ตอนที่ 1301

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“ฮ่าๆๆ เจ้าไวกว่าข้าแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ไม่ได้รอนานอะไรเสียหน่อย” ในระยะที่ไกลออกได้มีเสียงตอบกลับมา เสียงนั้นราวกับกระซิบเข้าไปในหูจนได้ยินกระจ่างชัด

ชายร่างหยกยิ้มและกล่าว “เร็วกว่าก็คือเร็วกว่า หรือเจ้าจะไม่ยอมรับ?”

“ฮ่าๆ” หลังจากที่เสียงหัวเราะดัง ข้างกายชายร่างหยกก็มีบุรุษหล่อเหลาอีกคนปรากฏตัว กลิ่นอายของเขานั้นสูงส่งราวกับเป็นจักรพรรดิผู้ครอบงำท้องฟ้า

ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏตัวอีกแล้ว!

Anchor

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ตะลึง ถึงแม้นางจะมั่นใจในตัวหลิงฮัน แต่สองคนที่เพิ่งปรากฏตัวกับฉื้อหวงจี่่ก่อนหน้านี้นั้นเหนือว่าระดับของราชารุ่นเยาว์ไปแล้ว

ในส่วนของบุรุษสองคนที่ปรากฏตัว… พวกเขาล้วนแต่เป็นตัวตนระดับดารา ดูจากพลังชีวิตของพวกเขาที่ร้อนแรงดุจเปลวเพลิงแล้วเกรงว่าอายุของทั้งสองคงไม่เกินหมื่นปี

“เดี๋ยวก่อน ข้ารู้จักพวกเขา!” จู่ๆก็มีใครบางคนอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“พวกเขาคือใครกัน?” คนอื่นๆถาม

“ในอาณาเขตของดวงดาวเฟิงไห่ที่ห่างไกลออกไป มีเซียนที่ชื่อชิงไห่อยู่! เขามีศิษย์เพียงคนเดียวซึ่งชื่อของศิษย์คนนั้นก็คือเป่ยหวง! ซึ่งในอาณาเขตใกล้เคียงของดวงดาวเฟิงไห่ ได้มีเซียนผู้หนึ่งที่เป็นสิ่งมีชีวิตธาตุศิลาแห่งสวรรค์และปฐพี เขาได้ให้กำเนิดทายาทกับเผ่ามนุษย์โดยที่ทายาทผู้นั้นได้รับสืบทอดสายเลือดของเขาตั้งแต่เกิด ชื่อของทายาทคนนั้นคือ… ฉือหวง! (จักรพรรดิศิลา)”

ทุกคนโอดครวญออกมา เซียน… ในเขตดวงดาวของพวกเขามีเซียนอยู่จริงๆ!

ในขณะเดียวกันนั้น หยางหลินที่ครอบครองเพียงอาวุธเซียนไม่สมบูรณ์ดูด้อยค่าไปเลย เพราะอย่างที่เห็นว่าฉือหวงนั้นครอบครองรถม้าที่สร้างจากวัตถุดิบแห่งเซียนถึงสองชนิด

ตรงข้ามกับฉือหวงที่ปรากฏตัวอย่างโดดเด่น เป่ยหวงนั้นปรากฏตัวอย่างเรียบง่ายโดยไม่มีรถม้าหรือผู้ติดตามใดๆ

ทั้งสองคนมาที่นี่เพื่อร่วมการชุมนุมของผู้ถูกเลือกแห่งสองดินแดน?

หลิงฮันพยักหน้าในใจ ในที่สุดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีตัวตนะที่สามารถทัดเทียมกับฉื้อหวงจี่่ปรากฏตัวเสียที ซึ่งทั้งสองคนนี้เองก็จะกลายเป็นคู่ต่อสู้ของเขา

ในการต่อสู้ปรกติเขาไม่สามารถโค่นจอมยุทธระดับดาราได้แน่นอน แต่ภายในป่าภูผาวารี พลังบ่มเพาะของทุกคนจะถูกลดเหลือระดับภูผาวารี ในการต่อสู้ระดับเดียวกันหลิงฮันไม่คิดว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับผู้ใด

เพราะอย่างไรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ของเขาก็เป็นทักษะจากดินแดนแห่งเซียน!

ฉือหวงกับเป่ยหวงเดินเข้าหุบเขาไปโดยไม่เหลียวมองผู้ใด ผ่านไปชั่วครู่ทั้งสองก็หายไปจากสายตา

การปรากฏตัวของราชาในหมู่ราชาทั้งสองทำให้เสียงโห่ของฝั่งดินแดนใต้พิภพเงียบลง ใครจะไปติดว่าจู่ๆดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะอัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏตัว?

ที่จริงหากเพิ่มหลิงฮันไปด้วยจะเป็นสามคน

“ไม่ผิดแน่… คู่ต่อสู้ที่คู่ควร!” ดวงตาของอู่เมี่ยนส่องประกายผ่านชั้นผ้าที่ปิดหน้าเอาไว้

สำหรับราชารุ่นเยาว์เช่นพวกเขา ต่อให้ศัตรูจะเก่งแค่ไหนและจะไม่สามารถเอาชนะได้ในตอนนี้ พวกเขาก็ยังมีความทะเยอทะยานมุ่งมั่นที่จะเหนือกว่าศัตรูเหล่านั้น หากไร้เทียมทานอยู่เพียงผู้เดียวก็จะไร้ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้า

“น้องชายหลิง พวกเราก็ไปกันบ้าง?” อู่เมี่ยนกล่าว หลังจากพบเห็นอัจฉริยะราชามากมาย จิตใจของเขาก็ลุกโชนไปด้วยเพลิงสู้รบ

“ก็ดีเหมือนกัน!” หลิงฮันพยักหน้า

เสี่ยวชิงรอเขาอยู่ด้านนอกเนื่องจากระดับพลังบ่มเพาะของมันยังอ่อนแอเกินไปที่จะเข้าไปในหุบเขา หลิงฮันที่ไม่ต้องการเปิดเผยความลับของหอคอยทมิฬจึงไม่สามารถนำเสี่ยวชิงเข้าไปในหอคอยทมิฬต่อหน้าคนจำนวนมาก

ในส่วนของโสมเฒ่ากับเจ้ากระต่ายนั้น พวกมันอาจจะไม่ได้ต้องการเข้าไปในในหุบเขาแห่งนี้ หรือพวกมันอาจจะไม่สนใจในตำแหน่งราชาของเหล่าอัจฉริยะด้วยซ้ำ

พวกหลิงฮันสามคนเดินเข้าไปในหุบเขา เพียงแค่เดินเข้าไปก้าวแรกพวกเขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันรุนแรงที่ทำให้พวกเขาอยากเดินกลับออกไป

หลิงฮันกับอู่เมี่ยนเป็นราชาแห่งยุคย่อมไม่มีปัญหาอะไร ส่วนสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์นั้นด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นอัจฉริยะสี่ดาว แรงกดดันเช่นนี้ไม่อาจจำกัดนางเอาไว้ได้

พวกเขาโคจรปราณก่อเกิดและเดินหน้าต่อโดยไม่มีปัญหา

เพียงแต่ว่าหลังจากเดินไปได้เกือบครึ่งทาง สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ก็ไม่สามารถรักษาความเยือกเย็นได้อีกต่อไปและเหงื่อไหลออกมา ในทางตรงกันข้าม ทั้งหลิงฮันกับอู่เมี่ยนต่างเดินหน้าอย่างไร้ความลำบากและไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

เห็นได้ว่าอัจฉริยะสี่ดาวมีคุณสมบัติพอที่จะผ่านที่นี่ไปได้ แต่แรงกดดันที่ได้รับก็ไม่ใช่น้อยๆ

เห็นท่าทีของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ที่กำลังลำบาก หลิงฮันก็เอื้อมมือออกไปกอดพยุงนางเอาไว้

“ฮึ่ม เจ้ากำลังทำอะไร!” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์อุทานและรีบพลักหลิงฮันทันที

“ภรรยาข้า เห็นว่าเจ้ากำลังลำบากข้าเลยอยากช่วย” หลิงฮันยิ้ม

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เคอะเขิน ถ้ามีหลิงฮันกับนางสองคน เขาก็ไม่รังเกียจที่จะให้หลิงฮันกอด “มีคนมองพวกเราอยู่!”

อู่เมี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “น้องหลิง พวกเราเป็นผู้ฝึกตนที่ไฝ่หาจุดสูงสุดของวิถียุทธ ดังนั้นห้ามถูกสตรีทำให้ไขว้เขวเด็ดขาด!” เขาจ้องมองไปยังสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์โดยมีจิตสังหารปะทะอยู่เล็กน้อย สายตาของเขาราวกับว่าต้องการจะแก้ไขปัญหาเรื่องสตรีให้กับหลิงฮัน

ความประทับใจของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ที่มีต่อชายคนนี้ตกฮวบลงไปทันที ชายไร้หน้าคนนี้ไม่มีทางหาภรรยาได้แน่นอน!

หลิงฮันหัวเราะ “พี่ชายอู่เมี่ยน ท่านควรจะหาสตรีคู่กายไว้บ้างดีกว่า เชื่อข้าเถอะว่าวิถียุทธของท่านจะต้องก้าวหน้าแน่นอน หากมีคนรักท่านจะเกิดแรงกระตุ้นให้ตนเองไต่เต้าไปยังศาสตร์แห่งวรยุทธที่สูงขึ้นเพื่อปกป้องคนรักรอบกายท่าน”

อู่เมี่ยนส่ายหัว จิตใจของเขาเด็ดเดี่ยวและฝักใฝ่แต่วิถียุทธเท่านั้น

เมื่อมีหลิงฮันคอบกอดอุ้มเอาไว้ สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ก็ผ่อนคลายกว่าเดิมและทั้งสามคนก็ผ่านหุบเขาไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่แรงกดดันอันรุนแรงหายไป พลังงานลึกลับบางอย่างก็โอบล้อมทั้งสามคนเอาไว้ ในตอนนี้เองพลังบ่มเพาะของพวกเขาก็ถูกลดระดับลงไปเป็นระดับภูผาวารี

ไม่สิ ไม่เพียงแต่พลังบ่มเพาะอย่างเดียว แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ก็ถูกลดทอนลงไปด้วย ดูเหมือนว่า ณ ที่แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้านใดก็จะถูกจำกัดอยู่ที่ระดับภูผาวารี

“ลดลงมาเป็นระดับภูผาวารีจริงๆด้วย” หลิงฮันตรวจสอบพลังในร่างกายและพบว่าวงล้อสุริยันจันทราในร่างของเขาหายไปอย่างน่าประหลาด แม้แต่กายหยาบของเขาก็ถูกลดลงไปอยู่ที่แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า

เพียงแต่ว่ากายหยาบที่เทียบได้กับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าก็ยังถือว่าอยู่ในระดับุสริยันจันทราอยู่ดี

เพราะงั้นแล้ว นอกเหนือจากราชาในหมู่ราชาที่ขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนบรรลุระดับภูผาวารีขั้นสมบูรณ์ชั้นสูงสุดที่มีจำนวนน้อยนิดแล้ว ราชาทั่วไปนั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะทำลายการป้องกันของหลิงฮันเลย

คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์คือทักษะจากดินแดนแห่งเซียน ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็จะอยู่เหนือได้!