บทที่ 531

พอรู้ว่าซือเทียนฉีอยู่ที่จินหลิง อู๋ตงไห่ก็ดีใจมาก

ก่อนหน้านี้ก็พอจะได้ยินเรื่องการรักษาที่โดดเด่นเกินใคร แถมยังรักษาหายอย่างอัศจรรย์ ในเมื่อเขาสามารถรักษาอัมพาตได้ขนาดนั้นละก็ เรื่องโรคประหลาดของอู๋ฉี ก็ไม่ต้องพูดถึง!

พอคิดได้แบบนั้น เขาก็รู้สึกจิตใจพองโต แล้วหันไปคุยกับอู๋ซินที่อยู่ข้างๆ : “พรุ่งนี้เช้า เตรียมของขวัญให้หนาๆ พวกเราลองไปหาซือเทียนฉีที่ร้านยาจี้ซื่อถังกัน”

อู๋ซินพยักหน้ารับ แล้วพูดขึ้น: “ได้ ท่านพ่อ เดี๋ยวผมเตรียมเอง”

“ดี” อู๋ตงไห่ที่ไม่ค่อยเห็นยิ้มนั้น ตอนนี้ยิ้มออกมาได้อย่างโล่งใจแล้ว : “ทางที่ดีที่สุดคือต้องจัดการปัญหาทั้งหมดให้เสร็จ รักษาน้องชายแกให้หาย แล้วก็ตามหาคนที่เป็นต้นเหตุทำร้ายน้องแก หลังจากนั้นก็ตามหาคนที่ซ่งหวั่นถิงตกหลุมรักคนนั้น พ่อหวังว่าน้องชายแกจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ และกลับมาเหมือนเดิม เพื่อให้ได้เข้าร่วมงานมงคลของแกกับซ่งหวั่นถิง”

อู๋ซินรีบพูดขึ้นทันที: “พ่อ ท่านวางใจได้ ความหวังของท่านใกล้จะเป็นจริงแล้ว รอให้ถึงวันแต่งงานของผม ผมจะให้น้องมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว!”

อู๋ตงไห่อุ่นใจอย่างมากพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดขึ้นอย่างโล่งใจ: “สมกับเป็นลูกชายอู๋ตงไห่จริงๆ !”

สีหน้าของอู๋ซินถึงจะยิ้มแย้ม แต่ภายในใจเขากลับรู้สึกลำคาน

ตอนที่น้องไม่เป็นอะไร เขาก็ไม่เคยคิดเรื่องแย่งกิจการแบบนี้มาก่อน เพราะยังไงน้องก็ยังเรียนไม่จบ จึงทำให้ไม่ได้สัมผัสกับกิจการของตระกูลเลย

แต่ว่า พอน้องเขาเกิดเรื่องขึ้น อยู่ดีๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันดีต่อตัวเขาเอง

ดังนั้น ตอนนี้เขาไม่ต้องการให้น้องชายเขาหายเป็นปกติ

แต่ว่าเป็นความต้องการของพ่อ ใครก็ขัดไม่ได้ ดังนั้น จึงทำได้แต่หวังว่าซือเทียนฉีจะรักษาน้องชายไม่ได้

ในขณะนั้น คนอื่นบนโต๊ะ ต่างก็ประจบอู๋ตงไห่ไม่หยุด แถมยังลุกขึ้น เพื่อยกแก้วชื่นชมเขา

หงห้า หวังเจิ้งกางรวมถึงฉินกาง ตอนนี้ก็พอจะมองออกว่าอู๋ตงไห่ต้องการตัวอาจารย์เย่ และอีกอย่างคือ พวกเขาก็ได้ร็ว่าคนที่ครอบครองหัวใจของซ่งหวั่นถิงนั้นคืออาจารย์เย่ ถ้าอย่างนั้นไม่นานคนพวกนี้ก็ต้องลงมือจัดการกับอาจารย์เย่

และหงห้าที่อยู่ในกลุ่มสังหารมานาน เขาต่อสู้มาสิบๆ ปี จึงเข้าใจมากกว่าคนทั่วไป และก็พอจะได้กลิ่นตุๆ ขึ้นมามากกว่าคนอื่น

ดังนั้น เขาไตร่ตรองเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ก็รู้สึกได้ว่า คนที่ทำให้อู๋ฉีต้องกินขี้เว้นชั่วโมงได้นั้น แปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้ว่า เป็นอาจารย์เย่

เรื่องที่ทำได้แยบยลขนาดนี้นั้น นอกจากอาจารย์แล้ว หงห้าคิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นใครได้ และในจินหลิงจะมีใครทำเรื่องแบบนี้ได้อีก

แต่ว่า สิ่งเดียวที่ทำให้เขาคิดไม่ตกคือ ทำไมอาจารย์ถึงมีความแค้นกับอู๋ฉี?

เจ้าเด็กอู๋ฉีนั่น ปีนี้อายุก็แค่ยี่สิบต้นๆ เด็กว่าอาจารย์เย่มาก

และอีกอย่างเขาก็ไม่ใช่คนในสังคมนี้ แต่เป็นนักเรียนคณะการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับเย่เฉินเลยสักนิด ดังนั้นทั้งสองคนไม่น่าจะมีโอกาสมีความแค้นต่อกัน…..

และในระหว่างนั้น หงห้าก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

เขาจำได้ว่า ลูกสาวของฉินกาง ฉินเอ้าเสวี่ยน เหมือนว่าจะเป็นนักเรียนที่เรียนที่คณะเดียวกัน!

ตอนแรก เขาคิดว่าอาจารย์กัยอู๋ฉีนั้นไม่ได้มีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกัน แต่ว่าตอนนี้เขาหาเบาะแสที่ทำให้สองคนนั้นเกี่ยวข้องกันได้แล้ว

คนที่ทำให้เกี่ยวพันกันก็คือ ฉินเอ้าเสวี่ยน

หรือจะเป็นเพราะฉินเอ้าเสวี่ยน ที่ทำให้อาจารย์เย่เข้ามายุ่งกับอู๋ฉี แล้วก็เกิดความบาดหมางกัน?

เพราะว่า ถ้าไม่มีความบาดหมางกันละก็ อาจารย์เย่ไม่มีทางทำให้อู๋ฉีต้องการมาเป็นสัตว์กินขี้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างนี้

ในความรู้สึกเขานั้น อาจารย์ดูเป็นคนที่ไม่ทำใครก่อน และไม่เคยมีพิรุธออกมา!

ปกติจะเป็นเพราะคนที่ไม่มีตา แล้วมาหาเรื่องเขา อาจารย์ถึงได้ลงมือ

ดังนั้น ถ้าหากว่าสิ่งที่เขาคาดการณ์เมื่อสักครู่เป็นไปได้ละก็ อย่างนั้น อาจารย์น่าจะเกิดความบาดหมางกับอู๋ฉีผ่านทางฉินเอ้าเสวี่ยนแน่นอน

———