“รัฐบาลของหัวเซี่ยคิดอยากจะเปิดศึกกับโลกบู๊โบราณเหรอ?” หลินว่านเหนียนคำราม ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ

ผู้อาวุโสแต่ละสำนักที่เดิมเตรียมตัวจะโจมตีเฉินซงจื่อ อดไม่ได้ที่จะหยุดการโจมตี แล้วมองสมาชิกหน่วยมังกรอย่างโกรธจัด

มังกรเอกไม่ได้สนใจหลินว่านเหนียน คำถามนี้เขาได้ถามเจียงเหอซานมาแล้ว เจียงเหอซานก็ได้ให้คำตอบเขาตอนนั้นเลย

ต่อให้รัฐบาลรัฐหัวเซี่ยไม่ริเริ่มปะทะกับโลกบู๊โบราณ เมื่อรอจนกว่าโลกบู๊โบราณยึกครองโลกฝึกบู๊สำเร็จ หลังจากกวาดหลังอุปสรรคแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือจะยึดอำนาจของรัฐบาลหัวเซี่ย

โลกบู๊โบราณกลับมาอีกครั้ง ไม่มีทางที่จะอยู่กับรัฐบาลหัวเซี่ยอย่างสันติเฉกเช่นโลกฝึกบู๊ สิ่งที่โลกบู๊โบราณต้องการคือการกดขี่ประชาชนของหัวเซี่ยเยี่ยงทาส

ไม่อย่างนั้นท่านหวาก็คงไม่เสี่ยงชีวิต เพื่อฆ่าโลกบู๊โบราณ และบังคับให้โลกบู๊โบราณลงนามในสนธิสัญญาที่ซ่อนอยู่

ดังนั้น คำขู่ของหลินว่านเหนียนสำหรับมังกรเอกแล้ว มันก็คือเรื่องตลก

สมาชิกหน่วยมังกรหลายสิบคน แบ่งเป็นกลุ่มละสามคน ใช้อาวุธหนักยิงใส่นักบู๊อย่างสะใจ นักบู๊ที่ต่ำกว่าแดนปรมาจารย์ ยังไม่มีพลังเพียงพอที่จะต่อกรกับอาวุธร้อนได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีทางที่จะรับมือได้กับอาวุธร้อนที่เตรียมไว้สำหรับนักบู๊โดยเฉพาะ

โดยเฉพาะสมาชิกหน่วยมังกร แต่ละคนล้วนอยู่ในแดนปรมาจารย์ ปรมาจารย์ที่ใช้อาวุธร้อน แรงสังหารเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า

ในหนึ่งนาที ก็มีนักบู๊สิบกว่าคนล้มลง มีคนตายเฉลี่ยวินาทีละหนึ่งคน

หลินว่านเหนียนและคนอื่นจ้องมองจนลูกตาแทบจะถลนออกมา พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อน นักบู๊ที่ติดอาวุธแล้วจะมีแรงสังหารที่มหาศาลขนาดนี้

นักบู๊เหล่านั้นล้วนเป็นหัวกะทิของสำนัก ไม่ควรมาตายเสียแบบนี้

“รนหาที่ตาย!”

หลินว่านเหนียนบินตรงไปที่สมาชิกของกลุ่มมังกร ในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนเทพ เว้นแต่ว่ามันเป็นขีปนาวุธทรงพลังหรืออาวุธนิวเคลียร์ กระสุนและลูกระเบิดธรรมดาเหล่านั้นไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้อีกต่อไป

แม้แต่กระสุนหรือลูกระเบิดที่สั่งทำโดยเฉพาะ ก็ไม่สามารถทำร้ายผู้แข็งแกร่งแดนเทพได้

อย่างไรก็ตามตั้งแต่แรกมังกรเอกก็ไม่ได้มีแผนที่จะทำร้ายผู้แข็งแกร่งแดนเทพอยู่แล้ว จุดประสงค์ของพวกเขาคือต้องการดึงดูดให้หลินว่านเหนียนและผู้แข็งแกร่งแดนเทพมาทางนี้

“ตั้งแถวป้องกัน!” มังกรเอกตะโกนสั่ง

เพียงคำสั่งเดียว สมาชิกหน่วยมังกรหลายสิบคนได้จัดตั้งแนวป้องกันที่หนาแน่นในทันที และปืนของลำกล้องขนาดใหญ่และอาวุธปืนทุกชนิดมุ่งเป้าไปที่ หลินว่านเหนียนและคนอื่นๆ

“จุดไฟ!”

มังกรเอกสั่งการโจมตีโดยตรงโดยไม่มีความลังเลใด ๆเลย

ลูกระเบิดที่ยิ่งกระหน่ำไม่ยั้ง แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งแดนเทพยังต้องเปิดฝาครอบป้องกันอย่างระมัดระวัง หลินว่านเหนียนและคนอื่นๆ เคลื่อนไหวได้ช้ามาก

มังกรเอกทำสัญญาลักษณ์มือให้กับเฉินซงจื่อรีบไป เฉินซงจื่อลังเลไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าเดินเข้าไปในคฤหาสน์

หน่วยมังกรดึงเวลาให้พวกเขาโดยไม่คิดชีวิต ถ้าหากไม่เด็ดขาด มันก็จะเสียความตั้งใจของหน่วยมังกร

หน้าประตูห้องของเฉินโม่ ซังซังกับเอียนชิงเฉิงทั้งสองคนเฝ้าอยู่ตรงนั้น เฉินซงจื่อก้าวเข้ามากะทันหัน ถามอย่างร้อนใจ“อาจารย์ล่ะ?”

เอียนชิงเฉิงตอบกลับ “อยู่ข้างใน ยังคงฝึกอยู่!”

เฉินซงจื่อตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “ปลูกเขาให้ตื่น เร็วเข้า ต้านไม่อยู่แล้ว!”

“ได้!”

เอียนชิงเฉิงเปิดประตูด้วยฝ่ามือ เฉินโม่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ลมปราณที่แข็งแกร่งบนตัวเขาไม่คงที่

“ปลูกเขาให้ตื่นแบบนี้ จะมีอันตรายมั้ย?” เอียนชิงเฉิงมีความเป็นห่วง

“ไม่มีเวลามาสนใจเยอะขนาดนั้นแล้ว ต้องเรียกอาจารย์ให้ตื่น!” เฉินซงจื่อพูดจบ ก็ยื่นมือไปผลักไหล่ของเฉินโม่

พลังอันแข็งแกร่งได้ดีดเฉินซงจื่อกระเด็กลอยออกไป ชนเข้ากับกำแพงถึงได้หยุดลง

“อาจารย์ ผมเอง!” เฉินซงจื่อเรียก คิดไม่ถึงว่าต่อให้เฉินโม่อยู่ในขณะที่ฝึกฝน ยังมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งขนาดนี้

เฉินโม่ไม่ได้ลืมตา เฉินซงจื่อกลับมาที่เดิม พูดกับเอียนชิงเฉิง “จำเป็นต้องปลูกอาจารย์ให้ตื่น!”

พูดจบ เฉินซงจื่อก็ใช้หมัดชกไปทางเฉินโม่

ตูบ!

พลังที่แข็งแกร่งได้ดีดเฉินซงจื่อออกมาอีกครั้ง จนกระอักเลือกออกมา

เฉินโม่ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ในขณะที่เฉินซงจื่อเตรียมที่จะลงมืออีกครั้ง เสียงของเฉินโม่ก็ดังขึ้นอย่างราบเรียบ “อย่ารบกวนฉัน พวกนายออกไปขัดขวางให้ได้อีกครึ่งชั่วยาม”

ครึ่งชั่วยาม

นี่……..

ครึ่งชั่วยาม ก็คือหนึ่งชั่วโมง มันยากมากเลยนะ

อย่างไรก็ตาม ต่อให้จะยากแค่ไหน เฉินซงจื่อก็ต้องทำให้สำเร็จ

“ศิษย์น้อง พวกเธอเฝ้าอยู่ตรงนี้ ฉันจะไปเอง!” เฉินซงจื่อที่สีหน้าหนักใจ ใบหน้ามีความแน่วแน่ที่จะสละชีวิต