ่งเทียนสมใจตามต้องการทุกอย่าง

เจ้าบ้านท่านหวังได้คุณตัวทดลองนี้มา ช่างทุ่มเทด้วยใจอย่างแสนลำบากจริง ๆ

“หลังจากเสินฉางห้าธาตุได้ดูดซับปราณทิพย์แห่งฟ้าดินจนอิ่มเอิบ คุณก็จะสัมผัสได้กับช่วงจังหวะที่ผสานรวมกันอย่างลงตัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสัมผัสกันได้ทุกคน มีคนจำนวนไม่น้อยที่จมปลักอยู่ตรงจุดนี้ไปทั้งชาติ จนตายแล้วก็ยังไม่ได้สัมผัสถึงช่วงจังหวะที่ลงตัวได้ หวังว่าคุณคงไม่เป็นแบบนั้น ส่วนการที่คิดจะให้เสินฉางห้าธาตุอิ่มเอิบ หนึ่งคือต้องใช้พลังฝีมือในการดูดซับปราณทิพย์แห่งฟ้าดิน อีกหนึ่งก็ต้องพึ่งของวิเศษในธรรมชาติที่มีปราณทิพย์เก็บฝังอยู่ในตัวมาช่วยเสริมส่ง”

ฟังมาถึงจุดนี้ เย่เซิ่งเทียนสมองสว่างวูบ

บ้านตระกูลเซียว นี่ไม่ใช่หรือที่เป็นคลังของวิเศษของเราเอง?