บทที่ 1928 ฟางหยวนเคลื่อนไหว

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1928 ฟางหยวนเคลื่อนไหว

 

เทพอมตะตะวันเดือดเคยบอกปิงชายฉวนว่า “หากแผนการโจมตีวังสวรรค์ล้มเหลว ถ้ําสวรรค์นิรันดรสูญเสีย ความหวังทั้งหมดที่จะได้รับวิญญาณชะตากรรม พวกเขาต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลสําคัญ”

 

“ผู้ใดคือบุคคลสําคัญ?” ย้อนกลับไป ปิงช่ายฉวนถามคําถามนี้

 

เทพอมตะตะวันเดือดตอบเขาว่า “ผู้ใดก็ตามที่ทําลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าจะรู้”

 

แผนการของถ้ําสวรรค์นิรันดรคือการขโมยวิญญาณชะตากรรมเพื่อหลอมรวมวิญญาณพรหมลิขิต

 

แต่แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า ปิงชายฉวนพบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในคราวนี้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน

 

ในเวลาที่ฟางหยวนได้รับจดหมายจากปิงชายฉวน เขาซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะของนิกายท้าทายสวรรค์ในภาคกลาง

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยนิกายเงาเพื่อใช้เป็นฐานทัพลับของนิกายท้าทายสวรรค์ อย่างไรก็ตาม หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน นิกายท้าทายสวรรค์ถูกกวาดล้างโดยเทพธิดาจื่อเว่ย นั่นทําให้ฐานทัพแห่งนี้กลายเป็นว่างเปล่า

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้สังหารโจวซึ่งซิน ในชีวิตนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไป ฟางหยวนล่าถอยอย่างรวดเร็วและไม่ได้ต่อสู้กับโจวซ่งซิน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าถ้ําสวรรค์นิรันดรจะประสบปัญหาเช่นนี้” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

เดิมทีฟางหยวนไม่รู้สถานการณ์ในวังสวรรค์ แต่จดหมายของปิงชายฉวนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า ในไม่ช้าฟางหยวนก็พบสิ่งที่ทําให้ถ้ําสวรรค์นิรันดรพบปัญหาและถูกปิดกั้นโดยกําแพงปราณทันทีที่มาถึง

 

“มันเป็นเพราะฉินติงหลิง ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของนาง วังสวรรค์จึงสามารถค้นหาการจัดเตรียมของเทพอมตะตะวันเดือด พวกเขาใช้สิ่งนี้ซุ่มโจมตีถ้ําสวรรค์นิรันดร”

 

“นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีต…ครั้งนี้ปิงชายฉวนใช้มันต่อสู้กับกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ แต่ในชีวิตก่อนหน้าปิงช่ายฉวนใช้มันต่อต้านราชันมังกร”

 

ก่อนหน้าที่ฟางหยวจะได้รับข้อมนี้ เขาเคยสงสัยเกี่ยวกับวิธีการขนส่งของวังสวรรค์และพยายามหาวิธีทําลายมัน

 

เทพธิดาจอเว่ยให้ความสําคัญกับมันและทําทุกอย่างเพื่อรักษาวิธีการนี้เอาไว้ นี่ยิ่งทําให้ฟางหยวนต้องการทําลายมันมากขึ้น

 

ตอนนี้ฟางหยวนสามารถอนุมานว่าค่ายกลวิญญาณอมตะขนส่งในวังสวรรค์ใช้กระดานหมากรุกกลุ่มดาวเป็นแกนกลาง

 

แรกเริ่มฟางหยวนยังไม่รู้ว่าฉันซึ่งเป็นบุคคลสําคัญของเรื่องนี้

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฉันซ่งปรากฏตัวขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เขานํากลุ่มผู้อมตะเดินทางไปยังถ้ํามังกรเร้นและเสียชีวิตทันที ในเวลานั้นกลุ่มผู้อมตะของทะเลตะวันออกไม่ได้บอกข้อมูลนี้แก่ฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอนุมาน

 

แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว

 

“ตามข้อมูลที่ปิงชายฉวนส่งมา แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ แต่นางยังปรากฏตัวขึ้นที่กําแพงปราณเพื่อสังเกตการณ์ นางต้องรักษาวิธีการขนส่งเอาไว้แต่นางยังสามารถให้ความสนใจการต่อสู้

“นางมีผู้ช่วย!”

 

“คนผู้นั้นคือผู้ใด? มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอีกคนงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนโยนความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

 

นี่ไม่ใช่เวลาคิดเกี่ยวกับคําถามนี้ เขาต้องตัดสินใจโดยเร็วที่สุด

 

ในฐานผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ฟางหยวนเหมือนผู้เล่นหมากรุกที่กําลังต่อสู้กับเทพธิดาจื่อเว่ย

 

ทั้งสองฝ่ายมีหมากของตัวเอง

 

เห็นได้ชัดว่าเทพธิดาจื่อเว่ยเป็นฝ่ายได้เปรียบ ผลลัพธ์นี้ไม่ได้เกิดจากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่เหนือกว่าของนางเท่านั้นแต่มันยังรวมไปถึงความสามัคคีของสมาชิกวงสวรรค์และสถานการณ์ปัจจุบัน

 

ฟางหยวนอาจแข็งแกร่งแต่เขาทําได้เพียงผลักภาระให้กับผู้อมตะของอีกสี่ภูมิภาค

 

แม้เขาจะมีผู้ใต้บังคับบัญชาจํานวนมาแต่มีไม่กี่คนที่มีคุณสมบัติเพียงพอเข้าร่วมในการต่อสู้

 

ฟางหยวนพิจารณาสนามรบทั้งหมดอีกครั้ง

 

สนามรบแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ ผู้อมตะภาคใต้กําลังทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบที่ละชั้นแต่มันยังไร้นัยสําคัญ

 

สนามรบถ้ํามังกรเร้น ผู้อมตะของทะเลตะวันออกถูกขังอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะและกําลังดิ้นรนทําลายมัน แต่เห็นได้ชัดว่าเฒ่าไปเฟิงสามารถอดทนได้นานกว่า

 

สนามรบเมืองจักรพรรดิ ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกยังไปไม่ถึง ขวัญกําลังใจของพวกเขาตกต่ําลงอย่างมาก

 

สนามรบวงสวรรค์ ถ้ําสวรรค์นิรันดรเสียเปรียบเนื่องจากพวกเขาถูกซุ่มโจมตีตั้งแต่แรกเริ่ม

 

“ท่ามกลางสนามรบทั้งสี่ สนามรบวังสวรรค์สําคัญที่สุด วิญญาณชะตากรรมอยู่ในวังสวรรค์ หากเราต้องการชนะการต่อสู้ครั้งนี้ เราต้องทําลายวิญญาณชะตากรรม” ฟางหยวนคิดเช่นเดียวกับเทพธิดาจอเว่ย

 

“ในกรณีนี้เราไม่สามารถแพ้ในสนามรบวงสวรรค์ การเคลื่อนไหวของถ้ําสวรรค์นิรันดรช่างน่าผิดหวังนัก เดิมทีข้าหวังว่าพวกเขาจะสามารถสร้างปัญหาให้กับวังสวรรค์และกระตุ้นการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์

 

ฟางหยวนรู้ว่าเขาต้องสนับสนุนปิงชายฉวน แม่ปิงชายฉวนจะหลอกเขาเพื่อผลประโยชน์ของตนเองในชีวิต ก่อนหน้าและชีวิตนี้ แต่เพื่อประโยชน์ของภาพรวม ฟางหยวนต้องให้การสนับสนุนพวกเขา

 

สนามรบวงสวรรค์

 

ท่าไม้ตายอมตะหมัดมังกรโกลาหล!

 

หมัดของราชันมังกรทําให้แท่นบูชาแห่งโชคสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกทําลายทันที

 

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค เหมาสี่ชิวตะโกน “ปล่อยข้าออกไป ข้าจะรั้งเขาเอาไว้!”

 

ปิงชายฉวนสายศีรษะ “ไม่ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา มันจะเป็นเพียงการรนหาที่ตาย เจ้าไม่เหมือนผู้อมตะอื่นๆ วังสวรรค์จะรุมโจมตีเจ้า”

 

ราชันมังกรเพิกเฉยต่อผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมดและปล่อยให้สมาชิกวงสวรรค์คนอื่นๆจัดการพวกเขา

 

ฝ่ายของวังสวรรค์เข้าใจเป็นอย่างดีว่าพวกเขาจะสามารถหยุดท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตได้โดยการทําลายแท่นบูชาแห่งโชค

 

หากเหมาลี่ชิวเข้าสู่สนามรบ พวกเขาจะโจมตีมัน หากมันเสียชีวิต ฝ่ายของถ้ําสวรรค์นิรันดรจะอ่อนแอลง

 

ท่าไม้ตายอมตะค้อนมังกรถล่มปฐพี!

 

ราชันมังกรตะโกน เขายกกําปั้นขึ้นเหนือศีรษะก่อนจะทุบลงไปเหมือนค้อนยักษ์

 

พื้นผิวของแท่นบูชาแห่งโชคแตกเป็นเสี่ยงๆ วิญญาณจํานวนมากเสียชีวิต ซากศพของพวกมันระเบิดออกไปทุกหนทุกแห่ง หลุมขนาดใหญปรากฏขึ้นบแท่นบูชาแห่งโชคและสามารถมองเห็นภายใน

 

ราชันมังกรคําราม “ถ้ําสวรรค์นิรันดร มีเพียงความพ่ายแพ้เท่านั้นที่รอพวกเจ้าอยู่ ผลลัพธ์นี้ถูกกําหนดไว้ ตั้งแต่วินาทีที่พวกเจ้าพยายามโจมตีวังสวรรค์แล้ว!”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์โห่ร้อง ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นสู่จุดสูงสุด

 

“ราชันมังกรช่างทรงพลังนัก!” ปิงชายฉวนถอนหายใจและรู้สึกหมดสิ้นหนทาง

 

“เหตุใดฟางหยวนยังไม่มาสนับสนุนพวกเรา?” ปรมาจารย์ห้าธาตุรู้สึกกังวล

 

“ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แม้เขาจะเอาชนะวังสวรรค์ซ้ําแล้วซ้ําอีก แต่เขาก็ใช้ประโยชน์จากสายธารแห่งกาลเวลา หากเขามาสนับสนุนพวกเรา เขาจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์งั้นหรือ? แม้เขาจะนําเรือรบหมื่นปีออกมา แต่อีกฝ่ายก็มีราชันมังกร” ปีศาจกระทิงกล่าว

 

ในสถานการณ์ปัจจุบัน มันเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้านราชันมังกรด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดเพียงสองหลัง

 

ความแข็งแกร่งของราชันมังกรน่าสะพรึงกลัวเกินไป

 

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือเขาแข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา

 

มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก

 

เหมาลี่ชิวก่นเสียงเย็น “เด็กผู้นี้นําแม่น้ําหวนคืนไปต่อหน้าข้า แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาก็ยังสามารถต่อต้านราชันมังกรและลดแรงกดดันให้กับพวกเรา”

 

“ฟางหยวนจะมาสนับสนุนพวกเราอย่างแน่นอน” ปิงชายฉวนยิ้ม “ข้าไม่รู้เรื่องของเขามากนัก แต่ข้าเชื่อเทพอมตะตะวันเดือด!”

 

ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ก็ล่าถอยกลับเข้าไปในกําแพงปราณและทิ้งไว้เพียงราชันมังกรเท่านั้น

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเร่งกล่าว “เร็ว เราต้องส่งกําลังเสริมออกไป ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบกําลังจะพังทลาย ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถ้ํามังกรเร้นกําลังเผชิญหน้ากับวิกฤตเช่นกัน!”

 

โจวซ่งซินและคนอื่นๆตกใจ “สถานการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

 

เทพธิดาจ่อเว่ยตอบ “ฟางหยวนเคลื่อนไหวแล้ว”

 

“โอ้ ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบก็ไม่ควรถูกทําลายอย่างรวดเร็ว”

 

“เขาดําเนินการด้วยตั้งเองงั้นหรือ?”

 

“ส่งพวกเราออกไป เราจะฆ่าแหล่งที่มาของความวุ่นวายเพื่อประโยชน์ของโลกใบนี้!”

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์เต็มไปด้วยความคึกคะนอง

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเอาชนะวังสวรรค์ซ้ําแล้วซ้ําอีก เมื่อการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกจัดขึ้น ฟางหยวนก็โจมตีภาคกลางอย่างต่อเนื่อง นี่ทําให้ผู้อมตะของวังสวรรค์โกรธมาก

 

แต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับส่ายศีรษะ “ฟางหยวนไม่ได้แสดงตัว ข้าเกรงว่าคนที่อยู่ข้างนอกจะเป็นเพียงลูกน้องของเขา

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ตกตะลึง

 

เพียงผู้ใต้บังคับบัญชาก็สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะทั้งสองค่ายกลงั้นหรือ?

 

เทพธิดาจื่อเว่ยอธิบาย “ในถ้ํามังกรเร้น วังมังกรปรากฏขึ้น พวกเขาใช้อาณาจักรแห่งความฝันทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ”

 

พวกเขาเข้าใจเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันและคาดเดาไว้แล้วว่าฟางหยวนจะใช้วิธีนี้

 

“แต่เรามีฟงจินฮวงคอยปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ แม้นางจะเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับห้า แต่นางสามารถใช้พลังของค่ายกลเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะทําลายความฝันและเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้เป็นกายาแห่งความฝัน” โจวซ่งซินรู้สึกสับสน

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงซับซ้อน “นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งความฝันกับค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ แต่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งกฎ”

 

“เส้นทางแห่งกฎ!?” กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง

 

“เส้นทางแห่งกฎ?” ที่สนามรบภูเขาขนดก ผู้อมตะภาคใต้รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

 

พวกเขาเรียนรู้จากฟางหยวนว่าพวกเขากําลังเผชิญหน้าอยู่กับค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้รูปแบบและรู้สึกถึงปัญหา แต่พวกเขาไม่คิดว่าฟางหยวนจะมีวิธีต่อต้านและทําให้ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบแตกออกจากกันด้วยตัวมันเอง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้มองเห็นควันไฟห้าสีแทรกซึมเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบและรื้อถอนมันอย่างต่อเนื่อง

 

“นี่คือการสนับสนุนจากฟางหยวน ค่ายกลนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะเต่จุของภาคใต้ มันเรียกว่าค่ายกล วิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค มันจะปล่อยควันห้าสีออกมาและสร้างสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับกําแพง ภูมิภาค” วูหยงอธิบายด้วยท่าทางซับซ้อนหลังจากได้รับจดหมายจากฟางหยวน