บทที่ 1922 ภาคใต้ทําลายค่ายกล
เรือรบหมื่นปีลอยอยู่บนท้องฟ้า ฟางหยวนมองค่ายกลวิญญาณอมตะที่อยู่ด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม
เขากลับมายังภูเขาอี้เทียนอีกครั้ง เขาต้องการนําอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดออกไป
นี้เป็นช่วงเวลาที่ไร้ที่ติ
ประการแรก วูหยงนําผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของภาคใต้ส่วนใหญ่เดินทางไปยังภาคกลาง ภาคใต้จึงกลายเป็นจุดอ่อนประการที่สองการต่อสู้พึ่งเริ่มต้นนี่อาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ฟางหยวนจะมีเวลาว่างทําสิ่งนี้
“ต่างจากชีวิตก่อนหน้า ขาสามารถวางแผนการทั้งหมด ข้าเอาชนะวังสวรรค์ซ้ําแล้วซ้ําอีก ทุกคนรู้ความลับการกําเนิดใหม่ของข้าวังสวรรค์ต้องมีวิธีรับมือการเตรียมการของพวกเขาจะแตกต่างจากครั้งก่อนข้าควรปล่อยให้ผู้อมตะของอีกภูมิภาคโจมตีก่อนขณะที่ข้าสังเกตการณ์และตรวจสอบวิธีการใหม่ๆของวังสวรรค์อยู่ข้างสนามรบ
ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี
เมื่อถึงจุดนี้ความได้เปรียบในการกําเนิดใหม่ของเขาก็เกือบหมดลงแล้ว ความทรงจําในชีวิตก่อนหน้าไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป
วังสวรรค์ไม่ได้โง่เขลา พวกเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงแผนการบางอย่าง
หากฟางหยวนโจมตีก่อน เขาจะติดอยู่ในการต่อสู้ที่ไม่จบสิ้นและไม่สามารถหลบหนี้ เขาอาจตายในกระบวน
การนี้
ท้ายที่สุดรากฐานของวังสวรรค์ก็ไม่สามารถหยั่งถึง ฟางหยวนไม่แน่ใจว่าเทพอมตะจะทิ้งการจัดเตรียมไว้เปื่องหลังมากเท่าใด
ท่าไม้ตายอมตะฝนหลอมรวม!
ฝนเริ่มโปรยปรายลงจากท้องฟ้าและแทรกซึมเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะ
ผู้อมตะที่ปกป้องมันอยู่เริ่มตื่นตระหนก
ค่ายกลวิญญาณอมตะไม่สามารถปิดกันฝนหลอมรวมและถูกปรับแต่งโดยฟางหยวนอย่างต่อเนื่อง
แม้ค่ายกลนี้จะถูกจัดตั้งขึ้นโดยจ่อชิวหยแต่ฟางหยวนลอบทําธุรกรรมกับเขามาหลายครั้งและได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับมัน
นอกจากนั้นเขายังมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกล ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา รวมถึงท่าไม้ตายอมตะฝนหลอมรวม นี้ทําให้การปรับแต่งวิญญาณดําเนินไปได้อย่างราบรื่น
“ปีศาจฟางหยวนไม่ได้โจมตีภาคกลางแต่มาที่ภาคใต้!”
“ข้าควรทําอย่างไร?”
“ขอความช่วยเหลือ?”
“ผู้อมตะระดับแปดของเราไปที่ภาคกลางภายใต้การน่าของท่านวหยง!”
“ไม่ว่าอย่างไรเรายังต้องแจ้งเรื่องนี้กับพวกเขา!”
ผู้อมตะภาคใต้ไม่กล้าต่อสู้กับฟางหยวน พวกเขาไม่มีกําลังเสริมและทําได้เพียงพึ่งพาค่ายกลวิญญาณอมตะเท่านั้น
ค่ายกลวิญญาณอมตะเปลี่ยนแปลงไป ความเร็วในการปรับแต่งของฟางหยวนลดลงทันที
แต่ฟางหยวนกลับรู้สึกมีความสุข
ยิ่งค่ายกลเปลี่ยนแปลงมากเท่าใด เขาก็ยิ่งสามารถทําความเข้าใจมันได้มากเท่านั้น ด้วยความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญาเขาสามารถทําความเข้าใจความลับทั้งหมดของมันได้อย่างง่ายดาย
ภาคกลาง กองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้เข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ
วหยงและคนอื่นๆได้รับข่าวในเวลานี้
“กระไรนะ!? อาณาจักรแห่งความฝันถูกโจมตีงั้นหรือ?”
“สารเลวฟางหยวน!”
“เขามองเห็นภาพรวมบ้างหรือไม่?”
ผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความโกรธ
วูหยงเงียบก่อนกล่าว “แน่นอน เขาเห็น”
“ท่านรูหยง ท่านหมายความว่าอย่างไร?” ปาเต่อหน้าซีด การกระทําของฟางหยวนเป็นการทําลายผลประโยชน์ของพวกเขา
ทุกคนรู้คุณค่าของอาณาจักรแห่งความฝัน มันจะมีความสําคัญมากขึ้นเมื่อยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึง
วูหยงยิ้ม “หากฟางหยวนมองไม่เห็นภาพรวม เขาคงโจมตีอาณาจักรแห่งความฝันไปนานแล้ว เขาจะไม่รอ ให้พวกเรามาที่ภาคกลางหรือบางทีเขาอาจต้องการใช้พวกเราเป็นเหยื่อสังเวย”
“แล้วพวกเราจะเสียสละตัวเองเพื่อเขางั้นหรือ?” บางคนถามด้วยความไม่พอใจ
“ไม่” วูหยงส่ายศีรษะ “หากวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ มันจะเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าฟางหยวนเกิดใหม่แล้ว ดูเหมือนเขาจะวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดี แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องโจมตี นี่เพื่อผลประโยชน์ของทุกคน”
“ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้วว่าเมื่อเราจากมา ภาคใต้อาจถูกโจมตี แต่ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวสหายอาณาเขตการสูญเสียทั้งหมดจะกลายเป็นไร้ความหมายเมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมหากวังสวรรค์สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมเราทุกคนจะหมดทางรอด มันจะไม่เหลืออนาคตสําหรับพวกเราอีกต่อไป”
ดวงตาของวูหยงส่องประกายขึ้นและกวาดมองไปรอบๆ เขาประกาศ “นี่คือคําสั่ง! ให้ผู้อมตะที่ปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะล่าถอย อย่าเสียสละโดยไม่จําเป็น ข้ารู้ว่านี้มีความเสี่ยง แต่กระทั่งตระกูลวของข้าจะถูกทําลายข้าก็จะไม่ถอนคําพูด!”
ความมุ่งมั่นของรูหยงทําให้หัวใจของกลุ่มผู้อมตะสั่นไหว
ตอนนี้หัวใจของพวกเขารวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ทุกคนตัดสินใจทําตามคําสั่งของวูหยงและบุกโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ
หลังจากได้รับคําสั่ง ผู้อมตะที่ปกป้องอาณาจักรแห่งความฝันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขารีบนําวิญญาณอมตะออกจากค่ายกลและหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ครูต่อมาฟางหยวนก็ได้รับวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลจากวูหยง
จดหมายมีเพียงข้อความสั้นๆที่กล่าวว่า ภัยคุกคามของวังสวรรค์และวิญญาณชะตากรรมรุนแรงขณะที่อีกส์ภูมิภาคอ่อนแอ
เขาไม่ได้ขอให้ฟางหยวนหยุด
“วหยงผู้นี้…” ฟางหยวนถอนหายใจ
ก่อนหน้านี้วหยงใช้ทักษะทางการเมืองของเขาเพื่อหยุดการกรรโชกทรัยย์ของฟางหยวนและทําให้เขาพบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ตอนนี้วหยงกลับขอให้ผู้อมตะภาคใต้หยุดป้องกันและให้พวกเขาล่าถอยออกไปสิ่งนี้ช่วยฟางหยวนได้มาก
หากผู้อมตะภาคใต้ยังอยู่ มันจะทําให้เขาเสียเวลา
หลังจากฟางหยวนประสบความสําเร็จในการรื้อถอนค่ายกลวิญญาณอมตะและได้รับอาณาจักรแห่งความฝันมีความเสี่ยงที่ภาคใต้จะถูกเขาโจมตี
แต่วหยงมั่นใจว่าฟางหยวนสามารถมองเห็นภาพรวม เขาจะไม่สร้างปัญหาในภาคใต้
เช่นเดียวกับที่ฟางหยวนรู้ว่ารูหยงจะไม่กลับมาจากภาคกลางเพื่อปกป้องอาณาจักรแห่งความฝัน
ความจริงก็คือฟางหยวนไม่มีความตั้งใจที่จะสร้างปัญหาให้กับฝ่ายธรรมะของภาคใต้ในเวลานี้
หลังจากใช้ความพยายามบางอย่าง ฟางหยวนก็สามารถยึดครองอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมด
ภูเขาอี้เทียนกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ในอดีตราวกับไม่เคยเกิดขึ้น มันดูเหมือนภูเขาทั่วไปที่ไร้สิ่งมีชีวิตทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
ฟางหยวนเดินทางกลับภาคกลาง
ขณะที่เขาเดินทาง เขาเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้ให้กลายเป็นกายาแห่งความฝัน
ในการต่อสู้ที่กําลังจะปะทุขึ้น กายาแห่งความฝันจะเป็นตัวช่วยชั้นยอด แม้ฟงจินฮวงจะมีวิธีต่อด้านมันแต่มันก็มีเพียงฟงจินฮวงผู้เดียวที่สามารถทําได้ขณะที่การต่อสู้ครั้งนี้มีหลายสนามรบ
วังสวรรค์ วิหารกลาง ห้องโถงใหญ่
ราชันมังกร เทพธิดาจอเว่ย และฉินติงหลิงเฝ้ามองสถานการณ์
เจิ้งหยวนได้รับเชิญให้มาที่นี้เช่นกัน
“ข่าวล่าสุด ผู้อมตะภาคใต้ทําลายด่านแรกของค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้รูปแบบเรียบร้อยแล้วพวกเขากําลังทําลายด่านที่สอง ฟางหยวนปรากฏตัวที่ภูเขาอี้เทียนและยึดครองอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดเทพธิดาจอเว่ยแจ้งข่าว
ราชันมังกรกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ฟางหยวนไม่สร้างความโกลาหลที่ภาคใต้ เขาจะมาต่อสู้ที่ภาคกลางอย่างแน่นอนดูเหมือนเราต้องจัดการอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้”
เทพธิดาอเว่ยพยักหน้า “เราโชคดีมากที่ฟงจินฮวงสามารถสร้างกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบ นางสามารถต่อด้านวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวน”
ราชันมังกรหัวเราะ “นี่คือพลังอานาจของโชคชะตา! วังสวรรค์จะไม่แพ้การต่อสู้ครั้งนี้ เราจะไม่แพ้!”
ทันใดนั้นเทพธิดาจ่อเว่ยพลันอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “ผู้อมตะภาคใต้ทําลายด่านที่สองและเข้าสู่ด้านที่สามแล้ว”
“เหตุใดจึงรวดเร็วนัก?” กระทั่งฉินติงหลิงยังตกใจ
ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยขวัญกําลังใจ
“จ่อชิวหยู ทําได้ดีมาก”
“สมกับเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล!”
“มีท่านจือชิวหยูอยู่ที่นี่ ค่ายกลใดจะสามารถหยุดพวกเรา ฮ่าฮ่าฮ่า”
จ่อชิวหยุนํากลุ่มผู้อมตะทําลายด่านที่สองอย่างรวดเร็ว กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ต่างยกย่องเขา
อย่างไรก็ตามจอชิวหยูกลับส่ายศีรษะ “ความจริงก็คือข่าได้รับข้อมูลจากฟางหยวน”
กลุ่มผู้อมตะภาคใต้อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
จ่อชิวหยูกล่าวต่อ “ข้าสามารถทําลายค่ายกลอย่างรวดเร็วด้วยตนเองเช่นกัน แต่นั่นเป็นวิธีต้องห้ามที่จะทําให้อายุขัยของข้าลดลง ดูเหมือนฟางหยวนจะเกิดใหม่แล้วจริงๆ ในชีวิตก่อนหน้าเขาต้องเคยทําลายค่ายกลนี้มาแล้วดังนั้นเขาจึงรู้จักมันเป็นอย่างดี”
กลุ่มผู้อมตะพยักหน้าเห็นด้วย
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือชื่อชิวหยูเป็นคนอธิบายความลึกซึ้งของค่ายกลนี้แก่ฟางหยวน
ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนร่วมมือกับจอชิวหยูและผู้อมตะคลื่นทมิฬใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคเพื่อทําลายค่ายกลนี้
ในชีวิตนี้ เนื่องจากวูหยงขอให้ผู้อมตะภาคใต้ล่าถอยออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนจึงตอบแทนด้วยการชี้แนะพวกเขา
หลังจากทราบสถานการณ์ วูหยงแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “ดูเหมือนฟางหยวนจะมาถึงภาคกลางแล้ว”
ฟางหยวนเข้าใจวหยงแต่วหยงก็เข้าใจฟางหยวนเช่นกัน
ด้วยคําแนะนําของฟางหยวน กองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงสามารถฝ่าฟันอีกสองด้านของค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก่ารูปแบบไปได้อย่างง่ายดาย
เทพธิดาจอเว่ยขมวดคิ้วเมื่อตระหนักถึงสถานการณ์นี้นางกําลังคิดวิธีรับมือแต่ในจังหวะนี้แสงสีรุ้งกลับส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้าของวังสวรรค์
คฤหาสน์วิญญาณอมตะแท่นบูชาแห่งโชคระดับแปดพุ่งออกมา
“วังสวรรค์ เรามาแล้ว!” ปิงช่วยวยตะโกนเสียงดัง
“เรากําลังรออยู่”ฉินติงหลิงค่อยๆยืนขึ้น