ตอนที่ 635 ตีให้แหลก (3)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 635 ตีให้แหลก (3) โดย Ink Stone_Fantasy

ครากุลเป็นคนบุก ส่วนอันเดรวิชเป็นคนป้องกัน เสียงกระดุกหักที่ดังขึ้น ไม่มีใครคิดว่าคนที่เสียเปรียบจะเป็นครากุล

ผู้ชมในสนามเริ่มบ้าคลั่ง พวกเขากำลังรอการบุกอย่างรวดเร็วและดุเดือดของครากุล จัดการอันเดรวิชให้เป็นซากเนื้อ ถ้าให้ดีคือทำได้อย่างที่พูดเมื่อสักครู่ เอาน้ำสมองของอันเดรวิชป้อนไปที่ปากของเขา

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”

แค่นัดแรกดูเหมือนว่าอันเดรวิชจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต่งเซิงไห่กับจู้เหวยเฟิงนั่งเฉยไม่ได้อีกต่อไป ก้นเหมือนไฟกำลังลนและเด้งขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว มองดูคนสองคนที่ยังไม่แยกจากกันบนเวที

“ใจเย็นก่อน!” สายตาของเยี่ยเทียนดีมาก แม้ระยะห่างจากเวทีเกือบ 20 กว่าเมตร แต่เขาสามารถเห็นความเจ็บปวดในตาของครากุลได้

ล้อเล่นเหรอ? พลังของอันเดรวิช ถือว่ามีระดับหนึ่งในวงการมวย ยิ่งได้รับการกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนเร้นไว้ข้างในแล้ว ในเวลาอันสั้นนี้พลังของเขาจะพุ่งสูงขึ้นเป็นหลายเท่า

อย่าว่าแต่ครากุล แม้แต่เยี่ยเทียนเองถ้าปะทะกับอันเดรวิชตอนนี้ก็ยังต้องหลบ ใช้การหลบหนีให้อันเดรวิชสูญเสียพลัง รอพลังของเขาถูกใช้จนหมดไป ก็สามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องสู้

แน่นอนว่า ครากุลไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นบนตัวของอันเดรวิช เดิมทีเขาคิดว่าจะจบเกมส์ด้วยความเร็ว ใช้เวลาที่สั้นที่สุดจัดการอันเดรวิช แต่ใครจะคิด ตัวเองกลับขุดหลุมศพให้ตัวเองซะงั้น

สองขาปะทะกัน ครากุลส่งเสียงเจ็บปวดออกมา ร่างกายล้มไปด้านหลังสายล้อมเวทีอย่างรุนแรง ทำให้มีระยะห่างไกลออกจากอันเดรวิชไปกว่า 4-5เมตร

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ครากุลเสียเปรียบ?”

“เหมือนจะใช่ ร่างของรัสเซียคนนั้นไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว!”

“พระเจ้า เป็นแบบนี้ได้ยังไง? ที่เตะออกไปเมื่อกี้ แม้แต่ก้อนหินยังต้องแหลกสลายเลย?”

ท่าทีของครากุล คนที่ไม่รู้จักมวยปล้ำก็ดูออกว่าเขากำลังเสียเปรียบ เพราะตอนที่ครากุลยืนนิ่งแล้วนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าขาของเขากำลังสั่นและยังเหยียบที่พื้นไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก

มีแค่ครากุลเท่านั้นที่รู้ว่าหลังเท้าและกระดูกน่องของเขาน่าจะแตกร้าว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหวาดกลัว เพราะปกติแล้วการฝึกฝนการเตะ ล้วนฝึกกับเสาหินและเสาเหล็กทั้งนั้น เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

ขาของอันเดรวิชไม่เหมือนคนที่มีเลือดเนื้อ แต่มันแข็งกว่าเหล็กแข็งเสียอีก เวลาที่เตะไปบนนั้น ครากุลกลับรู้สึกเหมือนมีคนเอาค้อนใหญ่ทุบไปที่ขาของเขา

“ย๊าก!”

อันเดรวิชที่ยืนอยู่ที่เดิม จู่ ๆ ก็ส่งเสียงคำรามเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายออกมา ตอนนี้เขารู้สึกแค่ว่ามีพลังมากมายที่ยังใช้ไม่หมด อยากจะระบายมันออกมาในทันใด และการปะทะของขาเมื่อครู่ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดกำลังจ้องมองไปที่ครากุลที่ถอยหลังไปอยู่มุมหนึ่งของเวที ร่างของอันเดรวิชเริ่มขยับแล้ว เหมือนรถถังขนาดใหญ่ปานนั้นกำลังขยายและย่ำไปยังทิศทางที่ครากุลยืนอยู่

จุดเด่นของอันเดรวิชคือพลังที่มีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าความเร็วของเขาจะช้าลง นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบเท่านั้น แค่ประมาณก้าวเดียวเท่านั้น อันเดรวิชจะสามารถพุ่งเข้าหาร่างของครากุลได้ แรงขาอันหนักอึ้งได้เตะออกไป

ครากุลในเวลานี้ จะกล้าปะทะกับอันเดรวิชอย่างจังอีกเหรอ? เขาจึงหันข้างและหลบได้ทัน การเตะของอันเดรวิชรอบนี้เตะลงไปยังเสาหินของเวทีเข้าเต็มๆ

“ปัง!” เสียงดังขึ้น เสาหินที่มีความหนาเกือบ 40 เซ็นติเมตรสองข้างถูกผูกมัดล้อมไว้ด้วยเชือก ถูกอันเดรวิชเตะจนหัก หินก้อนเล็ก ๆ ที่กระเด็นแตกกระจายไปถึงที่นั่งแขกและเชือกที่ล้อมรอบเวทีนี้ก็ถูกทำลายด้วยท่าเตะเพียงท่าเดียว

นี่ไม่ใช่พลังของคนปกติ แม้แต่คนดูยังตกตะลึงจนอ้าปากค้าง แรงเตะที่มากขนาดนี้คาดว่าคงต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์แล้ว ถ้าหากครากุลถูกเตะเข้าจังๆ เกรงว่าร่างกายของเขาคงจะถูกฉีกออกเป็นสองท่อนโดยอันเดรวิชแน่ ๆ

“เตะมันให้ตาย ไอ้ยักษ์ เตะมันให้ตาย!”

“ดึงหัวมันออกมา ไอ่โง่เอ้ย!”

มหาเศรษฐีในสนามไม่ได้มาเพื่อสนุกกับการพนัน แต่ต้องการสัมผัสกับความตื่นเต้นของการฆ่านองเลือดระหว่างชีวิตกับความตาย

ฉะนั้นตอนที่อันเดรวิชแสดงท่าทีที่ไม่เหมือนคนปกติออกมา พวกมหาเศรษฐีก็ลืมเรื่องการพนันไปหมด และได้ตะโกนเสียงดังออกมา และยังหวังว่าอันเดรวิชที่เหมือนคิงคองจะฉีกครากุลออกเป็นชิ้นๆบนเวที

แน่นอนว่ามีหลายคนที่วางเดิมพันหนักกับครากุล สวดภาวนาให้ครากุลเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะ แม้จะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่พวกเขาจะรู้สึกเป็นทุกข์กับการเดิมพันเมื่อครู่เช่นกัน

“คิดจะหนี?”

อันเดรวิชเตะออกไปไม่โดนอะไร เขาแสยะยิ้มออกมาและเก็บขาข้างขวาเข้าไป ส่วนร่างกายเข้าใกล้ครากุลอย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์มากมายในมวยปล้ำ เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็สามารถบีบบังคับให้ครากุลไปอยู่อีกมุมได้

ครั้งนี้อันเดรวิชไม่ได้ใช้ขาแต่ใช้สองมือกำหมัดไว้แน่น หมัดข้างขวากำลังปกป้องร่างกายด้านขวาของตนเอง หมัดข้างซ้ายที่ดูเหมือนพลังไม่เยอะ

“บ้าเอ้ย ฉันจะจัดการแกแน่!”

ในใจของครากุลที่เริ่มหวาดกลัว แม้มีใจที่อยากจะกระโดดลงจากเวที แต่เขารู้กฎของมวยปล้ำเป็นอย่างดี ถ้าไม่ถูกตีจนล้มลงไปแต่สมัครใจยอมแพ้ละก็ ไม่ถึง 3 วัน ศพของเขาจะถูกประจานตามข้างถนนอย่างแน่นอน

การแข่งขันมวยปล้ำมีความเกี่ยวพันกับเงินพนันจำนวนมหาศาล และนี่จึงเป็นสาเหตุที่นักชกสามารถตายในการแข่งขันได้ แต่ห้ามยอมแพ้ง่ายๆเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกพวกมหาเศรษฐีเหล่านั้นไล่ฆ่า

พอคิดถึงเช่นนี้ก็รู้สึกโกรธ ครากุลจึงตัดสินใจลองกันสักตั้ง เวลาเดียวกันกับตอนที่หมัดแย๊บของอันเดรวิชต่อยเข้ามา ครากุลกลั้นความเจ็บปวดที่ส่งขึ้นมาจากขาข้างขวาเอาไว้ หมอบลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง ร่างกายหมุน 180 องศา ส่วนขาข้างซ้ายเหมือนแส้ที่ฟาดออกไปยังเป้าหมายโดยตรง ซึ่งก็คือหัวของอันเดรวิช

ถ้าพูดถึงความว่องไวของครากุลนั้น เขาเร็วจริง ๆ แม้เขาจะออกท่าช้ากว่าหมัดแย๊บของอันเดรวิช  แต่ขาข้างซ้ายของครากุลเตะเข้าขมับของอันเดรวิชตั้งแต่หมัดของอันเดรวิชยังอยู่ห่างจากตรงหน้าเกือบ 20 เซนติเมตร

นักมวยปล้ำทุกคนมีท่าไม้ตายของตัวเอง ครากุลก็มีเช่นกัน ใคร ๆ ก็คิดว่าขาของเขาเยี่ยมมาก เพราะคู่ต่อสู้เกือบ80เปอเซ็นต์จบชีวิตด้วยขาข้างขวาของเขาเกือบทุกรอบการแข่งขัน

แต่ไม่มีใครรู้ นักอาวุธตัวจริงของครากุลคือขาข้างซ้ายต่างหาก ตอนที่ฝึกเขาเคยใช้ขาข้างซ้ายเตะวัวคลั่งที่วิ่งเข้าหาเขาจนตาย เขาเชื่อว่าถ้าเขาเตะอันเดรวิชจังๆ หัวของอันเดรวิชจะเหมือนแตงโมที่ถูกเตะจนแตกแน่นอน

ความคาดหวังเป็นสิ่งที่สวยมาก แต่ความจริงเป็นสิ่งที่โหดร้าย ตอนที่ขาข้างซ้ายของครากุลกำลังเตะเข้าขมับข้างขวาของอันเดรวิช ปรากฏว่าอันเดรวิชใช้แขนข้างขวาบังเอาไว้

ก่อนหน้านี้ได้กล่าวไปแล้วว่าพลังช่วงบนของคนแรงไม่เท่าช่วงล่าง ยิ่งไปกว่านั้นครากุลได้ใช้ประโยชน์จากแรงหมุนแล้ว ถ้าเป็นไปตามความคิดเบื้องต้น เขาน่าจะเตะแขนของอันเดรวิชให้หักก่อน จากนั้นค่อยเตะสมองให้แหลก

แต่สิ่งที่ทำให้ครากุลตะลึงถึงที่สุดก็คือแขนข้างขวาของอันเดรวิชแข็งมากและกันขาของเขาเอาไว้ได้ ร่างของเขาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เหมือนเตะผ่านเหล็กเข้าไปอย่างนั้น

ครากุลสัมผัสได้ว่าแย่แล้ว และกลั้นความเจ็บปวดของขาข้างขวาเอาไว้ เตรียมจะแยกออกจากอันเดรวิชแต่รู้อีกทีก็สายไปแล้ว เพราะหมัดธรรมดาของอันเดรวิชต่อยเข้าหน้าของครากุลอย่างจัง

ในการชกมวย ท่าหมัดเสยเป็นท่าที่ทรงพลังที่สุด หมัดแย๊บเป็นท่าที่ใช้ลองเชิงคู่ต่อสู้ แต่ท่านี้กลับมีพลังมหาศาลเมื่อคนที่ใช้คืออันเดรวิช และพลังนั้นใหญ่เกินกว่าจินตนาการของผู้อื่น

“ปัง!”

เมื่อกำปั้นซ้ายของอันเดรวิชต่อยเข้าหน้าของครากุล ทุกคนก็ได้ยินเสียงดังเหมือนแตงโมสุก ๆ ระเบิดออกอย่างกระทันหัน

เมื่อมองตามที่มาของเสียงก็มีการร้องอุทานดังขึ้นในสนาม เพราะครากุลซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าอันเดรวิช ศีรษะของเขาหายไปแล้ว มีเพียงร่างไร้หัวที่พิงอยู่เชือกล้อมด้านหลังเขา แม้กระทั่งบนเวทีมวยที่มีแสงจ้าแต่มันทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวเหน็บไปเลยทีเดียว

“แหลก!” คำดังกล่าวปรากฏอยู่ในใจของทุกคน หมัดที่ดูอ่อนแอของอันเดรวิช ดูเหมือนจะตีหัวของครากุลจนแหลกจริง ๆ

พลังอันยิ่งใหญ่ไม่เพียงแต่ทำลายกระดูกใบหน้าครากุล แต่ยังทำให้ทวารทั้ง7เลือดไหลออกมา กระดูกส่วนคอของเขาก็ยังรับแรงไม่ไหว เนื้อหนังของเขาก็ถูกฉีกขาดอย่างเป็นๆ ส่วนกะโหลกที่ไม่สมบูรณ์ค่อย ๆตกลงไปที่หน้าอกของครากุล

“พระเจ้า เขาต่อยครากุลจนแหลกจริง ๆ?”

พวกเศรษฐีเหล่านั้นซึ่งเคยชินกับภาพใหญ่เช่นนี้ ยังต้องมองอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า รอบที่ดูเอียงไปด้านเดียว ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นครากุลที่ถูกชกจนสมองแหลกเช่นนี้

“ฉันเคยพูดแล้วว่าจะให้นายชิมรสชาติน้ำสมองของแกเอง ผู้ชายพูดอะไรไว้ต้องทำให้ได้!”

อันเดรวิชแสยะยิ้มออกมา ยื่นมือไปคว้าร่างของครากุล และหยิบบางอย่างสีขาวแดงตรงที่เลือดกำลังพุ่ง และนำสิ่งนั้นยัดใส่ปากของครากุล

ภาพนี้ทำให้ทุก ๆ คนรู้สึกขนลุก บางคนถึงขั้นรับไม่ได้และอาเจียรออกมาตอนนั้นเลย เพราะว่าเวลานี้ อันเดรวิชในสายตาพวกเขาเหมือนปีศาจซาตานที่มาจากนรก ไม่สามารถใช้คำอธิบายใด ๆ มาบรรยายความโหดเหี้ยมของคนๆนี้ได้อีกแล้ว

…………………………………………………………