หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1210 ดอกไม้เทพธิดาลั่ว
ฟู่ ฟู่**!**
เปลวไฟสีแดงเข้มแผดเผาห่อหุ้มร่างลั่วหลีไว้ มองจากที่ไกลนางดูราวกับเปลวไฟสีแดงเข้มที่ลุกโชนระหว่างชั้นฟ้าและชั้นดิน
แปะ
ทว่าขณะที่เปลวไฟล้อมรอบตัว เลือดกลั่นก็หลั่งไหลจากมือลงสู่แม่น้ำ
แม่น้ำลั่วเสินเกิดจากบรรพบุรุษผู้กล้าของตระกูล—ลั่วเสินหลังจากที่เสียชีวิตลง แม่น้ำนี้บรรจุพลังของลั่วเสินเอาไว้ แต่ต้องใช้สายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดของราชวงศ์ในการกระตุ้น
เมื่อเลือดสดหยดลงไปในแม่น้ำ สีแดงก็เริ่มเข้มลึกขึ้นพร้อมกับเกลียวเพลิงสีแดงเข้มเต้นระริกพล่านเข้าหาร่างของลั่วหลี
ลั่วเทียนเสินยืนอยู่ทางด้านขวามือของลั่วหลีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขามองแม่น้ำลั่วที่อยู่เบื้องล่าง เล่าขานกันว่ายิ่งสายเลือดราชวงศ์ของตระกูลลั่วเสินบริสุทธิ์มากก็จะทำให้เกิดการสั่นพ้องจากแม่น้ำ โดยให้ผู้ที่มีส่วนร่วมในพิธีได้รับพลังที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ลั่วหลีคือผู้สืบเชื้อสายตรงในปัจจุบันที่มีสายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาทดสอบตั้งแต่นางแรกเกิด ดังนั้นเขาจึงเชื่อมั่นว่าพิธีเทพธิดาลั่วครั้งนี้จะไม่เหมือนกับในอดีต
ลั่วเทียนเสินหรี่ตาลงมองไปที่ท้องฟ้าไกลออกไปด้วยแสงเย็นเยือก เขารู้ว่าศัตรูกำลังเฝ้าดูพวกเขาอยู่ หากลั่วหลีทำให้พิธีเทพธิดาลั่วครั้งนี้เกินความคาดหมาย พวกศัตรูจะต้องลงมือทำลายอย่างแน่นอน
เขาไม่มีทางปล่อยให้พวกมันประสบความสำเร็จได้
นั่นเป็นเพราะลั่วหลีเป็นความหวังสุดท้ายของตระกูล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางตระกูลลั่วเสินที่นางพากเพียรรวมเป็นหนึ่งก็จะถูกทำลาย ในเวลานั้นตระกูลลั่วเสินก็จะถูกลบเป็นหน้าประวัติศาสตร์
แม้ว่าเขาจะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย แต่ก็ยังมีอาการบาดเจ็บมากมายในอดีตทิ้งไว้ ทำให้พลังของเขาลดลงตามบารมี มิฉะนั้นเขาคงทำให้ไอ้ลูกหมาสามตัวนั้นเชื่องไปแล้ว
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องบอกให้พวกที่พยายามขัดขวางพิธีเทพธิดาลั่วรู้ว่าแม้แต่เสือที่กำลังจะตายก็ยังมีเขี้ยวคม!
เมื่อความคิดนี้พุ่งเข้ามาในสมอง ใบหน้าของลั่วเทียนเสินก็เหี้ยมเกรียมด้วยรังสีสังหารที่พล่านในใจ
ซ่า!
ทันใดนั้นแม่น้ำลั่วก็เดือดปุด ก่อนที่ฟองอากาศสีแดงเข้มจะปรากฏขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำนี้ ทำให้ทุกคนพุ่งความสนใจมาทันที
ปัง!
ฟองอากาศแตกออก ริ้วแสงสีแดงเข้มลอยขึ้นก็ค่อยๆ ถักทอเป็นดอกไม้สีแดงขนาดเท่าฝ่ามือ
เปลวไฟร้อนระอุเต้นระริกบนดอกไม้ เหมือนจะมีโครงร่างบางบนทุกกลีบดอก แม้ว่าภาพจะพร่าเลือน แต่ก็เป็นความงามที่ทำให้ทุกคนมึนเมา
ขณะที่ดอกไม้เบ่งบาน สายเลือดที่ยิ่งใหญ่และโบราณก็เปล่งออกมา
เมื่อลั่วเทียนเสินและจอมยุทธ์คนอื่นๆ ของตระกูลเห็นดอกไม้นี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยความยินดีท่วมท้น
“นั่นคือ…ดอกไม้เทพธิดาลั่ว!”
สมาชิกราชวงศ์บางคนอดส่งเสียงฮือฮาออกมาไม่ได้ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกตะลึง
พิธีเทพธิดาลั่วจะแสดงสัญญาณตามความบริสุทธิ์ของสายเลือด ซึ่งในตำนานสิ่งที่บริสุทธ์ที่สุดก็คือดอกไม้เทพธิดาลั่ว!
ดอกไม้เทพธิดาลั่วว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นจากเลือดบรรพบุรุษของพวกเขาลั่วเสินที่ละร่างไว้ในส่วนลึกของแม่น้ำ เฉพาะสายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่านั้นที่สามารถกระตุ้นได้
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของตระกูล การปรากฏของดอกไม้เทพธิดาลั่วสามารถนับได้ด้วยมือเดียว ไม่มีใครคาดหวังว่าจะได้มาเป็นประจักษ์พยานในวันนี้
จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นทั้งสามคนจากตระกูลสาขาก็เผยท่าทางไม่อยากเชื่อและหวาดผวาบนใบหน้าเมื่อเห็นภาพนี้
“ทำไม…เป็นดอกไม้เทพธิดาลั่วได้?!” พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากันขณะพูดเสียงตะกุกตะกัก พวกเขารู้ดีว่าสายเลือดของลั่วหลีบริสุทธิ์มาก แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่านางจะสามารถกระตุ้นดอกไม้เทพธิดาลั่วในพิธีครั้งนี้ได้
ใบหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไปไม่หยุด เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ พิธีเทพธิดาลั่วครั้งนี้ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว หากนางสามารถได้รับมรดกของลั่วเสินจริงๆ ละก็ นางจะบรรลุขุมพลังตี้จื้อจุนและคงก้าวเกินจินตนาการของพวกเขาในอนาคตอีก
ไม่มีใครรู้ว่าลั่วหลีจะกลายเป็นเทพธิดาลั่วคนที่สองของตระกูลลั่วเสินหรือไม่
ถ้านั่นเป็นเรื่องจริงตำแหน่งของนางจะไม่มีวันสั่นคลอน กระทั่งตระกูลสาขาของพวกเขาก็ต้องโค้งคำนับต่อนาง นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดคือตาแก่อย่างพวกเขาที่พยายามลากลั่วหลีลงมาจะต้องถูกจัดการแน่นอน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ แสงชั่วร้ายก็วาบผ่านดวงตาของพวกเขา
ขณะที่ฝ่ายอื่นๆ ของตระกูลลั่วเสินมีความคิดต่างกันไป ประชาชนที่มองดูดอกไม้สีแดงเข้มก็ส่งเสียงโห่ร้อง
พวกเขาทุกคนมีสายเลือดบางจางของเทพธิดาลั่วเสินไหลอยู่ในร่างกาย ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกได้ถึงความเคารพนับถือที่มาจากส่วนลึกสายเลือด
ฉากนี้ไม่เคยปรากฏในพิธีเทพธิดาลั่วที่ผ่านมา ดังนั้นทุกคนจึงบอกได้ว่าพิธีในครั้งนี้จะต้องพิเศษน่าตระการตาแน่นอน
ภายใต้เสียงโห่ร้อง ดอกไม้เทพิดาลั่วก็ตกบนร่างลั่วหลี ทันทีนั้นเปลวไฟสีแดงเข้มที่ห่อหุ้มร่างของนางก็ขยายออก
ฟู่ ฟู่!
เสาเพลิงขนาดหลายร้อยจั้งพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าเติมบรรยากาศด้วยกลิ่นเลือด
เมื่อเปลวไฟแผ่กระจายออก ทุกคนก็สามารถรู้สึกได้ว่าในร่างกายของลั่วหลีที่ถูกเปลวไฟห่อหุ้มเริ่มเปล่งความผันผวนคลื่นหลิงที่ทรงพลังออกมา
ขุมพลังของนางเริ่มไต่ขึ้นไปสู่ขอบเขตของระดับตี้จื้อจุน
เมื่อสังเกตเห็นการเติบโตขุมพลังของลั่วหลี ลั่วเทียนเสินก็ถอนหายใจโล่งอก
“ฮ่าๆ สมเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงของตระกูลลั่วเสิน แค่พิธีเทพธิดาลั่วยังทำให้เกิดความปั่นป่วนขนาดนี้ได้” ทว่าทันทีที่ลั่วเทียนเสินถอนหายใจโล่งอก จู่ๆ เสียงหัวเราะก็ดังก้องขึ้น
ใบหน้าของลั่วเทียนเสินเปลี่ยนไปทันที เขาหันไปหาที่มาของเสียง “ตระกูลเสี่ยเสิน—เสี่ยหลิงจื่อ!”
ท้องฟ้าสีฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานราวกับคลื่นโลหิตพล่านไปในภูมิภาคนี้
ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดปรากฏตัวขึ้นจ้องมองไปที่ลั่วเทียนเสิน รอยยิ้มฉายในดวงตาสีแดงเข้ม เขาประสานมือ “ได้ข่าวว่าตระกูลลั่วเสินกำลังทำพิธีเทพธิดาลั่ว ตระกูลเสี่ยเสินจึงมาที่นี่เพื่อเป็นประจักษ์พยาน”
วาบ!
กองทัพทั้งสองที่ประจำการอยู่ข้างแม่น้ำลั่วก็ระเบิดคลื่นทรงพลัง ลั่วชิงหยาและลั่วซิวมองแขกไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเย็นยะเยือก คลื่นหลิงพวยพุ่งในร่างกายของพวกเขาค่อยๆ หลอมรวมกับกองทัพที่เบื้องหลัง ปลดปล่อยรัศมีจั้นยี่ที่ทรงพลังสองสายออกมา
ทั้งสองคนเป็นจั้นเจิ้นซือ!
ทว่าการควบคุมของพวกเขาอยู่ในระดับวั่นเหวินจั้นเจิ้นซือเท่านั้น
ความโกลาหลแตกออก ทุกคนมองร่างเงานั้นด้วยความโกรธเกลียด ชิงชังและความหวาดกลัว ชัดว่าพวกเขาคุ้นหน้าแขกคนนี้ เนื่องจากคนที่มาก็คือประมุขตระกูลเสี่ยเสิน…เสี่ยหลิงจื่อ!
ชื่อเสียงเหม็นเน่าของเขาในดินแดนซีเทียนเล็กสามารถทำให้เด็กน้อยร้องไห้จ้าได้เลยทีเดียว
“ไสหัวไป! ตระกูลลั่วเสินไม่ต้อนรับแก!” ลั่วเทียนเสินจ้องไปที่เสี่ยหลิงจื่อขณะที่ตะเบ็งเสียง
คลื่นหลิงมหึมากวาดออกไป ทำให้มิติบิดเบือนอย่างรุนแรงพร้อมกับแรงกดดันที่น่ากลัวปกคลุมสวรรค์และโลก
“ฮ่าๆ ไม่มีซอกมุมไหนในดินแดนซีเทียนเล็กนี้ที่ตระกูลเสี่ยเสินไม่สามารถไปได้” ได้ยินเสียงคำรามของลั่วเทียนเสิน เสี่ยหลิงจื่อก็ยิ้มเยาะ
เมื่อเขาโบกมือ คลื่นโลหิตก็พวยพุ่งที่ด้านหลัง ร่างเงาห้าร่างก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งเมื่อปรากฏตัวก็ทำให้ทุกคนต้องสูดลมหายใจเย็นเข้าไปลึกสุดปอด
นั่นเพราะทั้งห้าคนมีความผันผวนของคลื่นหลิงที่ทรงพลังรอบตัว… นี่คือจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นห้าคน!
“นั่นคือผู้อาวุโสทั้งห้าของตระกูลเสี่ยเสิน ไม่คิดว่าครั้งนี้จะมากันหมดเลย!” ฝูงชนกลายเป็นความโกลาหลตามด้วยเสียงหวาดกลัว
ใบหน้าของลั่วเทียนเสินเขียวคล้ำ ดูเหมือนว่าตระกูลเสี่ยเสินตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำลายพิธีเทพธิดาลั่ว ถึงกับนำจอมยุทธ์ชั้นสูงทั้งหมดออกมา!
นอกจากนี้เขายังสามารถสัมผัสได้คลุมเครือถึงคลื่นหลิงที่ลึกซึ้งและทรงพลัง ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะมาจากตระกูลลี่เสินและตระกูลกู่เสิน เพียงแค่ความขัดแย้งของพวกเขากับตระกูลลั่วเสินไม่ชัดเจน แต่ลั่วเทียนเสินรู้ว่าเมื่อไรที่พวกตนแสดงความอ่อนแอออกมา คนพวกนั้นก็จะไม่ลังเลที่จะเหยียบย่ำซ้ำเติม!
คราวนี้ตระกูลลั่วเสินตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแล้ว
เสี่ยหลิงจื่อยิ้มมองไปที่ลั่วเทียนเสิน ก่อนจะหันเหความสนใจไปที่ลั่วหลี “ตราบใดที่เจ้าเห็นด้วยที่จะให้ลั่วหลีแต่งเข้าตระกูลเสี่ยเสิน ตระกูลของข้าก็จะให้การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ตระกูลเจ้า”
“ลั่วเทียนเสิน ข้ามาด้วยความตั้งใจอันเป็นสันติ อย่าย้อมพื้นด้วยเลือดเลย”
ลั่วเทียนเสินมองเสี่ยหลิงจื่อโดยไม่มีริ้วอารมณ์ใด “ในเมื่ออยากจะรู้คำตอบนัก งั้นข้าจะบอกให้”
เขายกมือขึ้นโบกพร้อมกับเสียงเย็นที่เต็มไปด้วยไอสังหารระเบิดดังก้อง
“ค่ายกลแม่น้ำลั่ว!”