บทที่ 1933 การมาถึงของกําลังเสริม

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

“จับเขา!”

“อย่าให้เขาหนีไปได้”

ความวุ่นวายปะทุขึ้นในการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

ใบหน้าของเฉินซานกลายเป็นซีดขาว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการพยายามคลี่คลายท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของเทพอมตะ อย่างไรก็ตามเมื่อผู้อมตะภาคกลางพุ่งลงมาจากท้องฟ้า เขายังเย้ยหยัน “พวกเจ้าจะจับข้าด้วยคนเพียงเท่านี้งั้นหรือ?”

ต่อมา เขาก็หายตัวไป ณ จุดนั้น

ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลางสูญเสียเป้าหมาย พวกเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบทุกประเภทแต่ไม่พบร่องรอยใดๆ

“เขาอยู่ที่ใด?”

“เขาเป็นผู้ใด? เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในเมืองจักรพรรดิ!”

“สถานที่แห่งนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งแต่เขาสามารถลอบเข้ามาได้จริงๆ”
“ห้าภูมิภาคใหญ่โตเกินไป มีผู้เชี่ยวชาญซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ผู้อมตะระดับแปดพูดคุยและแยกย้ายกันออกไปค้นหา

เฉินซานซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองจักรพรรดิซึ่งห่างไกลจากสถานที่จัดงานแข่งขันรอบสุดท้าย

แม้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มันยิ่งทําให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาพุ่งสูงขึ้น

“สมกับเป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะ” เขาอุทานในใจและส่งข้อความไปถึงฟางหยวน

“ฟางหยวน ให้เวลาข้ามากกว่านี้ ข้าจะสามารถคลี่คลายท่าไม้ตายนี้ได้อย่างแน่นอน!” เฉินซานกล่าวด้วยความมั่นใจ

ฟางหยวนเย้ยหยัน “ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”

เฉินซานอธิบาย “ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ของเทพอมตะมีพื้นฐานมาจากเจตจํานงของมนุษย์ หากปราศจากเจตจํานงของมนุษย์ มันจะกลายเป็นไร้ประโยชน์”

ฟางหยวนโต้กลับ “แต่เจตจํานงของมนุษย์ถูกเก็บไว้ในวังสวรรค์ มันอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะเอื้อมถึง”

เฉินซานยิ้ม “ถูกต้อง ดังนั้นแทนที่เราจะกําจัดเจตจํานงของมนุษย์ เราควรช่วยสนับสนุนมัน”

ฟางหยวนรู้สึกสนใจ “บอกข้า”

เฉินซานกล่าว “วังสวรรค์รวบรวมเจตจํานงของมนุษย์ภาคกลางเท่านั้น ท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งสามารถแยกแยะมิตรกับศัตรูเพราะสิ่งนี้ หากข้าเพิ่มเจตจํานงของมนุษย์อีกภูมิภาคเข้าไป พวกเขาจะยังรวมใจเป็นหนึ่งได้อีกหรือไม่? วังสวรรค์ใช้ท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนขยายพลังอํานาจของผู้อมตะภาคกลางโดยพึ่งพาเจตจํานงของมนุษย์ภาคกลาง หากมีเจตจํานงของมนุษย์ทั้งห้าภูมิภาคท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆเช่นกัน”

ฟางหยวนถามอีกครั้ง “สิ่งนี้จะเป็นไปได้อย่างไร? เราจะเติมเจตจํานงของมนุษย์อีกสี่ภูมิภาคเข้าไปได้อย่างไร?”

เฉินซานตอบอย่างใจเย็น “ด้านหนึ่ง ข้าเตรียมการไว้ในเมืองจักรพรรดิแล้ว อีกด้านหนึ่งกําแพงห้าภูมิภาคกําลังจะหายไป ห้าภูมิภาคจะรวมเป็นหนึ่ง นอกจากนั้นเราต้องขอบคุณวังสวรรค์ที่ประกาศข่าวออกไปตอนนี้ทั้งห้าภูมิภาครู้ว่าการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมกําลังถูกจัดขึ้นที่ภาคกลางเจตจํานงของมนุษย์ทั้งห้าภูมิภาคกระจุกตัวอยู่ที่นี่เว้นเพียงวังสวรรค์จะใช้เจตจํานงของมนุษย์ที่ถูกเก็บไว้ในส่วนกลางเท่านั้น”

ฟางหยวนเงียบไปชั่วครู่ก่อนกล่าว “ข้าไม่สามารถควบคุมสนามรบทั้งหมด ข้าทําได้เพียงพยายามรักษาสถานการณ์เจ้าต้องต่อสู้อย่างเต็มที่ในทุกวินาที”

“แน่นอน!” เฉินซานกล่าวโดยปราศจากความลังเล

สนามรบเมืองจักรพรรดิ

“ฆ่า!” กลุ่มผู้อมตะของนิกายเทพยุทธ์อมตะตะโกนพร้อมกัน
ภายใต้การควบคุมของพวกเขา คฤหาสน์วิญญาณอมตะค่ายนักรบพุ่งเข้าโจมตีคฤหาสน์วิญญาณอมตะลานสืบสวนของทะเลทรายตะวันตก

ลานสอบสวนเร่งล่าถอย

ค่ายนักรบระเบิดเสาแสงขึ้นสู่ท้องฟ้า

ท่าไม้ตายอมตะเขายักษ์!

เดิมที่ลานสืบสวนไม่กลัวท่าไม้ตายนี้แต่หลังจากท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนถูกใช้งานพลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะเขายักษ์ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ลานสืบสวนเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล มันไม่สามารถต่อต้านการโจมตีระดับนี้

หอดอกไม้ร่วงโรยพยายามเข้าไปช่วยแต่ถูกกีดขวางโดยหอคอยวายุ

“เราไม่สามารถสูญเสียลานสืบสวน คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของตระกูลฟางสามารถสร้างเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อ!” ฟางตี้เฉิงรีบออกคําสั่ง

เขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อสามารถกักขังผู้อมตะระดับแปด ย้อนกลับไปมันยังสามารถกักขังวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อเสียง ทุกคนรู้เรื่องนี้ มันเป็นเพียงว่าตั้งแต่เริ่มต้นผู้อมตะภาคกลางไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาใช้งานมัน

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นเข้าไปสนับสนุนลานสืบสวน แต่ผู้อมตะของภาคกลางสามารถแยกลานสืบสวนออกจากกลุ่ม

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นเสาหลักที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยง่าย มิฉะนั้นมันจะทําให้เกิดช่องว่าง

แต่ในเวลานี้ฟางตี้เฉิงไม่มีทางเลือก

เมื่อเห็นวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนไหว ผู้อมตะภาคกลางรู้สึกตื่นเต้นมาก

“ฟางตี้เฉิงตกหลุมพรางแล้ว!”

“แม้เขาจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่สถานการณ์บังคับให้เขาต้องเคลื่อนไหว”

“เราต้องฉวยโอกาสนี้เพื่อคว้าชัยชนะ!”

“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!”

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของภาคกลางปลดปล่อยการโจมตีออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“ไม่!” ฉากแห่งการทําลายล้างทําให้การแสดงออกของฟางเฉิงเปลี่ยนแปลงไป

ฝ่ายทะเลทรายตะวันตกกําลังจะแพ้

“บึม!”

ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่น คฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดใหญ่หลังหนึ่งบินเข้าสู่สนามรบ

มันมีขนานใหญ่กว่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นวังที่สร้างจากอิฐสีแดงและเต็มไปด้วยรูปปั้น

“นี่คือ?”

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด วังหมื่นรูปปั้น!”
การโจมตีของภาคกลางหยุดลง

ในเวลาต่อมา เสียงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงก็ดังออกมาจากวังหมื่นรูปปั้น “วังสวรรค์ครั้งนี้ข้าจะทําให้พวกเขาชดใช้ด้วยเลือด!”

ในช่วงเวลาสําคัญ บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงก็เข้ามากอบกู้สถานการณ์ในสนารบเมืองจักรพรรดิ

ฟางตี้เฉิงถอยหายใจและพึมพํา “ยังมีความหวังเหลืออยู่”

สนามรบภูเขาขนดก

“บึม!”

มุมหนึ่งของค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคแตกออกอีกครั้ง มันเหมือนศาลาที่มองเห็นภายในได้จากทุกทิศทาง

จิตวิญญาณค่ายกลอ่อนแอมาก ร่างของมันเกือบโปร่งใส เจิ้งปู่ตู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเขาดูแลค่ายกลขณะที่คุกเข่าลงข้างหนึ่ง เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขาและไหลลงมารวมตัวกันอยู่บนพื้น

“ฮีม พวกเจ้าต้องการสร้างปัญหาให้วังสวรรค์งั้นหรือ? พวกเจ้ามีคุณสบัติไม่เพียงพอ!”

“พวกหนูสกปรกทั้งหลาย พวกเจ้าต้องตกเป็นเชลยของวังสวรรค์!”

กองกําลังหลักของวังสวรรค์โจมตีอย่างดุเดือด หลังจากจ่อชิวหยูเสียชีวิต ภาคใต้แทบไม่สามารถตอบโต้และไม่สามารถปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค

“ดูเหมือนชีวิตของข้าจะจบลงที่นี่ แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้ามีช่วงเวลาที่ง่ายดายเช่นกัน!” เจิ้งปู่คู่กัดฟันแน่น เขาตัดสินใจระเบิดตัวเองพร้อมค่ายกลวิญญาณอมตะ

“โฮก…”

อย่างไรก็ตามก่อนที่เจิ้งปู่จะระเบิดตัวเอง เสียงคํารามของมักรกลับดังขึ้น

ผู้อมตะของวังสวรรค์และผู้อมตะของภาคใต้มองไปยังผู้มาใหม่ด้วยความตกใจ

มันเป็นมังกรยักษ์ที่มีร่างกายใหญ่โตเกินจินตนาการ เพียงศีรษะของมันก็เท่ากับเทือกเขาขนาดใหญ่ ร่างกายของมันยาวออกไปราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

“มังกรปีศาจ!”

“นั่นคือจางเฉิง!”

“เหตุใดมันจึงมาที่นี่?”

ดวงตาของมังกรปีศาจจางเฉินกวาดมองไปรอบๆก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์

นั่นทําให้กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตของพวกเขาทันที

“โฮก…”

ตี้จางเฉิงคํารามอีกครั้งและพุ่งเข้าไปหากลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์

“มันเป็นกําลังเสริมของเรา!” ขวัญกําลังใจของผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้น

วูหยงหรี่ตามองและคิด “ตี้จางเฉิงไม่ได้เกลียดชังมนุษย์ทุกคนงั้นหรือ? มันถูกควบคุมหรือเป็นศัตรูของวังสวรรค์? ผู้ใดสามารถควบคุมมัน?

ด้วยเหตุผลหลายประการ ภาพของฟางหยวนผุดขึ้นในใจของวูหยง

“ในที่สุดเราก็รอด” เจิ้งปู่ลุกขึ้นจากพื้น ด้วยความช่วยเหลือจากตี้จางเฉิง เขาจึงรอดชีวิตจากการระเบิดตัวเอง

สนามรบวงสวรรค์

แท่นบูชาแห่งโชคอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ

การโจมตีอย่างต่อเนื่องของราชันมังกรสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้มัน ปีชายฉวนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ฉีซีหลางหมดสติไปนานแล้ว

สาเหตุที่ทําให้เกิดสิ่งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะราชันมังกรแต่มันยังรวมถึงความช่วยเหลือจากฉินติงหลิงและเทพธิดาจื่อเว่ย

ฉินติงหลิงสามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคเพื่อทําลายการป้องกันของแท่นบูชาแห่งโชค เทพธิดาจ่อเว่ยรวบรวมข้อมูลจากการต่อสู้และอนุมาน ณ จุดนั้นก่อนจะบอกให้ราชันมังกรโจมตีในตําแหน่งที่ดีที่สุด

ผู้อมตะทั้งสามทํางานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ของการต่อสู้กําลังจะถูกตัดสิน

ไกลออกไปบนจุดสูงสุดของภูเขา ผู้เล่นหมากรุกสองคนปรากฏตัวขึ้นในศาลาแห่งความโศกเศร้า

“ดูเหมือนฝ่ายของข้าจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้” เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้มบาง

เทพปีศาจไร้ขอบเขตพยักหน้า “วังสวรรค์ปลูกผู้อมตะจํานวนมากล่วงหน้า เจ้าไม่กลัวที่จะถูกเจตจํานงสวรรค์กลืนกินงั้นหรือ?”

เทพอมตะกลุ่มดาวจับตัวหมากรุก “ข้ายังพอมีเวลาอยู่บ้าง ดูเหมือนคนที่เจ้ารอคอยจะไม่ปรากฏตัว แม้เขาจะมาถึง มันก็สายเกินไปแล้ว”

เทพปีศาจไร้ขอบเขตเงียบแต่ทันใดนั้นดวงตาของเขากลับส่องประกายขึ้นดูเหมือนเขาจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง เขายืนขึ้นและหันหลังกลับไปมองสนามรบ

เทพอมตะกลุ่มดาวตกตะลึง นางมองไปทางทิศทางที่เทพปีศาจไร้ขอบเขตชี้นําและเห็นแสงสีขาวส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้า

เรือรบหมื่นปีบินออกมาจากแสงสีขาวพร้อมกับผู้อมตะที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ

เทพอมตะกลุ่มดาววิเคราะห์ผู้อมตะชุดขาว เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา เส้นผมสีดําทิ้งตัวลงมาถึงเอว แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากที่สุดคือดวงตาสีดําราวกับขุมนรกที่กลืนกินแสงสว่างทั้งหมดเข้าไป

ร่างกายของเทพธิดาจื่อเว่ยสั่นสะท้านขึ้น นางเปิดปากอุทานโดยไม่สามารถควบคุม“ฟางหยวน!”

“มันคือฟางหยวน” ฉินติงหลิงเผยรอยยิ้มเย็นชา

“ไม่ว่าผู้ใดจะมา พวกเจ้าก็ไม่สามารถทําสิ่งใด!” ราชันมังกรเงยหน้าขึ้น เขายังมองแท่นบูชาแห่งโชคและพยายามปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงออกมา

“เช่นนั้นหรือ?” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางและกวาดตามองสนามรบ
เขายกมือขึ้นช้าๆและเล็งไปยังเป้าหมาย

วินาทีถัดมา ท่าไม้ตายอมตะที่เขาเตรียมไว้ก็ระเบิดออกไป

“ครืน…”

กําแพงปราณขนาดใหญ่แตกสลายกลายเป็นกระแสปราณจํานวนนับไม่ถ้วนในพริบตาจากนั้นพวกมันก็ถูกดึงดูดเข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

เงียบ!

เทพธิดาคือเว่ยและฉินติงหลิงตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

“ระดับแปด!?”

“กําแพงปราณของเทพอมตะแรกกําเนิด…”

ราชันมังกรค่อยๆเงยศีรษะขึ้น เขาเลิกสนใจแท่นบูชาแห่งโชคและมองฟางหยวนด้วยการแสดงออกที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

จากนั้นเสียงของฟางหยวนก็ดังขึ้นในหูของพวกเขา “ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตของข้าเป็นอย่างไรบ้าง? โปรดให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะดังมาจากศาลาแห่งความโศกเศร้า

เทพปีศาจไร้ขอบเขตเงยหน้าหัวเราะอย่างมีความสุข

“ดู” เขาชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนและหันกลับไปเผชิญหน้ากับเทพอมตะกลุ่มดาว“คนที่ข้ารออยู่ที่นี่แล้ว!”

เทพอมตะกลุ่มดาวถอนหายใจและแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน “เขามาที่นี่จริงๆ”

ในช่วงเวลาสําคัญ ฟางหยวนพุ่งเข้าสู่สนามรบวงสวรรค์ด้วยตนเอง