ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างอ้าวซื่อหยินและเย่วหยิงก็มาถึงจุดสิ้นสุด และจบลงด้วยชัยชนะของอ้าวซื่อหยุน
ตามความคิดเห็นของหลิงฮัน มันไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเย่วหยิงอ่อนแอกว่าฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นเพราะอ้าวซื่อหยุนใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์และพลังสายเลือด
สำหรับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของอ้าวซื่อหยุนนั้นคือกระดูกสันหลังของมังกร มันเชื่อมต่อกับโลหิตของเขาและสามารถเพิ่มพลังต่อสู้ให้เขาได้ และเมื่้อใช้พลังของโลหิตมังกรทมิฬก็จะทำให้อ้าวซื่อหยินแข็งแกร่งเย่วหยิงมากขึ้นไปอีก ดังนั้นในระดับพลังเดียวกัน เมื่อใช้พลังทางสายเลือดและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาควบคุมสถานการณ์ได้
ถึงมีระดับพลังเท่ากันจะดูเหมือนยุติธรรม แต่ความจริงแล้วไม่ยุติธรรม
แต่เนื่องจากที่นี่สามารถใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ ดังนั้นแพ้ก็คือแพ้ ไม่มีข้อแก้ตัว
เย่วหยิงนั่งลงและเริ่มฟื้นฟูพลังปราณ นางยังเหลือการต่อสู้อีกสองรอบ
หลิงฮันพยักหน้าอยู่ในใจ ดูเหมือนความต่างชั้นระหว่างอัจฉริยะระดับราชานั้นใหญ่มาก ยกเว้นเขาและเย่วหยิงที่มีความสามารถเขย่าบัลลังก์เก้าราชาบนแท่นได้
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาไปเอง!
หลิงฮันกระโดดขึ้นไปบนแท่น
ฝ่ายตรงข้ามที่เขาจะเผชิญหน้าคือจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพที่มีหัวสิงโตทองคำ – ถ้วป้าตง
ใครบางคนท้าทายเก้าราชา!
“เจ้าหมอนั่น…เป็นใครกัน?”
“ข้าไม่รู้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เขาคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพอที่จะท้าทายเก้าราชาอย่างนั้นรึ?”
บางคนสงสัย บางคนเหยียดหยาม บางคนก็ตั้งหน้าตั้งคารอดู หากตำแหน่งราชาทั้งเก้าถูกตัดสินเร็วเกินไปคงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก
อ้าวซื่อหยินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถ้าหลิงฮันท้าทายเขา เขาก็อาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้
ก่อนหน้านี้ทั้งที่มีความได้เปรียบเหนือหลิงฮันอย่างท่วมท้น ถึงแม้เขาจะไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับหลิงฮัน แต่ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกด้าน
ถ้วป้าตงจ้องมองสำรวจความแข็งแกร่งของหลิงฮันด้วยสายตาเหยียดหยามและระมัดระวัง
“เจ้าเป็นศัตรูตัวฉกาจของข้า” ถัวป้าตงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและแผงคอสีทองของเขาก็ตั้งชั้นขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสง่างามของราชาแห่งสัตว์อสูร
หลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “น่าเสียดาย เจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้ข้าเรียกเจ้าว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ” มีเพียงแค่เป่ยหวง ฉือหวง และฉื้อหวงจี่่ ที่แข็งแกร่งพอให้เขาเรียกอีกฝ่ายว่าศัตรูตัวฉกาจได้
“อวดดี!” ถัวป้าตงคำราม และตบฝ่ามือไปที่หลิงฮัน
ตู้ม พลังปราณก่อเกิดถูกควบแน่นกลายเป็นอุ้งมือสิงโตยักษ์ที่ตบไปที่หลิงฮัน
มันไม่ใช่เทคนิคหรือทักษะอะไรทั้งสิ้น เป็นแค่ฝ่ามือธรรมดาเท่านั้น
หลิงฮันสะบัดนิ้วและฝ่ามือสิงโตยักษ์ก็แยกออกเป็นสองส่วนเบี่ยงไปทางด้านซ้ายและขวาเคลื่อนที่ผ่านหลิงฮันไป
หืม!
มีเสียงอุทานดังมาจากด้านล่าง แม้ว่าถ้วป้าตงจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่หลิงฮันสามารถสลายการโจมตีของอีกฝ่ายได้ง่ายเกินไป ราวกับว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่ราชา แต่เป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีทั่วไป
อู่เมี่ยนถอนหายใจ ในตอนที่เขาลดระดับพลังของตัวเองเพื่อต่อสู้ในระดับเดียวกับหลิงฮัน แต่เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะหลิงฮันได้ ความสามารถของชายคนนี้ไม่อาจหยั่งถึง
เป่ยหวง ฉือหวงและฉื้อหวงจี่่เผยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ในแง่ของพลังต่อสู้ของพวกเขาคือระดับดารา เพียงแค่ปล่อยฝ่ามือก็สามารถสยบหลิงฮันได้แล้ว แต่ที่นี่ทุกคนอยู่ระดับภูผาวารีเหมือนกันหมด ยกเว้นพลังทางสายเลือด ทักษะกับเทคนิคและความสามารถในการต่อสู้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อพลังต่อสู้
“เจ้าก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง ไม่แปลกที่เจ้าจะทำตัวอวดดีแบบนั้น” ถ้วป้าตงพูดอย่างเย็นชา ถึงแม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการโจมตีใส่หลิงฮัน แต่เขาก็ยังคงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“เจ้าจะพ่ายแพ้ให้กับข้าภายในสิบกระบวนท่า” หลิงฮันกล่าว
อันที่จริงเขาสามารถปิดฉากได้เร็วกว่านั้น แต่จะดีกว่าถ้ายังถ่อมตัวอยู่บ้าง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถ้วป้าตงก็โกรธแทบจะบ้าคลั่ง ทั้งที่เขาเป็นอัจฉริยะระดับราชา แต่อีกฝ่ายกลับพูดว่าเขาจะพ่ายแพ้ภายในสิบกระบวนท่า เขาหัวเราะด้วยความโกรธและพูดว่า “ดี ข้าอยากเห็นยิ่งนักว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะข้าภายในสิบกระบวนท่าได้อย่างไร!”
หลิงฮันยิ้มและกระโจนออกไป พรึบ อักขระศักดิ์สิทธิ์บนมือของเขาเริ่มส่องแสงและระเบิดแสงสว่างออกมา เปรี๊ยง ทันใดนั้นเสียงฟ้าผ่าและสายฟ้าก็พุ่งเข้าหาถัวป้าตง
“อะไรกัน!”
ชั่วครู่ต่อมา ไม่ว่าจะเป็นใครก็เผยสีหน้าตกตะลึงออกมาให้เห็น
ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะมีใครไม่เคยรับทัณฑ์สวรรค์บ้าง? แน่นอนพวกเขาย่อมรู้ดีว่าสายฟ้าของทัณฑ์สวรรค์นั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน อาจกล่าวได้ทัณฑ์สวรรค์คือพลังของธรรมชาติที่อันตรายที่สุดในโลก
แต่ทัณฑ์สวรรค์เป็นพลังของพระจ้าที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ แม้ว่าจอมยุทธจะสามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้ก็ตาม แต่มันแตกต่างจากทัณฑ์สวรรค์อย่างสิ้นเชิง
ทว่าในมือของหลิงฮันกลับเป็นสายฟ้าของทัณฑ์สวรรค์!
เขาบ้า นี่เขาบ้าไปแล้ว!
บางคนแค่ตกตกตะลึง แต่ถ้วป้าตงยืนเกร็งกล้ามเนื้อทั้งตัวและเกิดความกลัวขึ้นในใจอย่างไม่อาจอธิบายได้
หรือว่าเขาจะต้องมาตายที่นี่?
ไม่ใช่!
อย่างไรก็ตาม ถัวป้าตงก็ยังคงเป็นอัจฉริยะระดับราชา เขาส่งเสียงคำราม กล้ามเนื้อของเขาเริ่มพองโต เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดและกลายร่างเป็นราชสีห์ทองคำที่สูงสิบฟุตและมีเส้นผมเหมือนทองคำ
“ทำลาย!” ถัวป้าตงต่อยหมัดออกไปปะทะสายฟ้าของหลิงฮัน และอักขณะศักดิ์สิทธิ์เก้าสิบเก้าตัวบนหมัดของเขาก็ส่องแสงสว่างเช่นเดียวกับทองคำ
ขีดจำกัดของระดับภูผาวารีคืออักขระศักดิ์สิทธิ์เก้าสิบเก้าตัว และเป็นไปไม่ได้ที่จะมีมากกว่านี้
ตู้ม!
เสียงระเบิดที่ดัง ทำให้ร่างของถัวป้าตงถอยกลับไปด้านหลังไปที่ขอบแท่นจนเกือบจะตก
“อ๊าก!” เขากระอักโลหิตออกมาและจ้องมองหลิงฮันด้วยความหวาดผวา
นั่นไม่ใช่แค่เหมือนทัณฑ์สวรรค์ แต่เป็นทัณฑ์สวรรค์ของจริง!
พลังทำลายล้างของมันน่าสะพรึงกลัวมาก ทั้งที่พลังของทั้งสองคนเท่ากัน แต่การโจมตีเมื่อครู่ ทำให้กล้าเนื้อทั้งร่ายงกายของเขาต้องสั่นสะท้าน
เขากำลังเผชิญหน้ากับจอมยุทธ แต่กลับต้องมารับทัณฑ์สวรรค์ แล้วใครจะต้านทานได้?
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป กระทั่งราชาทุกคนก็เผยท่าทางระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น แม้ว่าหลิงฮันจะไม่ได้ท้าทายพวกเขา แต่หลังจากที่ตำแหน่งราชาทั้งเก้าคนถูกตัดสินแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการต่อสู้ระหว่างราชาเพื่อชิงอันดับหนึ่ง
หลิงฮันเป็นคนที่พวกเขาไม่อาจมองข้ามได้
มีเพียงแค่ เป่ยหวง ฉือห่วง และฉื้อหวงจี่่เท่านั้นที่ดูตื่นเต้นและกระหายการต่อสู้ คู่ต่อสู้อย่างหลิงฮันคือคนที่พวกเขาอยากปะมือด้วย
หมัดของหลิงฮันและสายฟ้ากลายเป็นมังกรคำรามและกระหน่ำโจมตีถ้วป้าตงอย่างดุเดือด ซึ่งทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายที่ทำได้แค่ป้องกัน เขาต้องงัดทุกอย่างออกมาใช้ มิฉะนั้นจะไม่มีพลังเหลือที่จะตอบโต้
ทุกคนหายใจเข้าลึกๆ ทั้งที่ถัวป้าตงเป็นอัจฉริยะระดับราชา แต่กลับถูกหลิงฮันกระหน่ำโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว นี่คือความแข็งแกร่งของราชาอย่างนั้นหรือ?
นี่ยังนับว่าเป็นการต่อสู้? ไม่ใช่ มันเป็นการทารุณกรรมอยู่ฝ่ายเดียว!