ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 695 แก้ไขข้อกังขา

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เรื่องที่เหวินลั่วเสียเล่าให้ฟัง ได้แก้ไขคำถามจำนวนมากที่อยู่ในใจของเยี่ยนจ้าวเกอ

ทว่าเรื่องที่รู้ยิ่งมากเท่าไร คำถามใหม่ในใจก็ยิ่งมีมากเท่านั้น

เยี่ยนจ้าวเกอยืนยันผ่านการสนทนากับเหวินลั่วเสียได้ว่า มีคนกำลังลบประวัติศาสตร์ในอดีตอยู่จริงๆ

เหวินลั่วเสียในฐานะที่เป็นศิษย์สายตรงของประมุขอาคเนย์ รู้จักประวัติศาสตร์เพียงผิวเผิน ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องเล่ามากกว่า

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าการสืบทอดของขุมกำลังใหญ่เฉกเช่นสำนักความมืด จึงได้รู้จักประวัติศาสตร์น้อยนัก

ขุมกำลังขนาดเล็ก ไปจนถึงคนธรรม ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง

ผู้คนทราบดีว่า ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ทุกคนค่อนข้างคุ้นเคย โดยพื้นฐานแล้วเป็นสถานการณ์หลังจากสถานการณ์ใหญ่ของโลกซ้อนโลกมั่นคงขึ้นในหลายพันปีมานี้

รายละเอียดของประวัติศาสตร์เมื่อพันปีก่อน ส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ในกระแสเวลา บางทีอาจจะมีแต่คนที่ได้พบเจอด้วยตัวเองเท่านั้น จึงจะทราบถึงรายละเอียดที่แท้จริง

เรื่องที่เหวินลั่วเสียเล่าในตอนนี้ใช่ว่าจะแม่นยำ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกมั่นใจ เก็บไว้พิจารณาก็พอ

แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็มีความรู้สึกตื่นตะลึงอยู่ดี

‘ราชันพระอาทิตย์ เกาหาน…เป็นชื่อจริงหรือ?’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ

เขามองเหวินลั่วเสีย ถามเหมือนไม่ใส่ใจว่า “กลับไม่ทราบว่าราชันพระอาทิตย์ผู้นี้ จนกระทั่งถึงกษัตริย์โลกากับกษัตริย์เร้นลับในปัจจุบัน เป็นผู้สืบทอดสายตรงของสามพิสุทธิ์ หรือคนของวังเทพ?”

เหวินลั่วเสียชะงัก “เก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนสร้างเขาคุนหลุนขึ้นมาอีกครั้ง ฟื้นฟูสำนักเต๋าขึ้นมาใหม่ ว่ากันว่าครอบครองคัมภีร์อันเป็นวิชาสายหยกพิสุทธิ์

“แต่จะเป็นผู้สืบทอดสายตรงของหยกพิสุทธิ์หรือไม่ หรือได้คัมภีร์ลับมาโดยบังเอิญ บางทีท่านอาจารย์ปู่อาจจะทราบ ข้าเป็นคนรุ่นหลัง ไม่ค่อยแน่ใจนัก”

วังหยกแห่งเขาขุนหลุน สถานที่ประทับของบรรพเทวกษัตริย์ หยวนสื่อเทียนจวินในตำนาน

เหวินลั่วเสียกล่าวต่อ “ถ้าเป็นสายเอกพิสุทธิ์ ความจริงทุกสำนักและทุกพรรคหลังวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ จะมากจะน้อยก็ได้รับอิทธิพลทั้งสิ้น”

เทวะกษัตริย์แห่งเต๋า บรรพบุรุษสายเอกพิสุทธ์กำหนดพื้นฐานของจักรวาลแห่งวรยุทธ์ สั่นสอนหลักแห่งเต๋า เปิดเส้นทางการฝึกฝนให้แก่สรรพสัตว์

ต่อมาร้อยบุปผาบานพร้อมพรัก ร้อยสำนักประชันเสียง ในเวลาอันยาวนาน ยอดฝีมือนำจนวนนับไม่ท้วนคลำหาเส้นทางแห่งเต๋าสายแล้วสายเล่า ฝากระบบสำนักเต๋าเอาไว้มากมาย

หากจะพูดให้ถูกต้อง จอมยุทธ์สำนักเต๋าเก้าส่วนขึ้นไปต่างนับเป็นลูกศิษย์หลานศิษย์ของสายเอกพิสุทธิ์ทั้งสิ้น

หลังวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ผู้คนถ้าไม่สืบทอดสำนักเต๋าก่อนวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ก็ขุดค้นโบราณสถานของคนรุ่นก่อน มุ่งสู่แหล่งกำเนิด ได้รับประโยชน์จากบรมครูเอกพิสุทธิ์ทั้งสิ้น

เหวินลั่วเสียพูดขึ้นหลังจากเว้นครู่หนึ่ง “ส่วนเหนือพิสุทธิ์…กษัตริย์โลกาเคยมีคำสั่งว่า ห้ามไม่ให้ผู้สืบทอดของเหนือพิสุทธิ์เหยียบโลกซ้อนโลก”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ มุมปากของเยี่ยนจ้าวเกอก็บิดเบี้ยวเบาๆ

แต่วันนี้ก็ได้ประโยชน์มากมายแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อมต่อกับตราประทับตะวันเงียบๆ

หลังจากเชื่อมโยงกับตราประทับตะวันได้ลึกล้ำมากขึ้น เขาก็ยิ่งรู้จักของวิเศษชิ้นนี้มากกว่าเดิม เริ่มรู้สึกได้ถึงความพิเศษมากมาย

อย่างเช่น เมื่อดูจากเจตจำนงวรยุทธ์ของราชันพระอาทิตย์เกาหาน ซึ่งใช้ผนึกรอยแยกนพยมโลกในปฐพีพิภพเมื่อครั้งอดีต นั่นเป็นเป็นการใช้วรยุทธ์จากคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ไม่ผิดแน่

ทว่าตัวตราประทับตะวัน นอกจากจิตอันโชติช่วงที่หลอมรวมพระอาทิตย์ไว้แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนจะรู้สึกได้ว่าด้านในยังมีจิตของกฎเกณฑ์บางอย่างอยู่ด้วย

เหมือนกับจิตพลังในคำบรรยายของคัมภีร์พลิกนภาและคัมภีร์นภาหยินหยาง ซึ่งอยู่ในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วน

พลังของตราประทับตะวันเหมือนกับรอยตราพลิกนภาในตำนานซึ่งสามารถคลุมฟ้าดิน พลิกเอกภพได้

ขณะเดียวกัน เทียบกับฉบับชำรุดที่ได้เห็นด้านในวังเทพตอนนั้นแล้ว คัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ที่ตนมีอยู่ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่สมบูรณ์แบบเท่านั้น ยังล้ำลึกและแข็งแกร่งยิ่งกว่า

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งฝึกฝน ยิ่งรู้สึกว่าการปรับปรุงและการเพิ่มระดับคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน มีการอ้างอิงถึงคัมภีร์นภายินหยางที่เป็นวิชาสายหยกพิสุทธิ์อยู่บ้าง

คัมภีร์นภาหยินหยาง เป็นหนึ่งในหกคัมภีร์หลังจากคัมภีร์นภาแรกเริ่ม เหมือนกับคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิต มีความอัศจรรย์ในการเปลี่ยนแปลงของพลังหยินหยางที่ไร้สิ้นสุด

ข้างในนี้ย่อมแฝงความเป็นหยางสุดขีดและความเป็นหยินสุดขีดเอาไว้

เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดในใจ ‘แตกต่างกับที่ข้าคาดไว้ไม่มาก แต่ว่าสถานการณ์ซับซ้อนกว่าเดิม โลกซ้อนโลกแห่งนี้มาได้ถูกจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงถูกคนหลอกขายไปแล้ว ไม่แน่ว่าอาจะต้องช่วยนับเงินไปด้วย’

เจิ้งหมิง เหวินลั่วเสีย แม้แต่พวกคังผิงและฉีเหว่ยไม่ทราบ แต่เยี่ยนจ้าวเกอจำได้ดี

ราชันพระอาทิตย์เกาหาน ในอดีตพร้อมกับที่วางตราประทับตะวันไว้ในหุบเหวบนปฐพีพิภพที่โลกแปดพิภพ เพื่อสะกดรอยแยกนพยมโลก กลับเพื่อปิดบังผู้คนเพื่อใช้แผนต้นหลี่ตายแทนต้นท้อ

เขาอยากปิดบังใคร?

หลังจากปิดบังแล้วไปยังที่ใด ต้องการทำอะไร

เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก นอกจากเกาหาน สตรีที่ทิ้งมงกุฎจันทราไว้ผู้นั้นอาจจะเป็นคนในเก้านพเคราะห์ด้วย

บวกกับซากของดาบราหู เยี่ยนจ้าวเกออดรำพึงรำพันถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในโลกแปดพิภพไม่ได้

ในขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญเรื่องราว คนอื่นก็กำลังจับตามองเขาอยู่

จอมยุทธ์หญิงที่ชื่อเยี่ยซิน ในตอนนี้คอยมองการสนทนาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับเหวินลั่วเสีย สีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย

เมื่อครู่นี้นางกระอักกระอ่วนจริงๆ

พวกคังผิงช่วยเหลือนาง นางได้รับบุญคุณของอีกฝ่าย ตอนแรกคิดจะพูดกับอาจารย์และอาจารย์ลุงเพื่อช่วยเหลือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

มิคาด ต่อมากลับเกิดเรื่องค่ายกลบูชาฟ้า นางจึงได้แต่คอยอยู่ด้านข้างเงียบๆ ถึงขั้นที่รู้สึกโชคดีที่ตนไม่ได้พูดอะไรมาก

ผลลัพธ์สุดท้าย คังผิงถูกกดดันให้ไปพบประมุขอาคเนย์ที่เขาโถงทอง ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ครองความได้เปรียบในทะเลหวงเจีย แม้พลังจะไม่ได้เสียหาย แต่ก็ต้องเก็บตัว เคลื่อนไหวอย่างสงบเสงี่ยม

ทว่าคนหนุ่มตรงหน้ายังคงใช้ชีวิตอย่างสบายใจและเป็นอิสระ

ขณะตกตะลึงที่เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังฝึกปรือขนาดนี้แม้อายุยังน้อย เยี่ยซินก็ยิ่งสั่นสะท้านในเรื่องที่เขาเพียงพลิกมือก็ทำให้ทะเลหวงเจียพลิกฟ้าพลิกดินได้

มาตว่าจะอาศัยสภาวะ แต่สามารถอาศัยบารมีของยอดฝีมือที่ไม่ได้คบหากันอย่างลึกซึ้งกับตนได้ กลับไม่ใช่ใครก็ทำได้

คิดถึงตราประทับตะวัน คิดถึงราชันพระอาทิตย์ เยี่ยซินรู้สึกปลดปลงเล็กน้อย คนตรงหน้านี้จะต้องเป็นคนหนุ่มที่มีโชควาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย

ระหว่างที่ทุกคนครุ่นคิดอย่างซับซ้อน เรือนภาร่อนวายุก็แล่นไปเบื้องหน้า อึดใจเดียวก็เดินทางเป็นระยะหมื่นลี้

เยี่ยซินรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน นางจำเป็นต้องนำทางเจิ้งหมิงผู้เป็นอาจารย์ลุงไปยังสถานที่ที่ตนได้พบอันตรายในตอนนั้น

มาถึงครึ่งทาง เยี่ยนจ้าวเกอก็บอกลาพวกเจิ้งหมิง ลงจากเรือนภาร่อนวายุพร้อมกับเฟิงอวิ๋นเซิงและอาหู่

พวกเขามองเรือนภาร่อนวายุที่แล่นไปไกลในชั่วพริบตา หายไปในท้องฟ้าไม่เห็นแม้แต่เงา อาหู่ก็เช็ดน้ำลาย “คุณชาย ถ้าหากพวกเรามีเรือเช่นนี้คงประเสริฐยิ่ง”

พูดจบกลับไม่พบว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีปฏิกิริยา อาหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้มองเรือนภาร่อนวายุ กลับหมุนตัวไปมองทิศทางตรงกันข้าม

เป็นทิศทางของหุบเขาที่ค่ายกลบูชาฟ้าอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นทิศทางที่เพิ่งจากมา

อาหู่ถาม “คุณชาย เป็นไรไปหรือขอรับ หรือว่ามีคนจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสะกดรอยพวกเรา?”

เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า “ไม่เห็นคนสะกดรอย เพียงแต่เมื่อครู่ตอนที่เห็นค่ายกลนั่น ข้ารู้สึกแปลกๆ อยู่”

“แปลกๆ?” อาหู่ถามอย่างสงสัย “แปลกอย่างไรหรือขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอละสายตา “ถึงอย่างไรก็เป็นภาพเงาแสงจากเคล็ดวิชาคืนสภาพ ไม่ใช่ค่ายกลของจริง ข้าเองก็ไม่ยังไม่กล้าสรุป แต่รู้สึกว่าแตกต่างกับค่ายกลบูชาฟ้าที่ข้าเคยรู้จัก”