บทที่ 711 ไฟโกรธของอิงเหา

The king of War

หยางเฉินยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าเปียก็พูดต่อ “มันอย่างน้อยก็ร้อยล้านที่เสียไป ถ้าวันนี้แกไม่จ่ายออกมาหนึ่งร้อยล้าน กูเอามึงตายแน่”

หยางเฉินไม่ไปใส่ใจกับไอ้งั่งนี่เลย กลับหันขวับไปมองเฉินอิงเหาที่ถือกาน้ำชายืนอยู่ที่มุมห้อง สีหน้าแสดงออกถึงความตื่นกลัว

“บริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา เกี่ยวข้องอะไรกับเธอหรือเปล่า?”

หยางเฉินถามไปทันที

เฉินอิงเหาถึงดึงสติกลับมาได้ ตัวสั่นงันงกด้วยความตกใจ เสียงดัง “ผลุบ” เฉินอิงเหาทรุดคุกเข่าลงที่ข้างขาของหยางเฉินต่อหน้าทุกคน พูดอย่างตื่นตระหนกว่า “คุณหยางครับ ใช่บริษัทที่ผมตั้งขึ้นมาเองครับ แต่ผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ ครับ ว่าไอ้ตาบอดพวกนี้ กล้าไปล่วงเกินท่านได้”

“ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้านะ ตื่นเต้นทำไมกัน? ลุกขึ้น!”

หยางเฉินพูดอย่างไม่ได้แยแส

เขาเพียงแต่ไปได้ยินฝ่ายนั้นพูดถึงชื่อบริษัทเนทไอดอลนั้นมีคำว่าอิงเหา ก็เลยนึกเลยไปว่า บริษัทนี้จะเกี่ยวข้องกับเฉินอิงเหา

เฉินอิงเหาก็ได้รีบลุกขึ้นยืน

เฉินซิงไห่ก็โกรธเอาเป็นอย่างมาก ในพื้นที่ของตัวเอง โดนคนบุกเข้ามาถึงห้องจองส่วนตัว ที่สำคัญคือ พวกนี้ยังเป็นคนของบริษัทเฉินอิงเหาอีก พูดอย่างเดือดดาลไปว่า “เจ้าสารเลว ยังไม่ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยอีก!”

เฉินเห้าก็พูดเสียงเยือกไปว่า “ข้าบอกตั้งแต่แรกแล้ว อย่าไปทำธุรกิจเน็ตบ้า ๆ บอ ๆ อะไรพวกนี้ แกก็ไม่ยอมฟัง ดูบริษัทแกนี่ซิ มีแต่ของเล่นบ้า ๆ อะไรบ้าง?”

เฉินอิงเหาปาดเหงื่อที่หน้าผากออก เดินตรงรี่เข้าไป ตวาดใส่เจ้าเปียจู๋นั่น “พวกแกเป็นคนของใครกัน?”

“เอ๊าเชอะ แล้วมึงแม่งใคร? ต่อหน้าพี่หวงกล้าเบ่งอย่างนี้เชียวเร๊อะ?”

สวีเหว่ยไฉเดินแทรกขึ้นไป พูดไปอย่างโอหัง

เฉินอิงเหายิ้มเยือกใส่ “ถามข้าว่าเป็นใคร?ข้านี่แหละเฉินอิงเหาประธานผู้จัดการบริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา !”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ……”

เด็กหนุ่มเปียจู๋คนนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาทันที “มึงแม่งถ้าเป็นเฉินอิงเหา กูก็ต้องเป็นเฉินซิงไห่แล้วสิวะ”

เจ้าเปียจู๋คนนี้ชื่อหวงเหล่ย จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา เป็นเพียงตัวแทนประสานงานเล็ก ๆ ของบริษัทฯ.เท่านั้น

ในช่วงระยะหลังนี้ ตระกูลเฉินเพิ่งจะกำลังเริ่มดัง เขาย่อมไม่เคยรู้จักถึงตัวเฉินซิงไห่

แต่อย่างว่า คนในระดับเขานี่ จะไปรู้จักอะไรได้มากมายสักเท่าไรกัน?

ก็อย่างเรื่องห้องอาหารแช่เฉินนี่ ถ้าเขารู้ว่าเป็นกิจการในเครือของตระกูลเฉิน กระทืบให้ตายก็ไม่กล้าเอาคนมาลุย

ได้ยินพูดเข้านั่น เฉินซิงไห่ตาลุกจะระเบิดเอา คำรามใส่ไปว่า “ถ้าเอ็งเป็นเฉินซิงไห่ แล้วกูจะเป็นใครได้วะนี่?”

“แล้วมึงแม่งใครวะนี่ จะมาเกี่ยวดองอะไรกับกู?”

หวงเหล่ยหัวเราะก๊ากแล้วพูดต่อ “ถ้ายังไม่อยากตาย พวกแกสงบปากไว้ซะ ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่มีสัมมาคารวะผู้ใหญ่และไม่เอ็นดูเด็กนะ”

“เฉินอิงเหา เจ้าจัดการเรื่องนี้ทันทีเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นข้าจะใช้กฏประจำตระกูลกับแก!”เฉินซิงไห่โกรธจนเนื้อเต้น

เฉินอิงเหาก็ร้อนรุ่มเอามากแล้ว จ้องไปที่หวงเหล่ย ตะคอกไปอย่างเกรี้ยวกราด “แกมันชื่ออะไรแน่?”

“กูนี่นะก้าวห่างไม่เคยเปลี่ยนแซ่ นั่งที่ไหนไม่เคยเปลี่ยนชื่อข้า หวงเหล่ยนี่แหละ!”หวงเหล่ยวางท่าอย่างท้าทาย

เฉินอิงเหาแค่นหัวเราะเสียงเยือก ในดวงตาส่อเห็นแววฆ่า ยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายออกไป “ในบริษัทมีคนที่ชื่อหวงเหล่ยมั้ย?”

อีกฟากโทรศัพท์เห็นเป็นเฉินอิงเหา อีกทั้งฟังน้ำเสียงไม่ดีเอาเลย พอได้ยินชื่อหวงเหล่ยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบถามกลับในโทรศัพท์ว่า “ท่านประธานเฉิน ใช่ไอ้คนที่บนหัวข้างหลังมีเปียกระจุกเล็ก ๆ มั้ย?”

“ใช่ ไอ้ตัวนั้นแหละ!”เฉินอิงเหาพูดไปอย่างเกรี้ยวกราด

“ท่านประธานเฉิน ไอ้นั่นไม่ใช่พนักงานของบริษัท แต่เป็นคนวิ่งประสานงานเล็ก ๆ อาศัยมีแฟนคลับกระจุกเล็ก ๆ ก็เลยมาอิงบริษัทเราขอเศษทานหากินไปวัน ๆ ถ้าไม่มีบริษัทเราจุนเจือ พวกนี้ก็ได้แต่หากินขี้” อีกฟากโทรศัพท์รีบตอบ

“ท่านประธานเฉิน ไอ้บัดซบนั่นไปล่วงเกินอะไรท่านหรือ? ถ้าใช่ ท่านสั่งผมมาคำเดียว ผมจะยกเลิกสัญญาของไอ้บัดซบนี่ทันที ปล่อยให้มันไปกินขี้ของมันต่อ!”ฟากนั้นยังรีบพูดต่อ

“ข้าไม่เพียงจะให้มันไปกินขี้ ยังยิ่งอยากให้พวกมันหายไปจากโลกนี้เลย เข้าใจที่พูดมั้ย?”เฉินอิงเหาพูดด้วยใจมุ่งฆ่าด้วยความโกรธแค้นสุด ๆ

ฟากตรงข้ามได้ยิน ใจผวากลัวขึ้นมาพลัน รีบพูดไปว่า “ท่านประธานเฉิน ท่านบอกผมมาได้เลย ไอ้หมอนั่นมันอยู่ไหน?ผมจะจัดพาคนไปเองเดี๋ยวนี้!”

“ร้านอาหารแซ่เฉิน ภายในสิบนาทีนี้ ถ้าจัดพาคนมาไม่ได้ แกก็ไสหัวออกจากงานที่นี่ได้เลย!”เฉินอิงเหาพูดจบ ปิดเครื่องโทรศัพท์ทันที

“ฮา ๆ ๆ ๆ………”

เนื้อหาที่คุยกันในโทรศัพท์ของเฉินอิงเหาเมื่อครู่นี้ ทุกคนในบริเวณก็ได้ยินกันหมด พอเห็นเฉินอิงเหาปิดเครื่องโทรศัพท์ พวกหวงเหล่ยที่มากันทั้งกลุ่มหัวเราะกันลั่น

“มันแน่จริง ๆ เลยเว้ย!จะให้พวกเราหายไปจากโลกนี้เลยนะ แกแน่มากขนาดนี้ ตระกูลเฉินเขาจะรู้ไหมนี่? ”

หวงเหล่ยพูดพร้อมหัวเราะออกมาลั่น

สวีเหว่ยไฉหัวเราะและพูดด้วยสีหน้าอหังการ “หยางเฉิน แกนี่ก็โง่เง่าพออยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าที่แกไปคบ ก็ยังเป็นพวกโง่เง่าด้วยกันอีก ”

“วันนี้ถ้าแกเอาเงินมาจ่ายข้าไม่ได้ร้อยล้าน แกก็ไม่ต้องหวังจะได้เห็นพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้”

สวีเหว่ยไฉใช้สีหน้าข่มขู่ หัวเราะไปพูดว่า “พี่หวงเขาเป็นคนของตระกูลเฉิน แกรู้ไหมว่าตระกูลเฉินที่ว่านี่หมายถึงอะไร?”

“ตระกูลเฉินในขณะนี้ เหมือนรุ่งตะวันเจิดจ้าบนท้องฟ้า รองจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูลงมา ก็ตระกูลเฉินนี่แหละใหญ่สุด วันนี้แกไม่จ่ายเงินข้า ถึงข้าจะปล่อยเจ้าไปไ แต่ตระกูลเฉินคงไม่ไว้แกแน่ ”

หยางเฉินยิ้มยียวนมองสวีเหว่ยไฉพูดไปว่า “ใช่เหรอ?งั้นพวกเราแหกขี้ตาคอยรอดู กัน ข้าก็อยากดูอยู่นะ รอเจ้านายพวกแกมาถึงแล้ว พวกแกยังจะวางกล้ามทำอหังการได้อย่างนี้มั้ย”

“ได้ซี่ ในเมื่อพวกแกไปเรียกพวกมา งั้นพวกเราก็รอดูกัน” สวีเหว่ยไฉพูดเสียงหัวเราะ

เฉินอิงเหายังคงยืนอยู่ข้าง ๆ ในตำแหน่งบริกรคอยเสิร์ฟน้ำ แต่มองสีหน้าหวงเหล่ยกับพวก สายตากระเหี้ยนกระหือเต็มไปด้วยแววการฆ่า แต่เดิม เฉินซิงไห่ว่าจะสั่งคนมาจัดการเก็บไอ้พวกนี้ให้หมดไปเสีย แต่เห็นหยางเฉินมีอารมณ์สนุกที่จะดูหนัง เขาก็เลยไม่ไปขัดขวาง

เขาสู้อุตส่าห์สร้างกิจการขึ้นมาอย่างแสนยาก ก็มุ่งหวังให้คุณปู่เห็นถึงความสามารถของตน คิดไม่ถึงว่า คนในบริษัทของตัวเขาเอง กลับไปแหย่หาเรื่องใส่กับหยางเฉิน

เวลานี้ เขามีคิดอยู่แต่ว่าจะทำยังไงให้ไอ้พวกนี้มันสูญหายไปจากโลกไปเลย

ชั่วครู่เดียว สิบนาทีผ่านไปแล้ว แต่ คนของเฉินอิงเหายังไม่เห็นมาถึง

“ว่าไงไอ้หนู สิบนาทีแล้ว คนของแกยังไม่เห็นมา ตอนนี้เรามาคุยเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายกันได้แล้วมั้ง?”

หวงเหล่ยพูดด้วยยิ้มกวน ๆ

แต่เพียงแค่เสียงพูดเขาจบ ที่หน้าประตูก็แว่วเสียงย่ำเท้ามากันเต็มไปหมด ตามติด ๆ ด้วยคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาในห้องพิเศษ

“ท่านประธานอู๋ ท่าน ท่านมาทำไมหรือ?”

พอหวงเหล่ยเห็นคนที่เข้ามา ให้ตะลึงผวาขึ้นมา จิตใต้สำนึกบ่งบอกถึงอันตรายที่น่ากลัว แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย

เฉินอิงเหาโทรศัพท์ไปเมื่อครู่นี้ สั่งให้ผู้ที่คุยด้วยมาที่นี่ภายในสิบนาที ปรากฏว่าประธานอู๋ จากบริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา มาถึงในสิบนาที

นี้แสดงว่าอะไร?พูดได้เพียงว่า คนที่เฉินอิงเหาโทรไปเรียกเมื่อครู่นี้ ก็คือประธานอู๋

ขณะนี้ ไม่เพียงประธานอู๋คนเดียว ที่ข้างหลังของเขา ยังตามมาด้วยชายหุ่นล่ำสันท่าทางฮึกเหิมอีกกว่าสิบนาย

หวงเหล่ยแม้จะมีนำคนมา แต่ก็เป็นพวกกะเลวกะลาดข้างถนน กับประธานอู๋นั่นไม่ใช่เลย ที่เขานำมา แต่ละคนล้วนบอดี้การ์ดระดับมืออาชีพ