ตอนที่ 2121

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,121 : กับดัก?

 

ต้วนหลิงเทียนเองก็คิดไม่ถึงอยู่บ้างว่าอยู่ๆเขาจะกลายเป็นผู้พิทักษ์อะไรในสายตาเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรในนครแห่งบาปแบบนี้ไปได้…

 

แต่เขาก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มันอยู่เหนือการควบคุมของเขา

 

แม้ว่าจะมีการต่อสู้เอาเป็นเอาตายเกิดขึ้นเบื้องหน้า หากแต่ต้วนหลิงเทียนก็เพียงแค่เฝ้ามองหน้าตาเฉย ในใจไม่ได้คิดจะช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น

 

ก่อนหน้านี้เขาก็เห็นการปะทะกันในนครแห่งบาปมาไม่น้อย ผู้ฉวยโอกาสก็ไม่ใช่ว่าจะมีมาก

 

เช่นนั้นแล้วหากเป็นการประมือกันของคนสองคน ใครจะเป็นจะตายเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

 

ที่เขาสนใจก็แค่หลังคนสองคนประมือกันจบ จะมีใครฉวยโอกาสลงมือหรือไม่!

 

ปงงง!!

 

ครานี้ก็เช่นกัน การประลองเป็นตายเบื้องหน้า ในที่สุดฝ่ายหนึ่งก็ช่วงชิงจังหวะออกกระบวนท่าสังหารได้สำเร็จ กระทั่งยังเป็นการลงมือแบบแลกชีวิต จ่ายออกด้วยพลังทั้งหมดตบฟาดแลกตายจนเอาชัยคู่ต่อสู้มาได้…

 

แต่แน่นอนว่าหลังเอาชนะศัตรูได้แล้วมันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

 

หากเป็นก่อนหน้านี้เมื่อเอาชนะผู้อื่นได้โดยสภาพยักแย่ยักยันขนาดนี้มันคงเร่งรุดหลบหนีไปรักษาตัวแล้ว ด้วยกลัวมีมือที่สามสอดแทรก ทำร้ายกระทั่งฆ่ามันเพื่อชิงผลประโยชน์ทั้งหมด…

 

ทว่าตอนนี้มันเลือกจะลอยร่างอยู่ที่เดิม หยิบควักโอสถรักษาออกมาใส่ปากกลืนลงคอแล้วนั่งขัดสมาธิกลางหาวเดินพลังรักษาตัวเสียอย่างนั้น!

 

ทำราวกับตอนนี้รอบๆกายมันไร้ผู้ใดอยู่ด้วย!

 

“เหอะๆ ดูเจ้านั่นมันทำเข้า…แต่อย่างไรด้วยการปรากฏตัววของชายในชุดคลุมลมดำผู้นั้น สถานการณ์การปะทะของนครแห่งบาปเราก็ดีขึ้นมาก…หากเป็นเมื่อก่อนใครบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ไหนเลยจะกล้าเดินพลังรักษาตัวต่อหน้าผู้คน”

 

เมื่อเห็นว่าผู้ชนะการประลองเป็นตายถึงกับทำตัวสบายใจได้ขนาดนี้ เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลายได้แต่ส่ายหน้าไปมา

 

ฉากเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหน้านั้น หากเป็นเมื่อก่อนพวกมันคงไม่กล้าแม้แต่จะคิด

 

“ให้ตายเถอะ แม้ข้าจะรู้สึกอิจฉาและสนใจแหวนพื้นที่ของมันกับคนที่ตายไปไม่น้อย กระทั่งยังมั่นใจว่าคิดฆ่ามันตอนสภาพร่อแร่เช่นนี้คงง่ายดายเพียงพลิกฝ่ามือ…แต่พอคิดถึงว่าชายในชุดดำผู้นั้นอาจจะโผล่ออกมาตอนไหนก็ไม่ทราบ ข้าก็ไม่กล้าลงมือจริงๆ”

 

ผู้ฝึกตนพเนจรคนหนึ่งกล่าวออกด้วยรอยยิ้มแหยๆ

 

ในอดีตมันก็ไม่ต่างอะไรจากคนของอีกาทมิฬ ชมชอบเก็บตกอาศัยจังหวะที่ผู้อื่นอ่อนแอ ช่วงชิงทุกสิ่งอย่างมาเป็นของตัว แต่โชคดีนักช่วงที่ชายชุดดำปรากฏตัวขึ้นมา มันยังไม่ได้ลงมือทำอะไร หาไม่แล้วมันอาจจะกลายเป็นผีภายใต้การลงมือของชายุดดำอย่างไม่ทันได้รู้ตัว

 

อย่างไรก็ตาม เห็นคนบาดเจ็บรอแร่ไร้หนทางสู้อยู่เบื้องหน้าแบบนี้ มันย่อมบังเกิดอาการคันในหัวใจยากจะเกานัก! อยากลงมือเหลือเกิน…แต่ใจไม่กล้า!!

 

ผู้ใดจะไปรู้ว่าชายชุดดำใช่ซุ่มซ่อนตัวอยู่แถวนี้หรือไม่?

 

มันไม่กล้าเสี่ยง!

 

เพราะมันต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน!

 

หากมันแพ้เดิมพัน มันก็ต้องจ่ายราคาด้วยชีวิต!

 

“มีไม่น้อยที่บอกว่าชายชุดดำผู้นั้นเป็นดั่งดำกินดำ…ในสายตาข้านี่ล้วนเป็นการใส่ร้ายป้ายสีชัดๆ! พักหลังๆมานี้ในนครแห่งบาปเรามีผู้ลงมือประลองกันและบาดเจ็บจนอาการร่อแร่เช่นนี้ก็มาก แต่ข้ามิเห็นว่าชายในชุดดำผู้นั้นจะลงมือทำอะไร…สมควรลงมือเพื่อความถูกต้องแล้วจริงๆ”

 

“ใช่ ข้าคิดว่าชายในชุดดำผู้นั้นมิใช่ดำกินดำอย่างว่า อีกทั้งธาตุแท้สมควรไม่ใช่คนใจหยาบช้าอะไร”

 

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”

 

เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรเห็นด้วย

 

เปรี๊ยงง!!

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้ฝึกตนพเนจรรอบๆกำลังจะแยกย้ายกันจากไปนั้น เสียงปานฟ้าสนั่นกึกก้องพลันดังขึ้น

 

เป็นมวลพลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลขุมหนึ่ง ที่ราวกับจะผุดโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า มันพุ่งกระแทกทำร้ายเข้าใส่ร่างชายที่นั่งขัดสมาธิเดินพลังรักษาตัวอย่างไร้ปราณี เข่นฆ่าสังหารคนอย่างที่ไม่ทันได้รู้ตัว! ผู้ฝึกตนพเนจรที่เก็บกู้ชีวิตมาจากการประลองได้ กลับต้องตายไปในลักษณะนี้!!

 

หลังร่างมันระเบิดเป็นหมอกโลหิต ก็คงเหลือแหวนพื้นที่ วงหนึ่งที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

 

“ตะ…ตายแล้ว?”

 

ผู้คนในจุดเกิดเหตุหลายคนยังตะลึงกันไม่หาย

 

“ยะ…ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์!”

 

นอกจากนั้นยังมีผู้ที่ตระหนักได้ว่ามือมืดที่ลงมือเมื่อครู่ สมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์! หาไม่แล้วคงไม่มีทางฆ่าผู้ฝึกตนพเนจรที่เดินพลังเบื้องหน้ามันได้ง่ายดายโดยที่พวกมันไม่อาจตอบสนองสิ่งใดได้ทันแบบนี้!!

 

“หือ?”

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนที่กำลังจะเหินร่างจากไปจำต้องหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน เขาหันไปมองทิศทางหนึ่งด้วยสายตาเย็นชาทันที

 

เหนือขึ้นไปบนฟ้าสูงหลังม่านเมฆ ปรากฏร่างหนึ่งลอยล่องอยู่กลางหาว!

 

‘คนของอีกาทมิฬงั้นเหรอ’

 

ต้วนหลิงเทียนโค้งคิ้วขึ้นทันทีที่เห็นเครื่องต่างกายของชายคนนั้น เป็นเครื่องแต่งกายของกองกำลังพันธมิตรอีกาทมิฬ!

 

เมื่อไม่นานมานี้เขาฆ่าคนของอีกาทมิฬไปมากมายก่ายกอง เช่นนั้นเครื่องแต่งกายเฉพาะของพวกมันย่อมไม่ใช่อะไรที่แปลกตาเขา

 

‘ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์งั้นเหรอ? น่าสนใจดีนี่…’

 

ในอดีตคนของอีกาทมิฬที่ร้ายกาจที่สุดที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอ ก็เป็นเพียงยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดเท่านั้น

 

ดังนั้นระดับพรสวรรค์รากวิญญาณที่เขากลืนกินเข้าไป มันช่างอ่อนด้อยนัก!

 

ทว่าตอนนี้คนของอีกาทมิฬที่บรรลพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ปรากฏขึ้น ย่อมทำให้เขารู้สึกยินดีไม่น้อย

 

การที่อีกฝ่ายทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ได้ นั่นหมายความว่าอย่างน้อยๆพรสวรรค์รากวิญญาณของอีกฝ่ายก็ต้องเหนือกว่าคนของอีกาทมิฬขอบเขตเซียนนภาที่เขาเจอมา!

 

“มันเป็นคนของอีกาทมิฬแท้ๆ แต่มันถึงกับกล้าลงมือโดยไม่กลัวว่าจะถูกชายชุดดำฆ่าตายรึ?”

 

ต้วนหลิงเทียนจดจำได้ว่ามันเป็นคนของอีกาทมิฬ แน่นอนว่าผู้ฝึกตนคนอื่นๆที่อยู่ในจุดเกิดเหตุพอเห็นชุดก็จดจำได้เช่นกัน

 

“พวกเจ้ามิเห็นพลังของมันตอนลงมือเมื่อครู่รึไง? มันสมควรเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์! มันอาจจะไม่ได้กลัวชายชุดดำ!”

 

“จริงสิ ชายชุดดำนั่นแม้พลังฝีมือจะไม่ใช่ชั่ว แต่จนถึงตอนนี้ที่ร้ายกาจที่สุดที่ฆ่าไปก็แค่ขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดเท่านั้น…บางทีอาจไม่มีพลังฝีมือสูงพอจะฆ่าเจ้านั่นก็ได้!”

 

“เป็นไปได้ คนของอีกาทมิฬผู้นี้ไม่รีบร้อนจากไปหลังฆ่าคน…เห็นได้ชัดว่ามันไม่กลัวชายชุดดำจริงๆ!”

 

“ไม่ทราบว่าชายชุดดำจะปรากฏตัวออกมาหรือไม่”

 

……

 

ภายใต้สายตาของผู้ฝึกตนพเนจร คนในชุดอีกาทมิฬนั่นหลังฆ่าคนแล้วก็สะบัดมือเก็บแหวนพื้นที่ๆกำลังร่วงตกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

 

อีกทั้งหลังเก็บแหวนพื้นที่มาแล้ววมันก็ไม่ได้ไปไหน เพียงหันซ้ายทีขวาทีราวกับกำลังมองหาอะรางอย่างอยู่

 

“นั่นมันกำลังหาอะไร?”

 

“อย่าบอกข้านะ…ว่ามันกำลังรอให้ชายชุดดำปรากฏตัว!?”

 

“เจ้าคนของอีกาทมิฬที่ดูเหมือนจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ผู้นี้ ดูท่าทางจะมาเพื่อล่อชายชุดดำให้ปรากฏตัวแล้วจริงๆ มิพ้นต้องคิดล้างแค้นให้คนของอีกาทมิฬที่ต้องตายไปแน่!”

 

“อาจเป็นได้!”

 

……

 

เมื่อเห็นว่าคนของอีกาทมิฬที่สมควรบรรลุถึงขอบเขตเซียนสววรรค์ ไม่รีบร้อนจากไปไหน เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลายก็คาดเดาวัตถุประสงค์ของมันออกได้ทันที ทั้งยังมั่นใจกันนัก!

 

หากไม่ใช่เพราะขอบเขตเซียนสวรรค์ของอีกาทมิฬคนนี้อยากเจอชายชุดดำ ไฉนมันต้องเลือกจะทำแบบนี้ด้วย?

 

ต้องทราบด้วยว่าสองคนที่ประลองเป็นตายกันเมื่อครู่ อย่างไรก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนนภา! ตัวมันที่เป็นขอบเขตเซียนสววรรค์คิดฆ่าคนชิงทรัพย์จริงทำไมต้องรอให้ทั้งคู่ตีกันจบก่อน? ให้ทั้ง 2 คนนั่นกลุ้มรุมในสภาพสมบูรณ์ยังไม่คณนามือมันด้วยซ้ำ!!

 

อาศัยพลังฝีมือของมันไม่จำเป็นต้องมารอโอกาสลงมืออะไรแบบนี้!

 

ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกตพเนจรทั้งหลายในที่นี้จึงตระหนักกันได้ทันทีว่าวัตถุประสงค์การมาของมันคือจัดการกับชายชุดดำ!

 

“ไม่ทราบชายชุดดำจะปรากฏตัวออกมาหรือไม่หลังทราบเรื่องนี้…”

 

ผู้ฝึกตนพเนจรหลายคนย่อมอยากรู้เรื่องนี้

 

“ยังจะมาอีกหรือ? ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์คนนี้ของอีกาทมิฬเตรียมตัวมาแล้วอย่างเห็นได้ชัด…ไม่ต้องกล่าวถึงพลังฝีมือส่วนตัวของมัน เผลอๆแถวนี้อาจจะมีคนของอีกาทมิฬมาซุ่มจับตาดูและตรึงกำลังเอาไว้แล้วก็เป็นได้!”

 

ผู้ฝึกตนพเนจรบางคนกล่าวออกตาใส

 

“หากข้าเป็นชายชุดดำข้าย่อมไม่มาหรอก…เห็นชัดๆว่านี่มันขุดหลุมพรางล่อกันโต้งๆ!”

 

“ข้าก็ว่างั้น…”

 

……

 

ด้วยการลงมือของต้วนหลิงเทียนในฐานะชายชุดดำ ทำให้ผู้ฝึกตนเนจรหลายคนรู้สึกประทับใจไม่น้อย มีหลายคนที่หวังว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่ออกมาติดกับ

 

“กับดักรึ?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่ซ่อนตัวในกลีบเมฆเร่งถามผู้เฒ่าหั่วทันที เพื่อให้ผู้เฒ่าหั่วช่วยเขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบอีกแรงว่ามีผู้ใดซุ่มซ่อนอยู่ในความมืดหรือไม่ หากมีแล้วพลังฝึกปรืออยู่ในขอบเขตใด

 

มีเพียงระวังจึงแล่นเรือข้ามฟากได้นับหมื่นปี

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมเข้าใจความจริงข้อนี้ดี

 

ในเวลาเดียวกันกับที่มีผู้ฝึกตนพเนจรมากมายหลายคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่มา พวกมันก็แยกย้ายกันไปแพร่กระจายเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 

หลังจากออกไปแพร่เรื่องราว ก็มีผู้ฝึกตนพเนจรมารวมตัวเพื่อชมดูความสนุกกัน

 

ทันทีที่มีคนมาชมดูเรื่องราวมากเข้า ในที่สุดก็มีคนจดจำคนของอีกาทมิฬที่เฝ้ารอนั่นได้ “ช้าก่อน…นั่น…มิใช่…เจียวจ้าน หนึ่งในรองผู้นำกองกำลังพันธมิตรอีกาทมิฬหรือไร?!”

 

“เจียวจ้าน? รองผู้นำ?”

 

ทันใดนั้นผู้คนก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที

 

เมื่อผู้ฝึกตนพเนจรโดยรอบมองไปยังร่างคนของอีกาทมิฬที่ลอยร่างรอคอยอย่างสงบอีกครั้ง สายตาของพวกมันก็เปลี่ยนไปไม่น้อย

 

ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้พวกมันต่างคิดว่า คนของอีกาทมิฬผู้นี้ก็เป็นเพียงยอดฝีมือคนหนึ่งที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์เท่านั้น

 

แต่ทั้งหลายไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึง รองผู้นำอีกาทมิฬคนหนึ่ง เจียวจ้าน!

 

เพราะเจียวจ้านนั้นนอกจากจะเป็นชนชั้นรองผู้นำของกองกำลังพันธมิตรอีกาทมิฬแล้ว พลังฝีมือของมันยังจัดว่าอยู่ในชนชั้นยอดฝีมือของขอบเขตเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยน! รั้งอยู่ในอันดับที่ 566 ของรายนามยอดเซียน!!

 

“ที่แท้มันคือเจียวจ้านรองผู้นำพันธมิตรอีกาทมิฬ…มันมาคนเดียวเลยหรือ?”

 

“ชัดเจนแล้วว่ามันมาเพื่อชายชุดดำ…ถึงมันจะมาแค่คนเดียวก็ไม่แน่ว่าชายชุดดำจะกล้ามาปรากฏตัวที่นี่!”

 

“ดูท่าท่าวันนี้คงไม่มีเรื่องราวใดให้ดูชมแล้ว…”

 

……

 

พอทราบว่าคนของอีกาทมิฬที่ลงมือฆ่าคนและรอคอยอยู่พักหนึ่งคนนี้ที่แท้ก็คือชนชั้นรองผู้นำอีกาทมิฬอย่างเจียวจ้าน เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรไม่เพียงแปลกใจ ยังเริ่มมั่นใจว่าต้วนหลิงเทียนไม่กล้าปรากฏตัวออกมาแน่

 

“รองผู้นำกองกำลังอีกาทมิฬ เจียวจ้านรึ?”

 

ทว่วาทันใดนั้นเอง เสียงไม่แยแสหนึ่งพลันดังขึ้นมาในอากาศ

 

เสียงกล่าววาจานี้ไม่ได้ดังมากมายอะไร หากแต่คล้ายมีพลังอำนาจวิเศษแฝงเร้น จึงกึกก้องไปทั่วสารทิศ ดังฟังชัดในหูทุกผู้คน!

 

และหลังเสียงกล่าวดังขึ้นได้ไม่นาน ร่างหนึ่งก็ค่อยๆปรากฏกายออกมาจากม่านเมฆ

 

เนื่องจากสวมใส่ด้วยชุดคลุมลมดำมิดชิด จึงไม่ทราบว่าภายใต้โม่งดำนั้นที่แท้คนมีหน้าตาเช่นไรกันแน่

 

อย่างไรก็ตามฟังจากเสียงพูดจาก็ยืนยันได้ประการหนึ่ง

 

คนในชุดคลุมลมดำผู้นี้เป็นบุรุษ!

 

“ชายในชุดคลุมลมดำ!”

 

เมื่อเห็นร่างในชุดคลุมลมสีดำปรากฏตัวขึ้นฉากเรื่องราวก็ดั่จะลุกไหม้เป็นเพลิงไฟ แต่ละคนเผยความประหลาดใจ ทั้งคาดไม่ถึงออกมาถ้วนหน้า

 

“มัน…ถึงกับมาจริงๆ? มันไม่กลัวเจียวจ้านจะฆ่ามันรึไง?”

 

“หรือมันไม่รู้ว่าเจียวจ้านนั้นพลังฝีมือร้ายกาจและเป็นชนชั้นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยน อันดับที่ 566 ของรายนามยอดเซียน?”

 

“สวรรค์มีทางไม่เดิน นรกไร้ประตูกลับมุดมา…”

 

……

 

เผล่าผู้ฝึกตนพเนจรมากมายหลายคนมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนในมาดชายชุดคลุมลมดำด้วยสายตาสงสารทั้งเสียดาย บ้างก็ส่ายหัวไปมา

 

ยังมีผู้ฝึกตนพเนจรหลายคนหวังดีส่งเสียงผ่านพลังบอกให้ต้วนหลิงเทียนรีบหนีไป

 

“เจ้า…คือคนที่ลงมือเข่นฆ่าคนอีกาทมิฬของข้าในนครแห่งบาปก่อนหน้ารึ?”

 

เจียวจ้านมองจ้องไปยังร่างของต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาเยียบเย็น กล่าวถามออกมาเสียงเข้ม