คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1476
”ก็ได้ ก็ได้…”
เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ คาร์ลก็รู้สึกได้ถึงความหวาดหวั่นในใจ เขาไม่กล้าที่จะอยู่ต่อจึงวิ่งหนีจากไปอย่างเร็วหลังจากที่กล่าวจบ
‘ฉันไม่กลัวลูก้าหรอก แต่ฉันไม่กล้าทำให้แอชเชอร์ไม่พอใจ’
เฮ้อ!
แอชเชอร์ถอนใจหนักหน่วงเมื่อเขาเห็นคาร์ลวิ่งหนีไปไกลแล้ว จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับแดร์ริลอย่างนอบน้อมว่า “นายท่านครับ ให้ผมช่วยนายท่านตามหาโอสถเล่นแร่แปรธาตุเถอะครับ ผมจะช่วยให้นายท่านได้ครองมันอย่างเหมาะสมแน่”
“ไม่จำเป็นหรอก!” แดร์ริลยิ้มพร้อมส่ายหน้า “เราควรจะแยกกันไปคนละทาง”
‘ในสายตาคนอื่นฉันก็เป็นแค่คนไม่สำคัญอะไร ชาวบ้านต้องสงสัยแน่ ถ้าอยู่ดี ๆ คนอื่นเห็นฉันไปกับแอชเชอร์’
“ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรครับ”
เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้นแอชเชอร์ก็ไม่เซ้าซี้ เขาโบกมืออำลาแดร์ริลและจากไป แดร์ริลเองก็ไม่ได้รั้งรออยู่นานหลังจากที่เขาเห็นแอชเชอร์จากไป เขาก็หันหลังและเดินลึกเข้าไปในป่า
เมื่อเดินผ่านป่าเข้าไป แดร์ริลก็มองเห็นโพรงขนาดใหญ่อยู่บนพื้นใกล้กับซากอาคารปรักหักพังตรงหน้า หมาป่าวิญญาณแห่งวายุจำนวนหนึ่งวนเวียนอยู่รอบ ๆ ปากทางเข้าโพรงนั้น
ในกลุ่มของพวกนั้นมีสองตัวที่เป็นปราชญ์ยุทธ
‘วันนี้ฉันดวงดีจัง แค่ไม่นานก็เจอหมาป่าอีกสามตัวแล้ว’
แดร์ริลรู้สึกยินดีมาก เขาเคลื่อนไหวและพุ่งเข้าใส่อย่างไม่ต้องหยุดคิด
ปัง! ปัง!
เพียงแค่ไม่กี่ชั่วลมหายใจแดร์ริลก็สังหารหมาป่าวิญญาณแห่งวายุไปได้สองสามตัวและได้โอสถเล่นแร่แปรธาตุมาอีกสองชิ้น
แต่ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของหมาป่าดังขั้น ตามด้วยเงาร่างขาวดุจหิมะมากมายพุ่งเข้ามาโจมตี!
‘เวรเอ๊ย นี่หมาป่าวิญญาณแห่งวายุเยอะเกินไปแล้ว! ฉันบุกเข้ามารังมันหรือไงกันเนี่ย’
เมื่อเห็นเช่นนั้นแดร์ริลก็ทั้งตกใจและยินดี ในเมื่อมีหมาป่าวิญญาณแห่งวายุมากมายขนาดนี้ ก็ต้องมีโอสถเล่นแร่แปรธาตุอีกเยอะด้วยเหมือนกัน
‘ฉันต้องมีคุณสมบัติผ่านเข้ารอบต่อไปแน่นอน’
ขณะที่เขาคิดเช่นนั้น แดร์ริลก็ปล่อยกำลังภายใน ทั้งร่างของเขาปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้ขณะที่เขาพุ่งเข้าโรมรันกับฝูงหมาป่าวิญญาณแห่งวายุ!
เพียงแค่ไม่นานหลังจากนั้น แดร์ริลก็สังหารหมาป่าวิญญาณแห่งวายุได้อีกยกโหล พวกมันทั้งหมดอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธ์ เมื่อพลังระดับจักรพรรดิยุทธของแดร์ริลปลดปล่อยเต็มขั้น ไม่ว่าจะมีหมาป่าแห่งวายุมากมายสักแค่ไหนก็ไม่ใช่คู่มือของแดร์ริล
กรร!
เมื่อแดร์ริลอยู่ในภาวะของการสังหารเต็มขั้น เสียงคำรามจนแผ่นดินสะเทือนก็ดังขึ้นมาจากโพรงบนพื้นที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก
เงาร่างขนาดมหึมาคืบคลานออกมาจากโพรงนั้น ทั้งร่างของมันปกคลุมด้วยขนสีขาวราวหิมะ นุ่มลื่นดุจไหม กลิ่นอายแข็งแกร่งแผ่ออกมาจากร่างนั้นเข้มข้นรุนแรงจนแทบทำให้หายใจไม่ออกได้
เสียงคำรามที่สะเทือนขวัญก่อนหน้านี้ดังมาจากหมาป่าวิญญาณแห่งวายุขนาดยักษ์ตัวนี้นั่นเอง
หมาป่าแห่งวายุตัวนี้ยาวมากกว่าสิบฟุต และสูงสามฟุต บนหน้าผากของมันปรากฎริ้วรอยยับย่นให้เห็น ดวงตาเป็นสีแดงเจิดจ้า!
‘เวร นี่มันราชาหมาป่าวิญญาณวายุไม่ใช่เหรอ?’
แดร์ริลตกตะลึงอึ้งงันไปชั่วขณะ ก่อนที่จะรวบรวมสติได้ในไม่กี่วินาทีต่อมา ในใจเขาอดรู้สึกตื้นตันประทับใจไม่ได้!
แดร์ริลเข้าใจถูกแล้วที่ว่าสัตว์ปิศาจยักษ์ตรงหน้าของเขานั้นคือราชาหมาป่าวิญญาณแห่งวายุ มันควรที่จะนอนพักอยู่ในถ้ำ แต่มันรู้สึกได้ว่ามีมนุษย์ที่มีพลังแข็งแกร่งกำลังสังหารฝูงของมันอยู่ ดังนั้นมันจึงพุ่งเข้าโจมตีในทันใด!
ราชาหมาป่าวายุนั้นมีพลังอยู่ในระดับของจักรพรรดิยุทธ และมันก็ยังมีความเฉลียวฉลาดอีกด้วย
กรร!
ยามนั้นเมื่อมันได้เห็นว่าแดร์ริลสังหารฝูงของมันไปมากกว่าสิบตัว ดวงตาของหมาป่าวายุก็เป็นสีแดงก่ำขณะที่มันคำรามก้อง เงาร่างมหึมาพุ่งเข้าใส่แดร์ริลรวดเร็วดุจสายฟ้า
เพียงชั่วพริบตา ราชาหมาป่าวิญญาณแห่งวายุก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าแดร์ริล ขณะที่มันยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นมา เสียงฟ้าผ่าก็ดังสนั่นกึกก้อง
‘แม่งเอ๊ย ราชาหมาป่ามีพลังโจมตีสายฟ้าด้วย’
แดร์ริลตกตะลึงแต่เขาก็ไม่ได้ตระหนก เขายิ้มอย่างเยียบเย็นขณะที่เริ่มเข้าโรมรันต่อสู้กับหมาป่าวายุ
โบร๋วววววว! โบร๋ววววววว!
ตอนนั้นเอง บรรดาหมาป่าวายุตัวอื่น ๆ ต่างก็เงยหน้าส่งเสียงหอนและคำรามเชียร์หัวหน้าฝูงของมัน