คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1488

ไม่นานครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไป มีคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ออกมาจากค่ายกลได้ สุดท้ายก็มีเพียงแปดคนที่มีคุณสมบัติผ่านเข้ารอบต่อไป

แดร์ริลไม่รั้งอยู่นานนักหลังจากที่การแข่งขันจบลง เขาไปจากสนามแข่งขันทันที

‘วันนี้มันอะไรกัน ฉันเกือบโดนตัดสิทธิ์เพราะว่าโกงซะแล้ว’

“นี่ลูก้า!” บางคนตะโกนเรียกเขาขณะที่เขาออกมาจากสนามแข่ง

แดร์ริลหันไปมองและเห็นปาร์คเกอร์วิ่งมาหาเขา หน้าเธอเป็นสีแดงระเรื่อดูงดงามมาก

“มีอะไร?” แดร์ริลยิ้มก่อนถาม รู้สึกผ่อนคลายลง

รอบรองชนะเลิศจบไปแล้ว ค่อยโล่งอกไปที

“ฉัน…” เมื่อปาร์คเกอร์มาถึง เธอก็เขินอายขึ้นมา เธอกัดริมฝีปากลังเลก่อนที่จะพูดเบา ๆ “ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องในวันนี้นะ”

ปาร์คเกอร์พูดออกมาอย่างจริงใจ คำพูดขอบคุณของเธอนั้นมาจากก้นบึ้งของใจจริง ๆ

ในฐานะคุณหนูใหญ่ของคฤหาสน์เกียรติกระบี่ ปาร์คเกอร์นั้นมีบุคลิกที่เย่อหยิ่งและแทบไม่เคยขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แต่วันนี้ถือว่าเป็นข้อยกเว้น

ด้วยการช่วยเหลือของลูก้า เธอไม่ติดอยู่ในค่ายกลและต้องตกรอบไป

‘แค่นี้เองเหรอ?’

แดร์ริลยิ้มและส่ายหน้าอย่างไม่ถือเป็นเรื่องจริงจัง “แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะ”

เมื่อพูดจบแดร์ริลก็หันหลังและเตรียมจะจากไป

“เดี๋ยวก่อน รอก่อน” ปาร์คเกอร์จู่ ๆ ก็ตะโกนออกมา

แดร์ริลยิ้มขื่นขมและหันมามองเธอ “มีอะไรอีกเหรอ?”

‘วันนี้ปาร์คเกอร์ต้องการอะไรกันแน่เนี่ย?’

ปาร์คเกอร์หน้าแดงแต่แววตาของเธอจริงจัง “ลูก้า ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม?”

ที่จริงก่อนหน้านี้ปาร์คเกอร์ดูถูกแดร์ริล คิดว่าเขาเข้ารอบมาได้นานขนาดนี้เพียงอาศัยโชคเท่านั้น

แต่ว่าฝีมือของแดร์ริลวันนี้เหนือไปกว่าที่ปาร์คเกอร์คาดคิดไว้มาก

“ใช่สิ” แดร์ริลพยักหน้ารับโดยไม่คิดแม้แต่น้อย

“งั้น…” ปาร์คเกอร์ก้มมองพื้นและพูดเสียงเบา “ไหน ๆ เราก็เป็นเพื่อนกัน คุณช่วยสอนฉันเรื่องค่ายกลได้ไหม?”

ปาร์คเกอร์เป็นคนขยันใฝ่รู้ เธอเกือบจะต้องตกรอบรองชนะเลิศ ดังนั้นเธอเลยคิดว่าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของค่ายกล

ลูก้าจะเป็นอาจารย์ที่เหมาะสมมาก

‘ให้ตาย ยัยนี่อยากเรียนเรื่องค่ายกลจากฉันนี่เอง’

แดร์ริลตะลึง จากนั้นเขาก็ยิ้มขมขื่น “อันที่จริงก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่าเราเรียนกันตอนนี้ไม่ได้ ผมไม่มีเวลามาสอนคุณ แล้วเราทั้งคู่ก็ยังต้องแข่งกันในการประลองอีก”

‘อีเวตต์ยังรอให้ฉันไปช่วยจากพระราชวังนั่น ฉันไม่มีเวลามารับลูกศิษย์หรอก’

“ในอนาคตก็ได้!” ปาร์คเกอร์คิดและยิ้มก่อนบอกว่า “เมื่อคุณมีเวลาในอนาคต ฉันจะไปหาคุณเอง”

ดวงตาปาร์คเกอร์เต็มไปด้วยสงสัยใคร่รู้ “คุณต้องบอกตัวตนที่แท้จริงกับฉันเพื่อที่ว่าในอนาคตฉันจะได้ไปหาคุณได้”

‘ให้ตายสิ เธอมุ่งมั่นจะเป็นลูกศิษย์ของฉันจริง ๆ’

แดร์ริลอึ้ง เขายิ้มก่อนบอกว่า “ไม่จำเป็นหรอก ผมจะไปหาคุณเองถ้าผมมีเวลาหลังจากการประลองนี้จบลง ตอนนั้นผมถึงจะบอกตัวตนที่แท้จริงกับคุณ”

แม้เขาจะรู้ว่าปาร์คเกอร์จะเก็บเรื่องตัวตนของเขาเป็นความลับ แต่แดร์ริลก็ตัดสินใจที่จะไม่บอกเธอเผื่อไว้ก่อน

“งั้นก็ได้” ปาร์คเกอร์ผิดหวังที่แดร์ริลไม่ยอมบอกว่าที่จริงเขาเป็นใคร แต่เธอก็เห็นด้วยกับเขา

ต่อมาปาร์คเกอร์ก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เธอดึงบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าและยัดใส่มือแดร์ริล “นี่คือตราสัญลักษณ์ที่ฉันพกติดตัว เมื่อคุณไปที่คฤหาสน์เกียรติกระบี่ คุณก็แค่แสดงสิ่งนี้ให้เห็นจากนั้นก็จะมีคนพาคุณไปพบฉัน อย่าทำหายล่ะ”

มันคือตราหยกรูปดาบซึ่งทำจากหยกคุณภาพดีและแกะเป็นรูปดาบ ฝีมือช่างโดดเด่นและเลอค่ามาก

ตราหยกรูปดาบเป็นสัญลักษณ์ของปาร์คเกอร์และเธอพกติดตัวเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคุณหนูใหญ่ของคฤหาสน์เกียรติกระบี่