ทางฝั่งผู้บำเพ็ญได้เปรียบมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นร่างกายของแต่ละคน นอกจากผู้บำเพ็ญเอกเทศสองคนที่เป็น ‘จักรพรรดิเทพช่วงท้าย’ แล้ว คนอื่นๆ ที่อ่อนแอที่สุดต่างก็เป็นพลังยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์ทั้งสิ้น! หากเทียบกันแล้ว ‘มังกรมด’ สิ่งมีชีวิตคละถิ่นเหล่านั้นก็อ่อนแอกว่าอยู่มากโข ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีความสามารถในการรักษาชีวิตรอดอันแข็งแกร่ง แต่พลังยุทธ์อย่างดีหน่อยก็เป็นเพียงแค่ระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลาง เป็นจักรพรรดิเทพช่วงท้าย และระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์บางส่วนเท่านั้น
นอกจากนี้ทางฝั่งผู้บำเพ็ญก็เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาในด้านที่แตกต่างกัน สามารถผสานรวมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผสานเข้าด้วยกันอย่างเหมาะเจาะ สามารถทำให้พวกเขาระเบิดเอาพลังรบที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดออกมาได้ ก็เหมือนกับกองกำลังย่อยแปดคนที่ช่วยเหลือตงป๋อเสวี่ยอิงในตอนนั้น สามารถกดดัน ‘เทพมรณะเงาทะมึน’ เกือบร้อยตนได้อย่างง่ายดาย จะเห็นได้ว่าจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์กลุ่มหนึ่งที่คัดเลือกอย่างพิถีพิถันออกมาแล้วสามารถผสานรวมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีพลังรบชวนให้คนหวาดหวั่นเพียงใด
ในขณะนี้
ผู้ใต้บังคับบัญชาของนักพรตโยวหยาก็มีกองกำลังอันล้ำเลิศกองหนึ่ง! เสียฝานก็นำกลุ่มกองกำลังอันล้ำเลิศที่ผสานรวมกันอย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน ผู้บำเพ็ญเอกเทศคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นพลังรบระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์
ส่วนเหล่ามังกรมดน่ะหรือ
แต่ละตนล้วนมีฝีไม้ลายมือคล้ายคลึงกัน ยากนักที่จะส่งเสริมกันได้!
โดยเฉพาะทางฝั่งผู้บำเพ็ญ ต้องการเพียงแค่จากไปโดยเร็ว ย่อมไม่ต่อสู้พัวพันอยู่แล้ว
“ปัง…”
เมื่อพุ่งเข้าไปแล้วก็แตกฮือ เหล่ามังกรมดบินว่อนไปทั่วอย่างมิอาจต้านทานได้
“ตายเสียเถิด” กลิ่นอายของเสียฝานราวกับระลอกคลื่นที่แผ่ซัดสาดไปทั่วบริเวณโดยรอบ กาลมิติรอบๆ บิดเบี้ยว มังกรมดสองตนที่บุกเข้ามาทางเขาถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบของเขตพลังแล้วก็ยังบินเข้ามาหาเขาโดยไม่รู้ตัว
“โฮก…” มังกรมดระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์ตนหนึ่งในบรรดานั้นคำราม ยังสามารถดิ้นรนต้านทานเอาไว้ได้
แต่มังกรมดพลังยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพช่วงท้ายอีกตนหนึ่งกลับถูกเสียฝานบีบคั้นเข้ามาใกล้ในทันใด หมัดหนึ่งกระแทกบนทรวงอกของมังกรมดตนนั้น ร่างกายใหญ่โตมโหฬารของมังกรมดสั่นสะท้านในทันใด จากนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็สูญสลายไปจนสิ้น
“หมัดเดียวก็ปลิดชีพมังกรมดพลังยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพช่วงท้ายตนหนึ่งได้แล้วหรือ”
สถานการณ์ไม่นับว่าอันตราย ตงป๋อเสวี่ยอิงยังสามารถสังเกตการณ์ซ้ายขวาได้ เมื่อเห็นการคุกคามในหมัดเดียวนี้ของเสียฝานแล้วม่านตาก็หดเล็กลงโดยไม่รู้ตัว “ต่อให้เป็นเจ้าเมืองหงส์เมฆาก็ยังมิอาจทำได้ถึงขั้นนี้เลย หมัดเดียวก็ปลิดชีพได้แล้วอย่างนั้นหรือ สมกับที่เป็นผู้ตระหนักวิถีที่ไปถึงระดับร่างครึ่งสิ่งมีชีวิตคละถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่ ‘ร่างกายหนาหนัก’ ที่สุดในเมืองเมฆาแดงอีกด้วย สำหรับพละกำลังและพลังคุกคามนั้นเขาก็น่าจะเทียบเคียงได้กับเจ้าเมืองหงส์เมฆา แต่ความเร้นลับของเคล็ดวิชากลับเหนือกว่าอย่างมหาศาล! หมัดหนึ่งกระแทกลงไป ร่างกายมังกรมดไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย ทว่ากลับตายไปเสียแล้ว…”
ตงป๋อเสวี่ยอิงแอบริษยา
อยู่ที่เมืองเมืองเมฆาแดงยังกล้าลำพองเช่นนี้ พลังยุทธ์ช่างน่าหวั่นเกรงอย่างแท้จริง
“พรึ่บ”
เสียฝานพลิกฝ่ามือเก็บซากมังกรมดตนนั้นเข้าไป จากนั้นกองกำลังก็บุกเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
ดูเหมือนว่ากองกำลังผู้บำเพ็ญใช้เวลาเพียงแค่สองสามอึดใจก็ทะลวงการสกัดกั้นของบรรดามังกรมดเหล่านี้ออกมาได้แล้ว บรรดามังกรมดตายไปทั้งสิ้นสามตน พลังรบระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางสองตน และพลังรบระดับจักรพรรดิเทพช่วงท้ายหนึ่งตน ตนที่เสียฝานบุกสังหารก็คือระดับจักรพรรดิเทพช่วงท้ายตนนั้นนั่นเอง ส่วนมังกรมดระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางอีกสองตน ล้วนเป็นฝีมือการสังหารของกองกำลังนักพรตโยวหยา
ถึงอย่างไรจุดประสงค์ก็เพื่อการหนีเอาชีวิตรอด การสังหารมิใช่เรื่องสลักสำคัญ จึงได้สังหารเพียงน้อยนิดเช่นนี้!
“ร้ายกาจนัก” นักพรตโยวหยาก็เหลือบมองเสียฝานปราดหนึ่ง
แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญของตนเอง
ในด้านการต่อสู้ระยะประชิด เขา นักพรตโยวหยานั้นกลับห่างชั้นกับเสียฝานอยู่มากโข ดีกว่าระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์ธรรมดาทั่วไปอยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่นักพรตโยวหยาเชี่ยวชาญมากที่สุดก็คือ ‘เขตพลัง’ เคล็ดวิชาเขตพลังของเขาก็ทำให้ทั้งกองกำลังสามารถแสดงพลังได้อย่างยอดเยี่ยม
“มีเสียฝานอยู่ก็มีความมั่นใจในการล่าสังหารงูอลหม่านไร้หม่นในครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแล้ว” นักพรตโยวหยาพึมพำ
……
เหินทะยานด้วยความเร็วสูงมาตลอดทาง
ภายใต้ความช่วยเหลือของ ‘เฉิงอวี่’ ผู้บำเพ็ญผู้นั้น ความเร็วในการเหินทะยานของกองกำลังก็เหนือกว่าบรรดามังกรมดเหล่านั้นอย่างมหาศาล
“หนีออกมาแล้ว”
“หนีออกมาจากวงล้อมแล้ว”
“ไม่มีอันตรายแล้ว”
คนชุดเทาและบุรุษเกราะทองผู้เย็นชาที่รับผิดชอบตรวจตราบริเวณโดยรอบแน่ใจว่ากองกำลังหนีออกมาจากวงล้อมได้แล้ว
เมื่อครู่ถ้าหากต่อสู้พัวพันยืดเยื้อต่อไป มังกรมดฝูงใหญ่มหึมาอื่นๆ ก็จะต้องก่อตัวเป็นวงล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อใดที่ถูกพันธนาการเอาไว้อย่างสมบูรณ์ เช่นนั้นก็ต้องตายอย่างแน่นอนแล้ว!
สำหรับการออกล่านอกเมือง จุดที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด… ก็คือห้ามต่อสู้พัวพัน!
เพราะว่าสิ่งมีชีวิตคละถิ่นมีอยู่มากมายเหลือคณา หากยิ่งยืดเยื้อไปนาน จำนวนที่ล้อมสังหารเข้ามาก็อาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งร้อย สองร้อย ห้าร้อย หนึ่งพัน… ถ้าหากยืดเยื้อไปวันสองวัน การล้อมโจมตีของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นหลายหมื่นตนก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง! ถึงเวลานั้นไม่ว่าผู้บำเพ็ญจะแข็งแกร่งเพียงใด ด้วยจำนวนสิ่งมีชีวิตคละถิ่นอันไร้ที่สิ้นสุด ก็ย่อมต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา
“มุ่งหน้าต่อไป”
นักพรตโยวหยาออกคำสั่ง
ความเร็วของกองกำลังลดฮวบลงในทันที เขตพลังกาลมิติปลดปล่อยกองกำลังที่ห่อหุ้มเอาไว้ออกมาอีกครั้ง ยังมีเขตพลังอันลึกลับไร้นามห่อหุ้มกองกำลังเอาไว้ ทำให้กองกำลังดูเหมือนว่าหายสาบสูญไป
มุ่งหน้าไปเช่นนี้ซ่อนเร้นได้ดีที่สุด!
หลังจากผ่านไปกว่าสองชั่วยามเต็มๆ แล้ว พวกเขาจึงถูกค้นพบเข้าอีกครั้ง
******
ห้ามต่อสู้พัวพันแม้แต่น้อย มุ่งหน้าตามทางไปอย่างรวดเร็ว
“กองกำลังนี้แข็งแกร่งยิ่งนัก ตลอดทางก็มิได้ประสบภยันตรายใดๆ เลย ข้าออกมาต่อสู้ หนึ่งก็เพื่ออาหาร ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เพื่อขัดเกลาตนเอง แต่ตลอดทางมานี้กลับผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำ ก็ถูก กองล่าสังหารนี้ประกอบด้วยกองกำลังของนักพรตโยวหยาและเสียฝานเป็นหลัก พลังยุทธ์ก็ย่อมแข็งแกร่งแน่นอนอยู่แล้ว
“ระวัง” นักพรตโยวหยาถ่ายเสียงแผ่ไปทั่วทั้งกองกำลัง “มี ‘มังกรมารพิษ’ ฝูงใหญ่ค้นพบพวกเราเข้า มีจำนวนมากกว่าสามร้อยตน กำลังมุ่งหน้าเข้ามา”
“พรึ่บ”
พลังสีเทาขมุกขมัวห่อหุ้มกองกำลังเอาไว้ในทันใด ความเร็วของกองกำลังพุ่งกระฉูดอย่างฉับพลัน อย่างไม่กลัวว่าจะระเบิด เริ่มต้นหลีกหนีด้วยความเร็วสูงสุด
“มังกรมารพิษเกินกว่าสามร้อยตนอย่างนั้นหรือ” ผู้บำเพ็ญจำนวนมากในกองกำลังต่างพากันตกใจ
มังกรมารพิษเป็นชื่อที่พวกเขาให้กับสิ่งมีชีวิตคละถิ่นชนิดหนึ่ง เพราะเคล็ดวิชาที่บรรดาสิ่งมีชีวิตคละถิ่นแต่ละคนเชี่ยวชาญนั้น ระดับการคุกคามต่อผู้บำเพ็ญก็ไม่เหมือนกัน! ส่วนมังกรมารพิษนั้นเป็นชนิดที่ระดับการคุกคามสูงส่งยิ่งชนิดหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจำนวนที่เผชิญในครั้งนี้ยังมากมายอีกด้วย
ถ้าหากเป็นกองล่าสังหารธรรมดาทั่วไป เผชิญกับมังกรมารพิษกว่าสามร้อยตน อาจถึงขนาดที่ปรากฏว่าสมาชิกสู้จนตัวตายก็เป็นได้!
เคราะห์ดีที่กองกำลังในครั้งนี้แกร่งพอ!
“มาแล้ว เตรียมตัวต่อสู้ ทุกท่านจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี” นักพรตโยวหยาถ่ายเสียงพูดอย่างเคร่งขรึม
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง…
เบื้องหน้าด้านซ้ายมีเงาร่างความเร็วสูงกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น ‘มังกรมารพิษ’ มีสีเทาตลอดร่างราวกับมังกรคืบคลานอย่างไรอย่างนั้น! ทั่วทุกบริเวณของร่างมันล้วนเต็มไปด้วยหนามแหลม ด้านหลังก็มีหนามจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับพัดขนาดยักษ์ หางยาวเป็นอย่างยิ่ง บนหางก็เต็มไปด้วยหนามแหลมเช่นเดียวกัน… กวาดสายตามองไปคราหนึ่งตงป๋อเสวี่ยอิงก็แน่ใจว่าหนามทั่วทั้งร่างของมังกรมารพิษมีอยู่ถึงหนึ่งล้านแปดแสนอัน
หนามแหลมเหล่านี้แต่ละอันล้วนเคลือบแฝงไว้ด้วย ‘พิษร้ายแรง’!
พิษร้ายแรงที่ทำให้บรรดาผู้บำเพ็ญระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์ธรรมดาสามัญของเมืองเมฆาแดงเหล่านี้ต้องหน้าถอดสี! เพราะว่าหนามแหลมเคลือบแฝงเอาไว้ด้วยพิษร้ายแรงระดับการคุกคามของ ‘มังกรมารพิษ’ จึงสูงอยู่พอสมควร
“ฆ่ามัน”
มังกรมารพิษที่พุ่งเข้ามาอยู่หน้าสุดถ่ายเสียงในทันใดด้วยสายตาเยียบเย็น
พวกมันก็มีเชาวน์ปัญญาสูงส่งเช่นเดียวกัน ไม่ไว้ไมตรีต่อผู้บำเพ็ญเลยแม้แต่น้อย
“ฆ่ามัน” ผิวกายภายนอกของนักพรตโยวหยามีแถบผ้าขาวดำสองสีที่ผูกโยงกันปรากฏขึ้น แถบผ้าขาวดำเหินลอยไปทุกทิศทุกทาง พันธนาการมังกรมารพิษตนแล้วตนเล่าอย่างรวดเร็ว! พลังคุกคามและความเร็วในการเหินทะยานของมังกรมารพิษที่ถูกพันธนาการเหล่านั้นลดลงอย่างมหาศาลในทันใด
“นักพรตโยวหยาเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาเขตพลัง แต่เขาก็คือพลังสายโลหิต” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เกิดความเข้าใจขึ้นมาบ้างจากในข้อมูล ในขณะที่แถบผ้าขาวดำนั้นกำลังเกี่ยวรัดศัตรูเก้าตนอยู่นั้นเอง พลังคุกคามก็ยังคงรักษาความแข็งแกร่งอย่างที่สุดเอาไว้ได้! ในขณะที่ศัตรูที่พันธนาการเอาไว้เกินกว่าเก้าคนนั้นเอง ยิ่งศัตรูที่พันธนาการเอาไว้มีจำนวนมาก…พลังคุกคามของแถบผ้าขาวดำก็ยิ่งลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
แถบผ้าขาวดำจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่งของกองกำลัง
บริเวณรอบกายตงป๋อเสวี่ยอิงก็มีแถบผ้าขาวดำเส้นหนึ่งลอยอยู่เช่นกัน แต่ก็มิได้พันธนาการศัตรู มีเพียงแค่ยามวิกฤติเท่านั้นจึงจะลงมือช่วยพันธนาการ เพราะว่าการพันธนาการศัตรูมากเกินไปพร้อม ๆ กันจะทำให้พลานุภาพในการพันธนาการลดต่ำลงอย่างมหาศาล
“เจ้าเด็กหิมะเหิน พวกเรามาช่วยเจ้าแล้ว” เสียฝานพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง ยอดฝีมือสิบห้าท่านใต้บังคับบัญชาที่เขานำกลุ่มมาพุ่งเข้ามายังทิศทางที่ตงป๋อเสวี่ยอิงอยู่นี้พร้อมๆ กัน
เพราะต่างก็อยู่ภายในกองกำลังกันทั้งสิ้น ก็คล้ายว่าเพียงพริบตาเดียว พวกเสียฝานสิบหกคนก็โอบล้อมตงป๋อเสวี่ยอิงเอาไว้แล้ว
สิบเจ็ดคนรวมตัวเข้าด้วยกัน จำนวนคนหนึ่งในสามของกองกำลัง ก็ย่อมดึงดูดให้มังกรมารพิษหนึ่งร้อยกว่าตนล้อมโจมตีเข้ามา
“ตึงๆๆ”
“ปัง”
กองกำลังของเสียฝาน มีบางคนสำแดงเขตพลัง มีบางคนแปลงกายเป็นเงารางจำนวนนับไม่ถ้วน มีบางคนที่ปล่อยคลื่นเสียงออกมา มีบางคนที่ห้ำหั่นประจันหน้า ส่วนบางคนก็โจมตีจากระยะไกล… พวกเขาผสานรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะตัวเองแข็งแกร่งพอ บวกกับที่มีเพื่อนร่วมงานมากมายช่วยเหลือ กองกำลังสิบหกคนนี้ก็ต้านทานการล้อมโจมตีของมังกรมารพิษกลุ่มนี้เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว! พวกเขามีประสบการณ์เปี่ยมล้นเหลือเกินแล้ว
ส่วนตงป๋อเสวี่ยอิงเล่า
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในกองกำลังเช่นเดียวกัน แต่พวกเสียฝานทั้งสิบหกคนก็ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือตงป๋อเสวี่ยอิงเลยแม้แต่คนเดียว!
ตงป๋อเสวี่ยอิงก็มีมังกรมารพิษเจ็ดตนล้อมโจมตีเขาพร้อมกัน! มังกรมารพิษเจ็ดตนล้อมโจมตีนั้นเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง ผู้บำเพ็ญส่วนใหญ่ต่างก็เผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่บรรดาผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ ต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แรงกดดันก็ลดน้อยลงไปเป็นอันมาก
แต่ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับมิได้รับความช่วยเหลือใดๆ เลย
“ไม่แน่ว่าการโจมตีของมังกรมารพิษกลุ่มใหญ่นี้อาจสามารถทำให้เขาตายได้” เสียฝานได้เห็นเหตุการณ์แล้วก็ลอบหัวเราะเยาะ ต่อยหมัดส่งๆ คราหนึ่งก็กระแทกมังกรมารพิษระดับจักรพรรดิเทพช่วงท้ายตนหนึ่งจนตาย ฝ่ามือเดียวก็ฟาดเสียจนมังกรมารพิษระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์ลอยกระเด็นออกไป บนทั้งสนามรบก็มีเพียงแค่เสียฝานที่มีพลังคุกคามอันร้ายกาจเช่นนี้
…………………………