สนามรบภูเขาขนดก
มีเพียงส่วนเล็กๆของควันห้าสีที่เหลืออยู่ ตี้จางเฉิงคํารามและใช้เขี้ยวของมันฉีกทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ
“หยุด!”
“ค่ายกลย่อยถูกทําลายแล้ว!”
“เรายังเหลือค่ายกลย่อยอีกกี่ค่ายกล?”
“เหลืออีกค่ายกลเดียวเท่านั้น!”
“สร้างค่ายกลย่อยเร็วเข้า!”
“เราทําไม่ได้ พลังทําลายล้างของมันรุนแรงเกินไป เราสร้างไม่ทัน!”
ผู้อมตะภาคกลางที่อยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบตกสู่ความโกลาหลแต่พวกเขาถูกจํากัดโดยควันห้าสี ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมหรือการสร้างค่ายกลย่อย พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับฟันเฟือง ยิ่งผู้อมตะแข็งแกร่งเท่าใด ฟันเฟืองก็ยิ่งรุนแรงเท่านั้น
ที่จางเฉิงทรงพลังมาก มันสามารถทําลายค่ายกลย่อยได้อย่างรวดเร็วด้วยเพียงร่างกายของมัน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือมันยังแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
กําแพงภูมิภาคบางลงทุกขณะ เส้นโลหิตปฐพี่ค่อยๆรวมเป็นหนึ่ง ร่องลึกใต้พิภพ ขยายไปถึงเมืองจักรรพรรดิซึ่งเป็นสัญญาณว่าการเชื่อมต่อของเส้นโลหิตปฐพี่มาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นภาคกลางหรืออีกสี่ภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทําให้เกิด โศกนาฏกรรมและการสูญเสียมากมาย อารมณ์ของมนุษย์กําลังพลุ่งพล่าน
จางที่เพิ่งแตกต่างจากสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานตัวอื่นๆ มันเกิดจากพลังงานแห่งปฐพีที่หลอมรวมกับอารมณ์เชิงลบของมนุษย์
เมื่อเส้นโลหิตปฐพีรวมเป็นหนึ่ง พลังอํานาจของจางเฉิงจะเพิ่มขึ้นห้าเท่า อารมณ์เชิงลบที่พลุ่งพล่านของผู้คนทุกภูมิภาคจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมันมากขึ้นไปอีก
ราชันมังกรแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์
แต่ความแข็งแกร่งของจางอี้เฉิงเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วที่น่ากลัวยิ่งกว่าราชันมังกร แม้กองกําลังหลักของวังสวรรค์จะอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดจางอี้เฉิง
สมาชิกวงสวรรค์โกรธจัด
“เราไม่สามารถปล่อยให้มันก้าวไปข้างหน้า”
“เราต้องหยุดมันแม้เราจะตายก็ตาม!”
“มังกรปีศาจสารเลว!”
“หลีกทาง ให้ข้าหยุดมัน!” จางเฟยซึ่งในร่างมนุษย์หัวหมีคํารามและพุ่งเข้าโจมตีโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย
“บึม!”
แต่เขากลับถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อบดและตายคาที่ทันที
“จางเฟยซึ่ง!” ดวงตาของผู้อมตะวังสวรรค์เต็มไปด้วยน้ำ
ในช่วงเวลาสําคัญ สมาชิกวงสวรรค์ไม่ลังเลที่จะเสียสละตนเอง
“ให้ข้า!” นักลงทัณฑ์พุ่งไปข้างหน้าด้วยร่างต้นไม้กินเนื้อ
“บึ้ม!”
ต้นไม้กินเนื้อแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลือดของนักลงทัณฑ์สาดกระจายไปทุกหน ทุกแห่ง
“นักลงทัณฑ์!” กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์กรีดร้องอีกครั้ง
ผู้อมตะระดับแปดที่ทรงพลังไม่สามารถหยุดตี้จางเฉิงได้แม้แต่หนึ่งลมหายใจ
กระทั่งผู้อมตะภาคใต้ยังรู้สึกสั่นไหว
จางอี้เฉิงแข็งแกร่งมากแต่วังสวรรค์ก็ไม่ขาดสมาชิกที่กล้าหาญ
“น่าเสียดายที่ความพยายามของพวกเจ้าไร้ประโยชน์” อู่ส่วยเย้ยหยันและส่งกําลังเสริมออกไป
ค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค!
ควันห้าสีพุ่งออกมาและแผ่กระจายออกไปรอบๆอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของสมาชิกวงสวรรค์กลายเป็นแดงก่ำ จูชิวเอ๋อตะโกน “ทําลายมัน!”
ผู้อมตะหลุมดําและจวินเฉินกวงพุ่งเข้าไปหาค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค
“สายไปแล้ว” เจิ้งปู่ต่อุทานด้วยความยินดีมาจากภายในค่ายกล
ควันห้าสีขยายออกไปและกลืนกินค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปเข้าไว้ทั้งหมด
“พรวด!”
ผู้อมตะภาคกลางที่อยู่ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบกระอักเลือดออกมาซ้ําแล้วซ้ําอีก ส่วนใหญ่หมดสติ ณ จุดเกิดเหตุ บางคนถึงกับเสียชีวิต
“โฮก…”
ตี้จางเฉิงฉวยโอกาสโจมตีและสามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบได้ในที่สุด
เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบพังทลายลง ภูมิประเทศที่แท้จริงของภูเขาขนดกก็ปรากฏขึ้น
มันเป็นภูเขาเล็กๆที่ไม่โดดเด่นแต่มันเป็นที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ
ผู้อมตะภาคกลางที่เคยอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้รูปแบบนอนอยู่บนพื้น คนส่วนใหญ่เสียชีวิต บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในสภาพมึนงง ฟงจินฮวงที่ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาก็ยังหน้าซีดและล้มลงบนพื้นด้วยความอ่อนล้า
ตอนนี้นางทําได้เพียงนอนรอความตายเท่านั้น
ความตายที่ใกล้เข้ามาทําให้ฟงจินฮวงรู้สึกหายใจไม่ออก
“ข้ากําลังจะตายงั้นหรือ?” ฟงจินฮวงรู้สึกหวาดกลัว
“ปกป้องฟงจินฮวง!”
“ช่วยนาง!”
“เลิกสนใจแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต่ความสําเร็จชุดสุดท้ายถูกส่งไปยังวังสวรรค์เรียบร้อยแล้ว!”
กองกําลังหลักของวังสวรรค์ทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือฟงจินฮวง
“สมปรารถนา!” ผู้อมตะภาคใต้หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและโจมตีผู้อมตะของวังสวรรค์อย่างไม่หยุดยั้ง
วายุไร้ขอบเขตของวูหยงพุ่งเข้าโจมตีผู้อมตะจํานวนมากของวังสวรรค์
จวินเฉินกวงและผู้อมตะหลุมดําพุ่งออกไปเผชิญหน้าอีกครั้ง
ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝัน!
วังมังกรโจมตีจวินเฉินกวงและผู้อมตะหลุมด่า
ทั้งสองไม่สามารถหลบและถูกกลืนกินโดยหมอกชวนฝันทันที
หลังจากคนทั้งสองถูกจับ วังมังกรก็ถึงขีดจํากัดและไม่สามารถจับผู้อมตะคนอื่นๆได้อีก เว้นเพียงคนทั้งสองจะถูกสังหาร
“ทําลายภูเขาขนดกและแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ!” วูหยงตะโกนและนํากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้บุกไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามภารกิจของวังสวรรค์เสร็จ สิ้นแล้ว แม้พวกเขาจะทําลายแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติในเวลานี้ มันก็ไม่มีประโยชน์ใดๆต่อภาพรวมอีกต่อไป
“อย่าแม้แต่จะคิด!” องค์ชายฟงเซี่ยนบินเข้ามากีดขวางเส้นทางของวูหยง
“เพียงเจ้างั้นหรือ!” ดวงตาของวูหยงเต็มไปด้วยเจตนาสังหารขณะที่เขาหายตัวไป อย่างกะทันหันและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้านหลังองค์ชายฟงเซี่ยน
ท่าไม้ตายอมตะลมอําลา!
“เราเป็นสหายตั้งแต่แรกเห็น ลาก่อนสหายที่ดีของข้า ให้ข้าส่งเจ้า” วูหยงเผยรอยยิ้มบาง
องค์ชายฟงเซียนแทรกซึมอยู่ในภาคเหนือมานานหลายปี เมื่อได้ยินค่ากล่าวของวูหยง ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดเผือดด้วยความตกใจ
ต่อมา องค์ชายฟงเซี่ยนก็สูญเสียการควบคุมร่างกาย เสื้อผ้า เส้นผม และแขนขา ของเขาเริ่มสลายตัว
“บัดซบ! มันคือลมอําลา!” องค์ชายฟงเซียนต้องการกรีดร้องแต่ไม่สามารถส่งเสียงใดๆออกมา
เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้แม้แต่น้อย
เมื่อสิ่งกีดขวางสุดท้ายหายไป วูหยงก็พุ่งลงไปที่ภูเขาขนดกราวกับอินทรีย์กําลังล่าเหยื่อ
วูหยงเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะที่น่าเกรงขาม แรงกดดันจากเขารุนแรงราวกับภูเขาถล่ม ฟงจินฮวงไม่สามารถขยับร่างกายและทําได้เพียงปิดเปลือกตาลงอย่างสิ้นหวังเท่านั้น
แต่ความเจ็บปวดกลับไม่จู่โจมนาง
ฟงจินฮวงค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัยก่อนจะกรีดร้องด้วยความยินดีเมื่อเห็นร่างที่กําลังปิดกั้นวูหยงราวกับป้อมปราการที่ไม่สามารถพังทลาย นางกรีดร้อง “ท่านพ่อ!”
ผู้อมตะระดับแปดผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาสําคัญ เขาไม่ใช่ผู้ใดนอกจากฟงจิวเก้อ
เขาอยู่ในชุดคลุมสีแดงและขาว เขายืนตัวตรงราวกับหอกหรือดาบ
ฟงจิ๋วเก้อหันหน้ากลับไปหาฟงจินฮวงด้วยสายตาอบอุ่น
ฟงจิวเก้อไม่กล่าวสิ่งใด เขาเพียงพยักหน้าให้ฟงจินฮวงก่อนจะหันหน้ากลับไปทางวูหยง
แต่การพยักหน้าเพียงครั้งเดียวของเขาทําให้ฟงจินฮวงรู้สึกปลอดภัยมาก นางผ่อนคลายลงทันที
ดวงตาของวูหย่งส่องประกายแหลมคม
“ฟงจิวเก้อ” วูหยงพึมพําชื่อนี้ออกมาและไม่ปกปิดเจตนาสังหาร “เจ้าหยุดข้าจากการไล่ล่าฟางหยวนก่อนหน้านี้ ตอนนี้ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างเหมาะสม”
เขาเตรียมท่าไม้ตายอมตะลมอําลาอีกครั้ง
ฟงจิวเก้อไม่หลบ เขาลอยอยู่กลางอากาศและเริ่มร้องเพลง
วูหยงได้รับอิทธิพลจากบทเพลงของฟงจิวเก้อโดยไม่รู้ตัว เขาหยุดโจมตีอย่างกะทันหัน
“บัดซบ!” การแสดงออกของรูหยงเปลี่ยนแปลงไป เรารู้สึกถึงความยากลําบาก
เพลงของฟงจิวเก้อทําให้วหยงรู้สึกเหมือนตนเองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เขายังเป็นเด็กและอยู่ภายใต้เงามืดของมารดา
ต่อมา ดวงตาของวูหยงก็เบิกกว้างขึ้น
ท่าไม้ตายอมตะลมอาลาที่กําลังกลืนกินองค์ชายฟงเซี่ยนหยุดลงโดยไม่คาดคิด
“เพลงนี้สามารถหยุดลมอาลาได้จริงๆ” หัวใจของวูหยงสั่นสะท้านขึ้น
ภายใต้อิทธิพลของเพลงพรหมลิขิต ผู้อมตะภาคใต้อ่อนแอลงและรู้สึกท้อแท้ ในทางกลับกัน ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกสดชื่นและร่าเริง อาการบาดเจ็บของพวกเขาก็ฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน
ความสามารถของเพลงพรหมลิขิตครอบคลุมมาก สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือมันสามารถ แยกมิตรและศัตรู นี่คือสิ่งที่เพลงพรหมลิขิตในชีวิตก่อนหน้าไม่สามารถทําได้
วูหยงและคนอื่นๆถูกหยุดด้วยเพลงพรหมลิขิต มีเพียงจางเฉิงที่พยายามต่อต้านพลังอานาจของเพลงพรหมลิขิตและพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ฟงจิวเก้อรวบรวมพลังอํานาจของเพลงพรหมลิขิตและส่งมันพุ่งเข้าโจมตีตี้จางเฉิง
ทันใดนั้นตี้จางเฉิงพลันรู้สึกราวกับตนเองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ถูกกักขังไว้ใน ถ้ำมังกรเร้น มันอยู่ในกรงที่มืดมิดและไม่สามารถหลบหนี
การเคลื่อนไหวของมันช้าลงทันที
มันต้องการคํารามแต่กลับจบลงด้วยเสียงคร่ําครวญ
ทุกคนตกตะลึง
ฟงจิวเก้อเอาชนะตี้จางเฉิงในกระบวนท่าเดียว!
นี่คือสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตํานานที่แข็งแกร่งที่สุด ในชีวิตก่อนหน้า มันสามารถ ต่อสู้กับราชันมังกรในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต หากราชันมังกรไม่ยึดครองวังมังกร เขาจะไม่สามารถจัดการตี้จางเฉิง
“นี่เป็นผลงานชิ้นเอกที่ข้าพึ่งสร้างเสร็จ มันคือเพลงพรหมลิขิต โปรดวิจารณ์” ฟงจิวเก้อยังร้องเพลงของเขาต่อไป
“เพลงพรหมลิขิต!” ผู้อมตะทุกคนไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู พวกเขาต่างต้องจารึกชื่อนี้เอาไว้ในใจ
บทเพลงล่าดับที่เก้าของฟงจิวเก้อ ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งเสียง เพลงพรหมลิขิต!
“นี่ค่อนข้างลําบาก” การแสดงออกของอู๋ส่วยกลายเป็นเคร่งเครียด
“เขาสร้างเพลงพรหมลิขิตได้สมบูรณ์แล้วจริงๆ สมกับเป็นฟงจิ๋วเก้อ” เจิ้งปู้ตู๋ถอนหายใจ
ข้อมูลนี้ถูกส่งไปยังวังสวรรค์ เทพธิดาจอเว่ยมีความสุขมาก
ไม่ว่าจะเป็นวังสวรรค์หรือถ้ำสวรรค์นิรันดร พวกเขาต่างต้องการหลอมรวม วิญญาณอมตะพรหมลิขิต แต่ทั้งสองฝ่ายไม่คาดหวังว่าฟงจิวเก้อจะสามารถสร้างเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะพรหมลิขิตได้เป็นคนแรก
ท่าไม้ตายอมตะสามารถเปลี่ยนเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ
ด้วยท่าไม้ตายอมตะนี้ ชื่อเสียงของฟงจิวเก้อจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
“สมกับเป็นผู้พิทักษ์เต๋า” แม้แต่เทพธิดาจื่อเว่ยยังรู้สึกตกตะลึงและตื่นตระหนก นางต้องยอมรับความต้อยกว่าของตนเอง
“ท่านพ่อช่างยอดเยี่ยมนัก!” ฟงจินฮวงมองแผ่นหลังของฟงจิวเก้อและรู้สึกเคารพบูชา
หัวใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความสุข
“ท่านพ่อไม่เคยทําให้ข้าผิดหวัง ฟงจินฮวงโห่ร่องอยู่ภายใน ท่านพ่อยอดเยี่ยมที่สุด!”