แสงดาวกวาดตามองเธอมอง
ไม่ได้มีอารมณ์ใดๆนัก เธอยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “ขอบคุณคุณขวัญค่ะ”
หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงจริงๆ แล้วหยิบแก้วชาที่ไชยันต์เทชาให้กับเธอขึ้นมา
ขวัญเมือง “……..”
ชั่วขณะนั้นเอง เธอได้เห็นเธอนั่งบนที่นั่งที่เธอเคยนั่งอย่างชิวๆ เปรียบกับท่าทางระมัดระวังของเธอที่นั่งลงตรงนี้เมื่อกี้ก็ให้มีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนรับใช้ของที่นี่
แสงดาว!!
ทุกคนไปพัก เพราะแสนรักจะหมดแรงไปกว่านี้ไม่ได้ จึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับไป
“คุณแสงดาว มาหาฉันที่ห้องหนังสือหน่อย”
ในขณะที่ทุกคนมาถึงที่ตึกหลักนั้น เดิมอยากจะเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยกันกับแสนรัก ทันใดนั้นไชยันต์ก็เรียกแสงดาว
แสงดาวหยุดลงทันใด
คนกลุ่มนั้นมองมา รวมไปถึงแสนรักที่เดิมทีจะเข้าลิฟต์อยู่ด้วย
ไชยันต์เห็นดังนั้นเลยพูดอธิบายว่า “ไม่มีเรื่องอะไรหรอกก็แค่คุยกันเรื่องไวน์ พวกเธอขึ้นไปก่อนเลย ม็อกโกอย่าลืมให้เขากินยานะ”
เขาตั้งใจพูดกำชับ
ม็อกโกเลยพาแสนรักขึ้นไป
และแสงดาวก็ตามคุณท่านไปที่ห้องหนังสือของเขา
ไวน์?
เมื่อวานเธอก็เพิ่งเอาเหล้าที่เขาอยากที่สุดมาส่งให้แล้วไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมยังถามถึงอีก?
แสงดาวมีความสงสัยมองคุณท่านที่อยู่ในห้องหนังสือ
“คุณท่านคะ คุณท่านอยากจะได้ไวน์จริงๆหรอคะ?”
“เปล่า” เมื่อเขามาถึงที่นี่ก็เก็บสีหน้าที่ดูชิวๆสบายๆเอาไว้ทันที
ใจของแสงดาวของ “ตุ้บๆ” ขึ้นมาทันที…..
ไม่ได้ต้องการไวน์?
แล้วเขาจะเรียกเธอมาที่ห้องหนังสือทำอะไร? คงไม่น่าจะให้เธอออกไปจากที่นี่หรอกนะ?
หรือว่าเขาจะรู้เรื่องวันแรกที่เธอมา ดื่มหนักจนเมาจนไปยั่วหลานชายของเขาแล้วนะ?!!
หน้าผากของแสงดาวมีเหงื่อไหลออกมา
“ที่ฉันเรียกเธอมาเพราะอยากจะถามหน่อยว่า เด็กสามคนนั้นไปไหน?”
“อะไรนะคะ?”
คำถามพุ่งเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว แสงดาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งไม่ตอบสนองใดๆอยู่ชั่วขณะ
“ดะ….เด็กอะไรนะคะ?”
“เธอคิดว่ายังมีเด็กอะไรอีกละ? ก็ต้องเป็นเด็กสามคนของน้องชายเธอไง เหลนของฉัน!” ไชยันต์เห็นเธอทำท่าทางแสร้งโง่ก็รู้สึกไม่พอใจ
แสงดาวเหมือนถูกฟ้าผ่า!
เขาถามคำถามนี้เลยหรอ? เขารู้เรื่องนี้ตอนไหน?
ไม่ ไม่ใช่สิ เขาต้องรู้แน่นอน หลานสามคนของเธอก่อนหน้านี้อยู่ที่ตระกูลหิรัญชา แล้วก็ไม่ได้ปกปิดด้วย คนทั่วทั้งเมืองAต่างรู้ว่าท่านประธานบริษัทหิรัญชากรุ๊ปมีลูกสามคน
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้
แต่ว่านานอย่างนี้จวนจะครึ่งปีผ่านไปแล้ว ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงไม่ถาม แต่มาถามเอาตอนนี้?
แสงดาวรู้สึกสับสน เธอมองดูชายผู้สูงวัยคนนี้อยูสักพัก เลยได้ยินเสียงตัวเองพูดว่า “หนู….หนูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ตอนนั้นก่อนที่น้องชายหนูจะเกิดเรื่องขึ้น เลยส่งตัวพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว”
“ส่งตัวไปแล้ว? โดยที่ไม่ได้บอกใครเลยหรอ?”
“ไม่ได้บอกค่ะ มีแค่มือสังหารที่ตามเขาไปคนนึงที่รู้ มือสังหารคนนั้นชื่อกาวินแต่ว่าได้หายตัวไปเมื่อครึ่งปีก่อนในไนต์คลับ พวกเราหาอยู่นานก็ไม่เจอ”
แสงดาวพยายามควบคุมจิตใจให้นิ่ง แล้วค่อยๆพูดออกมา
เธอจะไม่มีวันบอกที่พักระหว่างการเดินทางของเด็กให้กับเขา เพราะน้องชายของเธอยังได้สติ เธอไม่รู้ว่าแผนการที่เกิดเรื่องของเขามันเป็นยังไง
อีกอย่างถ้าชายสูงวัยคนนี้ได้รู้เรื่องเด็กสามคนแล้ว เขาจะทำอะไรพวกเขา จะหาผลประโยชน์เข้าตัวหรือเปล่า?
ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ยิ่งซวยเข้าไปใหญ่!
เพราะไม่ว่าจะเป็นน้องชายเธอหรือจะเป็นเส้นหมี่ต่างก็เป็นผู้ถูกกระทำทั้งในช่วงระยะเวลาหลังจากนี้และในตระกูลนี้ด้วย
แสงดาวเลยตัดสินใจที่จะไม่พูด
ดีที่หลังจากชายผู้สูงวัยคนนี้ได้ยินเธอเล่าเรื่องไนต์คลับนั้น เขาก็คิดถึงฉากที่เกิดขึ้นในตอนนั้น สีหน้าไม่สู้ดี ในที่สุดเขาเลยไม่ได้จี้ถามเธออีก
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะตามหากาวินคนนี้ รอให้น้องชายเธอตื่นก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่”
“ค่ะ”
ในที่สุดแสงดาวก็โล่งอก
กำลังจะเดินออกไป ชายสูงวัยคนนี้ก็ถามขึ้นอีกว่า “เธอมีรูปเด็กสามคนมั้ย? ให้ฉันดูหน่อย”
“คะ?”
ทันใดนั้นแสงดาวให้รู้สึกใจสั่นขึ้นมาอีก!
ให้เขาดูรูปเด็กงั้นหรอ?
มันจะได้ยังไงล่ะ? เขาเคยได้เห็นหนูรินจังไปแล้ว ถ้าให้เขาดูก็น่าจะรู้สถานะของมัดหมี่ที่เป็นแม่ของเธอแล้วมั้ย?
แสงดาวอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
แต่ว่าตอนนี้ถ้าไม่หยิบรูปออกมาก็เกรงว่าชายผู้สูงวัยคนนี้จะสงสัย
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ หนูหาก่อน” เธอก้มหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา หลังจากนั้นเลื่อนโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ตั้งใจเลือกรูปที่มีแค่แฝดพี่น้องชาย
สำหรับเด็กผู้หญิงนั้น บางรูปก็เป็นรูปหันข้าง บางรูปก็เป็นรูปที่เจ้าเด็กกำลังเล่นอยู่
หลังจากนั้นเลยยื่นให้กับชายสูงวัย
“นี่ค่ะ รูปพวกเขาสามคน”
“อื้ม”
ไชยันต์เห็นดังนั้นก็รีบรับโทรศัพท์ทันที
คุณท่านที่ผ่านสงครามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนสีหน้าก็ไม่เปลี่ยน แต่พอเห็นก็มือไม้สั่นเล็กน้อย
แสงดาว “…….”
มองดูอยู่นาน ชายผู้สูงวัยคนนี้จึงยอมให้ยืนโทรศัพท์คืนให้กับเธอ
“เหมือนมาก พวกเขา…..เหมือนเขามาก” นัยน์ตาเขาแดง พูดด้วยน้ำเสียงจุกคอ