อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 978 คู่หมั้น
คนที่เดินออกมาคือหนิงเทียนโย่ว

นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด

ยังไงหนิงเทียนโย่วก็เป็นหลานคนโตของตระกูลหนิง และก็เป็นหลานที่ผู้เฒ่าหนิงรักมากที่สุด

แต่เขากลับยืนอยู่ข้างกู้ชูหน่วน

ได้ยินหนิงเทียนโย่วพูดขึ้นเพียงว่า “ไป๋หลี่หมิง ต่อสู้สามครั้งพ่ายแพ้ทั้งสามครั้ง แค่รับมือกับชีพจรยุทธ์ชั้นเก้าคนหนึ่ง ถึงกับต้องเชิญยอดฝีมือระดับสี่ของตระกูลออกมา เจ้าไม่อายหรือ”

“หนิงเทียนโย่ว เจ้าพูดเข้าข้างเศษสวะคนนี้”

“อย่างแรก นางไม่ใช่เศษสวะ อย่างที่สอง นางเป็นคนที่ตระกูลหนิงเรารับประกันส่งเข้ามา อย่างที่สาม หากเจ้ากล้าแตะต้องนางแม้เพียงขนเส้นเดียว ตระกูลหนิงกับตระกูลไป๋หลี่ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”

ซี๊ด…..

หนิงเทียนโย่วกล้าพูดออกมาถึงเพียงนี้…..

พวกเขาฟังไม่ผิดใช่ไหม

กู้ชูหน่วนเกาะไหล่ของเขา ผิวปาก พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “เสี่ยวโย่วโย่ว ไม่เลวนี่ ไม่เสียแรงที่พี่สาวรักเจ้า”

การกระทำนี้ทำให้เซียวหยู่เซวียนหวนคิดถึงความทรงจำที่หายไปนาน

เมื่อก่อนกู้ชูหน่วนก็เคยเกาะไหล่เขาแบบนี้ และพูดแบบนี้กับเขาเหมือนกัน

หนิงเทียนโย่วหน้าแดง

เขารีบเอามือกู้ชูหน่วนลงมา กู้ชูหน่วนกลับขยับมาใกล้

มีคนมองดูเยอะขนาดนี้ ถูกเรียกว่าเสี่ยวโย่วโย่ว และยังถูก….พูดจาแทะโลมแบบนี้

เขายังอยากรักษาหน้าตนเองอยู่

หนิงเทียนโย่วพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดมากไปแล้ว ท่านปู่ของข้าบอกว่า เวลาอยู่ในวิทยาลัยให้ข้าช่วยดูแลเจ้า ไม่อย่างนั้นข้าไม่สนใจเจ้าหรอก”

ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง

อะไรนะ….

ผู้เฒ่าหนิงให้คุณชายหนิงดูแลนาง?

นางไปผูกมิตรกับตระกูลหนิงที่สูงศักดิ์ตั้งแต่เมื่อไหร่?

กู้ชูหน่วนหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ปากไม่ตรงกับใจ พี่สาวเข้าใจ”

หนิงเทียนโย่ว “…”

ยังไงไป๋หลี่หมิงก็เป็นลูกหลานวงศ์ตระกูลผู้ดี ถูกคนทำให้อัปยศอดสูซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทนกลืนความโกรธโมโหนี้ได้อย่างไร

ในขณะที่เขากำลังจะระเบิดความโกรธออกมา

หยางโม่ยืนเดินออกมา พร้อมพูดขึ้นอย่างสี่ตำลึงปาดพันชั่งว่า “เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้นเอง ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน จากก่อเรื่องทะเลาะกันทำไม เวลาขานชื่อก็ใกล้จะถึงแล้ว ไปเข้าพิธีขานชื่อในสนามประลองกันก่อน แล้วเข้าสู่การเปิดเรียนอย่างเป็นทางการ”

หยางโม่หน้าตาดีมีราศี รูปงามสง่าผ่าเผย ยังเป็นถึงองค์ชาย

ถึงแม้ตำแหน่งฮ่องเต้ของแคว้นน้ำแข็ง สืบทอดให้แต่เพียงผู้หญิงไม่สืบทอดให้ผู้ชาย

แต่กษัตริย์หญิงในตอนนี้ ไม่มีเจ้าหญิง มีเพียงเจ้าชายคนเดียว ไม่มีใครรู้ว่าตำแหน่งกษัตริย์ในอนาคตจะเป็นของหยางโม่หรือเปล่า

และแล้ว….

คำพูดของเขามีอำนาจอย่างมาก

แม้แต่ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ก็ยังต้องไว้หน้า

ต่อให้ไป๋หลี่หมิงไม่พอใจแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมถอยหนึ่งก้าว

กู้ชูหน่วนมองพิจารณาดูหยางโม่แวบหนึ่ง ทุกคนคิดว่านางจะพูดขอบคุณ กลับคิดไม่ถึงว่านางเพียงพาพวกเซียวหยู่เซวียนเข้าสู่สนามประลอง แม้แต่ประโยคสุภาพสักประโยคก็ไม่อยากที่จะพูดกับหยางโม่

หยางโม่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

เหมือนกับเขา….ไม่เคยล่วงเกินนางหรือเปล่า

ตอนที่กู้ชูหน่วนเข้าสู่สนามประลอง มองเห็นชายรูปหล่อหุ่นดี กิริยาท่าทางสูงสง่าสุภาพบุรุษ

ชายหนุ่มคนนี้สง่างาม สวมเสื้อผ้าสีฟ้าอ่อน บนเสื้อผ้าปักลวดลายไม้ไผ่สีเขียวเหมือนจริง ตรงเอวผูกเพียงเข็มขัดหยกขาวธรรมดา สามารถแสดงให้เห็นถึงร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเขา

เขาใช้ปิ่นปักผมหยกสีเขียวม้วนผมไว้ ลมพัดผ่านแผ่วเบา พัดปลิวเส้นผมดำสลวย เพิ่มความเก๋ขึ้นไปอีก

เพียงแต่ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยเยือกเย็น ทำให้ไม่มีใครกล้ามองตรงๆ

ตอนที่ชายหนุ่มเดินผ่านกู้ชูหน่วน กู้ชูหน่วนรู้สึกได้ถึงเขาพ่นลมหายใจอย่างแผ่วเบา ดูเหมือนจะถูกเหยียดหยามกู้ชูหน่วนอย่างที่สุด

นางหันไปถามหนิงเทียนโย่ว

“ผู้ชายคนนี้เป็นใคร?” แทบไม่มีใครอยู่ในสายตา

หนิงเทียนโย่วตกใจเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ? แล้วก็คือซ่างกวนหมิงหลางคู่หมั้นของเจ้าไง”

กู้ชูหน่วนแทบสำลักน้ำลายตัวเอง

คู่หมั้นของนาง?

ซ่างกวนหมิงหลาง?

“ทำไม หวั่นไหวเหมือนอย่างผู้หญิงคนอื่นหรือ?” หนิงเทียนโย่วชี้ไปที่นักเรียนคนอื่นในวิทยาลัย คนพวกนี้กำลังมองดูซ่างกวนหมิงหลางอย่างละโมบ แสดงถึงความรักเหนือคำบรรยาย

กู้ชูหน่วนเม้นริมฝีปาก

หวั่นไหวกับผีล่ะสิ

ต่อให้เขารูปร่างหน้าตาดีอีกแค่ไหน ก็ไม่ใช่แบบที่นางชอบ

การหมั้นหมายนี้ นางจะต้องคิดหาวิธียกเลิก