เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1228
จวนไท่จื่อ
ฉินอวิ่นไท่จื่อเดินเข้ามาในห้องตัวเองด้วยความโมโห เหรินเจียงและพวกเห็นไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยกลับมาที่จวน ก็พากันออกไปต้อนรับ
“ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย!”
ฉินอวิ่นไม่มองพวกเขาสักนิด เดินเข้าไปในห้องทันที
หลังจากนั้นได้ยินเสียงเครื่องหยกและเครื่องปั้นดินเผาแตกนับไม่ถ้วน ด้านในฉินอวิ่นปาทุกอย่างที่เขาเห็นทิ้งอย่างบ้าคลั่ง
“น่าโมโห น่าโมโหชะมัด อู่จุน ไอ้สวะ ฉันคิดว่าเขาเก่งกาจจริงเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะแพ้อย่างน่าเวทนาขนาดนี้ ฉันหน้าแตกไปหมดแล้ว! เอาของมาอีก ฉันจะปาทิ้ง!”
ฉินอวิ่นตะโกนเสียงดัง เหรินเจียงและพวกรีบเอาแจกัน จานฝนหมึกและเครื่องหยกเข้ามาเป็นกอง!
ฉินอวิ่นปาของทิ้งจนบนพื้นเต็มไปด้วยเศษซาก เขาจึงหยุดลง
หอบหายใจรุนแรง ฉินอวิ่นชี้ประตูแล้วพูดว่า “ฉันทำให้ลู่ฝานชนะสบายๆ ติดกันสองรอบ เพราะต้องการให้ชื่อเสียงของลู่ฝานพังพินาศในวันนี้ คิดไม่ถึงว่าตอนช่วงสำคัญ อู่จุนจะอ่อนแอขนาดนี้ รู้อย่างนี้ ฉันควรจัดคู่แข่งที่แข็งแกร่งให้ลู่ฝานตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ฆ่าเขาให้ตายไปซะ ตอนนี้ข้างนอกไม่รู้ว่ามีคนแอบพูดถึงฉันเยอะขนาดไหน”
เหรินเจียงและพวกไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เห็นได้ชัดว่าไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยกำลังโกรธจนหัวร้อน ใครกล้าพูดมากก็เท่ากับรนหาที่ตายไม่ใช่หรือไง
จู่ๆ ฉินอวิ่นชี้เหรินเจียงแล้วพูดว่า “เหรินเจียงนายว่าทำไมลู่ฝานถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น วันนี้ฉันดูวิทยายุทธของเขา ไม่ด้อยไปกว่าเทียนชิงหยางเลย กระบวนท่าขบวนร้อยอสูรยามวิกาลของอู่จุน ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย”
เหรินเจียงตอบว่า “เตี้ยนเซี่ย ตอนลู่ฝานเข้ามาในเมืองหลวง อันที่จริงวิทยายุทธของเขาธรรมดา แต่พละกำลังและความเร็วของเขา เป็นสิ่งที่พบเห็นได้น้อยมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เตี้ยนเซี่ยลองเทียบกับตอนที่เขาสู้กับจางกวัง ลู่ฝานสู้กับจางกวังบนเวที ใช้แรงออกมาจนหมด งัดกระบวนท่าออกมาทั้งหมด ได้รับชัยชนะแบบหืดขึ้นคอ แต่วันนี้ลู่ฝานสู้กับอู่จุนที่เก่งกว่าจางกวัง คิดไม่ถึงว่าตั้งแต่ต้นจนจบ เขาใช้เพียงสามกระบี่ ส่วนขบวนร้อยอสูรยามวิกาล ยิ่งไม่ได้ผลเข้าไปอีก ด้วยเหตุนี้เห็นได้ชัดว่าพละกำลังของลู่ฝานในตอนนี้ ไม่สามารถพูดคุยกันด้วยเหตุผลปกติแล้ว ฉันคิดว่าเขาน่าจะได้รับการถ่ายทอดบนเขาวิถีบู๊”
ฉินอวิ่นพูดเสียงดังว่า “ใช่! มีเพียงคำอธิบายนี้เท่านั้นถึงจะสมเหตุสมผล ได้รับการถ่ายทอดบนเขาวิถีบู๊ ฉันได้ยินว่าเขาเข้าไปในจวนของเซียนบู๊กระบี่คลั่ง ดูเหมือนว่าอยากฆ่าเขาตอนนี้ คงต้องหาคนที่เข้าไปในเขาวิถีบู๊และได้รับการถ่ายทอดเหมือนกัน ดูเหมือนถานไถเก๋อคงไม่ได้แล้ว”
เหรินเจียงพูดอย่างตกใจว่า “ถานไถเก๋อเหรอ คู่ต่อสู้คนต่อไปที่เตี้ยนเซี่ยเตรียมให้ลู่ฝานคือถานไถเก๋อ! นี่ทำให้ลู่ฝานผ่านด่านได้สบายๆ ไม่ใช่เหรอ”
ฉินอวิ่นโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “นี่กำหนดไว้ก่อนที่อู่จุนจะสู้กับลู่ฝาน ใครจะไปคิดว่าลู่ฝานจะชนะอู่จุน เดิมทีฉันจะให้ถานไถเก๋อชนะได้อย่างง่ายดาย ผู้หญิงคนนี้หน้าตาไม่เลว อีกทั้งยังเป็นคนที่รับช่วงต่อของตระกูลถานไถ ไม่แน่อาจมาอยู่ในตำหนักบูรพาของฉันก็ได้”
เหรินเจียงพยักหน้าเข้าใจ คิดว่าไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยชอบถานไถเก๋อ
ฉินอวิ่นส่ายหน้าพูดว่า “อืม ต้องเปลี่ยนแล้วล่ะ พวกนายคิดว่ารอบต่อไปจะให้ใครเป็นคู่ต่อสู้ของลู่ฝานดี เอาแบบรับรองว่าจะกำจัดเขาทิ้งได้!”
เหรินเจียงและพวกมองหน้ากัน ปรึกษากันเสียงเบาครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นเหรินเจียงพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย พวกเราคิดว่าทางที่ดีให้เทียนชิงหยางจัดการเขา ต้องง่ายดายอย่างแน่นอน!”
ฉินอวิ่นส่ายหน้าพูดว่า “กลัวว่าเทียนชิงหยางจะไม่ได้น่ะสิ ในบรรดาสิบตระกูลใหญ่ มีเขาเพียงคนเดียวที่มีความสัมพันธ์อันดีกับฉัน ถ้าฉันจะใช้งานเขา ต้องรับประกันว่าเขาจะไม่เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งก่อนรอบตัดสิน แม้ฉันรู้ว่าเขามีความแค้นกับลู่ฝาน แต่ตอนนี้จะให้เขาลงมือไม่ได้ ถ้าเกิดเขาสู้กับลู่ฝานจนบาดเจ็บ แล้วรอบที่เหลือจะทำยังไงล่ะ”