ความเศร้าเป็นแค่อารมณ์ ไม่ใช่เครื่องหมายแห่งความสิ้นหวัง มังกรดำน้อยก้มหน้า มองไปที่รอยเท้าของนางผ่านหิมะ เริ่มครุ่นคิดคำนวณ ว่าซางสิงโจวสามารถเอาชนะมังกรทองได้อย่างง่ายดายก็ย่อมเป็นเพราะเขามีข้อได้เปรียบเรื่องสถานที่ เขาต้องทำการเตรียมตัวเอาไว้ก่อน แล้วนางจะมองความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาผ่านการต่อสู้นี้ได้อย่างไร
เฉินฉางเซิงเดาออกว่านางกำลังคิดอะไรและกล่าว “เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้อีก”
มังกรดำเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ดวงตาของเขา “สังฆราชให้ข้าเป็นผู้คุ้มกันของเจ้าเพราะมีเหตุผล”
ทั้งนางและเฉินฉางเซิงรู้ว่าที่สังฆราชช่วยนางออกจากใต้สะพานอุดรใหม่และทำให้นางเป็นผู้คุ้มกันของเฉินฉางเซิงก่อนหน้านี้เป็นเพราะความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างเผ่ามังกรยักษ์น้ำค้างแข็งกับเมืองไป๋ตี้
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ผู้คุ้มกัน’ อีกครั้ง เฉินฉางเซิงก็นิ่งเงียบไป เขาพลันถามขึ้น “รู้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้คุ้มกันให้อาจารย์ข้าในตอนนั้น”
มังกรดำน้อยส่ายหน้า
เฉินฉางเซิงมองเข้าไปในหิมะที่คนผู้นั้นหายไปและกล่าว “ในคืนนั้นอาจารย์อาบอกข้า… อาจารย์ไม่เลือกผู้คุ้มกัน”
แสงประหลาดฉายขึ้นในดวงตาของมังกรดำ
เฉินฉางเซิงกล่าวต่อ “อาจารย์เชื่อว่าคนเราไม่อาจพึ่งพาสิ่งภายนอกเมื่อบำเพ็ญเต๋า หรือพึ่งพาบุคคลอื่น แค่พึ่งพาตัวเองก็พอแล้ว”
มังกรดำน้อยไม่พูดอะไร
คนเช่นนี้น่ากลัวเกินไป
……
……
หลังจากราตรีมืดมิดก็คือรุ่งอรุณ จิงตูยังถูกห้อมล้อมด้วยพายุหิมะในยามที่ต้าลู่ต้อนรับปีใหม่
มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันแรกของปีใหม่ ยกตัวอย่างเช่นต้าโจวได้เปลี่ยนชื่อรัชศกอย่างเป็นทางการ พระราชวังหลีมีประมุขคนใหม่
ในงานฉลองปีใหม่ที่พระราชวังหลี มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ทำให้ต้าลู่ต้องตกใจ
ตามโองการสุดท้ายของสังฆราชและการประกาศของนิกายหลวงที่ได้แจ้งไปทั่วโลก เฉินฉางเซิงคือสังฆราชคนใหม่
แต่เขาก็ไม่ปรากฏขึ้นในงานฉลองปีใหม่และไม่มีใครเห็นเขาในโถงตำหนักแสงจ้า เป็นธรรมดาที่ไม่มีการทำพิธีขึ้นครองตำแหน่ง ข่าวนี้ก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างประหลาดใจทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นนักบวชของพระราชวังหลี อาจารย์นักเรียนของสำนักไม้เลื้อยหรือชาวบ้านธรรมดาในจิงตู พวกเขาล้วนรู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมาก
ในเวลาแห่งการสับสน พระราชวังหลีได้ประกาศคำอธิบายออกมา
ประกาศนี้มีตราประทับของห้าผู้ยิ่งใหญ่และเฉินฉางเซิงลงนามด้วยตัวเอง
เพราะว่าสังฆราชยังเยาว์เกินไป เขายังบำเพ็ญเพียรมาไม่นานพอ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าสู่โลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ทำความเข้าใจวิถีสวรรค์ท่ามกลางฝุ่นผงของโลกมนุษย์
แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ ประกาศนี้ไม่ได้ให้คำตอบเอาไว้ แค่เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าสังฆราชอาจกลับมาจิงตูเมื่อไหร่ก็ได้เพื่อขึ้นครองบัลลังก์
สังฆราชไม่ได้อยู่ในพระราชวังหลีแต่ซ่อนชื่อแล้วเข้าสู่โลกแห่งการบำเพ็ญเพียรอย่างนั้นหรือ
นี่เป็นครั้งแรกที่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
ความตกใจและประหลาดใจแพร่กระจายไปทั่วจิงตูและต้าลู่ มากจนคนมากมายไม่อาจจำได้ว่าชื่อรัชศกใหม่ของราชวงศ์ต้าโจวคืออะไร
หลังจากอารมณ์พวดนี้จางลงเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็มีเวลาว่างในที่สุดและหันหัวมานึกถึงเมื่อปีก่อน เมื่อนึกถึงเรื่องต่างๆ ที่อดีตสังฆราชทำ พวกเขาก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของอดีตสังฆราช
หากเฉินฉางเซิงยังอยู่ในจิงตู จะสร้างความขัดแย้งกับราชสำนัก และนำมาซึ่งสงคราม
หากเขาไปจากจิงตู ก็จะทำให้ราชสำนัก…หรือพูดให้เจาะจง จะทำให้ซางสิงโจวรู้สึกสบายใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในตอนนี้น้อยคนที่เข้าใจว่าทำไมซางสิงโจวถึงเป็นกังวลนัก หงุดหงิดนักที่มีเฉินฉางเซิงอยู่
ส่วนเฉินฉางเซิงได้เข้าใจนานมาแล้วและอย่างที่ซางสิงโจวคิดอย่างโศกเศร้าคืนก่อนกลางหิมะในสำนักฝึกหลวง เมื่อทั้งสองฝ่ายเกลียดกันก็ไม่สู้ไม่พบกันจะดีกว่า
ให้ศิษย์อาจารย์มีเวลาเล็กน้อย ทิ้งระยะห่างเล็กน้อย
ให้ราชสำนักกับนิกายหลวงมีเวลาสักเล็กน้อย ทิ้งระยะห่างเล็กน้อย
ให้โลกนี้กับคนบนโลกนับล้านมีโอกาสสักครั้ง
ไม่มีความจำเป็นต้องมีสงคราม ไม่จำเป็นต้องมีคนตายเพื่อเรื่องนี้
เฉินฉางเซิงยังคงเป็นสังฆราช
ก็แค่เขาไม่อาจอยู่ในจิงตู ไม่อาจอยู่ในพระราชวังหลี
ต่อให้กลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายปรองดองกันไม่ได้ในที่สุด อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีระยะห่าง
ปัญหาไม่สามารถแก้ได้ในตอนนี้ แต่ในอนาคต บางทีทั้งสองฝ่ายอาจจะมีปัญญามากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้
มันเป็นแผนของอดีตสังฆราช และตอนนี้มันดูเหมือนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาไร้ทางออกนี้
แน่นอนว่าแผนของอดีตสังฆราชมีรายละเอียดมากกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าต่อให้เฉินฉางเซิงออกจากจิงตู พระราชวังหลีก็ยังรักษาจุดยืนเอาไว้
สถานการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้มีปัจจัยที่ซับซ้อนอย่างมาก แสดงให้เห็นความฉลาดและความอดทนของอดีตสังฆราชได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในฐานะผู้สืบทอด ทั้งหมดที่เฉินฉางเซิงต้องทำก็คือยอมรับการจัดการนี้และทำตามเพื่อเพิ่มปัญญา ความอดทนและความแข็งแกร่ง
เขาจำเป็นต้องพึงพาปัญญาและความอดทนเพื่อมีชีวิตรอด
ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เขาก็เป็นสังฆราช
เขาจะได้ถกเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อภูเขาเต็มไปด้วยดอกไม้บาน
ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจเรื่องนี้ น้อยคนที่จะเข้าใจได้ว่าอดีตสังฆราชได้ใช้ความคิดและทุ่มเทเพียงใดให้กับแผนนี้ หรือพระราชวังหลีได้แสดงความกล้าและเด็ดเดี่ยวมากเพียงใด หลังจากความตกใจจางลง ความเป็นจริงที่คนเห็นก็เรียบง่ายมาก
เฉินฉางเซิงได้กลายเป็นสังฆราช แต่เขาถูกขับออกจากจิงตู
ทุกคนสามารถเห็นว่านี่เป็นชัยชนะของราชสำนัก
คนมากมายเชื่อว่าผลลัพธ์นี้เป็นเพราะซางสิงโจวไม่ต้องการที่จะให้ราชสำนักกับนิกายหลวงต้องปะทะกัน และไม่ต้องการที่จะปฏิเสธโองการสุดท้ายของอดีตสังฆราช ดังนั้นเขาจึงแสดงความไม่เห็นแก่ตัวออกมา
การที่จะใจกว้างนั้นก็คือการแสดงการดูถูกอีกฝ่ายหนึ่ง
ใครก็ตามจะเห็นว่าสังฆราชที่ไม่อาจอยู่ในพระราชวังหลีได้นั้นเป็นสังฆราชแค่เพียงในนาม
บางทีการเป็นสิ่งที่น่าหดหู่ยิ่งกว่าสังฆราชแค่เพียงในนามเท่านั้น
เป็นสังฆราชที่ถูกเนรเทศ
……
……
รัชศกเจิ้งถ่งจบลงอย่างเป็นทางการ
การปกครองของจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์เทียนไห่ในต้าลู่ได้กลายเป็นหน้าประวัติศาสตร์ และหน้าใหม่ก็ได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว
ราชวงศ์ต้าโจวได้เปลี่ยนผู้ปกครองอย่างเป็นทางการ เมื่อการบรรจบกันของเหนือใต้ได้สำเร็จลุล่วง ฤดูใบไม้ผลิกลับคืนสู่แผ่นดิน เรื่องมากมายได้กลายเป็นจริง ในขณะนี้มีผู้บำเพ็ญเพียรมากมายได้รับคำสั่งจากราชสำนักและได้ออกจากแดนใต้เดินทางขึ้นเหนือเพื่อร่วมกับกองทัพต่างๆ
จักรพรรดินีมารถูกกำจัด ราชามารตายแล้ว เมืองเสวี่ยเหล่าตกอยู่ในความโกลาหล สังฆราชลาจากโลกใบนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนจากเก่าเป็นใหม่ อนาคตของต้าลู่สว่างดังแสงไฟ
เป็นที่แน่นอนว่าโลกมนุษย์จะได้พบกับยุคที่ดีที่สุดนับจากจักรพรรดิไท่จง
ไม่มีใครรู้ว่าในวันกลางฤดูหนาวที่ธรรมดา เฉินฉางเซิงสังฆราชที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งได้ออกจากสำนักฝึกหลวง
เขาไปจากตรอกไป๋ฮวาและปะปนไปในฝูงชน เขาเดินไปตามแม่น้ำลั่ว ข้ามสะพานหน่ายเหอและผ่านเสาหินในพระราชวังหลี ออกจากประตูเมืองและไปจากจิงตู
ในอกเสื้อเขามีจดหมาย กระบี่มัดไว้ที่เอว มือของเขาถือร่มเอาไว้
เด็กสาวในชุดดำเดินอยู่ข้างกายเขา
เด็กสาวสะอาดน่ารักแต่ใบหน้าไร้อารมณ์ ทำให้นางดูเย็นชา นางอุ้มกระถางใบไม้ครามไว้แนบอก
เฉินฉางเซิงไม่ได้เดินเร็วนัก แต่เด็กสาวตัวเล็กมาก หากนางต้องการเดินให้ทันนางก็ต้องเดินให้เร็วกว่า
ยามนางเดิน ผมสีดำกระเด้งขึ้นลงในลมหนาว ใบไม้ครามที่อกก็เด้งขึ้นลงเช่นกัน
ไม่ใช่ไม้พายสองอันเด้งขึ้นลงในลมฤดูใบไม้ผลิ แต่เป็นภาพลักษณ์ที่นางและโลกนี้ควรมี
……