บทที่953 เซียวเทียนเฉิงใกล้บ้าแล้ว

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่953 เซียวเทียนเฉิงใกล้บ้าแล้ว
เหย้ม่อถึงจะอบรมชี้แนะไปแล้ว แต่เหย้ซูหลิงก็ยังไม่ยอมเดินออกมาจากอารมณ์เศร้าเครียดนั้น

หลังจากนั้นต่อมาเป็นเวลาอีกหนึ่งเดือนเต็ม ๆ หล่อนก็ยังไม่สามารถติดต่อเย่เซิ่งเทียนได้ และข้างนอกก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นเบาะแส

ในหนึ่งเดือนที่ผ่านไปนี้ เย่เซิ่งเทียนก็เหมือนหายสาบสูญไปแล้ว

ทางด้านตระกูลจง ตลอดเวลามาก็ยังหาคุณหมอเทวดาหลินไม่เจอ โดนเซียวเทียนเฉิงด่าใส่จนอายหมาไป อย่างไม่มีการไว้หน้ากันเลย

เซียวเทียนเฉิงยังไม่รู้เลยว่า หมอเทวดาหลินที่เขาเฝ้าตามหาอยู่นั้น ทั้งเดือนที่ผ่านมา ก็อยู่แต่ในบ้านเขานั่นเอง กำลังระดมใช้ทรัพยากรวัตถุตระกูลเซียวในการเสริมพลังฝีมือให้ตัวเองอยู่

ในขณะเดียวกัน ในหนึ่งเดือนนี้ ทรัพยากรวัตถุดิบที่ตระกูลเซียวเสริมหนุนให้เย่เซิ่งเทียนนั้น ตัวเลขจำนวนนั้นเป็นอนันต์ไม่รู้จบ ขนาดทำให้หัวใจของเซียวเทียนเฉิงยังเลือดออกซิบ

แต่ทุกครั้งที่คิด ที่ลงทุนทำไปนี่ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งมวลสารทิพย์จากตัวเย่เซิ่งเทียนได้เร็วที่สุด เย่เซิ่งเทียนก็คือหมูตัวหนึ่งที่เขาเลี้ยงไว้ พอได้เวลาก็จัดการเชือดได้ ก็จึงให้รู้สึกเข้าท่า

แต่ทว่า เลือดเทพแห่งซวนหยวนมาถึงป่านนี้ก็ยังไม่ยอมตื่นภวังค์ จนเขาเริ่มใกล้จะหมดความอดทนแล้ว

ถึงขนาดเริ่มเกิดความสงสัยแล้ว เย่เซิ่งเทียนกำลังหลอกเขาหรือเปล่า

แต่พลังฝีมือของเย่เทียนก็เป็นไปแบบขึ้นไปวันละแบบ ครึ่งเดือนก่อนทะลวงทะลุแดนฉ่องทิพย์ ผสานอีกสองเสินฉางได้สำเร็จ ก็เพิ่มความหวังให้เขามากขึ้นมาอีก

ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ คนอื่น ๆ ในตระกูลเซียวเริ่มมีการซุบซิบบ่นกันขึ้นมาแล้ว ทรัพยากรสำหรับการฝึกวิชาที่ให้พวกเขาใช้เริ่มถูกจำกัดลดลงเป็นจำนวนมาก

แม้แต่ลูกของเขาเองเซียวจิ่ง ก็ถามหาเข้าไปหลายครั้ง เริ่มมีเสียงบ่นปรับทุกข์กัน

เซียวเทียนเฉิงได้ใช้อำนาจจัดการกับคนที่มีเสียงร้องเรียนหนักที่สุด ก็เพียงได้สยบคนอื่น ๆ ไป

เดิมเขาก็มีความคิดจะจำกัดลดจำนวนการใช้ทรัพยากรของเย่เซิ่งเทียน

แต่ถึงยังไงการทุ่มทุนทรัพยากรบนตัวของเย่เซิ่งเทียน พลังฝีมือก็ได้เห็นการเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้กันอย่างจะแจ้ง

บรรดาคนในตระกูลเซียวเหล่านั้น ถึงแม้ก็อยูในระดับมีพรสวรรค์ แต่ไปเทียบกับย่เซิ่งเทียนล้วนแล้วแต่เทียบกันไม่ได้เลย

“ท่านเจ้าบ้าน เย่เซิ่งเทียนนั่นกำลังทวงขอทรัพยากรณ์อีก คราวนี้ขอมามากกว่าคราวก่อนอีกสองเท่าตัว”

เหล่าเฟิงพูดด้วยความระมัดระวัง

ตอนนี้เขาก็ยังไม่ค่อยกล้าที่จะเสนอเรื่องนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของทรัพยากรในตระกูลเซียว ล้วนสิ้นเปลืองไปในตัวเย่เซิ่งเทียน

ไม่ต้องพูดถึงเซียวเทียนเฉิง ลำพังตัวเขาเองก็ยังปวดใจจนเลือดซิบ

เดือนหนึ่งที่ผ่านมา ทรัพยากรที่เย่เซิ่งเทียนใช้หมดไปแล้วนั้นถ้าคิดเป็นเงิน ต้องปาไปถึงยี่สิบล้านล้านไปแล้ว!!

เพราะทรัพยากรบางชนิดที่ใช้ฝึกวิชา เป็นวัตถุล้ำค่ามาก ถึงแม้เป็นตระกูลเซียว ก็เป็นสมบัติสั่งสมตกทอดมา ไม่ใช่มีเงินแล้วจะซื้อได้

ยี่สิบล้านล้านไม่ใช่ตัวเลขคุยเขื่อง!

ให้แม้แต่ผู้ฝึกวิชาทั่วไป จากการเริ่มต้นฝึกจนถึงสุดท้ายทะลวงทะลุถึงแดนฉ่องทิพย์ได้ ค่าใช้จ่ายกับทรัพยากรที่ใช้ก็อยู่ในตัวเลขประมาณนี้

แต่บัญชีไม่ได้คิดเป็นตัวเลขแบบนี้

ผู้ฝึกวิชาทั่วไปที่ทะลวงทะลุถึงขั้นแดนฉ่องทิพย์ นั้นเป็นมูลค่ารวมของการสั่งสมด้วยเวลานับเดือนแรมปี

ส่วนเย่เซิ่งเทียนนั้น ใช้เพียงแค่เดือนเดียว จึงใช้ทรัพยากรในมูลค่ามากขนาดนั้น!

“ต้องการสองล้านล้าน?”

เซียวเทียนเฉิงถึงกับมึน ถึงเขาจะเป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลเซียว ก็รับไม่ไหว

ด้วยความเร็วขนาดนี้ลงไป ตระกูลเซียวของเขา ใช้เวลาอีกไม่นานเท่าไหร่คงต้องถูกเย่เซิ่งเทียนคนเดียวนี้ดูดไปจนเกลี้ยง

ถึงแม้รวม ๆ เอาทรัพย์สินทุกทรัพยากรมารวมกันทั้งหมด รวมมูลค่าแล้วอยู่ที่ประมาณสี่ร้อยล้านล้านแต่ทั้งหมดนั้นมีเป็นทรัพยากรที่ใช้สำหรับการฝึกวิชา ซึ่งถือเป็นวัตถุสิ้นเปลือง ใช้ไปแล้วก็คือหมดไป

ทรัพยากรในมูลค่ายี่สิบล้านล้านมองดูแล้วเทียบกับทรัพยากรใช้ฝึกวิชามูลค่ารวมสี่ร้อยล้านล้านนั้นไม่น่าใช่จะเป็นเรื่อง แต่คนทั้งตระกูลทั้งหมดต้องใช้กันอยู่

ยังมีกลุ่มอิทธิพลมืดพวกนั้นอีก

พวกกลุ่มผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ ค่าใช้จ่ายทรัพยากรในการฝึกก็เป็นตัวเลขที่น่ากลัวเอาเรื่องอยู่

ครั้งนี้ จะให้หรือไม่ให้เย่เซิ่งเทียน?

เซียวเทียนเฉิงลังเล

เหล่าเฟิงก็พูดด้วยความลำบากใจว่า “ท่านเจ้าบ้าน ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ เย่เซิ่งเทียนนี่มันสัตว์ปีศาจดูดทรัพย์ ขืนเป็นแบบนี้ลงไป ตระกูลเซียวเราก็ไม่ไหวนะครับ”

แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเย่เซิ่งเทียนดังเข้ามาจากข้างนอก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ท่านลุง เสินฉางทั้งห้าของฉันรวมตัวผสานกันทั้งหมดสำเร็จแล้ว ท่านรีบเสริมทรัพยากรการฝึกให้ฉันด่วนเลย ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันสามารถผสานรวมห้าจิตวิญญาณได้ กำลังเริ่มหลอมวิญญาณ”