บทที่ 1940 ขอความช่วยเหลือจากเทพปีศาจไร้ขอบเขต

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ร่างกายในปัจจุบันของฟางหยวนเกิดจากวิญญาณทารกอมตะ มันไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับมนุษย์บนโลกใบนี้

ฟางเจ๋งมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับร่างแยกกาลเวลาของฟางหยวน แต่ร่างแยกกาลเวลาอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิซึ่งเป็นมิติที่ถูกแยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์วิธีการของฟางเจ๋งสามารถเจาะทะลวงมิติและสัมผัสถึงร่างแยกกาลเวลาของฟางหยวนงั้นหรือ?

“เป็นไปได้ว่าท่าไม้ตายนี้ไม่ได้พึ่งพาความสัมพันธ์ทางสายเลือดเท่านั้นแต่เป็นการเชื่อมต่อบางอย่างระหว่างผู้ใช้งานกับเป้าหมาย”รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงเขารู้สึกว่าบทสรุปนี้มีเหตุผลมาก

เขาไม่ค่อยเข้าใจท่าไม้ตายอมตะของฟางเจ๋งมากนักเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็น

ฟางหยวนพยายามอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่สามารถหลบหนีเมฆสีแดงเลือด หากเขาทําลายมันคราบเลือดจะปรากฏขึ้นและโจมตีโชคของเขา
หากผู้อื่นใช้ท่าไม้ตายนี้ผลลัพธ์จะไม่เป็นเช่นนี้

แต่ฟางเพิ่งมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับฟางหยวนไม่เพียงในแง่ของสายเลือดโชคของทั้งสองเชื่อมต่อกันในทางใดทางหนึ่งตัวอย่างเช่นหลังจากฟางหยวนได้รับหม้อปรุงโชค โชคของฟางเจิ้งก็เปลี่ยนเป็นฝาหม้อนี่เป็นการตอบโต้ฟางหยวนอย่างชัดเจน

ความเชื่อมต่อของท่าไม้ตายอมตะการแก้แค้นจากสายเลือดซับซ้อนมากกว่าที่ฟางหยวนคิด

ด้านแรกคือการเชื่อมต่อทางสายเลือด ด้านที่สองคือการเชื่อมต่อทางจิตใจ และด้านที่สามคือการเชื่อมต่อของโชค

คราบเลือดที่กัดกร่อนโชคเป็นปัญหาสําหรับฟางหยวน
ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงเปลี่ยนเป้าหมายเขาพยายามโจมตีหอพิพากษาปีศาจและสังหารฟางเจิ้งแต่เมื่อใดก็ตามที่เขาเลือกตัวเลือกนี้ราชันมังกรและกังซวนจื่อจะเข้าแทรกแซงพวกเขาจะขัดขวางแผนการของเขาทุกครั้ง

“ตราบเท่าที่ข้ามีวิญญาณอมตะหัวใจโลหิต…แม้ข้าจะไม่สามารถคลี่คลายท่าไม้ตายนี้ มันก็ยังช่วยบรรเทาสถานการณ์ของข้า”ลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงทะเลปราณเกี่ยวกับวิญญาณอมตะหัวใจโลหิตส่งผลกระทบในเวลานี้น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับมัน

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนพลาดมรดกของเต๋จู ในชีวิตนี้ เขาพลาดวิญญาณอมตะหัวใจโลหิต

แม้เขาจะมีข้อได้เปรียบของการกําเนิดใหม่ แต่หลายสิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบในแง่ร้ายต่อเขาอีกครั้ง

นี้คือจุดอ่อนของวิญญาณกาลเวลา

การเกิดใหม่ด้วยวิญญาณกาลเวลาเป็นเพียงการมอบโอกาสที่สองให้เขา หลังจากนั้นสถานการณ์ต่างๆจะขึ้นอยู่กับการกระทําของตัวเขาเอง

ด้วยวิธีนี้ วังสวรรค์จึงสามารถรักษาเสถียรภาพในการต่อสู้

“ฟางหยวนถูกหยุด!” ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ปีศาจกระทิงตระหนักถึงสถานการณ์ของฟางหยวน

แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่ให้ความสนใจสถานการณ์ของฟางหยวนหลังจากทั้งหมดผลแพ้ชนะของฟางหยวนจะส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ทั้งหมด

ท่านหญิงดอกไม้ลังเล “เราควรช่วยเขาหรือไม่?”

ทั้งสองมองถึงช่ายฉวน พวกเขารู้ว่าปังช่ายฉวนยังมีไพ่ตายเก็บไว้ พวกเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากเทพปีศาจไร้ขอบเขต

ในชีวิตก่อนหน้า ซึ่งช่ายฉวนใช้ไพ่ใบนี้เพื่อหยุดราชันมังกร

ในสถานการณ์นี้ตราบเท่าที่ราชันมังกรถูกหยุด ฟางหยวนจะสามารถทําลายเป้าหมายของเขา

แต่ปังช่ายฉวนส่ายศีรษะ “ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กัน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่พวกเราจะนําวิญญาณชะตากรรมกลับภาคเหนือ เราจะหลอมรวมวิญญาณอมตะพรหมลิขิตระดับเก้า!”

นี่คือเป้าหมายเดิมของพวกเขา ด้วยการครอบครองวิญญาณพรหมลิขิต ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะเข้าแทนที่ตําแหน่งของวังสวรรค์และปกครองห้าภูมิภาค

ก่อนหน้านี้ปิงชายฉวนติดอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก เขาต้องล้มเลิกความคิดนี้และขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน ตอนนี้ฟางหยวนเคลื่อนไหวและเปลี่ยนสถานการณ์เรียบร้อยแล้วดังนั้นปิงช่ายฉวนจึงได้รับโอกาสที่ดีอีกครั้ง

ต้องขอบคุณฟางหยวนสําหรับเรื่องนี้หรือไม่?

ปิงช่ายฉวนหัวเราะเสียงเย็นอยู่ในใจ ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขากําลังจะประสบความสําเร็จหลังจากรอคอยมานาน เหตุใดพวกเขาต้องยอมแพ้?

ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง เขาจะไม่ยอมแพ้!

แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะยังอยู่แต่เส้นทางถูกเปิดออกแล้ว

“ไปกันเถอะ เพื่อถ้ําสวรรค์นิรันดร เพื่อภาคเหนือ เพื่อเทพอมตะตะวันเดือด ไปนําวิญญาณชะตากรรมมา!”ปิงช่ายฉวนตะโกนเสียงดัง

ผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมดตอบรับปิงช่ายฉวน

เหมาลี่หิ้วเข้าสู่สนามรบนานแล้ว มันต่อสู้อยู่กับพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าและกระเรียนหยกเขียวหร่านตัน

ปีศาจกระทิงกับท่านหญิงดอกไม้บินออกจากแท่นบูชาแห่งโชคและให้การสนับสนุนกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือ

“ไม่!” ดวงตาของหยวนเชียงตุ๊กลายเป็นแดง… เขาตะโกนขอกําลังเสริมแต่ไม่มีผู้ใดมาช่วย

หยวนเชียงต่อยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขาไม่สามารถหลบหนีตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

หากวิญญาณชะตากรรมถูกฉกชิงไป ความพยายามของพวกเขาจะกลายเป็นสูญเปล่า

เมื่อตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ราชันมังกรเริ่มกังวล เขาตะโกน “ฟางหยวน พวกเขากําลังใช้ประโยชน์จากเจ้า”

ฟางหยวนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน เขามองไปทางหอคอยดวงตาสวรรค์และสูดหายใจลึก

หากฟางหยวนหันกลับมาโจมตีถ้ําสวรรค์นิรันดร พวกเขาจะทําอย่างไร?

การตัดสินใจของปิงช่ายฉวนมาพร้อมกับความเสี่ยงและแรงดันมหาศาล

แต่ความจริงก็คือฟางหยวนไม่แยแส ตรงข้าม เมื่อเขาเห็นผู้อมตะภาคเหนือบุกไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์ เขารู้สึกมีความสุข ในที่สุดก็มีบางคนเหยียบกับระเบิดแทนเขา!

“ราชันมังกร เจ้าควรเป็นห่วงตัวเองมากกว่า ข้าจะฆ่าเจ้าก่อนถ้ําสวรรค์นิรันดร!”ฟางหยวนตะโกน

ราชันมังกรเงียบ ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

“วิญญาณชะตากรรม!” ปีศาจกระทิงและท่านหญิงดอกไม้พุ่งขึ้นไปบนหอคอยดวงตาสวรรค์และพบกับวิญญาณชะตากรรม

แต่ในเวลาต่อมาการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์ก็ถูกกระตุ้นใช้งาน

“อา…”

“มันคือสิ่งใด?”

“วิธีบนเส้นทางแห่งภาพวาดของเทพอมตะบัวสวรรค์!”

เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน ผู้อมตะภาคเหนือติดอยู่ในภาพวาดป่าไผ่

การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดนี้ทําให้ทุกคนตกตะลึง ปังช่ายฉวนก็เช่นกัน

นี่ทําให้หยวนเชียงต์กงเยี่ยน และเช่อเว่ยมีเวลาพักฟื้น

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่น สายธารแห่งกาลเวลายังอยู่แต่ไม่มีผู้อมตะปรากฏตัวขึ้นอีกเหมาลีชิวอยู่ใกล้ที่สุดแต่มันกําลังต่อสู้ติดพันอยู่กับสองสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานและไม่สามารถจาก

ในสถานการณ์นี้มีเพียงปิงช่ายฉวยเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ฉีซีหลางกลับตื่นขึ้น

“เจ้ายังลังเลสิ่งใดอยู่? ใช้แท่นบูชาแห่งโชคพุ่งชนหอคอยดวงตาสวรรค์!” ฉีซีหลางกล่าว

ขณะที่เขาหมดสติ เขายังสามารถรวบรวมข้อมูล เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาก็เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี

วิญญาณชะตากรรมอยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ มีเพียงปีศาจต่างโลกที่สามารถทําลายวิญญาณชะตากรรมการทําลายหอคอยดวงตาสวรรค์จะไม่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณชะตากรรม
แต่หอคอยดวงตาสวรรค์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า มันมีการป้องกันที่แข็งแกร่งการทําลายมันต้องใช้เวลานี่คือเหตุผลที่ปิงช่ายฉวนส่งผู้อมตะภาคเหนือบุกเข้าไปภายในหอคอยดวงตาสวรรค์

ปิงช่ายฉวยไม่สามารถตัดสินใจ

เขามองสายธารแห่งกาลเวลาอีกครั้ง แม้มันจะยังอยู่แต่ไม่มีผู้อมตะภาคเหนือปรากฏตัวขึ้นอีกผู้อมตะภาคเหนือที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ยังมีอีกหลายคนตัวอย่างเช่นกลุ่มผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ปรากฏตัว

แม้ปิงช่ายฉวนจะไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้า แต่เขายังรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

หลังจากทั้งหมดเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

“ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตไม่สามารถเชื่อถือ ข้าไม่สามารถพึ่งพามันเพียงอย่างเดียวเทพปีศาจุบัวแดงเคยเป็นสมาชิกของวังสวรรค์ ไม่มีผู้ใดรู้เป้าหมายที่แท้จริงของเขา

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซึ่งช่ายฉวนก็กล่าวกับฉีซีหลาง “องค์ชายเจ็ด โปรดลงมือ”

ฉีหลางก่นเสียงเย็น “ข้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งโชค ข้าควรเป็นผู้ควบคุมแท่นบูชาแห่งโชคมากกว่า ปิงช่ายฉวน สถานการณ์เร่งด่วน เจ้าควรออกไป! อา…บัดซบ! คนสารเลวปิงช่ายฉวน!”
ฉีซีหลางยังไม่ทันกล่าวจบประโยค ปิงชายฉวนก็ส่งเขาออกไปเรียบร้อยแล้ว

แท่นบูชาแห่งโชคอยู่ในการควบคุมของปิงชายฉวน ฉีซีหลางไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากสบถสาปแช่ง

“องค์ชายเจ็ด โปรดลงมืออย่างรวดเร็ว” ปิงช่ายฉวยกล่าวอย่างสุภาพ

ฉีซีหลางสงสัยหากเขาปฏิเสธ แท่นบูชาแห่งโชคจะโจมตีหรือไม่

“ปิงช่ายฉวน เจ้าทําดีมาก!” ฉีหลางกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ

ปิงช่ายฉวนเป็นแม่ทัพของเทพอมตะตะวันเดือด สถานะและความอาวุโสของเขาทําให้เขามั่นใจว่าสามารถจัดการบุตรชายของเทพอมตะตะวันเดือดผู้นี้

“หากไม่ใช่เพราะความปรารถนาของท่านพ่อ…” ฉีซีหลางโกรธแต่ยังพุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์

หยวนเชียงตู้และคนอื่นๆไม่สามารถหยุดเขา

พวกเขารู้สึกโศกเศร้าและสามารถฝากความหวังไว้กับการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์เท่านั้น

เมื่อฉีซีหลางก้าวขึ้นไปบนยอดหอคอยดวงตาสวรรค์ เขาถูกโจมตีด้วยแสงสีเขียวทันที

เมื่อเห็นฉีซีหลางกําลังจะถูกลากเข้าไปในภาพวาด ปังช่ายฉวนตัดสินใจตะโกน “เทพปีศาจได้ขอบเขต โปรดหันกลับมา!”

ภายในศาลาแห่งความโศกเศร้า เทพปีศาจไร้ขอบเขตไม่ได้หันหลังกลับ เขาเพียงโยนตัวหมากรุกชิ้นหนึ่งออกมาเท่านั้น

ตัวหมากรุกบินไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์และลอยอยู่เหนือศีรษะของฉีซีหลาง

ฉีหลางได้รับอิสรภาพ

เขารู้สึกมีความสุขมาก โอกาสขโมยวิญญาณชะตากรรมมาถึงแล้ว!