ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 697 การพบหน้าครั้งแรก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอมองท้องฟ้าที่อยู่ไกลออกไป “สภาวะจู่โจมของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องรุนแรงมาก พวกเขากำลังจะถอย และจะถอยอย่างรวดเร็วด้วย ตอนนี้ต่อให้กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนกระตุ้น คิดจะรั้งพวกเขาไว้ก็ยากเสียแล้ว”

เขาส่ายหน้า “ถึงท้ายที่สุด ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็มีศักยภาพมากกว่า พลังแข็งแกร่งกว่าอยู่ดี ทว่า…”

ชายหนุ่มตั้งใจสำรวจทั้งสองฝ่ายที่สู้กันอยู่ ยิ้มเล็กน้อย “..ทว่า ถ้าเป็นด้านอื่นก็ไม่แน่แล้ว”

พูดจบ เขาก็พาเฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่เข้าใกล้อาณาเขตรอบนอกของสนามรบ

ทิศทางที่ไป ย่อมเป็นทิศทางที่กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนถอนทัพ

ฝ่ายโจมตีมีสภาวะรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนตั้งหลักไม่ได้ชั่วขณะ

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกอีกฝ่ายล้อมไว้ที่สถานที่ด้านนอกและเริ่มต่อสู้ตัดสิน ขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนถอยแล้วถอยอีก ขึ้นเหนือไป ผละจากน่านน้ำตรงหน้านี้อย่างรวดเร็ว

สุดท้ายแล้ว สภาวะจู่โจมของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ค่อยๆ หยุดลง

ฝ่ายขุมกำลังต่อต้านต้าเสวียนดึงระยะห่างสำเร็จ ทุกคนโล่งใจเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งคนไปสืบข่าว ยืนยันร่องรอยของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีกครั้ง

หลังจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเก็บสภาวะจู่โจม การเคลื่อนไหวก็หยุดลง เหมือนจะละทิ้งการไล่ตามอีกครั้ง กลับไปทำการเคลื่อนไหวเมื่อก่อนหน้าต่อ

เหตุการณ์นี้ ทั้งสองฝ่ายคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจอมาแล้วหลายครั้ง

ตอนนี้เหมือนกับว่าจะเกิดเรื่องที่เหมือนกันขึ้นอีกรอบ

สิ่งที่แตกต่าง เป็นเพียงเพราะสภาวะจู่โจมเมื่อครู่ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องรุนแรงเกินไป ทำให้กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนต้องรีบถอยกว่าเดิมเล็กน้อย

รอจนกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนคิดจะไล่ตามและจับตาดูราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีกรอบ ทุกคนก็ค้นพบอย่างประหลาดใจว่า ความเร็วในการเคลื่อนที่ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องยิ่งมายิ่งเร็ว ถึงกับทำให้พวกเขาใกล้จะตามไม่ทันแล้ว

ยอดฝีมือระดับสูงของแต่ละขุมกำลังในฝ่ายต่อต้านต้าเสวียนแปลกใจยิ่ง การกระทำที่ผิดปกติทำให้ทุกคนระวังตัว

นี่กลับส่งผลให้ความเร็วในการไล่ตามของกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนช้าลงเล็กน้อย ทุกคนคล้ายกับกำลังลังเล

พวกเยี่ยนจ้าวเกอตอนนี้เข้าใกล้กองทัพกองหนึ่งของพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียน

ขณะเห็นความเร็วในการไล่ตามของกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนช้าลง ปรากฏความลังเล พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็มองหน้ากันพร้อมกับยิ้มอย่างหนักใจ

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมีพลังเหนือกว่า กลับเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนย่อมกระวนกระวาย กลัวว่าจะตกไปอยู่ในการคำนวณของอีกฝ่าย

การระวังตัวในห้วงเวลาเช่นนี้เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่น่าเสียดายที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องใช้ประโยชน์จากสภาพจิตใจของพวกเขา

ความเชื่องช้าในตอนนี้ทำลายความหวังสุดท้ายในการไล่ตามราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องไปแล้ว ทำให้ฝ่ายราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่เร่งความเร็วหนีสำเร็จ

เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้าเล็กน้อย มองคนที่เข้ามาต้อนรับตัวเองเบื้องหน้า บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสอู๋ ไม่เจอกันนาน สบายดีหรือ”

ชายชราในอาภรณ์สีดำผู้หนึ่งเข้ามาต้อนรับ เป็นอู๋จื่อซิว ผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งตำหนักไร้แสงแห่งสำนักความมืด ที่เคยพบหน้ากับเยี่ยนจ้าวเกอที่หอสักการะย่อยสำนักความมืดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางใต้ของทะเลหวงเจีย

เยี่ยนจ้าวเกอเจอลูกศิษย์สำนักความมืดเบื้องนอก แล้วไหว้วานให้เขาแจ้งข่าว

สำนักความมืดที่ได้รับข่าวของเยี่ยนจ้าวเกอเห็นได้ชัดว่าให้ความสำคัญยิ่ง ไม่ทันไรอู๋จื่อซิวก็ออกมาต้อนรับ

เมื่อเห็นอู๋จื่อซิว เยี่ยนจ้าวเกอก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านมาถึงที่นี่จากทางใต้ของทะเลหวงเจียเหมือนกันหรือ?”

อู๋จื่อซิวเป็นยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง หนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงแห่งสามตำหนักสำนักความมืด เป็นบุคคลสำคัญ และเป็นผู้มีอำนาจในกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนเช่นกัน

พิธีอาทิตย์ดำจันทร์ยะเยือกจบลงไปแล้ว หอสักการะหลักสำนักความมืดถูกทำลาย เขาจึงต้องรีบกลับมาช่วยเหลือ การปรากฏตัวขึ้นที่น่านน้ำทางเหนือในตอนนี้พร้อมกับคนส่วนใหญ่ของสำนักความมืด ถือเป็นเรื่องที่คาดเดาได้

อู๋จื่อซิวถอนใจกล่าวว่า “พวกเราเหมือนเพิ่งร่ำลากันเมื่อวานนี้ สหายเยี่ยนไม่เพียงแต่สบายดี ยังเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ มีพลังน่านับถือนัก”

เขาทราบว่าการก้าวจากระดับมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ ใช้เวลาแค่ราวๆ หนึ่งปีเท่านั้น

การพัฒนาที่รวดเร็วเช่นนี้ ทำให้ผู้คนที่ได้ยินต้องตกตะลึงทั้งนั้น

โดยเฉพาะคนหนุ่มคนนี้ยังมีพลังกล้าแกร่งถึงขีดสุด ยิ่งทำให้ยากจะชมเชย

“ข้าได้ยินมาจากศิษย์ร่วมสำนักแล้ว ว่าคนที่ทำลายค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ คือสหายน้อยเยี่ยนนี่เอง หนงอวี่ซวนจากสำนักแสงสว่าง เป็นแค่คนไร้ยางอายที่สร้างชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้น” อู๋จื่อซิวรำพึง “ตอนนั้นข้ากับศิษย์ร่วมสำนักก็อยู่ในข่ายกระบี่บนเกาะเพิงหินโม่เช่นกัน ต้องขอบคุณท่านถึงจะถูก”

“ตอนที่ยังอยู่ในเกาะเทียนอิ้นและเกาะชินเหอ สถานการณ์วุ่นวายยิ่ง หลังจากนั้นท่านกับคนของสำนักแสงสว่างก็หายไป สำนักข้าได้ยินข่าวก็รู้สึกเสียดายยิ่ง ภาวนาให้ฟ้าช่วยคุ้มครองท่านกับสหาย”

เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “ผู้อาวุโสอู๋เกรงใจไปแล้ว”

เขามองอู๋จื่อซิว “เดี๋ยวอีกสักพักเราค่อยฟื้นความหลังกัน ครั้งนี้ที่ข้ามายังที่นี่ ความจริงเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญต้องการบอกกล่าว เกี่ยวกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง เกี่ยวข้องประมุขอาคเนย์”

เมื่อได้ยินคำว่า ‘ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง’ สีหน้าของอู๋จื่อซิวยังสงบนิ่ง

แต่ต่อมาพอได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึงประมุขอาคเนย์ ใบหน้าของชายชราก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในชั่วพริบตา

ในดินแดนที่แบ่งหนึ่งไร่เป็นสามส่วน[1]อย่างเขตตะวันอาคเนย์ เรื่องที่เกี่ยวข้องประมุขอาคเนย์ต่างไม่ใช่เรื่องเล็ก

ในขณะเดียวกัน เรื่องที่เกี่ยวกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องและประมุขอาคเนย์ ยิ่งทำให้ผู้อาวุโสสำนักความมืดอู๋จื่อซิวให้ความสนใจกว่าเดิม

เยี่ยนจ้าวเกอเล่าเรื่องราวอย่างคร่าวๆ อู๋จื่อซิวอดอ้าปากตาค้างไม่ได้

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแอบวางค่ายกลบูชาฟ้าในทะเลหวงเจียมาหลายปี ปิดบังหูตาคนทั้งใต้หล้ามาโดยตลอด เรื่องราวเกี่ยวข้องกับมารดาแห่งแผ่นดินซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เทวราชแห่งสำนักเต๋าในตำนาน และตอนนี้ประมุขอาคเนย์ก็ทราบเรื่องแล้วเช่นกัน

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่กระตุ้นโทสะของประมุขอาคเนย์ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถูกกดดันให้เก็บเนื้อเก็บตัว สงวนท่าทีชั่วคราว พร้อมทั้งส่งคนไปพบประมุขอาคเนย์ที่เขาโถงทองเพื่ออธิบายเรื่องราว

อู๋จื่อซิวในฐานะผู้มีอำนาจระดับสูงของสำนักความมืด หลังจากทราบถึงข่าวนี้ ก็เกิดความคิดมากมาย

เยี่ยนจ้าวเกอมองอู๋จื่อซิวที่จมอยู่ในความคิด ชี้ทิศทางที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถอนทัพไป “การกระทำในตอนนี้ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ความจริงได้พิสูจน์ข้อมูลของข้าแล้ว”

อู๋จื่อซิวมองไปยังทิศทางนั้นเช่นกัน ถอนใจกล่าวอย่างสับสน “ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกเราเท่ากับพลาดโอกาสไปครั้งหนึ่ง ถึงแม้ใช่ว่าจะทำให้ราชวงศ์ต้าเสวียนหวังได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วงได้ แต่ก็สามารถฉวยโอกาสเล่นงานได้”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะสายไป ยังมีโอกาสอยู่”

อู๋จื่อซิวอึ้งไป “อ้อ?”

เขาไตร่ตรองเล็กน้อย “สหายน้อยเยี่ยนได้โปรดตามข้ามา เจ้าสำนักของข้าอยากจะพบท่านมาโดยตลอด น่าเสียดายสุดท้ายไม่มีวาสนา”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “เวลาไม่รอคน พวกเรารีบไปกันเถอะ”

ในตอนที่ได้พบโจวฮ่าวเซิง ก็ได้เจอกับผู้มีอำนาจที่อยู่ในกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนหลายคนเช่นกัน

‘เทพกระบี่ทะเลเหนือ’ กู้หง ผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือ จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น

‘ช้างเอราวัณ’ กงซุนอู่ ผู้ปกครองเกาะมนุษย์สำริด จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย

รวมถึง ‘สวรรค์รุ่งโรจน์’ หลัวจื้อเทา เจ้าสำนักแสงสว่าง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย

นอกจากนี้แล้ว ยอดฝีมือระดับสุดยอดจากหอกระบี่ทะเลเหนือ สำนักแสงสว่าง สำนักความมืด และเกาะมนุษย์สำริด ต่างรวมตัวกันอยู่ในห้องโถง ยังมีสำนักอื่นนอกจากขุมกำลังใหญ่ทั้งสี่ที่เข้าร่วมกับกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียน และยอดฝีมือที่เป็นจอมยุทธ์พเนจรอยู่ด้วย

คนอื่นๆ ต่างใช้สายตาพิจารณาสำรวจเยี่ยนจ้าวเกอ ส่วนสายตาของทั่วทั้งสำนักแสงสว่างปรากฏสภาวะคุกคามคน

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตัวเอง

คนหนุ่มที่มีพลังฝึกปรือน้อยนิด แต่กลับทำให้ทั่วทั้งสำนักแสงสว่างเดือดดาล

………………..

[1] แบ่งหนึ่งไร่เป็นสามส่วน หมายถึง อาณาเขตเล็กแคบ