“ใช่ค่ะ คุณชายแสนรัก ฉันไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ ฉันช่วยคุณหมอสวยใสต้มข้าวต้มก็จริง แต่ว่า ฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้เด็ดขาด”
ใช่ ก็เพราะว่าไม่กล้าทำ!
เพราะแบบนั้น เธอก็เลยเทภารกิจที่เธอต้องทำจนหมด
ขวัญเมืองจ้องมองคนคนนี้น้ำตาคลอ
เส้นหมี่จึงเงยหน้าขึ้นมา “ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใคร? ข้าวต้มถูกต้มอยู่ที่นี่ตลอด นอกจากเธอ ยังมีใครได้เข้าใกล้มันอีก?”
“เยอะแยะ ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่หวงห้าม แค่เป็นคนที่อยากฆ่าฉัน ถ้าอยากมาก็มาได้ทั้งนั้น”
ขวัญเมืองยังไม่ทันได้ตอบ ก็ถูกชายที่อยู่ตรงประตูคนนี้พูดตัดหน้า
แต่ว่า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและความเย็นชา ฟังแล้ว ราวกับดาบคมที่ถูกความหนาวเหน็บอาบทั้งเล่ม แม้จะอยู่ห่างมากขนาดไหน ก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหาร
เส้นหมี่ “……”
ทันใดนั้น ใจของเธอก็มีความรู้สึกไม่ดีแปลกๆอีกแล้ว เธอรีบเดินมา
“คุณแสนรัก คุณคิดจะทำอะไร?”
“ไม่มีอะไร เทข้าวต้มทิ้งเถอะ วันนี้อุตส่าห์สงบ” เขาพูดนิ่งๆเพียงประโยคเดียว จากนั้น ก็หันหลังเดินจากไป
จบลงแค่นี้หรือ?
เขาไม่เอาเรื่องคนพวกนั้นแล้วหรือ? ปล่อยพวกเขาไปหรือ?
เส้นหมี่แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เพราะว่า ชายคนนี้ไม่ใช่คนใจกว้างอะไรเลย โดยเฉพาะหลังจากที่เปลี่ยนบุคลิกไป กับคนในตระกูลนี้แล้ว ไม่ว่าคนพวกนั้นจะทำอะไร เขาจะเอาคืนมากกว่าเสมอ!
ไม่เคยออมมือให้
เส้นหมี่รู้สึกลนลานมาก
แต่ในความเป็นจริง หลังจากผ่านวันงานเลี้ยงไป สองวันหลังจากนั้น ชายคนนี้สงบเสงี่ยมมาตลอดจริงๆ เขาไม่ได้มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอะไร
มากกว่านั้น ตั้งแต่ที่ไชยันต์กลับมาอยู่ที่นี่ ทุกครั้งที่ต้องการพบเขา เขาก็ให้ความร่วมมือดี
หรือว่า จะคิดได้แล้ว?
เมื่อเส้นหมี่เห็นดังนั้น ก็ค่อยๆวางใจลง
จนกระทั่ง เวลาเที่ยงของวันที่สาม เขากำลังสอนไชกุจัดการงานที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลเทวเทพในห้องสมุด จู่ๆเขาก็ล้มลงกับพื้นต่อหน้าไชกุอย่างกะทันหัน
“แสนรัก? แสนรัก?!!”
ไชกุเห็นดังนั้น ก็ตกใจแล้วตะโกนลั่นขึ้นมาทันที
หลังจากไม่กี่นาที เมื่อเส้นหมี่และไชยันต์พุ่งเข้ามาในห้องสมุดนี้กันทั้งคู่ คนคนนี้ก็ไม่หลงเหลือสติใดๆแล้ว
และสิ่งที่ตามมาด้วย คือริมฝีปากสีม่วงคล้ำๆนั่น!
“โดนวางยา?”
เมื่อเส้นหมี่เห็นภาพนี้ ด้วยความตกใจและทำอะไรถูก ในหัวของเธอก็ผุดขึ้นมาเพียงสองคำนี้ คือสิ่งนี้
ไชยันต์ที่อยู่ข้างๆได้ยิน ใบหน้าก็ซีดไปหมดทันที
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ในโรงพยาบาลเขตทหาร ไพบูลย์ให้คำตอบว่า ถูกวางยาจริง และยังเป็นการวางยาด้วยยาเสพติด ยาเสพติดชนิดนี้ อาการที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดคือการทำให้โลหิตจางแล้วเกิดการช็อก
“ตอนนี้ระยะเวลาในการโดนวางยาของเขายังไม่นานนัก จากที่ตรวจเลือดแล้ว ก็คงจะสามสี่วัน ยังทันอยู่”
ไพบูลย์พูดจบ ก็เดินไปอย่างรีบร้อนอีกครั้ง
เหลือเพียงเส้นหมี่และไชยันต์สองคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผ่านไปเป็นเวลานาน บรรยากาศบนทางเดินชวนให้ขนลุกอย่างมาก
ยาเสพติด!
คนที่ถูกขังไว้ที่เดอะวิวซีของไชยันต์เพื่อรักษาร่างกายอยู่ดีๆ สุดท้าย กลับโดนวางยาด้วยยาเสพติด นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?
ลือกันว่าไชยันต์คนนี้คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นศัตรูตัวฉกาจของกองกำลังชั่วร้ายทั้งประเทศ แต่มีคนโดนวางยาพิษในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเนี่ยนะ ไม่รู้สึกว่ามันน่าขันไปหน่อยหรือ?
จิตสังหารรุนแรงที่ไชยันต์ไม่เคยมีมาก่อน!
เหมือนกันกับเส้นหมี่ในขณะนี้ ที่เมื่อได้ยินผลลัพธ์แล้ว สมองราวกับถูกฟ้าผ่า เพียงเสี้ยววินาทีสั้นๆ เธอสูญเสียการนึกคิดทั้งหมดไป!
ที่แท้ นี่คือความจริงนั่นเอง!
ที่แท้ ความลนลานที่ไม่สงบนิ่งหลายวันมานี้ของเธอ มันไม่ใช่ว่าคนคนนี้คิดได้แล้ว จึงปล่อยคนพวกนั้นไป
แต่ว่า เขาใช้วิธีที่เสียสติแบบนี้มาเอาคืนพวกเขา เขาเป็นเหมือนปีศาจ พวกเขาคิดจะวางยาเขา ได้ งั้นเขาลงมือทำเอง จากนั้น เขาใช้สิ่งที่เหล่าผู้คนในตระกูลทหารตระกูลนี้เกลียดชิงชังมากที่สุดมาไว้ในร่างกายของตนเอง
แน่นอนว่าเป้าหมายคือ เพื่อให้พวกเขาหายสาบสูญไป ไม่เหลือแม้แต่ซาก!
ไอ้บ้านี่
นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไง? เขาไม่รู้หรือไงว่านั่นคืออะไร? เพื่อเอาคืน เขาถึงกับไม่รักษาชีวิตของตัวเองเลยหรือ?
เส้นหมี่สั่นไปทั้งร่าง
ภายในดวงตา มีน้ำตาไหลรินลงมาไม่หยุด นั่นเพราะความโกรธและเจ็บปวดใจ
แล้วก็ทรมานไปสามชั่วโมงเต็มๆ ในที่สุด ไพบูลย์ก็ออกมาแล้ว
“คุณเส้นหมี่……”
“ด็อกเตอร์ไพบูลย์ เขา……เขาเป็นอย่างไรบ้าง? คุณบอกความจริงฉันมา สิ่งนั้น มันเป็นอันตรายต่อ……ร่างกายเขามากแค่ไหนกันแน่?”
ทันทีที่เส้นหมี่เห็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนนี้ น้ำตาก็ไหลมากขึ้นกว่าเดิม
ไพบูลย์เห็นดังนั้น ทำได้เพียงถอนหายใจ “ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร นี่คุณจับตาดูเขายังไงกัน? ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นมาวางยาแบบนี้กับเขาได้? ยาเสพติดนี้ไม่ใช่ยาพิษทั่วไป มันทำให้เสพติดไม่รู้หรือ?”
“……”
เพียงประโยคเดียว เส้นหมี่รู้สึกราวกับถูกคนโยนลงโรงน้ำแข็ง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดูเขาดีๆ
แต่มันเป็นเพราะ เขาวางยาตัวเอง
เส้นหมี่ร้องไห้แล้วค่อยๆทรุดตัวลงไป เป็นพักใหญ่ๆ ที่เธอกุมขมับและมองเห็นเพียงภาพสีดำ
——
สวนแมกโนเลีย
ตอนที่นีรวรรณและขุนรักษ์รีบตามมาถึง เดือนใจก็ถูกไชยันต์สั่งให้คนกดตัวเอาไว้แล้ว ข้างๆ มีประพันธ์ยืนอยู่ แต่ว่า เขาในตอนนี้ไม่กล้าส่งเสียงเลยแม้แต่น้อย