มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 826
“ผู้เพื่อนยุทธ์จู่ก็กล่าวชมเกินไป ที่ข้าสามารถกำจัดปีศาจโลหิตนี้ได้ ก็เป็นเพราะว่ามันถูกไฟของข้าจัดการ” หลัวซิวพูดถ่อมตัว

จากนั้นก็ไม่รอให้จู่ฉิวเอ่ยปาก ก็ยื่นผลหวูเชิ่งในมือให้เขาไปเลย “สำเร็จดั่งใจหมาย ได้ผลหวูเชิ่งมาอยู่ในมือ”

พอเห็นว่าหลัวซิวยื่นผลหวูเชิ่งมาให้ตนเอง สีหน้าของจู่ฉิวก็ดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ระดับพลังกฎเกณฑ์และผลการฝึกตนของเขามันพร้อมที่จะบรรลุไปถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว แต่เนื่องจากอายุขัยเหลือไม่มาก พลังชีวิตไม่แข็งแกร่งพอ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ถ้าดันทุรังจะบรรลุขั้นต่อไปล่ะก็ โอกาสสำเร็จมันก็จะยิ่งน้อยลงมาก

แต่ถ้ามีผลหวูเชิ่งผลนี้ล่ะก็ มันก็จะไม่เหมือนกัน อายุไขเพิ่มขึ้นหนึ่งพันปี พลังชีวิตของเขาก็จะถูกเพิ่มขึ้นอย่างที่สุด บรรลุขั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้แน่นอน

ถ้าก้าวเข้าสู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ อายุขัยของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกหมื่นปี!

จริงๆ แล้วในใจของจู่ฉิวก็รู้ดี ด้วยพลังที่หลัวซิวใช้กำจัดปีศาจโลหิตเมื่อครู่นี้ ต่อให้เอาผลหวูเชิ่งมาให้ตนเอง เขาก็ไม่แน่ว่าจะทำอะไรคนคนนี้ได้

แต่คนคนนี้เอาผลหวูเชิ่งมาให้ตนเองอย่างไม่ลังเล จิตใจและความโอบอ้อมอารีแบบนี้ มันคุ้มค่าที่จะให้เขาชื่นชม

“บุญคุณยิ่งใหญ่ พูดขอบคุณไปก็ไม่พอ อย่างนั้นข้าก็ไม่ปฏิเสธแล้วนะ!” จู่ฉิวยื่นมือไปรับ แล้วก็โค้งคำนับให้กับหลัวซิว

หลัวซิวก็รับความเคารพนั้นไว้อย่างเห็นสมควร เพราะว่าเขารู้ดี ว่าผลหวูเชิ่งอันนี้มันเป็นเหมือนทำให้จู่ฉิวได้เกิดใหม่ และถ้าไม่มีตนเองล่ะก็ ถ้าเขาอยากจะได้ผลหวูเชิ่ง มันมีโอกาสน้อยมาก

จริงๆ แล้วครั้งนี้ก็ถือว่าโชคดีมาก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพลังของไฟทิพย์มีผลต่อปีศาจโลหิตอย่างมากล่ะก็ ตอนที่ปีศาจโลหิตราวกับทะเลสาบเลือดมาท่วมตัวตนเองนั้น หลัวซิวคงจะต้องร้ายมากกว่าดีแน่นอน

ปีศาจโลหิตที่มีพลังเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักร ก็ไม่ใช่ปีศาจที่เจ้ายุทธจักรทั่วไปจะรับมือได้

หลัวซิวไม่ได้รู้สึกดีใจที่ตนเองกำจัดปีศาจโลหิตได้ เขารู้ดีว่าตนเองยังห่างกับฉายาแข็งแกร่งระดับเจ้ายุทธจักรอีกไกลมาก

และผลหวูเชิ่งก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อตนเองมากนัก เอาไปให้จู่ฉิว ยังทำให้เขาติดหนี้น้ำใจตนเองได้อีกด้วย ถ้าหากว่าเขาสามารถบรรลุระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ หนี้น้ำใจของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์มันไม่ธรรมดานะ

เขตพื้นที่ที่สองคนเคยไปสำรวจ มีเพียงบริเวณป่าหินแดงนองเท่านั้น

จู่ฉิวได้ผลหวูเชิ่งมาแล้ว ก็อดในรอไม่ได้ อยากจะรีบไปเก็บตัวฝึกวิชาเพื่อบรรลุแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์

“ข้าจะไปบรรลุแดนในโลกแสงดาวเกณฑ์กฎ อย่างน้อยก็หลายปี อย่างมากก็หลายสิบปี ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์หลัวซิวมีแผนจะทำอะไรหรือไม่?”

“ช่วงนี้ข้าจะไปหาประสบการณ์ที่แดนดารานอก อาจจะอยู่สักระยะ แล้วก็จะกลับไปยังโลกแสงดาว” หลัวซิวกล่าว

จู่ฉิวพยักหน้า “ถ้าข้าบรรลุขั้นสำเร็จแล้ว ก็จะมาแดนดารานอก ถ้าผู้เพื่อนยุทธ์หลัวซิวกลับไปแล้วล่ะก็ ข้าก็จะไปตามหาเจ้าที่โลกแสงดาว”

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารก็จะไม่ไปยังพิภพอื่น จู่ฉิวพูดอย่างจริงจัง เห็นได้ชัดว่าจะตอบแทนบุญคุณ

“ในเมื่อผู้เพื่อนยุทธ์มั่นใจเต็มเปี่ยมแบบนี้ ข้าก็ขอให้ผู้เพื่อนยุทธ์บรรลุขั้นได้สำเร็จ มีวาสนาไว้พบกัน!” หลัวซิวยิ้มพูด

จู่ฉิวไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบยกมือคำนับหลัวซิว แล้วหันตัวจากไป ในแดนดารานอกมีค่ายวาร์ปหนึ่งแห่ง สามารถส่งตัวไปยังพิภพอื่นๆ ได้

มีเพียงผู้แข็งแกร่งเทพมารเท่านั้นถึงจะมีพลังที่ลัดเลาะไปยังพิภพอื่นๆ ได้ แต่เนื่องจากสถานที่พิเศษแบบแดนดารานอกนี้ ที่นี่ก็เลยกลายเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนเส้นทาง สามารถทำให้เจ้ายุทธจักรและมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้มีพลังที่จะเข้าไปยังพิภพอื่นๆ ได้

หนึ่งในนี้ยังก็ยังมีกรณีที่ไปมีเรื่องกับศัตรูในพิภพเดิมของตนเอง จนต้องหนีเข้าแดนดารานอก จากนั้นก็ใช้ค่ายวาร์ปที่นี่เพื่อส่งตัวไปยังโลกอื่นๆ เพื่อซ่อนตัว