บทที่ 800 รู้สึกกลัวในภายหลัง + ตอนที่ 801 เฮ่อเหลียนเช่อ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 800 รู้สึกกลัวในภายหลัง + ตอนที่ 801 เฮ่อเหลียนเช่อ โดย Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 800 รู้สึกกลัวในภายหลัง

และเพราะสถานที่ที่เธอเจอกับผู้ชายคนนั้นคือที่สโมสร สถานที่ที่เป็นโลกใบเล็กอีกใบ  ต่อให้มีคนตายก็ไม่มีตำรวจคนไหนไปจัดการแน่  ผู้ชายคนนั้นคงไม่สนใจว่าเธอเป็นหลานสาวของใครอยู่แล้ว ถึงอย่างไรจะทำอะไรก็ไม่มีใครเห็น ถึงตอนนั้นมีคนตายแล้วไม่ยอมรับ หรือฆ่าเธอตายที่สโมสรก็ไม่มีใครรู้หรอก!

พอคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ขึ้นมา หลังของเหมยเหมยก็มีเหงื่อเย็นผุดไหลซึมออกมา ยิ่งดีใจที่บังเอิญเหยียนหมิงซุ่นปรากฎตัวขึ้นที่นั่น ที่แท้พี่หมิงซุ่นก็เป็นจอมยุทธ์ที่สวรรค์ส่งลงมาช่วยเธอจริง ๆ !

เหมยเหมยยังคิดได้ถึงความเป็นไปได้อีกอย่าง  ผู้ชายคนนั้นต้องมีความแค้นกับตระกูลจ้าวแน่นอน เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่ได้ยินชื่อของคุณปู่แล้วจะเผยแววตาที่เหยียดหยามและโกรธแค้นมาก่อน

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ต่อให้ไม่มีความแค้นกับตระกูลจ้าวก็คงเป็นศัตรู เหมยเหมยคิดอย่างปลอบใจตัวเอง ขอเพียงแค่เธอไม่ไปที่สโมสรก็คงจะไม่เจอกับผู้ชายคนนั้นอีก อีกทั้งเธอก็ใกล้จะกลับเมืองจินแล้ว  คงไม่มีทางเจอหน้าผู้ชายคนนี้เข้าไปใหญ่ ไม่มีปัญหาแน่นอน เบาใจได้

คุณป้าซูซือทำขนมพุดดิ้งแสนอร่อยเพื่อปลอบขวัญพวกเธอ แถมยังอบพวกขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกด้วย ของที่อร่อยมักจะสามารถปลอบใจได้เสมอ  หลังจากกินพุดดิ้งและขนมที่แสนอร่อยไป เหมยเหมยและเซียวเซ่อก็สงบลงมาเยอะมาก

เหยียยหมิงซุ่นนึกถึงเหตุการณ์ที่ก่อนหน้านั้นที่ได้พบกับโอหยางปินในห้อง จึงลองถามเหมยเหมยดู เพียงแต่เหมยเหมยก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เมืองหลวงมากนัก  เซียวเซ่อยังรู้เรื่องชัดเจนมากกว่าหน่อย

“แซ่โอหยางในเมืองหลวงและยังมีคุณสมบัติไปสโมสรได้ ก็มีเพียงแค่ตระกูลนั้นแหละ โอหยางปินน่าจะเป็นหลานชายคนโตของตระกูลโอหยาง  เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คนดีอะไร”  ในตาของเซียวเซ่อมีแต่ความรังเกียจ เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับโอหยางปินมาก่อน เป็นสวะที่น่าสะอิดสะเอียนมากคนหนึ่ง

เหมยเหมยถามอย่างไม่แน่ใจ “โอหยางปินและหวงอวี้เหลียนมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไรเหรอ?”

เซียวเซ่อส่ายหัว “ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ลูกชายของหวงอวี้เหลียน”

เหมยเหมยถลึงตาใส่อย่างหงุดหงิด หวงอวี้เหลียนมีลูกสาวเพียงแค่คนเดียวก็คือโอหยางซานซาน จะมีลูกชายโตขนาดนี้ได้ไงกัน?

เธอนึกได้ถึงความเป็นไปได้อีกอย่าง “หรือว่าจะเป็นลูกเลี้ยงของหวงอวี้เหลียน? เมื่อก่อนฉันเคยได้ยินคุณย่าเล่า ดูเหมือนสามีตอนนี้ของหวงอวี้เหลียนเดิมทีมีลูกชายสองคน อายุก็เยอะพอสมควร”

เซียวเซ่อพยักหน้าพูดว่า “ก็มีความเป็นไปได้ โอหยางเซี่ยงหมิงอายุเยอะกว่าหวงอวี้เหลียนเป็นสิบกว่าปี ลูกของเขาน่าจะห่างกับหวงอวี้เหลียนไม่มากเท่าไร”

เหยียนหมิงซุ่นใจเต้น มีความเป็นไปได้มากที่โอหยางปินและหวงอวี้เหลียนจะมีความสัมพันธ์เป็นแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงกันได้ ถึงอย่างไรก็คงไม่มีลูกชายคนไหนจะทำกับแม่แท้ ๆของตัวเองแบบนั้นหรอกจริงไหม?

นึกถึงสีหน้าท่าทางที่สวยสง่าหยิ่งผยองของหวงอวี้เหลียน เหยียนหมิงซุ่นก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจ ผู้หญิงพวกนี้มักจะเป็นแบบนี้เสมอ ด้านนอกดูสวยเพียบพร้อมใจกว้าง แต่ความจริงกลับเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจ น่ารังเกียจยิ่งกว่าโสเภณีเสียอีก ตัวอย่างก็เช่น หวงอวี้เหลียน และถานซูฟางแม่เลี้ยงตัวดีของเขา

เหมยเหมยสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในใจของเหยียนหมิงซุ่น  จึงรีบถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เหยียนหมิงซุ่นพูดเลี่ยงไปว่า “ไม่มีอะไร เพียงแค่ก่อนหน้านั้นเจอกับคน ๆนี้ที่สโมสร  รู้สึกได้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร เลยลองถามดู”

เรื่องผิดศีลธรรมน่ารังเกียจแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเล่าให้เหมยเหมยฟัง  เพื่อเลี่ยงไม่ให้เรื่องแปดเปื้อนพวกนี้เข้าหูของเธอ

ผู้ชายในสโมสรคนนั้นถูกลูกน้องพากลับไปห้องพิเศษของเขา  เรื่องนี้ทำเอาพี่เฉิงตกใจอยู่พอสมควร เพราะบอดี้การ์ดของสโมสรมารายงานกับเขา ทิเบตันแมสติฟฟ์สี่ตัวที่คอยดูแลคฤหาสน์โดนคนฆ่าตายแล้ว ทิเบตันแมสติฟฟ์สี่ตัวนี้เป็นของรักของหวงของคุณหนูใหญ่เฝิง ตั้งใจหาคนมาทำหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษ ตอนนี้ดันตายอย่างไม่มีสาเหตุ พวกบอดี้การ์ดต้องตื่นตระหนกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

พี่เฉิงทำแค่เพียงมองบาดแผลของทิเบตันก็รู้เลยว่าใครทำ ในสโมสรไม่มีใครกล้าลงมือ นอกจากเฮ่อเหลียนเช่อ ผู้ชายที่แม้แต่คุณหนูใหญ่เฝิงก็ยังไม่กล้าเข้าไปวุ่นวายด้วย

…………………………………….

 ตอนที่ 801 เฮ่อเหลียนเช่อ

ดาบยาวคล้ายใบต้นหลิวกับแส้หนังเป็นของคู่กายเฉพาะตัวของเฮ่อเหลียนเช่อ แต่ตอนนี้ดาบนั้นกลับอยู่บนตัวสุนัขพร้อมกับแส้หนังที่ขาดเป็นหลายท่อนกระจัดกระจายอยู่บนพื้น  และมีร่องรอยของการต่อสู้อยู่

พี่เฉิงรู้ทันทีว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว และเมื่อเขาเห็นชายหนุ่มที่ตัวแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ก็รู้สึกชาวาบไปจนถึงหนังศีรษะ แม้เขาจะอยากหัวเราะมากเพียงใดแต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะหัวเราะออกมาได้ หากเฮ่อเหลียนเช่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่คลับจริงๆ คุณหนูใหญ่เฝิงก็คงหนีไม่พ้น

ในเมื่อเขาไม่มีอำนาจตัดสินเรื่องของเฮ่อเหลียนเช่อโดยพลการจึงรีบแจ้งไปยังคุณหนูใหญ่เฝิง คุณหนูใหญ่เฝิงจึงรีบมาหาโดยทันที เธอในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าลูกสาวของตนมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องในคืนนี้

ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเฮ่อเหลียนเช่อเริ่มออกฤทธิ์ สามชั่วโมงหลังจากนั้นยาพิษในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ จางหายไป แม้จะผ่านมาครึ่งค่อนคืนแล้วแต่ภายในคลับยังคงเปิดไฟหลากสีชวนให้ตาพร่า

คุณหนูใหญ่เฝิงเชิญคุณหมอมาตรวจร่างกายให้เฮ่อเหลียนเช่อ พบว่าไม่เป็นอะไรมากมีเพียงแค่แผลถลอกไม่กี่ที่เท่านั้น คุณหมอต้องการที่จะทำแผลให้เขาแต่กลับถูกเฮ่อเหลียนเช่อไล่ไปอย่างไม่สบอารมณ์

เฝิงไห่ถังพูดหยอก “คุณชายเช่ออยากกินเนื้อหมาก็บอกฉันสิ ฉันจะได้สั่งให้คนไปซื้อเนื้อหมาดำไร้ขนแถบชนบทแล้วทำเป็นอาหารเสิร์ฟให้ถึงหน้าคุณชายเช่อเลย หมาพันธุ์ทิเบตันของฉันทั้งหนังหนาหยาบและเนื้อเหนียว รสชาติไม่ดีเลยสักนิด คุณชายเช่อไม่เห็นต้องเปลืองแรงตัวเองเลย!”

เฝิงไห่ถังเองก็ไม่พอใจนัก เพราะสุนัขพันธุ์ทิเบตันสี่ตัวนั่นเป็นสุนัขที่ถูกลูกสาวเธอฝึกมาเป็นอย่างดีแล้วมอบเป็นของขวัญให้เธอ หากเซ่อเซ่อรู้เข้าว่าพวกมันถูกฆ่าตาย ไม่รู้ว่าจะต้องทะเลาะอะไรกับเธออีก!

เฮ่อเหลียนเช่อมองเฝิงไห่ถังอย่างเกรี้ยวกราดแล้วแค่นเสียงหัวเราะ “งั้นเธอคงต้องถามลูกสาวตัวดีของเธอดูแล้วละ!”

เฝิงไห่ถังยิ้มค้างไปราวสามวินาทีก่อนจะกลับมายิ้มเบิกบานอีกครั้ง “คุณชายเช่อหมายความว่ายังไง? ลูกสาวฉันไปทำอะไรให้คุณชายเช่อไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ? เธอก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น อีกอย่างเธอก็เป็นเด็กดีนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน ยังไงก็ไม่มีทางไปหาเรื่องคุณชายเช่อได้หรอก!”

เฮ่อเหลียนเช่อยิ้มฉาบหน้า “คุณหนูใหญ่เฝิงไม่รู้จักลูกสาวตัวเองเลยจริงๆ สินะ เป็นเด็กดีอ่านหนังสืออยู่บ้านงั้นเหรอ? แล้วเมื่อกี้คนที่ปล่อยหมามากัดฉันคือผีหรือไง?”

เฝิงไห่ถังใจหล่นไปถึงตาตุ่ม แต่รอยยิ้มยังคงเคลือบอยู่บนใบหน้าเหมือนเดิม ทำเพียงแค่หันหน้าส่งสายตาสงสัยไปทางพี่เฉินว่าเกิดอะไรขึ้น?

พี่เฉิงเองก็ไม่รู้รายละเอียดเลยเรียกลูกน้องมาถามว่าพวกเขาเห็นคุณหนูมาที่คลับหรือไม่ ลูกน้องต่างส่ายศีรษะเป็นเชิงว่าไม่เคยเห็นคุณหนูมาที่คลับมาก่อน

เฝิงไห่ถังเบาใจลงเล็กน้อยพลางยิ้มกล่าว “คุณชายเช่อเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ลูกสาวฉันจะมาที่แบบนี้ได้ยังไง?”

เฮ่อเหลียนเช่อเองก็เริ่มสับสน หรือว่ายัยเด็กสองคนเมื่อกี้หลอกเขา?

เนื่องจากสารพิษในตัวเขายังขจัดออกไปไม่หมด จึงทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาช้ากว่าปกติ มิหนำซ้ำยังงงหนักกว่าเดิมเพราะเฝิงไห่ถัง และด้วยสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าเลยเลิกคิดที่จะตามเรื่องนี้อีก

ส่วนสุนัขพันธุ์ทิเบตันสี่ตัวนั่นเฮ่อเหลียนเช่อแสดงความรับผิดชอบโดยจะคัดสรรสุนัขพันธุ์ทิเบตันสี่ตัวด้วยตัวเองมาส่งให้ แน่นอนว่าเฝิงไห่ถังไม่มีทางกล้าที่จะไล่บี้เอาเรื่องกับเขาอีก ได้แต่แสร้งเป็นใบ้ยอมรับไปตามนั้น

อีกอย่างความจริงเธอก็นึกสงสัยในตัวลูกสาวของเธอ เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอว่าสุนัขพันธุ์ทิเบตันทั้งสี่จะฟังคำสั่งของลูกสาวเธอเพียงคนเดียว คนอื่นไม่มีทางออกคำสั่งได้ เฮ่อเหลียนเช่อบอกว่าผู้หญิงคนนั้นสั่งให้สุนัขจู่โจมเขา มีความเป็นไปได้ว่าคนนั้นก็คือเซ่อเซ่อ

เฝิงไห่ถังเองก็หมดอารมณ์จะต่อปากต่อคำกับเฮ่อเหลียนเช่อ เธอแค่อยากรีบกลับบ้านเซียวเพื่อถามเซียวเซ่อเองกับปากว่าเกิดอะไรขึ้น!

เฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนแบบไหน ไม่มีใครในเมืองหลวงที่รู้ดีไปกว่าเธอ เฝิงไห่ถังเป็นกังวลมากเพราะลูกสาวเธอมีรูปลักษณ์เป็นที่ถูกใจของเฮ่อเหลียนเช่อพอดี เธอถึงห้ามลูกสาวมาคลับแห่งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนสารเลวพรรค์นี้ แต่ตอนนี้…

…………………………